![]() |
ไม่ยินดีในการมีคู่
ถาม : ปฏิบัติธรรมแล้ว แต่ยังคิดถึง...ยังอยากมีคู่อยู่อีก ?
ตอบ : กำลังใจคิดถึง ทั้ง ๆ ที่เราเองตั้งใจปฏิบัตินั้นไม่ใช่ความผิด เป็นเรื่องปกติ อย่าลืมว่ากระทั่งพระโสดาบัน ท่านก็ยังแต่งงานเป็นปกติ ใช่ไหม ? ถึงเวลายังมีลูกมีหลาน ยังทำมาค้าขาย ยังมีความร่ำรวย เพียงแต่ว่าท่านอยู่ในกรอบของศีลของธรรมเท่านั้น จะหาคู่อย่างพระมหากัสสปกับนางภัททกาปิลานีนั้น หายากมาก คู่นั้นยังสงสัยอยู่ว่าเกิดมาทำไม...? ...(หัวเราะ)... พ่อแม่จับท่านทั้งสองแต่งงาน ท่านก็นอนหันหลังให้กันตลอด เพราะว่าต่างคนต่างไม่ยินดีในการมีคู่เลย แต่ว่าไม่อาจจะขัดพ่อขัดแม่ได้ ต้องรอจนกระทั่งพ่อแม่ตาย เมื่อพ่อแม่ตายแล้ว พระมหากัสสปท่านบอกว่า "ทรัพย์สมบัติทั้งหมดนี้น้องหญิงจงรับไป เราจะออกบวช" นางภัททกาปิลานีตอบว่า "ในเมื่อเป็นสิ่งที่ท่านสละทิ้ง เหมือนกับน้ำลายที่ถ่มออกมา เรื่องอะไรเราจะรับไว้ เราก็จะออกบวชเหมือนกัน" เสร็จแล้วสองสามีภรรยาในนาม ...(หัวเราะ)... ก็เลยช่วยกันแจกจ่ายทรัพย์สมบัติให้กับคนจนหมดเกลี้ยง แล้วก็เดินไปหาที่บวช ไปถึงทางแยกคนหนึ่งก็เลี้ยวซ้าย คนหนึ่งก็เลี้ยวขวา พระมหากัสสปไปเจอพระพุทธเจ้า ก็กลายเป็นพระอรหันต์ นางภัททกาปิลานีเข้าไปอยู่สำนักนางภิกษุณี บวชแล้วเป็นพระอรหันต์ คู่นี้แสดงว่ากำลังใจของท่านจะต้องเป็นพระสกิทาคามี เพราะว่าพระอนาคามีไม่เกิดแล้ว..ใช่ไหม ? อยู่ข้างบน ปฏิบัติต่อกลายเป็นพระอรหันต์ มีแต่สกิทาคามี หรือโสดาบันละเอียดเท่านั้น ที่ลงมาเกิดชาติหนึ่ง แล้วกลายเป็นพระอรหันต์ ขนาดนั้นแล้วยังอุตส่าห์ลงมาอีก นอนหันหลังให้กันอยู่หลายปีเลย สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕ |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:13 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.