![]() |
สู้กิเลสด้วยการเอาจิตเกาะพระนิพพาน
ถาม : แล้วจะทำอย่างไรครับ ถ้ามารเขารู้จุดอ่อนของเรา ?
ตอบ : ตั้งสมาธิไว้ก่อนเป็นอันดับแรก เสร็จแล้วเอากำลังสมาธิทั้งหมดของเราไปเกาะพระนิพพานเอาไว้ ตั้งใจว่าตายเมื่อไรเราจะมาอยู่ที่ตรงนี้แหละ เขาจะมาท่าไหนก็ไม่ต้องไปใส่ใจทั้งนั้น ถ้าหากว่าจิตเป็นสมาธิ นิวรณ์ ๕ จะดับลงชั่วคราว ถ้านิวรณ์ ๕ ดับลงชั่วคราว จิตใจของเราก็ไม่ส่งส่ายวุ่นวาย กิเลสละเอียดเข้ามาเราจะเห็นได้ชัด กิเลสจะละเอียดแค่ไหนก็เรื่องของกิเลส ราคะเกิดขึ้นก็เป็นเรื่องของราคะ ข้าอยู่บนพระนิพพาน ข้าไม่ไปปรุงไปแต่งด้วย โทสะเกิดขึ้นเรื่องของโทสะ ข้าอยู่บนพระนิพพาน ข้าไม่ไปปรุงไปแต่งด้วย โลภะเกิดขึ้นก็เรื่องของโลภะ ข้าอยู่บนพระนิพพาน ข้าไม่ไปปรุงแต่งด้วย เมื่อไม่มีตัวจิตไปคอยใส่พริก ใส่เกลือ ใส่น้ำปลา โลภะ โทสะ โมหะที่เป็นสมบัติของร่างกายก็อยู่ไม่ได้ เพราะจืดชืดไม่เป็นท่า อย่างเก่งก็ตั้งอยู่ได้ครู่หนึ่งก็สลายไป เพราะฉะนั้น..ใครได้มโนมยิทธิถือว่าเป็นกุศลอย่างมหาศาลเลย เพราะสามารถตัดกิเลสได้อัตโนมัติ โดยเผ่นขึ้นไปเกาะพระบนพระนิพพานโน่น มีอะไรเกิดขึ้นหนีไปเกาะพระท่าเดียว อย่างอื่นไม่สนใจทั้งนั้น |
ตัวจิตสังขารที่คอยนึกคิดปรุงแต่งนี่น่ากลัวที่สุด เพราะถ้าเราคิดจะเป็นสาเหตุของความทุกข์ทั้งนั้น การคิดจะฟุ้งซ่านไป ๒ ทาง คือไม่ไปในอดีตก็ไปในอนาคต
อดีตผ่านไปแล้ว เราไปพระนิพพานได้ที่ไหนกัน ถ้าไปได้ก็ไม่มานั่งอยู่อย่างนี้หรอก อนาคตก็ยังมาไม่ถึง รถที่ไม่ออกจากท่าเราไปขึ้นจะมีประโยชน์อะไร ต้องเอาปัจจุบันนี้ เอารถเที่ยวปัจจุบันที่ออกอยู่นี่แหละ ต้องรีบไปกับรถคันนี้ ขืนช้าตกรถจะไปพระนิพพานไม่ทัน ในเมื่อไม่มีจิตไปคอยปรุงแต่ง ในเมื่อเราไม่ใส่ใจ ไม่สนใจ เราเกาะนิพพานอย่างเดียว จิตก็บริสุทธิ์ขึ้นเรื่อย ๆ เพราะกิเลสมายุ่งด้วยไม่ได้ เดี๋ยวก็หมดกิเลสแบบไม่ทันรู้ตัว กิเลสโดนกดอยู่นาน ๆ จึงเฉาตายไปเอง ถึงตอนนั้นเราก็อยู่ยาวไปเลย ไม่ต้องลงมาแล้ว ...(หัวเราะ)... คนอื่นมาก็ว่าหัวใจล้มเหลว ...(หัวเราะ)... ตายไปแล้ว เป็นพระนี่เสียท่านะ ถึงทำได้อย่างนั้นก็ต้องทนอยู่ต่อไป ของโยมถ้าทำได้ก็ไปเลย สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๕ |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:24 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.