![]() |
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุกร์ที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๖๐
ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราทั้งหมดไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ที่เราถนัดและชำนาญมาแต่เดิม
วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๔ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ สำหรับวันนี้อยากจะกล่าวถึงท่านทั้งหลายที่ฝึกปฏิบัติมานาน โดยเฉพาะท่านที่ปฏิบัติมาหลายปี ว่าให้ตั้งหน้าตั้งตามุ่งเอาเฉพาะกองกรรมฐานกองใดกองหนึ่ง อย่าได้เที่ยวทำเปะปะไป คำว่ากรรมฐานกองใดกองหนึ่งนั้นอยู่ที่เราเลือก อย่างเช่นว่า ใครจะภาวนาพุทโธควบอานาปานสติก็ได้ จะภาวนาพระคาถาเงินล้านควบอานาปานสติก็ได้ หรือจะภาวนาคาถาอภิญญาควบอานาปานสติก็ได้ หรือใครรักที่จะจับภาพพระพุทธรูปที่เรารักเราชอบมากที่สุดก็ได้ หรือว่าท่านใดมีใจรักชอบกสิณกองใดกองหนึ่ง ก็ทำเฉพาะกสิณกองนั้นกองเดียวก็ได้ เหตุที่ต้องเร่งรัดอย่างนี้เพราะว่าหลายคน ทำกรรมฐานหลายอย่างในแต่ละวัน มีการจับกรรมฐานกองโน้น พระคาถาบทนี้ ซึ่งทำให้เราต้องเปลี่ยนกองกรรมฐานอยู่บ่อย ๆ โอกาสที่จะได้ดีก็มีน้อย |
มาดูตัวอย่างจากการฝึกของอาตมาเอง ตั้งแต่เด็กมาหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านให้คาถาบทโน้นบทนี้ไปท่อง ไปภาวนา ไปฝึกซ้อม ก็ทำทีละบท เมื่อประสบความสำเร็จแล้วไปรายงานท่าน หลวงพ่อท่านก็ให้คาถาบทใหม่มา จนกระทั่งมีการภาวนาเป็นปกติ แปลว่าส่วนที่ได้มากที่สุดก็คืออานาปานสติ การรู้ลมหายใจเข้าออก ท่านก็ให้เปลี่ยนมาปฏิบัติกองกรรมฐานอื่น ๆ เป็นต้นว่ากสิณต่าง ๆ ก็เป็นการฝึกทีละกอง อนุสติต่าง ๆ ก็เป็นการฝึกทีละกอง
เมื่อได้แล้วก็ยังต้องทบทวนของเก่าก่อน จนกระทั่งคล่องตัวเสมอกันแล้ว จึงขยับไปกองใหม่ได้ แต่ปัจจุบันพวกเราส่วนใหญ่แล้ว อยู่ในลักษณะของการจับปลาหลายมือ เดี๋ยวก็ทำกรรมฐานกองนี้ เดี๋ยวก็ภาวนาพระคาถาบทนั้น ทำให้โอกาสที่จะทำได้สำเร็จจริง ๆ มีน้อย เท่ากับว่าเราเปลี่ยนกองกรรมฐานอยู่เรื่อย ของเก่าก็ยังไม่ได้ ของใหม่ก็ยังไม่ดี อยากจะทำได้มาก ๆ เพื่อเอาไว้อวดให้คนอื่นให้เขารู้ว่าเราทำได้มาก แต่เพราะว่าอยากมากเกินไปก็เลยไม่ได้อะไรสักที จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเล็งเอากองกรรมฐานกองเดียว เมื่อทำจนกระทั่งเกิดผลจริง ๆ แล้ว จึงค่อยเปลี่ยนกองกรรมฐานต่อไป |
ในเรื่องทั้งหลายเหล่านี้จะว่าไปแล้วพวกเราควรที่จะยึดในกองกรรมฐานกองใดกองหนึ่ง โดยเฉพาะลมหายใจเข้าออก คู่กับภาพพระ ทำให้เป็นปกติ ถ้าสามารถทำให้ทรงตัวชัดเจนแจ่มใสได้ เรื่องของฤทธิ์ เรื่องของอภิญญาก็เป็นเรื่องง่าย หรือว่าเรื่องของคาถาต่าง ๆ เมื่อสมาธิทรงตัวถึงระดับที่คล่องตัวแล้ว คาถาแต่ละบทใช้เวลาไม่กี่นาทีก็สามารถทำขึ้นได้เต็มที่อย่างที่ต้องการ เพียงแต่ว่าพวกเรานั้น อยู่ในลักษณะของมวยวัด ก็คือเหวี่ยงแหมั่วไปเรื่อย ผลสำเร็จจริง ๆ จึงไม่เกิดขึ้นสักที
ดังนั้น...ในวันนี้ส่วนที่อยากจะให้ทุกคนเริ่มทำก็คือ เลือกเอากรรมฐานกองใดกองหนึ่ง หรือว่าเลือกเอาพระคาถาบทใดบทหนึ่ง จำเป็นต้องตัดใจสละอย่างอื่นไปก่อน แล้วนำเอาส่วนที่เรารัก เราชอบมากที่สุด มาประพฤติปฏิบัติให้เกิดผล เมื่อเกิดผล ทำการซักซ้อมจนคล่องตัวแล้ว เห็นผลแน่นอนแล้ว เราค่อยขยับไปกองกรรมฐานอื่น ๆ ถ้าทำอย่างนี้ความก้าวหน้าถึงจะมีแก่เราทั้งหลายได้ ลำดับต่อไปขอให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ วันศุกร์ที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๖๐ (ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยทาริกา) |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:17 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.