![]() |
ทำดีเพราะอยากทำ หรือ ทำดีเพราะอยากดี
พวกเราปฏิบัติธรรมกันแบบใจร้อน หวังจะให้ได้เลยในทันที ขนาดหลวงปู่ปานท่านยังใช้เวลาในการศึกษาปฏิบัติเป็นเวลากว่า ๘ ปี จึงจะเป็นที่ยอมรับแบบนี้ เราลองถามใจตัวเองก่อนว่า เวลาทำความดี เราทำเพราะเราพอใจที่จะทำความดีนั้นจริง ๆ หรือทำเพราะอยากให้คนอื่นเห็นว่าเราดี เห็นว่าเราเก่ง ถ้าคิดแบบนี้พอทำไปแล้วไม่ได้อย่างที่ใจหวัง จะรู้สึกไม่พอใจในการปฏิบัติ จะท้อ ใจร้อน กระวนกระวายว่าทำเท่าไรก็ไม่ได้ดีสักที แต่ในขณะที่เราทำความดีเพราะเราพอใจในความดี ไม่ว่าจะเร็วหรือช้าอย่างไร เราก็ไม่รู้สึกกระวนกระวายใจ หรือร้อนใจอยากจะได้ดีแบบท่านอื่น เพราะเรามีความสุข พอใจที่ได้ทำความดีนั้นไปเรื่อย ๆ
ถ้าต้องการทำความดีในแบบที่ว่าคนอื่นเห็นได้จริง ๆ ก็ต้องทำแบบที่ว่า ความดีนั้นเต็มจนล้นออกมา เปรียบได้กับถังใบใหญ่สูงท่วมหัว เมื่อเราเอาน้ำใส่ลงไป ถ้าใส่น้ำได้แค่ครึ่งหนึ่งของถัง เราจะมองเห็นน้ำในถังไหม ? เราก็จะเห็นแต่ถังอย่างเดียว แต่ถ้าเราเอาน้ำนั้นใส่ให้เต็มจนล้นออกมา เราจึงจะสามารถเห็นน้ำในถังนั้นได้ พวกเราทำความดีจนถึงขนาดที่ว่าล้นออกมาได้กันหรือยัง ? ถ้ายังก็มีหน้าที่ทำไปเรื่อย ๆ ถ้าเมื่อไรความดีล้นออกมาคนอื่นเขาก็จะเห็นเอง และถึงตอนนั้นไม่ว่าเราพูดอะไรคนก็จะเชื่อ เพราะเราทำเองจนเห็นผลมาแล้ว เทศน์ ณ บ้านอนุสาวรีย์ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๑ |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:18 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.