พระพุทธเจ้าเกิดอยู่เฉพาะโลกนี้เท่านั้น
 

น่าเสียดาย เราเสียพระดี ๆ ไปเยอะ เพราะรู้ไม่เท่าทัน ปัจจุบันนี้ความรู้ทางพุทธศาสนาของเถรวาท โดนสายมหายานเขากลบกลืนไปเยอะ ในเมื่อโดนสายมหายานเขากลบกลืนไปเยอะ เขาจะกล่าวถึงพระพุทธเจ้า พรหมหรือเทวดาในจักรวาลอื่นอีกนับไม่ถ้วน ซึ่งจะทำให้คนบางคนประมาทว่า ถ้าหากเราไปนิพพานในชาตินี้ไม่ได้ เรารอพระพุทธเจ้าในจักรวาลอื่น ๆ มาสงเคราะห์ก็ได้ โดยที่เราลืมไปว่า พระพุทธเจ้าท่านเกิดอยู่เฉพาะโลกเรานี้เท่านั้น

โลกนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมงคลจักรวาล เพราะเหตุที่พระพุทธเจ้าท่านอุบัติขึ้น และพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นก็มีเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น เพราะว่าท่านเป็นสิ่งที่พิเศษที่สุด มีสองเมื่อไรก็ที่สุดไม่ได้แล้ว

มหายานเขาบอกว่า พระพุทธเจ้ามีมากเหมือนเม็ดทรายในมหาสมุทร ก็ทำให้หลายคนประมาท ว่าสบาย..เจอองค์ไหนก็ได้ ระวังเอาไว้ กว่าจะได้เจอ องค์ไหนก็ไม่รู้ อาจจะอีกนานหลายกัปก็ได้..!

ระยะหลังแนวโน้มของบ้านเราจะออกไปทางมหายานขึ้นเรื่อย ๆ แล้วมหายานเขาผ่อนผันในเรื่องของพระธรรมวินัยเยอะมาก เพราะเขาถือว่าธรรมเป็นใหญ่ ไม่ถือวินัย อย่าลืมว่าวินัยนี่เป็นรากของพุทธศาสนา ถ้าไม่มีราก ต้นไม้จะยืนอยู่ไม่ได้หรอก ในเมื่อไม่มีต้น แก่นก็ไม่มีเหมือนกัน
เพราะทุกอย่างเริ่มต้นจากที่ศีล แล้วก็ไปสมาธิ แล้วก็ไปปัญญา จากปัญญาก็กลับมาคุมศีลอีกที ในเมื่อศีลคือพระวินัย..แล้วถ้าไม่มีศีล จะให้สมาธิเกิดอย่างแท้จริงก็เป็นไปไม่ได้

หลาย ๆ ท่านถ้าได้รับข้อมูลมา วิธีที่ปลอดภัยที่สุดสมัยนี้ คือเช็กข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต เปิดดูในพระไตรปิฎกฉบับไหนก็ได้ ฉบับธรรมทานก็ได้ ของมหิดลก็ได้ ของ มจร. ก็ได้ ยัดข้อมูลลงไปก็ได้ หลาย ๆ บรรทัดยิ่งดี ดูซิว่าเครื่องจะหาเจอขนาดไหน ดูว่าพระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้จริงไหม ? ถ้าไม่มีครูบาอาจารย์ที่เราเชื่อถือได้ ก็ต้องย้อนกลับไปหาต้น ต้องวิ่งไปหาเนื้อหาดั้งเดิม


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ ณ บ้านอนุสาวรีย์
เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๒

ขออนุญาตนำไปเผยแพร่ในเว็บพลังจิตนะครับ