![]() |
โลกนี้ไม่มีอะไรน่าโกรธ
ถาม : อารมณ์เหมือนกับที่เราไปเจออะไรที่ทำให้เรารู้สึกโกรธ เราก็จะมองคนที่ทำให้เราโกรธว่าทำแบบนี้คือมนุษย์หรือ ? จากภาพที่เราเห็นสวยงาม จิตใจเขาทำได้แบบนี้เชียวหรือ ?
ตอบ : ที่เห็นคือตัวปัญญาที่แท้จริง เขาเรียกว่า ธรรมสังเวช คือรู้สึกสลดใจว่า สภาพที่แท้จริงเขาเป็นอย่างนี้เองหรือ ? ทุกรูปทุกนามก็เป็นอย่างนี้ เราเองก็เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน บุคคลที่เคยกระทำอย่างนี้มาก่อนแล้ว คนอื่นมากระทำต่อ ก็เหมือนกับผู้นั้นรับมรดกจากเราไป ภาษาพระเรียกว่า ธรรมทายาท (ทายาทโดยธรรม) เพราะฉะนั้น..เขาก็ถือเป็นลูกหลานของเรานั่นเอง เพราะเป็นผู้รับมรดกจากเราไป ในเมื่อลูกหลานทำในสิ่งไม่ดีที่เราเคยทำมาก่อน เราก็ไม่ควรที่จะโกรธเขา เราก้าวพ้นตรงนั้นมาได้ เราเห็นทุกข์เห็นโทษแล้ว เหมือนกับเราเห็นลูกหลานทำผิด เพราะฉะนั้น..ถ้าสามารถสงเคราะห์เขาได้ก็สงเคราะห์เขา ถ้าสงเคราะห์เขาไม่ได้ในตอนนั้น เพราะกำลังใจเขาไม่ยอมรับจริง ๆ เราก็ปล่อยวางไว้ก่อน มีโอกาสเราค่อยสงเคราะห์เขาใหม่ ถ้าสามารถพิจารณาอย่างนี้ได้โลกนี้ก็ไม่มีอะไรน่าโกรธ ถาม : อย่างนี้ไม่กลายเป็นว่าเรายกตนเหนือคนอื่นหรือคะ ? ตอบ : ไม่ใช่จ้ะ ตัวนี้เป็นการคิดเพื่อที่จะได้ไม่สะสมอารมณ์เอาไว้ แต่ขณะเดียวกันก็อย่าลืมตัวสติกับตัวปัญญาของเรา สติกับปัญญาของเราต้องรู้เท่าทันอยู่เสมอ ถ้าหากว่าเราไปยกตัวเองขึ้นมาในลักษณะที่ว่าอย่างไร ๆ เราก็เหนือกว่าอยู่แล้ว ตัวนี้จะเป็นตัวที่เรียกว่า มานะ และเป็นสักกายทิฏฐิด้วย คือเห็นว่าตัวเราดีกว่า ถ้าหากว่าสติของเราขาดจากจุดนี้เมื่อไรก็เสร็จเมื่อนั้น เรื่องของธรรมะละเอียดมาก ถาม : ห้ามพลาดในแต่ละวัน ? ตอบ : ใช่..เพราะต่างกันนิดเดียว ดีกับชั่วเดินก้าวเดียวกันเลย ยกเว้นก้าวสุดท้าย ก้าวหนึ่งพาลงล่าง ก้าวหนึ่งพาขึ้นบนเท่านั้น ยิ่งทำไปจะยิ่งเห็นความสามารถของกิเลส เขาสุดยอดจริง ๆ สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๕ |
กราบอาราธนาธรรมไปเผยแพร่ในเฟซบุ๊กชมรมโมทนาบุญ เว็บพลังจิตครับ
โมทนา |
กราบอาราธนาธรรมไปเผยแพร่ในเฟซบุ๊กค่ะ
|
ขออนุญาต กราบอาราธนาธรรมไปเผยแพร่ในเฟซบุ๊กค่ะ
|
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:54 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.