กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   ใต้ฟ้าอิระวดี (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=42)
-   -   ใต้ฟ้าอิระวดี ตอนที่ ๑๗ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=1917)

คิมหันต์ 16-06-2010 23:11

ใต้ฟ้าอิระวดี ตอนที่ ๑๗
 
2 Attachment(s)
เมืองกู่แมมีพระสงฆ์เดินบิณฑบาตข้าวสารเป็นแถวยาวเหยียด พ้นจากตัวเมืองไป ฟ้าก็มืดสนิท รถเมืองพม่ามันขับกลางคืนกันไม่เป็น อยู่ห่างใช้ไฟต่ำ พอมาใกล้มันเปิดไฟสูงส่องหน้า สว่างจ้าจนมองทางไม่เห็น เป็นอย่างนี้ทุกคัน ไม่รู้ว่าใครสั่งใครสอนมันอย่างนี้ น้ำมันเถื่อนชักออกฤทธิ์ ปู่เขียวแกสะอึกอึ๊ก ๆ ให้โซยุนท์ลงไปดูอาการหลายครั้ง...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1276804009
พระภิกษุสามเณรบิณฑบาต ดูแล้วน่าเลื่อมใสศรัทธา

ปล่อยโชเฟอร์ นายเกลี้ยง หนุ่มเจ และเจ้าโต ลงไปกินข้าวเย็นที่ร้านซอซานดา (สาวจันทร์) แล้วยอดโชเฟอร์ตียาวรวดเดียวมาถึงเมืองมิถิลา เข้าพักที่วัดชุยเมียนติ่น (เข็มทอง) ตอนสามทุ่มเศษ กราบเจดีย์วัดชุยเมียนติ่นแล้ว เขาจัดให้นอนพักที่ศาลาหลังใหญ่ อาตมาแพ้สบู่หรือเป็นอะไรไม่รู้ มันคันคะเยอไปทั้งตัว ก็ดี...ยุงกัดจะได้ไม่รู้สึก..!

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1276804499
พระเจดีย์วัดชุยเมียนติ่น งดงามอยู่ท่ามกลางแสงไฟ

นอนพุกามยุงรุมกัด พักมัณฑะเลย์ถูกเรือดฟัด มาที่มิถิลานี่มดตอมทั้งคืน มันไม่ได้กัดหรอกนะ เพียงแต่ไต่ไปไต่มาสำรวจดูเท่านั้น เท่ากับช่วยปลุกไปในตัว ตีห้าทุกคนพร้อมเดินทาง หลวงปู่ว่าไปได้รถไม่มีปัญหาอะไร ขอบพระคุณครับ...รอเจ้าโตที่เอาเงินไปใส่ตู้บริจาค กลับมาก็ออกเดินทางทันที...

คิมหันต์ 21-06-2010 22:53

1 Attachment(s)
รถทัวร์กับรถบรรทุกวิ่งสวนมาไม่ขาดสาย มิถิลาเป็นเมืองปากทางสู่ภาคเหนือของพม่า จึงเป็นชุมทางสำคัญเหมือนนครสวรรค์ของเรา ถนนเป็นสองเลนเต็ม ไม่ต้องแบ่งครึ่งกันวิ่งเหมือนกับที่อื่น สภาพถนนเรียบดี ไม่ต้องนั่งไปบนเตาขนมครก ปู่เขียววิ่งฝ่าลมหนาว และความมืดมาสว่างเต็มที่ที่เมืองตัตกง (เนินค่าย) ของมณฑลพะโคอีกครั้งหนึ่ง...

บ้านโยมจากมุด่งที่เมืองตัตกง(เนินค่าย) โยมผู้หญิงเสื้อลายเป็นอัมพาต

มีโยมจากมุด่งย้ายมาอยู่เมืองนี้นานแล้ว ญาติทางมุด่งฝากมาถามข่าวคราวให้ด้วย บ้านของเขาเป็นตึกแถวติดถนนหาง่ายมาก โยมดีใจจนน้ำตาไหลที่ได้ข่าวจากพี่น้อง เขาเป็นเจ้าหน้าที่เกษตร ย้ายมาอยู่ตั้งแต่ ๑๕ ปีก่อน ระยะทางแค่ ๓๐๐ ไมล์เศษ เหมือนกับอยู่คนละโลก ไม่มีโอกาสเดินทางไปเยี่ยมญาติสักที มัวแต่ติดงานราชการอยู่...

คิมหันต์ 22-06-2010 22:55

1 Attachment(s)
โยมผู้หญิงป่วยเป็นอัมพาตมาเดือนเศษ ลูกสาวสองคนกับลูกชายหนึ่งคนที่เป็นหนุ่มเป็นสาวแล้วช่วยกันดูแลแม่ ดูท่าแล้วโยมผู้หญิงขาดกำลังใจอย่างมาก ท่านนาวินแบ่งน้ำสรงพระพักตร์หลวงพ่อพระมหามุนีให้ ส่วนอาตมามอบพระบรมสารีริกธาตุให้ไป ๕ องค์ โยมดีใจจนร้องไห้ตามเคย...

รับเลี้ยงอาหารเช้าที่เป็นกาแฟกับปาท่องโก๋ แล้วลาโยมออกเดินทาง โยมผู้ชายยัดเยียดค่าอาหารกลางวันมาให้ กำชับว่าถ้าผ่านมาขอให้แวะให้ได้ ออกมานอกเมืองเจอด่านบุญ เขาเอาคนมาแต่งตัวเป็นช้าง เห็นทีแรกนึกว่าช้างจริงซะอีก เลยหยุดดูแกเต้นระบำ ก่อนจะร่วมทำบุญเป็นค่าแสดงของเขา จากนั้นเติมน้ำมันที่ปั๊ม ได้มา ๔ แกลลอน...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1277323968
ด่านบุญเมืองตัตกง(เนินค่าย) เอาคนมาแต่งตัวเป็นช้าง เต้นระบำเรียกคนทำบุญ

โซยุนท์ควบรวดเดียวมาฉันเพลที่เมืองตองงู (คนไทยเรียก ตองอู) ค่าอาหารที่โยมจ่ายมาให้ ทำให้เกิดความสามัคคีขึ้นมาใหม่ ถ้าเขาไม่มานั่งด้วย อาตมาก็จะปล่อยให้จ่ายเองให้เข็ด..! อาหารพม่าหนักไปทางไก่ ปลา เนื้อ ตักมาให้เป็นชิ้นโต ๆ มีผักแถมให้โต๊ะละ ๑ จาน โต๊ะของเราผักจะหมดเกลี้ยงทุกที ร้านนี้เป็นจุดจอดรถทัวร์จึงมีคนเข้ามาก แต่ส้วมสกปรกชะมัดเลย..!

ยอดโชเฟอร์ชะลอรถเมื่อผ่านปั๊มเถื่อน ถามราคาแล้วแค่แกลลอนละ ๒๖๐ จั๊ต เลยตุนเต็มที่ แถมใส่ถังมาอีก ๕ แกลลอน เงินหมดเกลี้ยงแล้วจ้า..! หน้าร้านเขาขายของกระจุกกระจิก ท่านนาวินจ้องเขม็งอยู่ที่หลอดเล็ก ๆ อย่างสนใจ “อะไรน่ะ...?” “น้ำมันทานาคาครับ” นี่เขาก้าวหน้าขนาดสกัดน้ำมันทานาคากันได้แล้วหรือ..?

คิมหันต์ 23-06-2010 19:22

1 Attachment(s)
ขอเขาเปิดดมดู กลิ่นหอมเย็นระรื่นตลบอบอวลทันที อีกแบบเป็นน้ำมันประดู่ กลิ่นหอมชื่นใจไปคนละแบบ ถ้าได้ไปสรงน้ำพระคงจะดี “ขายอย่างไร..?” “น้ำมันทานาคาหลอดละ ๓๐ จั๊ต น้ำมันประดู่หลอดละ ๓๕ จั๊ต...” เศษเงินพอมีเหลือ เลยซื้อกันคนละหลอดสองหลอด เปรียบกับหลอดเท่าหลอดกาแฟก็แพง ถ้าคิดถึงคุณค่าที่จะใช้แล้วไม่แพงเลย...

ท่านพรอยากฉันแตงโมถึงขนาดควักย่ามให้เจ้าโตลงไปซื้อ

ไปแบบเอ้อระเหยลอยชาย กำหนดการของวันนี้เราจะไปถึงพระบรมธาตุอินทร์แขวนอย่างแน่นอน ดังนั้น..เขาจะแวะที่ไหนก็ตามใจ โซยุนท์เข้าร้านขายต้นไม้ ซื้อสนแผงไป ๖ ต้น เขาเลยแถมด้วยการถวายพระมา ๒ ต้น ท่านพรควักย่ามให้เจ้าโตลงไปซื้อแตงโม “เอาบักโมหน่วยบักใหญ่นั่นมาสองหน่วย...” มันจะได้เรื่องหรือเปล่าก็ไม่รู้ ? ดูสีสันแล้วไม่น่าไว้ใจเลย..!

คิมหันต์ 24-06-2010 19:55

1 Attachment(s)
มาถึงปั๊มน้ำมันเขาให้ ๑๐ แกลลอน ให้มันได้อย่างนี้ซิ..! ตอนอาตมาเป็นคนจ่าย มันให้ทีละ ๓ แกลลอน ๕ แกลลอน ต้องไปเสียเงินกับปั๊มเถื่อนแพง ๆ พอท่านนาวินจ่ายบ้าง มันให้ทีละ ๑๐ แกลลอน ไอ้เรามันดวงเศรษฐี ใช้ของถูกไม่ได้ละกระมัง..? “ถ้าพรุ่งนี้มันให้ ๑๐ แกลลอนอีกละก็..คราวหน้าผมจะให้คุณเป็นคนจ่ายค่าน้ำมัน..!” อาตมาคำราม..!

เมืองแล้วเมืองเล่า ไมล์แล้วไมล์เล่า ปู่เขียวพาร่างชราควบทะยาน ไปอย่างซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ เหมือนนักรบชราที่แก่แต่ตัว หัวใจยังมุ่งมั่นต่อหน้าที่ อากาศร้อนขึ้นทุกที “โป๊ก..!” เพิ่งสัปหงกก็โดนโขกซะหัวปูดเป็นลูกมะนาวเลย..! “อย่าทิ้งหน้าที่ซิวะ..!” แฮ่...หลวงปู่ ทีท่านนาวินหลับไม่เห็นว่า ทีผมจะหลับบ้างละไม่ได้เชียว..!

ร้านขายหมากพลู ซึ่งเปรียบเหมือนอุปกรณ์ช่วยชีวิตของโซยุนท์

ถ่างตาต่อไป พักปัสสาวะบ้าง หยุดดื่มน้ำกันบ้าง ในที่สุด ๑๒ ชั่วโมงผ่านไป ก็มาถึงสามแยกเมืองพะยาจี ตรงไปจะเข้าตัวเมืองพะโค พวกเราเลี้ยวซ้ายกลับเส้นทางเดิมที่มาจากมะละแหม่ง ผ่านเมืองวอไปได้หน่อยเดียว ยอดโชเฟอร์ก็ไม่ไหว ท่านนาวินต้องลงไปหาซื้อเครื่องดื่มประเภทใจสู้ชู ๒ นิ้วและหมากมาให้ คนอื่นถือโอกาสลงไปบิดเนื้อบิดตัวให้หายระบม...

แต่โซยุนท์ชอบหมากมากกว่า หลายวันที่ผ่านมา เคี้ยวหมากฝรั่งตรานกแก้วตามอาตมากับท่านนาวิน มาวันนี้ซื้อหมากสดมาได้ เคี้ยวไปฮัมเพลงไปอย่างมีความสุข ทำท่าอย่างที่โบราณเรียกว่า ปลากระดี่ได้น้ำอะไรเทือกนั้น เลาะลงกลางนามาเพื่อหลบสะพานพัง โผล่ขึ้นมาจ่ายสตางค์ข้ามแม่น้ำซิตต็อง(ที่คนไทยเรียกว่า แม่น้ำสะโตง) ซิตต็องแปลว่าท้ารบ คงจะเป็นสมเด็จพระนเรศวรมหาราชท้าสุรกรรมา(แม่ทัพพม่า) แต่ถ้าออกเสียงเพี้ยนนิดเดียว จะแปลว่า "กระบุง"..!

คิมหันต์ 25-06-2010 18:48

1 Attachment(s)
เลยแม่น้ำไปไม่ไกลก็ค่ำพอดี แวะร้านอาหารชื่อบันกะบา (มวลบุปผา) ให้โยมกินข้าวเย็น เขาจุดเทียนเพิ่มบรรยากาศซะด้วย ยายหนูตัวอ้วนกลมมาถามอาตมาว่าจะฉันน้ำอะไร..? อาตมาแกล้งตอบเป็นภาษาไทย แกฟังไม่ออกหันไปบอกผู้ใหญ่ที่คงจะเป็นแม่ว่า อาตมาน่าจะเป็นพวกยะไข่ ภาษาไทยกลายเป็นภาษายะไข่ไปซะแล้วอีหนูเอ๊ย..!

เจ้าของร้านเป็นชาวมุด่งเช่นกัน จบปริญญาตรีแล้วมาทำร้านอาหาร บังเอิญได้ทำเลดี การค้าเจริญมาก ตอนนี้มีลูกมือช่วยงาน ๑๐ คนพอดี ยายหนูอ้วนนี่ก็เป็นคนงานในร้าน อาตมาดื่มน้ำอัดลมหมดขวด แล้วออกไปล้างเนื้อล้างตัวที่ก๊อกน้ำหน้าร้าน มีพวกสิงห์รถบรรทุกแวะมากินอาหารค่ำ และอาบน้ำอยู่แล้ว ๒ – ๓ คน...

เส้นทางจากเมืองไจ๊โทสู่เทือกเขาที่ตั้งพระบรมธาตุอินทร์แขวน

ออกจากร้านอาหารมุ่งสู่เมืองไจ๊โท เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่พระบรมธาตุอินทร์แขวน ด่านแรกตรงตีนเขาเก็บ ๕๐ จั๊ต เข้าประตูซึ่งห่างไม่ถึง ๕๐ เมตร เจออีกด่านเก็บ ๒๐๐ จั๊ต..! พวกเรามาพักที่ร้านอาหาร ซึ่งเขาจัดคล้ายพวกบี แอนด์ บี (Bed & Breakfast) ของเมืองนอกเขา คือนอนกับเขาต้องกินอาหารเช้าที่ร้านเขาด้วย...

สรงน้ำ ซักผ้าด้วยผงซักฟอกซองละ ๒๐ จั๊ต เตรียมที่หลับที่นอนเสร็จสรรพแล้ว พากันไปเดินดูร้านค้าที่เปิดไฟสว่างไสวเรียงรายแน่นขนัด เป็นร้านแบบบี แอนด์ บีก็มาก เป็นร้านอาหารอย่างเดียวก็มาก เป็นร้านขายของที่ระลึกยิ่งมากเข้าไปใหญ่ เดินดูจนตาลายไปเกือบ ๒ ไมล์ ยังไม่หมดซักที นี่ถ้าไม่ถึง ๑,๐๐๐ ร้าน ก็ไม่หนี ๙๙๙ ร้าน อย่างแน่นอน..!

คลิกเพื่ออ่านตอนต่อไป


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:50


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว