กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=18)
-   -   ปล่อยปลาชนิดไหนห้ามกินปลาชนิดนั้นจริงหรือ ? (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=1589)

โอรส 12-02-2010 13:55

ปล่อยปลาชนิดไหนห้ามกินปลาชนิดนั้นจริงหรือ ?
 
ถาม : เราปล่อยปลาชนิดไหน เขาห้ามกินปลาชนิดนั้น ?
ตอบ : เขาห้ามกินปลาตัวนั้น ไม่ใช่ห้ามกินชนิดนั้น เขาบอกว่าห้ามกินชนิดนั้นเพื่อให้พ้นไปเลย ต่อไปก็ปล่อยอย่างที่เราไม่ชอบเข้าไว้ ปล่อยอย่างที่เราไม่ชอบจะได้ไม่ต้องไปกิน อย่างปล่อยปลาปั๊กกะเป้าอย่างนี้ มีคนเอามาขายหรือเปล่า ?

ถาม : แล้วฝากไปปล่อยได้ไหมคะ ?
ตอบ : ได้จ้ะ เรามีส่วนอยู่แล้ว เพราะว่าปัจจัยเป็นของเรา เงินทองเป็นของเรา ปล่อยได้ด้วยตัวเองยิ่งดี ที่หน้าวัดท่าซุงที่เต็มไปหมดนั้น เกิดจากฝีมือของอาตมาเริ่มไว้ก่อน ตอนแรกก็ซื้อไปปล่อยแต่บ่อที่อยู่ข้างร้านป้ากิมกี (ร้านอาหารในวัดท่าซุง)

ปล่อยไปปล่อยมาหลวงพ่อบอกว่า "แกดูบ้างหรือเปล่า ว่าปลาจะไม่มีที่หายใจอยู่แล้ว ?" อาตมาก็เพิ่งจะรู้ ...(หัวเราะ)... พอเอาอาหารไปโยน เออ...ใช่..ขึ้นมาคลั่กไปหมด ก็เลยไปซื้อปล่อยที่แม่น้ำข้างหน้าวัด

คราวนี้ปกติจะซื้อแต่ปลาดุก เพราะเป็นปลาที่อดทนทรหดมาก แต่ปรากฏว่าที่ซื้อมาเป็นปลาดุกเลี้ยง พอปล่อยลงแม่น้ำ นอกจากจะหากินไม่เป็นแล้ว ยังเอาตัวไม่รอดอีกต่างหาก โดนพวกปลากระแหทึ้งหนวดจนเกลี้ยงเลย ดึงหนวดไปกินหมด ปลากระแห (ปลาตะเพียนที่มีครีบแดง ๆ) เขาเรียกว่าตะเพียนแดงก็มี กระแหแดงก็มี พวกนี้ไวมาก

ถาม : ตัวเล็ก ๆ หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : โตสักฝ่ามือเรานี่ มาถึงก็โฉบคว้าหนวดเขาไปกินเลย เจ้าพวกนั้นโดนถอนหนวดไปสด ๆ ร้อน ๆ ก็เจ็บตายชัก เลยหนีกันมาออกันอยู่ริมฝั่ง พอเจอเข้าไปงานเดียวก็เข็ด...

จากนั้นก็เลยต้องไปหาว่า พื้นเดิมแถวนี้มีปลาอะไรบ้าง ? จะไปถามซื้อพวกปลากระแหก็ไม่ได้ เพราะว่าปลาพวกนี้ใจเสาะ เขาว่าแค่เห็นตะวันก็ตายแล้ว เห็นท้องฟ้าก็ตาย..ความจริงไม่ใช่หรอก พอพ้นน้ำขึ้นมาไม่มีอากาศหายใจ พวกนี้จะตายง่ายกว่าชนิดอื่น ไม่อึดเหมือนเขา สืบหาจนกระทั่งได้ความว่า ปลาของพื้นบ้านที่นี่ มีพวกปลาเสือ ปลาแรด แล้วก็ปลาสวาย ปลาเทโพ พวกปลาสวายจะหาง่ายที่สุด

ก็เลยตั้งใจซื้อปลาสวายปล่อย คราวนี้จะซื้ออย่างที่หลวงพ่อบอก คือ ตัวสองตัว พอไปเจอนอนตาปริบ ๆ ทั้งกาละมังก็ต้องยกกาละมัง มีเท่าไรก็ต้องเอาเท่านั้น ปล่อยไปปล่อยมาก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ามันแตกลูกแตกหลานหรือไปชวนใครมาอยู่ด้วย ถึงได้เยอะขนาดนั้น เกิดจากการริเริ่มของอาตมาเอง ๗ - ๘ ปี เท่านั้น ไม่นานหรอก

สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๔


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 04:30


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว