![]() |
ระดับของปัญญา
ถาม : เรื่องปัญญานะครับ ปัญญาทางโลกกับทางธรรมต่างกันอย่างไร ?
ตอบ : คนละเรื่องกันเลย ปัญญาทางโลก ภาษาฝรั่งเรียกว่า "ไอคิว" เป็นหน่วยความจำเฉย ๆ ส่วนปัญญาทางธรรม คือการรู้แจ้งเห็นจริงตามสภาพความเป็นจริง ถาม : ถึงเวลาก็ได้ผลทางวัตถุใช่ไหมครับ ? ตอบ : ของฝรั่งให้ผลทางวัตถุมากกว่า ของพระพุทธเจ้าให้ผลทางการบรรลุธรรม ถาม : จะมีในแง่เดียว หรือว่าจะมีแง่อื่นหรือเปล่าครับ ? ตอบ : ของพระพุทธเจ้าเกิดจากการเห็นไตรลักษณ์ นั่นก็เป็นแค่ส่วนเดียวเท่านั้น ยังมีตามนัยของ วิปัสสนาญาณ ๙ และอริยสัจ ๔อีก ถาม : แต่ว่าพอเราจับจุดหนึ่งได้ จุดอื่นจะมาเองใช่ไหมครับ ? ตอบ : หากว่าได้จุดหนึ่ง จุดอื่นก็จะง่ายขึ้น ถาม : ไม่ใช่มาเอง ? ตอบ : ถ้าเราไม่ตะกายไปหา ก็ไม่มาหรอก เรื่องของปัญญาเป็นสิ่งที่ละเอียด เราต้องตั้งใจค้นคว้าเข้าไปจริง ๆ |
ถาม : จะพิจารณาอยู่แค่ระบบเดียวใช่ไหมครับ ?
ตอบ : อยู่ที่ครูบาอาจารย์ ว่าท่านสอนอย่างไร ลูกศิษย์ก็ทำอย่างนั้น ถ้าหากว่าลูกศิษย์มีความสามารถสูง พอมั่นใจว่าตัวเองชำนาญในสิ่งนั้นแล้ว ก็ขยับหาสิ่งอื่นต่อได้ อย่างหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านเล่นหมดเลย กรรมฐาน ๔๐ กอง มหาสติปัฏฐานสูตรว่าครบทุกบรรพ ปัพพะโตพมะพระสูตรอีกอันหนึ่ง คิริมานนทสูตรก็คล้าย ๆ กับวิปัสสนาญาณ ๙ ถาม : เราเข้าใจอะไรดีมากขึ้น ? ตอบ : ถ้าทำได้จริง ๆ จะเข้าใจแจ่มแจ้ง แต่เข้าถึงส่วนเดียวก็พอที่จะปล่อยวางได้บ้างแล้ว ปัญญานั้นจะมีในทุกระดับชั้น ปัญญาของปุถุชน คือคนทั่ว ๆ ไปที่เกลือกกลั้วกับกิเลส ปัญญาของผู้ทรงฌาน ปัญญาของพระอริยเจ้า แต่ละระดับไม่เท่ากัน ความหยาบละเอียดต่างกัน พอเราทำถึงจุด ๆ หนึ่ง เราจะคิดว่า ดีแล้ว ถูกแล้ว แต่ความจริงยังไม่ใช่ เพราะยังดีแค่นั้น ถูกแค่นั้น พอเรามีปัญญามากขึ้น พิจารณาได้ลึกซึ้งกว่านั้น ก็จะมีของที่ถูกกว่านั้น ดีกว่านั้นขึ้นมา พอเรามองย้อนไป ที่เราเคยว่าถูกแล้ว ดีแล้ว ก็กลายเป็นยังผิดไป ถึงได้บอกว่าเป็นสมมติ ผิดถูกก็คือสมมติ สิ่งที่เราทำ ถ้าเป็นส่วนที่พระพุทธเจ้าท่านบัญญัติขึ้นมา ก็เป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ถ้าเป็นทิฐิคือความเห็นของเรา โอกาสผิดก็ยังมีเยอะ สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๔๔ |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:36 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.