![]() |
นิมิตกรรมฐานเก่าที่เคยได้ในอดีต
ถาม : พอจิตนิ่งแล้วจะเห็นเป็นกองไฟ ตกใจ..! กลัวลงนรก ?
ตอบ : "มะเหงกแน่ะ..!" ถ้าหากว่าทำสมาธิแล้วเห็นไฟ อาจจะเป็นอุคหนิมิตของเตโชกสิณก็ได้ ? ถาม : คือ...เป็นหลายครั้งแล้วค่ะ ? ตอบ : จ้ะ...ในอดีตของเรา ๆ อาจจะเคยได้เตโชกสิณมาก่อน ถึงเวลานั้นก็รักษาอารมณ์เดิมให้ตั้งมั่น แล้วก็ภาวนา "เตโชกสิณัง" จับภาพนั้นต่อไปเลย สบาย..ไม่ต้องไปเสียเวลาหาอุปกรณ์ เพราะอันนั้นเท่ากับเป็นนิมิตติดตาแล้ว ต่ออีกนิดเดียวเท่านั้น ถาม : เป็นสิบ ๆ ครั้งแล้วค่ะ ? ตอบ : โอ้โฮ...ฉลาดมาก ....(หัวเราะ)... เดี๋ยวก็เหมือนกับหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านภาวนาไป ๆ ก็เห็นกะโหลกศีรษะลอยมาแล้วก็ผ่านไป กระดูกซี่โครง กระดูกแขน กระดูกขา ลอยมาก็ผ่านไป หลวงปู่ปาน ท่านสอนไม่ให้สนใจนิมิต เมื่อไม่ให้สนใจนิมิตหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านก็ปล่อยไป นิมิตก็ลอยมาอยู่อย่างนั้นเป็นชั่วโมง ๆ ลอยมาแล้วก็ขึ้นต้นใหม่ ท่านก็ไม่สนใจ รุ่งเช้าหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านไปกราบหลวงปู่ปาน ท่านก็ถามว่า "เป็นอย่างไรคุณ เมื่อคืนผีหลอกหรือ ?" หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านก็ตอบว่า "ผีไม่ได้หลอกหรอกครับ แต่กระดูกมันหลอน" หลวงปู่ปานถามต่อว่า "แล้วคุณทำอย่างไร ?" หลวงพ่อวัดท่าซุงตอบว่า "ผมก็ช่างมันตามที่หลวงพ่อว่าแหละครับ" หลวงปู่ปานท่านว่า "ไม่ใช่ช่างมันแล้ว คุณน่ะช่างเผือกไปแล้ว" อันนั้นเป็นกรรมฐานเก่าที่เราเคยได้มาคือ อสุภกรรมฐาน ข้อที่เรียกว่า อัฏฐิกัง ปฏิกุลัง การเพ่งกระดูกใช่ไหม ? ต่อไปถ้าหากว่าเจอภาพอย่างนั้น อธิษฐานให้ตกลงตรงหน้า แล้วก็ค่อย ๆ ต่อขึ้นมาจนเป็นรูปร่าง แล้วก็จับนิมิตต่อไปเลย หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอก แหม..เสียดาย..ก่อนหน้านี้ครูบาอาจารย์บอกให้ละ ก็ละท่าเดียว..ใช่ไหม ? หารู้ไม่ว่านิมิตบางอย่างก็เป็นกรรมฐานเก่าที่เราทำมา สังเกตไหมว่าก่อนที่นิมิตจะเกิดขึ้น จะมีลักษณะเหมือนกับอารมณ์ของเราเคลื่อนไปวูบหนึ่งจากจุดที่เราตั้งอยู่ เคลื่อนไปวูบหนึ่งแล้วก็จะเห็นภาพนั้นขึ้นมาเลย อาการนั้นเป็นอาการกรรมฐานเก่าคลายตัวลงแล้ว เตรียมจะรับของใหม่ต่อไป เราก็ทำต่อได้เลย น่าอิจฉาไหม ? ...(หัวเราะ)... ถ้าได้กองหนึ่ง อีก ๙ กองหมูในอวยเลย สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕ |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:54 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.