กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=43)
-   -   ทุกสิ่งในโลก พระองค์จับเอาเป็นธรรมได้หมด (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=1992)

ลัก...ยิ้ม 20-07-2010 10:47

ทุกสิ่งในโลก พระองค์จับเอาเป็นธรรมได้หมด
 
ทุกสิ่งในโลก พระองค์จับเอาเป็นธรรมได้หมด

เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๙ ก.ค. ๒๕๓๖ สมเด็จองค์ปัจจุบัน ทรงพระเมตตาตรัสสอนไว้ ดังนี้

๑. “ผู้มีธรรมประจำอยู่ในจิต ย่อมมองทุกอย่างเป็นธรรมได้หมด”

๒. “ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกเป็นทั้งสมถะและวิปัสสนา ถ้าเข้าใจ”

๓. “สมถะ คือ ธรรมในธรรมนั้น ๆ วิปัสสนา คือ ทุกข์หรืออริยสัจอันเป็นกฎของธรรมนั้น ๆ ดังนั้นท่านจึงหยิบยกขึ้นมา อุปมาอุปไมยเป็นคำสอนได้ เพราะเข้าใจและรู้แจ้งเห็นจริง”

๔. “ธรรมดาในธรรมดา เห็นทุกข์ในธรรมดานั้น ๆ ธรรมดาของโลกไม่เที่ยง ยึดเมื่อไหร่ก็ทุกข์เมื่อนั้น”

ลัก...ยิ้ม 21-07-2010 12:45

จากนั้นสมเด็จองค์ปฐม ก็ทรงพระเมตตาตรัสสอนต่อให้ ดังนี้

๑. “อย่าคิดสงสัยในธรรม จงคิดพิจารณาในธรรม จักเห็นความจริงของกฎของธรรมทั้งปวง”

๒. “เห็นทุกขสัจในทุก ๆ เรื่อง ที่ตถาคตกับพระพุทธเจ้าพระองค์อื่น ๆ ตลอดจนพระสาวกแสดงมา จิตพวกเจ้าจงกำหนดรู้ว่า ทุกข์ทั้งหลายนั้นมีจริง ให้ยอมรับในทุกข์นั้น ๆ สร้างความเบื่อหน่ายทุกข์ให้เกิด จนจิตคลายจากอารมณ์กำหนัดในการเกาะทุกข์นั้น ๆ ลงได้ในที่สุด”

๓. “บุคคลผู้มองไม่เห็นทุกข์ ก็มักจักไม่ยอมรับว่าทุกข์นั้นมีจริง เป็นของจริงที่สิงอยู่ในจิตของผู้มากด้วยกิเลส ตัณหา อุปาทาน อกุศลกรรม จึงทำให้มีอารมณ์กำหนัด ไปยึดมั่น ถือมั่นในทุกข์ที่เกิดจากไฟโมหะ โทสะ ราคะ นั้น ๆ”

๔. “เมื่อมองไม่เห็นทุกข์ จิตจึงไม่ยอมวางทุกข์ ตกเป็นทาสของอารมณ์ ด้วยไม่เห็นของจริงอันเป็นกฎของธรรม (กรรม) หรืออริยสัจนั้น ๆ

๕. “จงอย่าประมาทในธรรมเป็นอันขาด พวกเจ้าจงจำเอาไว้ เผลอมากเท่าไหร่ ประมาทมากเท่านั้น”

๖. “ดูอารมณ์ของจิต ให้คงไว้ในพระกรรมฐานให้มากที่สุด เท่าที่จักมากได้”

๗. “เวลานี้พวกเจ้าประหนึ่งกำลังทำสงครามยื้อแย่งพื้นที่ของจิต โลกธรรมหรือโลกียวิสัย มันครอบครองจิตของเจ้ามานาน ต้องหมั่นพยายามสร้างเสริมกองทัพธรรม หรือโลกุตระวิสัยให้เกิดขึ้นในพื้นที่ของจิตให้มากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อเป็นการขับไล่กองทัพโลกียวิสัยนั้น ให้ถอยออกไปจากจิตให้ได้มากที่สุด”

๘. “อย่าเผลอให้บ่อยนัก กิเลส ตัณหา อุปาทาน อกุศลกรรม มันเหมือนครอบครองเป็นเจ้าถิ่นอยู่ มันก็จักยึดทำเลพื้นที่ของจิตได้อย่างชำนาญเกมการรบ พวกเจ้าต้องดูอารมณ์จิตไว้ให้ดี ๆ อดทนกัดฟันต่อสู้กับเจ้าถิ่นเดิม ด้วยการเกาะอารมณ์พระกรรมฐานเข้าไว้อย่างแนบแน่น เผลอให้น้อยที่สุด สักวันหนึ่งชัยชนะก็จักเป็นของพวกเจ้า”

ลัก...ยิ้ม 21-07-2010 12:45

ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๖
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:43


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว