![]() |
จงอย่าติดกาลเวลา
จงอย่าติดกาลเวลา
สมเด็จองค์ปัจจุบัน ทรงมีพระเมตตาตรัสสอนเรื่องนี้ไว้ดังนี้ ๑. “คนเรามักจักติดกาลเวลา เมื่อตื่นแล้วหากยังไม่ได้ตามเวลาที่เคยตื่น จิตก็มักจักมีอุปาทานว่า ยังหลับไม่พอ ทำให้นอกจากติดกาลเวลาแล้ว ก็ยังติดในการนอนอีกต่างหาก ในบางขณะจึงนอนมากเกินความต้องการของร่างกาย ด้วยจิตที่ติดอุปาทานตัวนี้” ๒. “แต่ร่างกายที่มีอยู่ก็จำเป็นต้องนอน เนื่องด้วยธาตุ ๔ ที่เข้ามาประชุมกันมันเกิดอาการเสื่อมขึ้นมา จำเป็นต้องนอนก็นอนตามที่ร่างกายต้องการ มิใช่ว่าจักต้องฝืน นั่นเป็นอัตตกิลมถานุโยคก็ไม่ถูกต้องเหมือนกัน เพราะฉะนั้นจงอย่าทำจิตเป็นคนเมาทั้งยามหลับและยามตื่น เมาอะไร เมาในกิเลสมารและขันธมารทั้งปวง” ๓. “จงพยายามทำจิตให้ตื่นอยู่ในความดี คือ ทรงจิตไว้ในสมถะและวิปัสสนา ให้จิตอยู่ในฐานของความดี อันนี้สิควรทำทั้งยามหลับและยามตื่น เพื่อความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมตัวเดียวเท่านั้น จึงจักเป็นการสมควร” ๔. “เป็นการดีแล้ว ที่เจ้าไม่เลือกเวลา จังหวะใดที่ยังมีสติ-สัมปชัญญะแจ่มใสและรู้สึกตัวว่าตื่นอยู่ เพราะความตายเป็นของเที่ยง แต่ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง ทุกลมหายใจเข้าและออกล้วนมีความตายแฝงอยู่ทั้งสิ้น เจ้าจงถือโอกาสนั้นขึ้นมาเฝ้าตถาคตได้ตลอดเวลา” ๕. “ผู้ใดประมาทในความตาย จึงเท่ากับประมาทในพระธรรมคำสั่งสอนของตถาคตทั้งหมด ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ หรือนิพพานสมบัติย่อมไม่มีกับจิตผู้ประมาทในความตายนั่นเอง” ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๗ รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:41 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.