|  | 
| 
 รวมคำเด็ดเกร็ดคำครู  ...ยากนักที่จะได้เกิดเป็นมนุษย์ เพราะต้องตั้งอยู่ในธรรมของมนุษย์ คือ ศีล ๕  และกุศลกรรมบท ๑๐  จึงจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ชีวิตที่เป็นมานี้ก็ได้ด้วยยากยิ่งนัก เพราะอันตรายชีวิตทั้งภายในภายนอกมีมากต่างๆ การที่ได้ฟังธรรมของสัตบุรุษ คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้านี้ ก็ได้ด้วยยากยิ่งนัก เพราะกาลที่เปล่าว่างอยู่ ไม่มีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นในโลกยืดยาวนานนัก บางคาบบางสมัยจึงจะมีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นในโลกสักครั้งสักคราวหนึ่ง เหตุนั้นเราทั้งหลายพึงอยู่ด้วยความไม่ประมาทเถิด อย่าให้เสียที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนานี้เลย  หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล วัดเลียบ จ.อุบลราชธานี ที่มา : http://www.watkoh.com/kratoo/forum_p...z493d1ee7685fd | 
| 
 ทุกข์ ต้องกำหนดรู้ สมุทัย ต้องละ  นิโรธ ต้องทำให้แจ้ง  มรรค ต้องเจริญให้มาก หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร | 
| 
 พระพุทธศาสนาเป็นของดี วิเศษยิ่งนักในโลกนี้ ไม่มีเครื่องเปรียบ เพราะเป็นหนทางแก้ทุกข์ นับว่าเป็นแก้วรัตนะมงคลของโลกทีเดียว พระอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา | 
| 
 จิตที่ส่งออกนอก เพื่อรับสนองอารมณ์ทั้งสิ้นเป็นสมุทัย ผลอันเกิดจากจิตที่ส่งออกนอกแล้วหวั่นไหวเป็นทุกข์ จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้งเป็นมรรค ผลอันเกิดจากจิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้งเป็นนิโรธ พระราชวุฒาจารย์(หลวงปู่ดูลย์ อตุโล) วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ | 
| 
 สิ่งใดเกิด สิ่งนั้นตาย สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา ผู้ใดเห็นอนัตตา ผู้นั้นเห็นพระนิพพานแล หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู | 
| 
 ธรรมเป็นตัวธรรมชาติภายในจิต และมีเพียรให้รู้ตามธรรมชาติ จึงชื่อว่ารู้อริยสัจ ราคะ โมหะ โทสะ ต้นไม้ ภูเขา สัตว์ ก็เป็นธรรมชาติของเขา เป็นเช่นนั้น แต่ไหนแต่ไรมา เราไม่ควรไปยึดไปแต่งให้เป็นตัณหา ก่อเรื่องทุกข์ให้สัตว์เหล่านั้น กลายเป็นทุคติ นรกไป  หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร วัดถ้ำผาบิ้ง อ.วังสะพุง จ.เลย | 
| 
 บ่ ต้องดีใจ บ่ ต้องเสียใจ ดีก็ช่าง ร้ายก็ช่าง เทศน์ที่สั้นที่สุด วาง หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ อ.วังสะพุง จ.เลย | 
| 
 ทุกข์มีเพราะยึด ทุกข์ยืดเพราะอยาก ทุกข์มากเพราะพลอย ทุกข์น้อยเพราะหยุด ทุกข์หลุดเพราะปล่อย พระโพธิญาณเถร(หลวงพ่อชา สุภทฺโท) วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ อุบลราชธานี | 
| 
 อดีตก็เป็นธรรมเมาอันหนึ่ง อนาคตก็เป็นธรรมเมา พึงทำให้จิตดิ่งอยู่ในปัจจุบัน รู้ปัจจุบัน ละปัจจุบัน ตัดตัณหา ตัดกิเลส ตัดมานะทิฐิ ตัดความยึดมั่นของตนให้เสร็จลง แล้วก็สงบได้  หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ | 
| 
 พุทธะคือผู้รู้ ความรู้นี้ไม่ใช่มืด ไม่ใช่สว่าง ไม่ใช่แจ้ง ไม่ใช่หลง ความที่มันหลงเราก็รู้อยู่ มืดเราก็รู้อยู่ สว่างเราก็รู้อยู่ สุขมันก็รู้ ทุกข์มันก็รู้อย่างนี้ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร | 
| 
 ผู้ใดทำให้ใจถึงความเป็นกลางได้ ผู้นั้นจะพ้นจากทุกข์ทั้งปวง ผู้ที่จะพ้นจากทุกข์ได้ในโลกนี้ก็ล้วนแล้วแต่ยกทุกข์ขึ้นมาเป็นเหตุทั้งนั้น แท้จริงความนึกคิดไม่ใช่ทุกข์ แต่การไปยึดความนึกคิดมาเป็นของตน จึงเป็นทุกข์ หลวงปู่เทสก์ เทสฺรํสี วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย | 
| 
 สุขโลกีย์ มันก็ดีแต่ใหม่ๆ สดๆ ร้อนๆ เท่านั้น เหมือนข้าวสุกที่เราตักใส่จานใหม่ ๆ ยังร้อน ๆ ควันขึ้น ก็น่ารับประทาน แต่พอตักไว้นานจนเย็นชืดก็จะกินไม่อร่อย ยิ่งทิ้งไว้จนแข็งเป็นข้าวเย็น ก็ยิ่งกลืนไม่ลง พอข้ามวันก็เหม็นบูด ต้องเททิ้ง กินไม่ได้เลย  พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร วัดอโศการาม อ.เมือง จ.สมุทรปราการ | 
| 
 ธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านี้เป็นของเย็น เป็นของบริสุทธิ์  บุคคลผู้มีปัญญาจะไม่ปฏิเสธธรรมของพระพุทธเจ้าเพราะธรรมถ้าอยู่ในจิตใจของผู้ใด ผู้นั้นย่อมมีความสุขความเจริญ  หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโคธาราม จ.อุดรธานี | 
| 
 จะเอาสุขทางโลก ก็ได้ทุกข์มาพร้อมกัน เช่น คิดว่า สามี ภรรยา เป็นความสุข ก็ได้รับทุกข์เพราะสามี ภรรยานั่นแหละ อยากได้ลูกมีความสุขที่ได้ลูกหญิงลูกชาย แต่ก็ได้รับทุกข์ เพราะลูกนั่นแหละ จะเอาความรักก็ได้ความชังมาพร้อม จะเอาอย่างเดียวไม่ได้ อยากได้หนึ่งแต่ได้สอง เป็นกฎธรรมชาติอย่างนั้น  พระครูญาณทัสสี (หลวงปู่คำดี ปภาโส) วัดถ้ำผาปู่นิมิตร อ.เมือง จ.เลย | 
| 
 การภาวนาเป็นเรื่องของการบำเพ็ญ เพื่อความสุข ไม่ใช่เพื่อความทุกข์ แม้จะมีความยากลำบากบ้างก็อย่าท้อถอย ให้เห็นเป็นธรรมดาของการจะทำสิ่งมีค่าให้เกิดขึ้น  พระญาณสิทธาจารย์ (หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร ) วัดถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ | 
| 
 สิ่งใดที่เรารู้เท่าทัน สิ่งนั้นไม่สามารถที่จะดึงใจของเราไปทรมานให้เกิดทุกข์ขึ้นได้  หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา | 
| 
 คนเราเกิดมาทุกรูปทุกนาม รูปสังขารเป็นของไม่เที่ยง เกิดขึ้นแล้วล้วนตกอยู่ในกองทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าพระราชา มหากษัตริย์ พระยานาหมื่น คนมั่งมีเศรษฐี และยาจก ล้วนตกอยู่ในกองทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น มีทางพอจะหลุดพ้นทุกข์ได้ คือ ทำความเพียร เจริญภาวนา อย่าสิมัวเมาในรูปร่างสังขารของตน มัจจุราชมัน บ่ไว้หน้าผู้ใด ก่อนจะดับไป ควรจะสร้างความดีเอาไว้  หลวงปู่พรหม จิรปญฺโญ วัดประสิทธิธรรม อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี | 
| 
 เราทุกคนเกิดมาพบพระพุทธศาสนา คือศาสนาของผู้รู้ เราต้องพิจารณาสอนจิต สอนใจของตัว ระวังรักษาอย่าให้ชั่วรั่วไหลเข้ามาทับถม ชั่วที่มีอยู่รีบทำลาย กำจัดปัดเป่าออกไป สิ่งใดที่จะนำความสุข ความเยือกเย็น ความสว่างไสว ความพ้นทุกข์พ้นภัย เรารีบกระทำบำเพ็ญ ให้จิตเห็น จิตรู้ เมื่อเราทุกคนทำอยู่อย่างนี้ เราจะประสบความสุข  พระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร วัดป่าแก้วชุมพล จ.สกลนคร | 
| 
   ....จะทำจะพูดจะคิดสิ่งใด ก็จง ทำพูด คิดแต่ในทางที่จะเป็นประโยชน์แก่ตนและผู้อื่นเถิด  หลวงปู่กงมา จิรปุญฺโญ วัดดอยธรรมเจดีย์ จ. สกลนคร | 
| 
 ขออนุญาต เสริมเกร็ดคำครูด้วยคนค่ะ ถ้ารังเกียจร่างกาย  รังเกียจโลก   ไปนิพพานได้........ ถ้าไปเพราะความกลุ้ม ไปไม่ได้ (หลวงพ่อพูดที่ตึกรับแขก เมื่อ ๔ ตุลาคม ๒๕๓๗ ) คัดมาจากหนังสือปฐมธรรมยาน(ลูกตามพ่อ) หน้า ๑๒๔ | 
| เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:12 | 
	
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน 
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.