กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนธันวาคม ๒๕๖๘ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=169)
-   -   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๘ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=11355)

พิชวัฒน์ 01-12-2025 19:51

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๘
 
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๘



เถรี 02-12-2025 00:43

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ เรื่องที่อยากพูดในวันนี้ก็คือเรื่องการทอดผ้าป่าเมื่อวาน ซึ่งมีคณะผู้มีจิตศรัทธามาทอดผ้าป่า เพื่อร่วมสร้างหอพักนักเรียนหญิงบ้านไกล โรงเรียนทองผาภูมิวิทยา แต่ว่าการจัดการของเราก็ดี ของญาติโยมก็ดี ตลอดจนกระทั่งทางโรงเรียนก็ตาม รู้สึกว่าจะ "ผิดฝาผิดตัว" ผิดพลาดไปหมด มีโอกาสเกิดโทษหนักขึ้นมาได้..!

อันดับแรกเลยก็คือทางเจ้าภาพ ถ้าหากว่าต้องการจะร่วมสร้างหอพักนักเรียนหญิงบ้านไกล ถ้านำเงินไปมอบให้กับทางโรงเรียนก็หมดเรื่องไปแล้ว แต่น่าจะอยู่ในประเภทรู้มากว่า ถ้าถวายเป็นสังฆทานจะมีอานิสงส์มากกว่า ก็เลยจัดการนิมนต์พระของเราเป็นผู้รับ แต่ว่าข้าวของเงินทองกลับมอบให้กับทางโรงเรียน..!

ตรงนี้ถ้าจัดการไม่ถูกต้องมีสิทธิ์ลงอเวจีมหานรกเลย..! เนื่องเพราะว่า
ผ้าป่าก็คือสังฆทาน ก็คือสิ่งของสำหรับหมู่สงฆ์ ถ้าไม่ได้ขอต่อหมู่สงฆ์แล้วคณะสงฆ์อนุญาต เรานำไปก็เท่ากับขโมยของสงฆ์ ซึ่งมีโทษหนักมาก บางทีเรื่องนี้ถ้ามองกันแบบคนทั่ว ๆ ไป ก็เห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติ เพียงแต่ว่าถ้าจัดการไม่ถูกจะผิดปกติมาก เพราะว่าก่อให้เกิดโทษ ต้องบอกว่าพาคนอื่นลงนรกโดยไม่รู้ตัว..!

ท่านทั้งหลายจะเห็นว่า ถ้าเรื่องของพวกผ้าป่าอะไรประเภทนี้ก็ตาม สำหรับวัดท่าขนุนแล้ว ถ้าไม่ได้ติดต่อมาและกระผม/อาตมภาพอนุญาตไว้ อยู่ ๆ หอบผ้าป่ามาถึง มักจะโดนไล่กลับไปเลย..! หรือไม่ก็ให้ไปทอดวัดข้างเคียงแทน เนื่องเพราะว่าส่วนใหญ่แล้วคณะที่ทำในลักษณะแบบนี้ มักจะไปบอกผู้ร่วมบุญว่าทอดผ้าป่าเพื่อสร้างสิ่งนั้น เพื่อทำบุญนี้ แต่ถึงเวลาไปหักค่ารถ หักค่ากินจากในกองผ้าป่า ซึ่งก็คือเงินสงฆ์นั่นเอง ถ้าเรารับเอาไว้ก็เท่ากับว่าช่วยเขาลงนรก
ถ้าหากว่ามาโดยไม่บอกไม่กล่าวก่อน กระผม/อาตมภาพจะไม่รับเลย หรือไม่ก็ให้ไปทอดวัดอื่นแทน..!

ประการที่สองก็คือเรื่องนี้ เลขาฯ พัฒน์ (พระมหาพัฒน์ ฐิตาจาโร ป.ธ. ๓) แจ้งกระผม/อาตมภาพว่า "วันนี้มีคณะมาทอดผ้าป่า" บอกแค่นี้เท่านั้น ถ้าหากว่าบอกว่าทอดผ้าป่าเพื่อสร้างหอพักนักเรียนหญิง กระผม/อาตมภาพก็จะให้จัดการสองอย่าง

อย่างแรกก็คือให้เจ้าภาพไปติดต่อกับทางโรงเรียนเอง อย่างที่สองก็คือต้องบอกกล่าวให้ชัดเจนว่าต้องปฏิบัติอย่างไรถึงจะถูกต้อง แต่ในเมื่อบอกกล่าวแค่ว่ามีเจ้าภาพมาทอดผ้าป่า กระผม/อาตมภาพจึงได้บอกว่า "จัดการไปตามหน้าที่ก็แล้วกัน"

เถรี 02-12-2025 00:50

ในส่วนต่อไปก็คือคณะสงฆ์ของเรา ต้องบอกว่ากระผม/อาตมภาพเสียแรงที่ไว้วางใจทุกท่าน เรื่องพวกนี้ท่านต้องเข้าใจว่า ถ้าหากว่าเรารู้แต่ไม่พูด ก็คือมองคนอื่นลงนรก หรือว่าไม่รู้แล้วจัดการผิด ก็เท่ากับว่าส่งเสริมคนอื่นให้ขโมยของสงฆ์อีก มีโทษทั้งขึ้นทั้งล่อง..!

ดังนั้น..ในส่วนนี้ถ้าหากว่า
กระผม/อาตมภาพไม่พูด ต่อไปเราทุกคนก็จะจัดการไม่ถูกต้องอีก เพราะว่าถ้ามาในลักษณะอย่างนั้น แล้วญาติโยมเขาไม่ได้ร้องขอต่อทางคณะสงฆ์ว่า ทอดแล้วขอนำไปมอบให้กับทางโรงเรียน คณะสงฆ์เราต้องทำการอปโลกน์ เพื่อขอความเห็นต่อพระสงฆ์ทั้งหมดในที่นั้นก่อน ถ้าสงฆ์ทั้งหมดอนุญาต ให้สาธุการขึ้นมา ถึงจะมอบให้กับเขาได้

เรื่องของสงฆ์เป็นเรื่องสำคัญ เนื่องเพราะว่าได้มาด้วยคุณพระรัตนตรัย ข้าวของแต่ละอย่างเราจะดูเป็นราคาไม่ได้ เพราะว่าเกิดจากศรัทธาของญาติโยมที่มีต่อพระพุทธศาสนา บางทีโบราณท่านใช้คำว่า "ของสาธุ" ก็คือเขายกจบอธิษฐานมาเรียบร้อยแล้ว แล้วเราไปดำเนินการผิดพลาด ก็เท่ากับว่าเกิดโทษทั้งตัวเราและทั้งญาติโยมเขาด้วย..!

สมัยที่กระผม/อาตมภาพอยู่กับหลวงพ่อฤๅษีฯ ที่วัดท่าซุง มีอยู่วันหนึ่ง ท่านบอกว่า "วันนี้พอมีแรง ไปเดินตรวจวัดด้วยกัน" กระผม/อาตมภาพที่เป็นเวรหน้าตึก คอยดูแลถวายการรับใช้ ก็ต้องเดินตามท่านไป ปรากฏว่าพอไปถึงบริเวณหน้าร้านอาหารของป้ากิมกี หลากสุขถม ซึ่งครอบครัวนี้ โยมโต๋ว (นายโต๋ว หลากสุขถม) เป็นช่างที่ช่วยเหลืองานวัดหลวงพ่อท่านโดยตลอด จึงได้รับอนุญาตให้ตั้งร้านจำหน่ายสินค้าในวัดได้ ร้านค้าจะอยู่ข้างบ่อปลา ที่ติดกันก็คือหอระฆัง ทางด้านใต้หอระฆังนั้นเป็นห้องเอนกประสงค์ สามารถใช้งานได้หลายสิ่งหลายอย่าง

ในช่วงนั้นทางคณะสงฆ์จัดเป็นที่สำหรับฉันน้ำปานะของพระ แล้วก็มีพระบางรูปที่ไม่ออกบิณฑบาต ไปสั่งอาหารจากร้านป้ากิมกีมาฉัน เมื่อฉันเสร็จ ก็นำเอาถ้วยจานและแก้วน้ำไปวางไว้ตรงบันไดขึ้นร้านค้า ก็คือวางรอเจ้าของร้านเขามาเก็บ พอหลวงพ่อท่านเห็น ท่านชี้สั่งเดี๋ยวนั้นเลย บอกว่า "ยกไปคืนร้านเขาเดี๋ยวนี้ ข้าวของเป็นของญาติโยมและทุกชิ้นราคาเกิน ๑ บาท ถ้าหากว่าแตกหักหรือว่าสูญหาย ไอ้คนทำจะโดนอาบัติปาราชิกไม่รู้ตัว..! เพราะว่าเท่ากับทำให้ทรัพย์สินของเขาชำรุดเสียหายแล้วไม่ชดใช้ เกิดญาติโยมเขา "ทอดธุระ" ขึ้นมา ก็โดนอาบัติปาราชิกไปเลย..!"

คำว่า "ทอดธุระ" ก็คือไม่ทวงไม่ถาม หรือถึงญาติโยมเขาทวงถาม แล้วเราไม่ชดใช้ ก็มีสิทธิ์ซวยพอกัน..! ดังนั้น..ท่านจะเห็นว่า แม้แต่ข้าวของซึ่งเป็นของญาติโยม แต่ว่าพระเราเป็นคนไปวางไว้ แล้วก่อให้เกิดความเสียหายได้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านยังสั่งให้รีบแก้ไข เพราะคำว่าปาราชิกไม่ได้แปลว่าของเล่น ก็คือมีสิทธิ์ที่จะโดนรับโทษนั้นไปเต็ม ๆ จริง ๆ..!

เถรี 02-12-2025 00:55

ประการต่อไปก็คือ ในส่วนของเงินที่รับผ้าป่านั้น พวกเรารับกันในที่นี้ ๕๒,๑๗๓ บาท แล้วมีเจ้าภาพโอนตรงเข้าบัญชีโรงเรียนอีก ๖,๐๐๐ บาท รวมทั้งหมดก็ ๕๘,๑๗๓ ทางโรงเรียนรับเอาไป โดยที่เงินสำหรับสร้างหอพักนั้น กระผม/อาตมภาพมอบไปให้เพียงพอทุกบาททุกสตางค์แล้ว

ในจุดนี้ถ้าหากว่าเขาคิดว่า "รับไปเพื่อเอาไว้ทำอย่างอื่น" ก็ซวยหนักเข้าไปอีก เนื่องเพราะว่าเจตนาเจ้าของก็คือสร้างหอพัก ถ้าเอาไปทำอย่างอื่น เขาปรับโทษเท่ากับย้ายเจดีย์ ก็คือไปโยกย้ายหรือว่าพังสิ่งที่เขาเคารพบูชา มีโทษลงอเวจีมหานรกเหมือนกัน..! จึงเป็นเรื่องที่บางทีเราท่านก็คิดไม่ถึง หรือไม่ก็มักง่าย ฝ่ายที่คิดถึงและรู้ก็อาจจะหุบปากไว้ เพราะว่าเกรงใจ..ไม่กล้าพูด..!

ดังนั้น..งานนี้ที่ยุ่งขึ้นมา ก็เพราะว่าการจัดการที่ไม่ถูกต้องของทุกฝ่าย ทางเจ้าภาพอยากจะได้บุญสร้างหอพัก แต่ไม่ส่งตรงให้กับทางโรงเรียนเอง อยากเพิ่มบุญด้วยการถวายเป็นสังฆทานเสียก่อน เพราะว่าผ้าป่าก็คือสังฆทาน แต่อาจจะลืมไปว่า
สังฆทานนั้น ถ้าหมู่สงฆ์ไม่ได้อนุญาตแล้วคุณเอาไป คุณก็ซวยหนัก..เพราะว่าเท่ากับขโมยของสงฆ์..!

ส่วนทางวัดของเราไม่ได้อปโลกน์ หรือไม่ได้อนุญาต ก็เท่ากับว่าส่งเสริมให้คนอื่นลงนรก..!

ส่วนทางโรงเรียน ถ้าคิดไม่รอบคอบหรือว่าไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นโทษ ก็ซวยหนักพอกัน..!

เรื่องนี้พอกระผม/อาตมภาพรู้เรื่องเข้า ก็ได้แต่นั่งปลงอนิจจังว่า เรื่องดี ๆ แท้ ๆ กลายเป็นเละเทะแบบนี้ไปได้อย่างไร ? แล้วถ้าหากว่าไม่พูด เราท่านทั้งหลายก็จะทำผิดทำพลาดต่อไปกันอีก

เรื่องของสงฆ์เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้มาเกิดจากศรัทธาญาติโยมทั้งสิ้น ถ้าดำเนินการไม่ถูก จัดการไม่ถูก โทษใหญ่ก็เกิดขึ้น และเป็นโทษที่คนก็มักจะประมาท เพราะคิดว่าตนเองทำดีแล้ว ทำถูกแล้ว จึงทำเอากระผม/อาตมภาพพูดไม่ออก บอกไม่ถูก

แต่จำไว้เป็นนโยบายเลยว่า
ต่อไปถ้ามีใครเอาผ้าป่ามาอีกให้ปฏิเสธไปเลย บอกว่า "วัดนี้ไม่รับ" เพราะจากประสบการณ์ที่กระผม/อาตมภาพเจอมาเอง ๙๙ เปอร์เซ็นต์ไปควักเงินจากกองผ้าป่าใช้จ่ายในเรื่องอื่น ๆ ด้วย นั่นเป็นโทษ "ย้ายเจดีย์" อย่างชัดเจน แล้วถ้าหากว่าเป็นในส่วนของสงฆ์เราเอาไปใช้ลักษณะนั้น ก็เท่ากับขโมยของสงฆ์อีกด้วย..!

อย่าไปสนับสนุนคนอื่นเขาให้ทำอย่างนั้นเพราะแค่อยากได้เงิน ทุกท่านจะเห็นว่าเงินแค่ ๕ หมื่นกว่าบาท
กระผม/อาตมภาพเองให้ทางโรงเรียนไปเป็นล้าน ๆ บาทแล้ว เพราะฉะนั้น..ที่พูดจึงไม่ได้พูดเพราะอยากจะได้เงินแค่ ๕ หมื่นกว่าบาท แต่อยากให้ทุกท่านเข้าใจ และต่อไปก็จัดการให้ถูกต้องด้วย ส่วนโทษที่เกิดขึ้นนั้นก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะแก้ไขอย่างไร แล้วแต่ว่าแต่ละคนจะไปคิดแก้ไขและทำกันเอง..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:51


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว