กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนธันวาคม ๒๕๖๘ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=169)
-   -   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๖๘ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=11359)

พิชวัฒน์ 03-12-2025 16:57

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๖๘
 
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๖๘



เถรี 04-12-2025 00:47

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๓ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ อากาศที่อำเภอทองผาภูมิอยู่ที่ ๑๙ องศาเซลเซียส คนไปจากที่อื่นบ่นว่าหนาว แต่คนทองผาภูมิบ่นว่าร้อน..! เนื่องเพราะว่าจาก ๑๒ องศาเซลเซียส กระโดดขึ้นมาเป็น ๑๖ เป็น ๑๘ และเป็น ๑๙ องศาเซลเซียสในวันนี้ อากาศที่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่ ๒ องศาเซลเซียสขึ้นไป ไม่ว่าจะลบหรือบวก คนเราจะรู้สึกได้ชัดเจนมาก แล้วนี่ไม่กี่วันกระโดดขึ้นมาถึง ๗ องศาเซลเซียส ไม่ให้บ่นว่าร้อนก็คงไม่ได้ กระผม/อาตมภาพจึงมาลาเรียกำเริบ เจ็บตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แต่ว่าภารกิจก็ยังคงต้องทำเป็นปกติ..!

วันนี้ต้องไปบรรยายถวายความรู้ให้แก่พระนวกะ ซึ่งบวชเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ ที่วัดสี่แยกเจริญพร หมู่ที่ ๔ ตำบลหนองกระทุ่ม อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ซึ่งพระครูเทพ (พระครูปฐมสาธุวัฒน์) เจ้าอาวาสวัดสี่แยกเจริญพร จัดให้มีการอุปสมบทหมู่ทุกปี แต่ละปีก็มีเข้าร่วมการอุปสมบทหมู่เป็นจำนวนมาก ๆ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าท่านให้โอกาสทุกคน แม้กระทั่งคนติดยาบ้ามาก็ตาม..! ถ้าหากว่าในช่วงที่บวชยอมละทิ้งทุกอย่าง ท่านก็เต็มใจที่จะบวชให้

ถ้าหากว่าเป็นที่วัดท่าขนุน บุคคลประเภทนี้ทางวัดต้องจัดการตรวจสอบประวัติก่อนทุกอย่าง ถ้าหากว่ามีคดีความอะไรก็จะไม่รับเข้าบวช ยกเว้นบุคคลที่คดีความสิ้นสุดลงแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนั้น งานอุปสมบทหมู่ในวาระปัญญาสมวาร เพื่อถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ของวัดท่าขนุน จึงมีนาคหลุดเข้าไปอุปสมบทแค่ ๗ รูปเท่านั้น แต่ของพระครูเทพนี่ถึงขนาด ๗๐ กว่ารูป เพียงแต่ว่าผ่านมา ๕ วัน ใครที่ความประพฤติ "ไม่เอาอ่าว" พระครูเทพก็ไล่สึกไปเสียหมด จึงเหลืออยู่แค่ ๖๐ รูปถ้วน ๆ..!

เมื่อมาถึง ปรากฏว่าคนแรกที่พบก็คือน้องจอย (ภารดี อารมณ์ชื่น) เจ้าของเว็บเพจอารมณ์ดี พระ กระผม/อาตมภาพถามว่า "มาอยู่ประจำตลอดโครงการเลยหรือเปล่า ?" ปรากฏว่าน้องจอยแจ้งว่า "มาเฉพาะวันที่หลวงพ่อมาเจ้าค่ะ" เป็นอันว่าจบกัน ถ้ากระผมไม่ได้มา น้องจอยก็คงจะไปเสาะหาพระเครื่องมาเข้าเพจของตนเอง เพื่อทำการบริการลูกค้า หรือไม่ก็วิ่งทำบุญทำกุศล ตามวัดต่าง ๆ ตามประสา "เด็กสายบุญ" กันต่อไป

เถรี 04-12-2025 00:50

เมื่อกระผม/อาตมภาพไปถึง พระครูเทพก็เร่งรัดบรรดาพระใหม่มารวมตัวกัน เพื่อที่จะฟังบรรยายธรรม บรรดาพระวิปัสสนาจารย์ที่นำโดยพระครูชนะชัย (ท่านพระครูกาญจนธรรมชัย) เจ้าอาวาสวัดหนองไม้แก่น จังหวัดกาญจนบุรี พระวิปัสสนาจารย์ประจำวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรี ศรีไพบูลย์ ก็มากราบ

หลังจากนั้น เมื่อบรรดาพระใหม่มากันครบถ้วนแล้ว
กระผม/อาตมภาพก็บรรยายถวายความรู้ให้กับทุกท่าน อยู่ในลักษณะที่ให้กำลังใจทุกท่านว่า "การบวชนั้นไม่ยาก แต่ว่าการที่เราจะรักษาความเป็นพระ ให้ชาวบ้านเขาไหว้ได้เต็มมือนั้นยากมาก" พร้อมกับเตือนพระใหม่เป็นระยะ ๆ ไป ท่านที่มาถึงพอวางบาตรลง ก็บอกกับท่านว่า ถ้าหากว่าบาตรไม่มีขาบาตรให้วางคว่ำลง ถ้ามีขาบาตรค่อยวางตั้งอยู่บนขาบาตร เนื่องเพราะว่าข้อนี้ก็เป็นศีลพระข้อหนึ่ง ไม่เช่นนั้นแล้ว ถ้า "ประทุษร้ายบาตร" คือทำให้บาตรชำรุดลง ก็โดนปรับอาบัติศีลขาดได้..!

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าในสมัยพุทธกาล ส่วนใหญ่จะเป็นบาตรดินเผา ถ้าเผลอเมื่อไรก็ตกแตก จึงเป็นเรื่องที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงกำหนดข้อปฏิบัติเอาไว้เยอะมาก อย่างเช่นว่าจะเก็บบาตรไว้ใต้เตียง ก็ต้องยื่นมือเข้าไปลูบดูก่อนว่า เมื่อยื่นบาตรเข้าไปจะกระทบวัสดุอะไรหรือเปล่า ? ไม่เช่นนั้นถ้ากระทบแตก ก็ต้องลำบากเดือดร้อนไปขอจากชาวบ้านเขามาใหม่ ซึ่งชาวบ้านเขาก็ทำมาหากินด้วยการปั้นเครื่องปั้นดินเผาต่าง ๆ ส่วนพระไปขอฟรี ถ้าเขาไม่ศรัทธา อาจจะโดนด่ามาก็ได้..!

หรือไม่ก็ห้ามวางไว้บนพรึง คำว่า "พรึง" ในสมัยปัจจุบันนี้เด็กรุ่นใหม่ไม่รู้เสียแล้ว ความจริงก็คือแนวสันไม้ที่ตียาว ๆ เป็นแนวรั้ว แล้วทางด้านบนสุดจะมีสันไม้ที่ตีปิดลูกกรง เขาเรียกกันว่าพรึง ถ้าหากว่าเป็นพรึงใหญ่ที่สุด เต็มที่ก็ไม่เกิน ๔ นิ้ว หรือกว้างประมาณแค่ ๑ ฝ่ามือวางขวางเท่านั้น ดังนั้น..ถ้าวางบาตรเอาไว้มีสิทธิ์ตกแตกได้อย่างแน่นอน แม้ว่าสมัยนี้จะเป็นบาตรโลหะ บาตรสเตนเลสแล้วก็ตาม ก็ยังมีโอกาสที่จะชำรุดบุบได้ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงต้องระมัดระวังเป็นอย่างสูง

ส่วนพระใหม่ที่นั่งตัวเอียง เอามือค้ำพื้น ขอให้เปลี่ยนเป็นนั่งตัวตรง เราทั้งหลายเป็นศากยบุตรพุทธชิโนรส เท่ากับเป็นเจ้าชายในศากยตระกูลขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ที่อยู่ในวรรณะกษัตริย์ ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน ต้องประกอบไปด้วยสง่าราศี ควรแก่ผู้อื่นเขาเคารพนับถือ

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงนำเอาแนวปฏิบัติของศากยราชตระกูล มากำหนดเป็นเสขิยวัตร ๗๕ ข้อให้พระภิกษุสามเณรของเราได้ยึดถือและปฏิบัติ ดังนั้น..ในส่วนนี้เท่ากับพระภิกษุสามเณรก็คือบุคคลในวรรณะกษัตริย์ เท่ากับว่าเป็นเจ้าชายในศากยราชตระกูล จึงต้องไว้สง่าของตนเองอยู่เสมอ

เถรี 04-12-2025 00:56

ตรงส่วนนี้เมืองไทยของเรามีอยู่ในลักษณะของการ "ขี้โกง" เพื่อศึกษาวิชาการเหมือนกัน ก็คือว่าบุคคลที่จะศึกษาวิชาการสร้างแมลงภู่คำนั้น เขากำหนดไว้ข้อหนึ่งตายตัวเลยว่า "จะต้องมีเชื้อเจ้า" ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เหลือเชื้อเจ้าแค่ไม่กี่คน วิชาการต้องสาบสูญไปอย่างแน่นอน ก็เลยมีการอาศัยเชื้อเจ้าจากเชื้อสายศากยบุตรพุทธชิโนรสนี่แหละ บวชมาแล้วก็อ้างสิทธิ์ตรงนี้ในการศึกษาวิชาการสร้างแมลงภู่คำ

ดังนั้น..การสร้างแมลงภู่คำในปัจจุบันนี้ จะหาสล่า ก็คือช่างที่เป็นเชื้อเจ้าจริง ๆ ก็หาไม่ได้เสียแล้ว ส่วนใหญ่ก็เหลือแค่บรรดาพระภิกษุที่ศึกษาวิชาการสืบต่อกันมาเท่านั้น กระผม/อาตมภาพได้ยินทีไรก็รู้สึกว่า "แบบนี้ก็ได้ด้วยหรือ ?" แต่ก็ต้องยอม เพราะว่าเป็นการพลิกแพลง เพื่อรักษาวิชาการเหล่านั้นเอาไว้

เมื่อให้โอวาทและยกตัวอย่างประกอบเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว
กระผม/อาตมภาพก็ขอตัวเพื่อที่จะเดินทางเข้าสู่ที่พัก พระครูเทพก็ให้ญาติโยม ตลอดจนกระทั่งน้องจอยมาถวายไทยธรรม รับแล้วก็ขอตัวเดินทาง ความจริงต้องไปร่วมเปิดโรงทาน เพื่อที่ให้บุคคลต่าง ๆ ซึ่งมาถวายสักการะพระบรมศพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้มีอาหารและน้ำดื่มรับประทานกัน

การเปิดโรงทานนี้นำโดยพระมหาสมคิด อตฺถสิทฺโธ ป.ธ. ๗ เจ้าอาวาสวัดหนองโพ รองเจ้าคณะอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี และหลวงพ่อเจ้าคุณพระวชิรปัญญากร (เชาวลิตร ชิตงฺกุโร) เจ้าคณะอำเภอเมืองระยอง เจ้าอาวาสวัดป่าประดู่ (พระอารามหลวง) ซึ่งเป็นเพื่อนพระอุปัชฌาย์ร่วมรุ่นชักชวนเอาไว้ แต่ว่าโรงทานท่านจะเปิดตอน ๑๐ โมงครึ่ง กระผม/อาตมภาพบรรยายเสร็จก็เลยเวลาไปแล้ว จึงตรงเข้าที่พักเลย

หลังจากฉันเพลแล้วพักผ่อนไปครู่หนึ่ง ลูกกิฟท์ (นางสาวอันตรา ลักษณะ) ก็แวะมา นำเอาส้มสายน้ำผึ้งลังมหึมามาถวาย กระผม/อาตมภาพถึงจะชอบฉันผลไม้มากเท่าไรก็ตาม แต่ว่าถ้าจะฉันส้มนั้น ชอบแบบติดรสเปรี้ยวมากกว่า ส้มสายน้ำผึ้งออกหวานเกินไป
อายุขนาดนี้ขืนฉันมาก ๆ ดีไม่ดีเบาหวานอาจจะถามหา..! จึงหยิบมาแค่ไม่กี่ผล

แล้วขณะเดียวกัน ก็ปรึกษาหารือกันเรื่องการเดินทางไปยังสิบสองปันนา ซึ่งมณฑลยูนนานของทางด้านประเทศจีนนั้นประกอบไปด้วยชาติพันธุ์ต่าง ๆ จำนวนมากมาย แต่ว่าส่วนใหญ่นั้นเป็นเผ่าไต ซึ่งสามารถใช้ภาษาไทยที่เราฟังแล้วเข้าใจถึง ๕๐ - ๖๐ เปอร์เซ็นต์ทีเดียว อย่างเช่นว่าวัดหลวงไตลื้อที่เราจะไปกัน เหล่านี้เป็นต้น

เถรี 04-12-2025 01:01

กระผม/อาตมภาพเป็นคนกำหนดเองว่า "ไปยูนนานเที่ยวนี้อย่าให้เหลืออะไรค้างคาใจ" ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงต้องกำหนดสถานที่ท่องเที่ยวกระโดดขึ้นกระโดดลง ก็คืออาจจะอยู่ทางใต้ของมณฑล แล้วโดดขึ้นไปทางเหนือ เราจึงมีการนั่งรถไฟความเร็วสูงหลายต่อหลายเที่ยวด้วยกัน และในขณะเดียวกัน เราไปกันหน้านี้ก็คือช่วงเดือนมกราคม ๒๕๖๙ ก็จะเป็นช่วงที่หิมะตกฟูฟ่องดีมาก ท่านทั้งหลายถ้าหากว่าร่างกายไม่แข็งแรง ก็ต้องเตรียมเครื่องกันหนาวไปให้พร้อมด้วย

ส่วนลูกกิฟท์นั้นพยายามที่จะให้บริการดีที่สุด ก็คือจองโรงแรมระดับ ๔ ดาว ๕ ดาวเลยทีเดียว แม้กระผม/อาตมภาพบอกว่า "ทำให้ค่าทัวร์แพงเสียเปล่า ๆ" คุณลูกเธอก็บอกว่า "ถือว่าเป็นสไตล์ของทางเติมเต็มทราเวลก็แล้วกัน" คือ"กินหรู อยู่สบาย บริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า" กระผม/อาตมภาพเองที่ไปโดยมีคนอื่นควักกระเป๋าจ่าย ก็เลยเถียงไม่ออก ได้แต่เตรียมพร้อมที่จะเดินทางไปเท่านั้น

ยังโชคดีที่ว่าอีกไม่กี่วันจะมีการทดสอบเบื้องต้น ก็คือเดินทางไปสักการะสังเวชนียสถานทั้ง ๔ แห่งที่ประเทศอินเดีย ในช่วงที่ขึ้นไปลุมพินีนั้น อากาศน่าจะไม่หนีจากบริเวณที่เราจะเดินทางไปในมณฑลยูนนาน โดยเฉพาะแถวลี่เจียงหรือแชงกรีล่า ซึ่งตรงนี้ก็เท่ากับว่ากระผม/อาตมภาพมีโอกาสที่จะอุ่นเครื่องตัวเอง ให้เคยชินกับสภาพอากาศเสียก่อน

เรื่องตลกก็คือว่าอากาศ ๑๐ กว่าองศาเซลเซียสที่ทองผาภูมิ รู้สึกหนาวกันแทบตาย แต่พอไปในสถานที่อากาศติดลบเข้าจริง ๆ เดินไปเดินมา กลับร้อนจนเหงื่อแตกพลั่ก ต้องบอกว่าบรรดาเจ้าที่เจ้าทางทั้งหลายท่านรักพวกเรามาก ถ้าหากว่ามีการอุทิศส่วนกุศลให้ก่อน แล้วขอความช่วยเหลือจากท่าน ก็มักจะได้รับความเมตตาอยู่เสมอ ต้องขออนุญาตเจริญพรขอบคุณล่วงหน้ามา ณ ที่นี้ด้วย

ถ้าเป็นสมัยก่อนก็จะมีการขี่ม้าเพื่อขึ้นไปบนยอดเขาหิมะมังกรหยก แต่สมัยนี้เขาไม่ให้ใช้ม้าแล้ว เนื่องเพราะว่าทางการจีนเขาจัดกระเช้าให้ขึ้นไปข้างบน ทำให้บรรดาผู้ที่ไปกับคณะทัวร์ จะอายุมาก อายุน้อยเท่าไร ก็สามารถขึ้นไปพิชิตยอดเขาหิมะมังกรหยกได้ แม้ว่าถ้าเดินไม่ไหว ไม่สามารถจะไปถึงจุดสูงสุดได้ อย่างน้อย ๆ ระดับ ๔,๐๐๐ กว่าเมตร ท่านก็ไปยืนเต๊ะท่าถ่ายรูปอวดชาวบ้านเขาได้แล้ว เพียงแต่อย่าถ่ายให้ติดกระเช้าก็พอ คนอื่นเขาไม่รู้หรอกว่าเราขึ้นไปแบบไหน..!?

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๓ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:21


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว