![]() |
ประมาทในความตายเสียอย่างเดียว
ประมาทในความตายเสียอย่างเดียว
เท่ากับประมาทในธรรมทุกอย่าง ในคืนวันนั้น สมเด็จองค์ปฐม ทรงพระเมตตามาสอน (เพื่อนชื่อ จอ) มีความสำคัญดังนี้ ๑. เจ้าดูตัวอย่างความเพียรของ มอ ไว้ให้ดี จงหมั่นคำนึงถึงอารมณ์อันเด็ดเดี่ยวของเพื่อนร่วมเส้นทางพระโยคาวจรของเธอเอาไว้ เพื่อให้เกิดหิริ-โอตตัปปะขึ้นในจิต ละอายในความชั่ว ความขี้เกียจคือความชั่ว การทำจิตให้ไม่มีกำลังคือความชั่ว จึงพึงละความชั่วนี้ให้ออกไปจากจิต มีความละอายที่พระท่านช่วยสงเคราะห์มากมาย ๒. เจ้ายังทำอารมณ์ใจได้ไม่เท่าเขา จึงเท่ากับเจ้ายังมีความประมาทในชีวิตเป็นอย่างยิ่ง เพราะกาลเวลายิ่งล่วงเลยไปมากเท่าไหร่ ความตายก็จักยิ่งใกล้เข้ามาเท่านั้น มัวแต่มีอารมณ์ท้อถอย ทำจิตให้สิ้นความเพียรอยู่เนือง ๆ แล้วเมื่อไหร่จักถึงจุดหมายปลายทางที่มุ่งหวังไว้ ๓. ประมาทในความตายเสียอย่างเดียว เท่ากับประมาทในธรรมทุกอย่าง นักปฏิบัติที่แท้จริงเขาไม่หวังผลพรุ่งนี้ มะรืนนี้ เขาเอามรรคเอาผลกันที่ขณะจิตนี้ กาลเวลาอื่นๆ สำหรับผู้เอาจริงในธรรมปฏิบัติ เขาไม่มีเวลา มีอยู่เวลาเดียว คือ ขณะจิตนี้ |
๔. “หมั่นคิดถึงขณะจิตนี้ หรือธรรมในปัจจุบันนี้ให้มาก ๆ อย่าปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปโดยเปล่าประโยชน์ พิจารณาธรรมด้วยศีล สมาธิ ปัญญา ให้รู้เท่าทันความจริงในธรรมสัมผัสนั้น ๆ”
ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๕ รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:03 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.