![]() |
บวชพระแล้วไม่เป็นพระ
ถาม : ...?
ตอบ : ในปัจจุบัน ไม่ใช่แต่ภิกษุณีหรอก บรรดานักบวชด้วยกัน ถ้าหากมีผู้ต้องอาบัติสังฆาทิเสส คือขาดความเป็นพระชั่วคราว กับผู้ที่ต้องอาบัติปาราชิก คือ ขาดความเป็นพระไปแล้ว แต่ยังนุ่งเหลืองห่มเหลืองอยู่ ถึงเวลาแล้วเข้าไปร่วมในพิธีการบวช ไม่ว่าจะเข้าไปในฐานะของอุปัชฌาย์ หรือในฐานะของคู่สวด หรือเข้าไปในฐานะของพระอันดับเพื่อให้ครบองค์สงฆ์ มีอยู่แม้แต่คนเดียว สังฆกรรมนั้นเสีย การบวชพระนั้นจะไม่เป็นพระ เป็นได้แค่เณรเท่านั้น ก็จะซวยตัวคนบวช ตัวเองเป็นแค่เณรแต่คิดว่าเป็นพระ แล้วไปกินร่วมกับพระ นอนร่วมกับพระ ทำสังฆกรรมร่วมกับพระ ก็บรรลัยเท่านั้น เพราะสังฆกรรมทุกอย่างเสีย เป็นโมฆะหมด..! กลายเป็นโทษมากขึ้นทุกวัน ๆ โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ตัว เพราะคิดว่าบวชมาถูกต้องแล้ว ในปัจจุบันนี้มีมากต่อมากด้วยกัน ไม่ใช่แต่ภิกษุณีบวชแล้วไม่เป็นภิกษุณีหรอก ภิกษุบวชแล้วไม่เป็นภิกษุก็เยอะ |
ถาม : แต่ไม่เจตนา..เขาไม่ทราบ ?
ตอบ : เขาไม่รู้ก็เกิดโทษโดยไม่รู้ตัว แบบเดียวกับยาพิษ ถ้ากินเข้าไปแล้ว รู้หรือไม่รู้ก็ตายเหมือนกัน อันตรายมาก..! ที่วัดท่าซุงสมัยช่วงที่บวชอยู่ มีอยู่สองปีติดกัน ที่ถึงเวลาวันเข้าพรรษา หลวงพ่อท่านจะสวดญัตติให้ใหม่ ต่อหน้าพระประธาน พระประธานคือพระพุทธเจ้า เท่ากับเป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อเท่ากับเป็นคู่สวด สวดญัตติให้ใหม่เลย อาตมาก็สงสัยข้องใจอยู่ ปรากฏว่าพระพี่ ๆ ท่านอาวุโสกว่า ท่านบอกว่า สังฆกรรมวันนั้นต้องมีพระที่ขาดความเป็นพระอยู่ด้วยแน่เลย เพราะฉะนั้น..เมื่อมีอยู่ ถึงเวลาพอเข้าพรรษาเหลือเฉพาะพระวัดของเรา ท่านก็เลยสวดญัตติให้ใหม่ เพื่อให้มาเริ่มต้นเป็นพระกันใหม่วันนั้นเลย มีอยู่สองปีติดกัน ประมาณปี พ.ศ.๒๕๒๙ และ พ.ศ.๒๕๓๐ แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีอีก แสดงว่าสังฆกรรมครั้งหลัง ๆ นี้ บริสุทธิ์แล้ว สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔ |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:23 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.