![]() |
ลีลาพระโพธิสัตว์ในความเป็นพระภิกษุ
ลีลาพระโพธิสัตว์ในความเป็นพระภิกษุ พระราชกวี (อ่ำ ธมฺมทตฺโต) พระราชกวี (อ่ำ ธมฺมทตฺโต) พระภิกษุผู้เป็นพระโพธิสัตว์ร่วมสมัยกับพวกเรา มีความเที่ยงแท้ต่อพระโพธิญาณ เพราะได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าแล้วว่า จะได้มาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๑๐ ทรงมีพระนามว่า พระสุมงคลสัมมาสัมพุทธเจ้า ชีวิตในภพชาติของท่าน เป็นฆราวาสอยู่เพียง ๑๖ ปี จากนั้นหันหน้าเข้าหาพระพุทธศาสนา บำเพ็ญเนกขัมมบารมีโดยเป็นสามเณร ๔ ปี และอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ๕๘ ปี รวมชีวิตในเพศพรหมจรรย์ ๖๒ ปี ท่านละสังขารไปตั้งแต่วันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๓๕ |
คำพูดของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำทั้งหมดนี้ ความสำคัญอยู่ที่ประโยคสุดท้ายตรง “พระคอยบอก” เนื่องจากหลวงพ่อฤๅษีลิงดำพูดอยู่เสมอว่า พระพุทธเจ้าเสด็จมาโปรด หรือเสด็จมาเพื่อทรงแนะนำให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ คนส่วนหนึ่งเกิดความสงสัยว่าเป็นไปไม่ได้ เมื่อนิพพานแล้วก็ต้องสูญ จะเสด็จมาทำไม หลวงพ่อคอยอึดอัดกับคำพูดเหล่านี้มาก จึงพยายามหาพยานบุคคลที่น่าเชื่อถือ เพื่อยืนยันในสิ่งที่ท่านพูด ก็เห็นหลวงพ่อพระราชกวี วัดโสมนัส ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ ปรารถนาพระโพธิญาณ เป็นพระจริงพระแท้ที่พูดความสัตย์ความจริง และอยู่คนละสาย คือหลวงพ่อฤๅษีลิงดำอยู่มหานิกาย ส่วนหลวงพ่อพระราชกวีท่านอยู่สายธรรมยุต โดยหลวงพ่อฤๅษีลิงดำพูดว่า |
สมเด็จพระวันรัต อดีตเจ้าอาวาสวัดโสมนัสวิหาร เจ้าประคุณสมเด็จเป็นพระรัตตัญญูแห่งยุครูปหนึ่ง เขียนคำไว้อาลัยในงานพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อเจ้าคุณราชกวีว่า “เมื่อข้าพเจ้ามาอยู่วัดโสมนัสวิหาร พระราชกวียังเป็นสามเณร กำลังเรียนบาลี สอบได้ถึง ปธ. ๖ ได้ตั้งให้เป็นครูใหญ่ พ.ศ. ๒๔๙๗ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะสามัญที่พระธรรมวงศ์เวที พ.ศ. ๒๕๑๗ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ที่พระราชกวี เวลาที่ข้าพเจ้าไม่อยู่ ได้มอบหมายให้เป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาส ความเป็นไปในวัดเรียบร้อยเป็นปกติทุกครั้ง แม้เป็นเวลานาน ๆ ก็ตาม เพราะมีผู้ช่วยและผู้รักษาการแทนที่สามารถ และขอตั้งให้เป็นอุปัชฌาย์ ได้ให้บรรพชาอุปสมบทแก่กุลบุตรแทน แต่ในหน้าที่พระกรรมวาจาจารย์แล้ว พระราชกวีสวดได้ดีมาก ถูกต้องชัดเจนในภาษาบาลีและไพเราะมาก” |
“พระธรรมทูตที่พระเจ้าอโศกมหาราช ส่งมายังสุวรรณภูมิในพุทธศตวรรษที่ ๓ นั้น ไม่ใช่มีเพียง ๒ รูป คือ พระโสณะและพระอุตตระเท่านั้น แต่มีถึง ๕ รูป โดยมีรายชื่อดังนี้ พระโสณะ พระอุตตระ พระฌานียะ พระภูริยะ และพระมูนียะ แต่พระโสณะและพระอุตตระเป็นหัวหน้า เพราะถ้ามา ๒ รูป จะทำสังฆกรรรมเช่นสวดปาติโมกข์และอุปสมบทกุลบุตรไม่ได้ เรื่องนี้นับว่าน่าคิด ซึ่งหลักความจริงน่าจะเป็นอย่างนี้ แต่ในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาเท่าที่ค้นพบมาก่อนนั้น มีแต่พระโสณะและพระอุตตระเท่านั้น เมื่อท่านมาค้นพบว่ามีถึง ๕ รูปโดยปรากฏตาม กเบื้องจาร ที่ท่านค้นพบเช่นนี้ นับเป็นสิ่งที่มีเหตุผล และน่าค้นคว้าเพิ่มเติมสำหรับนักประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง” ลีลาพระโพธิสัตว์ในความเป็นพระภิกษุก็ขอจบลงแต่เพียงเท่านี้http://image.ohozaa.com/iz/icon4.gif คัดลอกมาจาก จากนิตยสารน่านฟ้า ฉบับที่ ๓๑ เดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๒ |
ขออนุญาตนำไปเผยแพร่ในเว็บพลังจิตนะครับ
|
ผมเคยอ่านหนังสือของหลวงพ่อพระราชกวีที่ท่านเขียนไว้แล้วครับ เนื้อหาละเอียดมาก ๆ หลักฐานครบถ้วนอ้างอิงมากมาย เท่าที่จำได้ท่านอธิบายถึงต้นกำเนิดของโลก กำเนิดของมนุษย์ว่ามาจากพรหม และก็มีน้ำท่วมโลกและอีกหลายอย่างที่อ่านแล้วก็ไม่น่าเชื่อ(เพราะปัญญาน้อย)บางอย่างก็จะตรงกับคำสอนที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานได้เคยสอนไว้ในหนังสือบางเล่ม แต่อ่านไปแล้วก็ไม่ค่อยจะจำเพราะยากเกินกว่าปัญญาของผมจะจำได้ แต่ก็ทำให้เข้าใจประวัติของพระพุทธศาสนาในประเทศไทยได้ดีขึ้นมาก และทำให้รู้ว่าความรู้ที่ฝรั่งรู้(และทำให้คนไทยบางคนเชื่อ)มันเทียบไม่ได้กับความรู้ทางพุทธศาสนาเลยแม้แต่นิดเดียว
|
อยากอ่านครับ หาได้ที่ไหนครับ
|
:d16c4689: "พุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ์" หาซื้อได้ที่วัดโสมนัสค่ะ
|
อ้างอิง:
ไม่เช่นนั้นก็ต้องลองไปดูตามห้องสมุดของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ อย่างเช่นที่ห้องสมุดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิทยาเขตท่าพระจันทร์ ฯลฯ เป็นต้น |
อ้างอิง:
|
เบอร์โทรที่วัดโสมนัสครับ ๐๒-๒๘๑๑๔๘๑
ราคาน่าจะอยู่ประมาณเล่มละ ๘๐๐ บาทครับ |
ขออนุญาตนำไปเผยแผ่ที่ เว็บวัดเทียบศิลารามดอทเน็ต นะโยม
|
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:11 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.