![]() |
ดับตั้งแต่เหตุ
ถาม : ในจิตเรามุ่งว่า ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายที่เราจะไปพระนิพพาน..ใช่ไหมครับ ? แล้วอะไรที่จะเข้ามาก็ให้จิตเรารู้ทัน ?
ตอบ : ไม่ใช่..คือว่าอะไรเกิดขึ้นก็ตาม ต้องพยายามใช้ปัญญาดูให้รู้ถึงเหตุนั้น ๆ เช่น เงินนี่ถ้าเราสักแต่เห็นว่าเป็นเพียงธาตุ ๔ ดิน น้ำ ไฟ ลม เป็นกระดาษแผ่นหนึ่ง สิ่งนี้ก็คือเงิน จะทำอันตรายเราไม่ได้ แต่เราไปคิดต่อว่า เงินนี้เอาไปซื้อของเสียหน่อยก็ดี ซื้อข้าวกิน เออ...ดี เดี๋ยวจะไปกินร้านนั้น เพราะอาหารอร่อย..มีคนชวนชิม นั่น..กิเลสเริ่มเกิดแล้ว เราเคยชวนสาวไปกินร้านโน้นนี่ เอ้า..ยิ่งหนักเข้าไปอีก ตัวราคะ โลภะ โทสะ โมหะ จะระดมมาเลย..ใช่ไหม ? ไปซื้อยาบ้าเสียหน่อยก็ดี ยิ่งหนักเข้าไปอีก เงินตัวเดียวถ้าคุณหยุดได้ แค่นี้ก็จบ ไม่อาจจะทำอันตรายอะไรได้ เราต้องตัดตั้งแต่ต้นเหตุ แต่ถ้าหากว่าเราสืบสาวราวเรื่องด้วยการปรุงแต่งด้วยจิตสังขาร เรื่องก็จะกว้างออกไปเรื่อย จนกระทั่งกลายเป็นไฟไหม้ป่า ไม่สามารถที่จะดับได้ แต่ถ้าเรารู้ต้นเหตุว่า สะเก็ดไฟนิดเดียวนี้ ถ้าเราปล่อยก็จะลาม เราก็รีบดับเสีย ก็หมดปัญหาไป เพราะฉะนั้น..พระพุทธเจ้าท่านถึงได้ตรัสว่า "สิ่งทั้งหลายทั้งปวงเกิดแต่เหตุ ตถาคตตรัสถึงเหตุและความดับแห่งธรรมนั้น" พระอัสสชิท่านว่า "เย ธัมมา เหตุปัพพวา เตสัง เหตุง ตถาคโต เตสัญจะ โย นิโรโธ จะ เอวัง วาที มหาสมโณ" ต้องดับตั้งแต่เหตุ ทุกอย่างอยู่ที่เหตุทั้งนั้น |
ถาม : เรารู้ว่าเป็นเงิน แต่เราพิจารณารู้อยู่ว่าเป็นโทษมาก แต่เราก็ต้องใช้ ?
ตอบ : ไม่ใช่คิดอย่างนั้น ปัญญาจะเกิดรู้ตลอดเลยว่า ถ้าเราคิดจะเป็นอย่างไร จะทำให้ รัก โลภ โกรธ หลง เราก็หยุดคิด ถ้าเราหยุดความคิดได้ทัน กิเลสจะโดนจำกัดเขต ไม่สามารถที่จะงอกงามได้ ก็เลยกลายเป็นว่ารู้สักแต่ว่ารู้ เห็นสักแต่ว่าเห็น ได้ยินสักแต่ว่าได้ยิน แต่ถ้าหากว่าเราไปเผลอคิดเมื่อไรก็จะพาเละเลย ต้องหยุดคิดให้ได้ ถาม : แต่ถ้าเราจะใช้ประโยชน์ เช่น เราไปซื้อข้าวกินแค่นั้นเอง ? ตอบ : ก็แค่ประโยชน์เฉพาะหน้าแค่นี้เอง จบแล้วจบกันไม่ต้องไปคิดอะไรต่อ จะเห็นเหตุเลยว่าถ้าเราคิดแล้วจะเป็นทุกข์อย่างไร ก็หยุดเอาไว้แค่นั้นเลย เหมือนกับแจกันดอกไม้ เราเอาไปไหว้พระ เอาไปบูชาครูบาอาจารย์ ก็ดี..ใช่ไหม ? กุหลาบแดงในแจกันเราเคยเอาไปให้สาว..ไปโน่นแล้ว..ใช่ไหม ? พอมองไปอีกที เราจะซื้อกุหลาบ แต่ดอกที่สวยกว่าโดนเขาซื้อตัดหน้าไป กลายเป็นโทสะไปอีกแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งกว้างออกไปเรื่อย แต่ถ้าเรารู้ทัน หยุดความคิดได้ กิเลสก็หยุดหมด ดับหมด สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๕ |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:25 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.