![]() |
เข้าใจผิดว่าเป็นพระอรหันต์
ถาม : ปฏิบัติไปได้ระยะหนึ่งไม่โกรธไม่อะไร ก็เลยเข้าใจว่าตัวเองเป็นพระอรหันต์ เสร็จแล้วก็นั่งคอยความตาย เอ๊ะ..! วันแรกก็ยังไม่ตาย วันที่สองก็ยังไม่ตาย ก็นั่งคอย..แบบไม่โกรธ ไม่นึกอยากได้อะไร ไม่มีอยากยุ่งกับใครเลย คิดว่าสงสัย..เราได้แล้ว ก็ไปนั่งรอความตาย เอ๊ะ.. ! ปกติวันหนึ่งต้องตาย ก็ไม่ตาย วันที่สอง พอวันที่สามปุ๊บ อารมณ์ตก..?
ตอบ : อารมณ์ตก... ก็คือ อารมณ์คลายตัวคืนกลับสภาพเดิม ลักษณะนั้นโทษโยมไม่ได้ สมัยที่พระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ พระที่ท่านก็คิดว่าท่านสำเร็จอรหันต์ แล้วท่านก็พยากรณ์ว่า ตัวท่านเองเป็นพระอรหันต์แล้วก็มี พระพุทธเจ้าถึงได้ไปเตือนว่ายังไม่ใช่ ถ้าเราสังเกตอารมณ์จะเห็นว่า ยังต้องใช้การกดอารมณ์อยู่ ไม่ใช่ได้แบบปล่อยวาง ฉะนั้น..พออารมณ์คลายตัวลง ท่านก็ตกใจว่า เอ๊ะ..! เราโดนอาบัติปาราชิก คือ ขาดความเป็นพระไปแล้ว ? พระพุทธเจ้าท่านตัดสินให้ว่าไม่โดน เพราะพยากรณ์โดยความสำคัญผิด แต่ถ้าอวดอุตริมนุสธรรมเพื่อต้องการลาภ ยศ ชื่อเสียง ต้องการให้คนเขาสรรเสริญเยินยอ ถึงจะต้องอาบัติปาราชิก ขาดความเป็นพระ เพราะอวดในสิ่งที่ตัวเองไม่มี แต่นี่ตัวท่านเองเข้าใจผิดไป ไม่ได้มีเจตนาที่จะอวดเพื่อผลประโยชน์ใด ๆ จึงไม่ถือว่าเป็นอาบัติปาราชิก |
อีกอย่างหนึ่งเกิดกับตัวอาตมาเอง ปีนั้นรู้สึกจะนอนในเรือทั้งปีเลย ตอนที่ตีกับชาวบ้านเขาเรื่องเรือหาปลา มีอยู่วันหนึ่งก็ภาวนาไปเรื่อย กลางคืนไม่ค่อยได้นอน เพราะว่าต้องคอยออกตรวจอยู่ทุก ๆ ครึ่งชั่วโมงก็ว่าได้ นอนคืนหนึ่งไม่เกินสองชั่วโมงเท่านั้น พายเรือทั้งคืน ที่ทำได้เพราะว่าอารมณ์ใจทรงตัวอยู่กับการภาวนา
วันนั้นอารมณ์ดีเป็นพิเศษ รู้สึกปล่อยวาง ไม่เอาอะไรกับใคร ไม่ยินดี ไม่ยินร้ายกับใครเลย เอ๊ะ..! นี่เราได้แล้วใช่ไหม ? ก็คิดอย่างนั้นอยู่เหมือนกัน คราวนี้หลวงพ่อท่านเคยบอกไว้ว่า ทุกวันตอนเช้า ให้เรายกจิตขึ้นเปรียบกับสังโยชน์อยู่ตลอดเวลา ว่าสังโยชน์ทั้ง ๑๐ ข้อ มีข้อไหนที่เรายังติดอยู่บ้าง ก็ไม่ต้องรอเช้า เราฟาดตอนนี้แหละ เผื่อถ้าหากว่าหลุดแล้วจริง ๆ เราจะได้สบายใจเสียทีว่า เออ..ตอนนี้เราเป็นพระอริยเจ้าแล้ว..ใช่ไหม ? ไล่ไปมายังติดอยู่ครบ ๑๐ ข้อเลย การไล่สังโยชน์นี่เราต้องไม่เข้าข้างตัวเองนะ ถึงได้บอกว่า เราต้องหาจุดผิด หาจุดตำหนิเตือนตัวเองให้ได้ เมื่อครู่มีรายหนึ่ง เขาบอกว่า "เขาไม่ผิด" ก็เลยบอกว่า "เอ็งผิดตั้งแต่เกิดมาแล้ว" ต้องหาข้อผิดให้ได้ ไล่ไปไล่มาติดครบ ๑๐ ตัวเลย ที่เข้าใจนั้นผิด อารมณ์ยังแบกอยู่ เพราะว่าใช้กำลังสมาธิกดอยู่ เพียงแต่ว่าวันนั้นอารมณ์นิ่งสนิทจริง ๆ ก็เลยเข้าใจผิดคิดว่าใช่ แต่ความจริงแล้วยังไม่ใช่ สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔ |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:54 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.