![]() |
ยาแก้วัณโรค
ครูบาน้อยให้ตำรายามาอีกสองขนาน เป็นยาแก้วัณโรคกับยาถอนพิษเบื่อเมาทุกชนิด ยาแก้ัวัณโรค ต้องเอาต้นมะละกอตัวผู้อายุให้ได้สามปีขึ้นไป ทั้งต้นทั้งราก ล้างสะอาดแล้วสับเป็นชิ้นเล็กๆ ตากให้แห้ง จากนั้นเอาไปเผาไฟ แล้วรวบรวมขี้เถ้าทั้งหมดมาผสมน้ำ คนน้ำผสมขี้เถ้าให้เข้ากัน วันละสามครั้ง เป็นเวลาสามวัน ทิ้งให้ตกตะกอน แล้วรินเอาเฉพาะน้ำมาต้มจนแห้ง จะได้เป็นเกลือ เอาเกลือนี้ขนาดเม็ดมะละกอ ผสมกับน้ำผึ้งหนึ่งขวด กินครั้งละหนึ่งช้อนโต๊ะวันละครั้ง กินไปเรื่อยๆจนกว่าจะหายจากวัณโรค(หรือไม่ก็ม่องเท่งซะก่อน...!)
จากหนังสือกระโถนข้างธรรมมาสน์ ฉบับที่ ๕๑ เดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๑ หน้า ๑๗-๑๘ |
ทำให้นึกถึงครั้งพระอาจารย์ป่วยเป็นวัณโรค
ก่อนนั้นไม่นานมีโอกาสได้รู้จักอาหารเสริม Omx จากประเทศญี่ปุ่น อันมีลักษณะเป็นแคปซูลบรรจุแลคติกแบคทีเรีย เพาะเลี้ยงด้วยผลไม้ ภูเขาที่คัดสรรว่ามีประโยชน์ คุณแม่ซึ่งสุขภาพอ่อนแอมาก แทบไม่สามารถออกไปไหนได้เลยเพราะ ทำให้อ่อนล้า เหน็ดเหนื่อยจนต้องกลับมานอนพักเป็นวันๆ กว่าจะฟื้นแรง กลับมาได้ กินแล้วมีผลเหมือนยาวิเศษ มีเรี่ยวแรงสามารถออกไปข้างนอก ได้ทั้งวันอย่างน่าอัศจรรย์ จึงได้นำไปถวายพระอาจารย์ พระอาจารย์เมตตารับไว้ แต่ก็บอกว่าขณะนั้น ต้องฉันยาฆ่าเชื้อต่อเนื่องถึง ๖ เดือน เกรงจะสิ้นยาเปลืองเปล่าๆ เมื่อกลับมา ศึกษาทบทวนเอกสารประกอบผลิตภัณฑ์อีกครั้ง พบว่าเป็นคำแนะนำของ แพทย์ที่ต้องกินแลคติกแบคทีเรียเข้าไปชดเชย ขณะที่ต้องใช้ยาฆ่าเชื้อติด ต่อกันเป็นเวลานาน ๆ จึงกลับไปกราบเรียนและยืนยันว่าเป็นคำแนะนำของแพทย์ดังนี้ พระอาจารย์ จึงเมตตารับไว้ฉัน และภายหลังก็ได้เมตตาบอกเล่าว่ามีผลดีเหมือนกัน จึงอยากบอกเล่าไว้เป็นวิทยาทาน เมื่อใดที่ท่านจำต้องรับยาฆ่าเชื้อต่อเนื่อง เป็นเวลานาน จำต้องได้รับการชดเชยแลคติกแบคทีเรีย มิฉะนั้นอาจมีผลเสีย ต่อสุขภาพอย่างรุนแรงได้ หรือบางท่านที่เจ็บป่วย ใช้ยาปฏิชีวนะบ่อย ๆ มีอาการไม่ค่อยแข็งแรง เหนื่อย เพลียง่าย อาจเพียงกินแลคติกแบคทีเรียเข้าไปชดเชย สุขภาพก็อาจดีขึ้นผิดตา และก็ไม่จำเป็นต้องซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมนำเข้าราคาแพง เพียงกินนมเปรี้ยว ที่มีวางขายในท้องตลาดในขณะท้องว่าง เช่นหลังตื่นนอนทุกวัน ก็จะเห็นผลได้ครับ |
แลคติคแบคทีเรียที่ว่านี้ ใช่จุลินทรีย์แลคโตบาซิลัส ที่มีอยู่ในนมเปรี้ยวทั่ว ๆไป ตัวเดียวกันหรือไม่ครับ
|
นั่นเป็นชนิดหนึ่งของแลคติกแบคทีเรียครับ
เป็นแบคทีเรียที่ร่างกายจำเป็นต้องมีไว้ในลำไส้เล็ก เพื่อช่วยย่อยอาหารและช่วยกำจัดสิ่งไม่พึงประสงค์ บางประการ เช่นเชื้อราที่เป็นพิษต่อร่างกาย หากมีน้อยเกินไป ร่างกายจะไม่สามารถดูดซึมสาร อาหารหลายๆ ชนิดได้ ทั้งยังจะดูดซึมเอาสิ่งเป็น พิษเข้าไป เช่นเชื้อรา เป็นเหตุให้อ่อนเพลีย มีสุขภาพ ไม่แข็งแรง ไปถึงขั้นเป็นมะเร็งได้ |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:45 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.