![]() |
เปลี่ยนฉันทะ
สมัยอยู่วัดท่าซุง ตอนนั้นคุณต๋องกำลังดัง เชื่อไหมว่าตีหนึ่งตีสองเขาลุกขึ้นมาดูถ่ายทอดสนุกเกอร์กัน แต่ตีห้าลุกขึ้นมาสวดมนต์ ทำวัตรเขาไม่ลุก เรานั่งเกาหัวมาหลายที ตกลงว่าทุกคนมีฉันทะเพียงพอ เหลือเฟือด้วย ขนาดตีหนึ่งตะกายขึ้นมาดูได้ ดูอะไร ดูถ่ายทอดสนุกเกอร์ ดูฟุตบอลโลก แต่ลุกขึ้นมาภาวนาไม่เอา ถ้าหากว่ามีฉันทะพอ ลุกขึ้นมาภาวนาตั้งแต่ตีหนึ่ง บรรลุไปนานแล้ว แล้วทำไมเราถึงไม่เปลี่ยนตัวฉันทะตัวนั้นมาใช้ในการปฏิบัติ ?
อาตมาอาจจะเป็นคนมองเห็นมุมแปลก ๆ ที่คนอื่นเขาไม่ค่อยมองกัน เพื่อนร่วมรุ่นที่บวชพร้อมกันในพรรษานั้น มีอยู่ท่านหนึ่ง ก็คือทิดหนู ซึ่งสึกไปแล้ว อาตมาชอบอ่านนิยายจีนกำลังภายใน พอบวชแล้วก็เอาไปโละ ถวายไว้ที่โรงเรียนพระสุธรรมฯ เข้าห้องสมุด ทิดหนูก็ไปยืม ตอนทุ่มครึ่ง พอเลิกจากกรรมฐานที่วิหารร้อยเมตรแล้ว พวกเราก็รอว่าเสียงสายตามสายจะดังเมื่อไร ขณะนั้นก็จะมานั่งวิเคราะห์วิจัยแล้วก็ฉันน้ำปานะกัน คราวนี้รุ่นอาตมาเหลือมาสอง ก็คือ ตัวเองหนึ่ง กับปลัดน้อยอีกหนึ่ง ส่วนรุ่นที่บวชในพรรษา รวมแล้ว ๑๒ รูป ต้องชื่นชมว่าท่านจับกลุ่มกันเหนียวแน่นมาก ช่วยกันผลัก ช่วยกันดันในเรื่องการปฏิบัติ แต่คราวนี้ช่วงนั้น เพื่อนหลายคนยังรักษาอารมณ์การปฏิบัติยังไม่เป็น พอพ้นจากการนั่งกรรมฐานแล้วก็ทิ้งเลย พอเข้าไปห้องยาม คนนั้นจะเอาโอวัลติน คนนี้จะเอาไมโล ส่งน้ำตาลมาหน่อย ก็วุ่นวาย อาตมาสังเกตเห็นท่านหนูนั่งอยู่ที่เก้าอี้ อ่านกำลังภายใน ใครจะส่งข้าวส่งของผ่านหน้าข้ามหัวท่าไหนก็ไม่สนทั้งนั้น มอง ๆ เสร็จ "เฮ้ย นี่มันระดับนิโรธสมาบัติเลยนะ" จริง ๆ นะ ท่านปิดทวารหมดเลย เปิดใจอย่างเดียว คือเรื่องที่อยู่ตรงหน้า ก็เลยมานั่งคิดว่า "เอ๊ะ ทำไมเราไม่เปลี่ยนฉันทะตรงนี้มาทำกรรมฐานแทน ถ้าเราสามารถทุ่มเททำกรรมฐาน จดจ่อ ตัดสิ่งรบกวนรอบข้างไม่ให้เข้ามาในใจเลย จะวิเศษขนาดไหน ?" ดังนั้น..เวลาเห็นเขาลุกขึ้นมาดูบอล ดูสนุกเกอร์ ดูซุปเปอร์โบวล์เวลาตีหนึ่งตีสองได้ แต่ไม่ลุกขึ้นมาทำกรรมฐาน ก็เลยเซ็ง...คือฉันทะมีเพียงพอ แต่ว่าใช้ผิด พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ เทศน์ที่บ้านอนุสาวรีย์ เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ |
อืม อย่างนี้เวลาที่คนทำชั่วอะไรแล้วทำได้แบบจริงจัง เวลาเขากลับตัวมาทำดี กำลังใจอาจไปได้เร็วเลยก็ได้
เพราะเขามีฉันทะแรงอยู่แล้ว แต่ดันแรงในทางที่ผิด |
เถรีนึกถึงพวกทำของใส่ชาวบ้านค่ะ จริง ๆ แล้วพวกนี้สมาธิเขามีกำลังมาก เสียดายเอาไปใช้ในทางที่ผิด ถ้าเอามาใช้ในทางที่ถูก ป่านนี้อาจได้อภิญญาหรือไม่ก็บรรลุไปแล้ว เห็นหลวงพ่อเคยบอกว่า ส่วนมากพวกที่เป็นหมอคุณไสยตายแล้วมักจะไปเป็นพวกอสุรกายค่ะ
|
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:00 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.