กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๘ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=168)
-   -   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=11328)

ตัวเล็ก 16-11-2025 19:36

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๘
 
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๘



เถรี 17-11-2025 00:15

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๑๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ เนื่องจากว่าเป็นช่วงกลางเดือน ที่ทางเว็บไซต์วัดท่าขนุนมีการตัดงวด เพื่อส่งวัตถุมงคลไปให้กับผู้จองไว้ แล้วมีผู้ที่ต้องการวัตถุมงคลบางรุ่นบางอย่าง "คอมเม้นท์" เข้ามา เพื่อขอพระสมเด็จปรกโพธิ์ ๙ ใบหลังพระแม่ธรณี ของหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จังหวัดชัยนาท แต่กระผม/อาตมภาพหาไม่เจอ ค้นอยู่เป็นวัน ๗ รอบ ๘ รอบก็หาไม่เจอ..!

เรื่องวัตถุมงคล ถึงเวลาแล้ว
ถ้าท่านไม่อยากไป ก็มีการหนีหายเป็นระยะ ๆ มาโดยตลอด แต่ว่างวดนี้ยกชุดไปเลย ก็คือทั้งสมเด็จแหวกม่าน ๒๐ องค์ ก็คือ ๔ สี ๆ ละ ๕ องค์ที่เก็บเอาไว้เป็นล็อตสุดท้าย พระสมเด็จปรกโพธิ์ ๙ ใบ สีขาว สีดำ สีแดง อย่างละ ๖ องค์ เหรียญรุ่น ๑ หนึ่งเหรียญ เหรียญรุ่น ๒ สองเหรียญ เหรียญโล่และเหรียญแจกแม่ครัวอีกอย่างละ ๖ เหรียญ แล้วไม่ต้องไปถามท่านเลยนะว่า "ไปอยู่ที่ไหน ?" โดนแน่ ๆ..!

เรื่องพวกนี้ถ้าใครไม่โดนด้วยตัวเองก็จะไม่ทราบหรอกว่า ถึงเวลาแล้วบางทีท่านไม่พอใจขึ้นมา ท่านก็ไปเอาดื้อ ๆ แต่กระผม/อาตมภาพโดนเป็นประจำ เนื่องเพราะว่าเวลาอยู่ด้วยกัน พอเจริญพระกรรมฐาน หรือว่าทำบุญสุนทานสิ่งหนึ่งประการใด ก็จะให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นอนุโมทนาเป็นปกติ ซึ่งเรื่องพวกนี้ทุกคนสามารถที่จะเลียนแบบและทำตามได้ เพราะว่าเทวดาที่รักษาวัตถุมงคล เมื่อได้รับบุญรับกุศลไปแล้ว อานุภาพท่านมากขึ้น ท่านก็จะช่วยเหลือเราได้มากขึ้น แต่ขอโทษเถอะ..พออานุภาพมากขึ้น ท่านก็หนีง่ายขึ้นเหมือนกัน..!

ที่ขำที่สุดก็คือตอนที่หากะโหลกเสือ ซึ่งจารรูปยันต์เสือหัวขาด ของหลวงพ่อไฉน วัดสังโฆปรีดี จังหวัดขอนแก่น หาเท่าไรก็ไม่เจอ จนกระทั่งถามแมลงภู่คำซึ่งคอยดูแลอยู่ทั้งคู่ ท่านบอกว่าให้ไปดูตรงที่น้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) นอนอยู่ พอให้อีกฝ่ายลุกขึ้นก็อยู่ใต้ที่นอนจริง ๆ..!

วัตถุมงคล
หลวงพ่อไฉน วัดสังโฆปรีดี ที่ท่านดังที่สุดก็คือยันต์เสือหัวขาด แล้วรุ่นนั้นเป็นกะโหลกเสือด้วย กระผม/อาตมภาพเล่นวัตถุมงคลมา ๓๐ - ๔๐ ปี ได้แบบนั้นมาแค่ ๓ ชิ้น ให้เขาบูชาไปหมดแล้ว ส่วนที่เหลือก็คือไม้ครู ซึ่งตั้งใจเก็บเอาไว้ เพราะว่าท่านทำไว้ไล่ผีไล่ไสยศาสตร์โดยเฉพาะ แล้วก็ทำยากด้วย เพราะว่าต้องรอฤกษ์รอยาม น่าจะคล้าย ๆ กับการสร้างหุ่นพยนต์ ที่จะต้องรอวันพฤหัส ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๙ ปีวอก ก็รอไปเถอะ..ชาติหน้าบ่าย ๆ อาจจะมีสักครั้งหนึ่ง..!

เถรี 17-11-2025 00:25

เรื่องของตำราวิชาการต่าง ๆ นั้น ถ้าครูบาอาจารย์ท่านระบุไว้อย่างไร ก็ต้องเป็นไปตามนั้น กระผม/อาตมภาพเคยแหกคอกฝืนกฎมามากแล้ว แต่ทำไม่สำเร็จ อย่างเช่นว่าคาถามหาประสานซึ่งใช้ห้ามเลือด ใช้ในการผสานบาดแผล จะต้องใช้ใบตองปิดแผลแล้วว่าคาถา กลั้นหายใจเป่าลงไป เมื่อจับจุดได้ว่าใช้กำลังสมาธิเท่าไรถึงได้ผล กระผม/อาตมภาพก็ใช้วิธีขี้เกียจ ก็คือขี้เกียจไปหาใบตอง ก็ว่าคาถาแล้วเป่าเลย ปรากฏว่าเป่าเท่าไรก็ไม่ติด เลือดยังไหลอยู่เหมือนเดิม ดังนั้น..อะไรที่เป็นเคล็ดลับฤกษ์ยามต่าง ๆ ที่ตำราระบุไว้ เราต้องทำตามนั้น

มีเรื่องเล่าว่า แม้แต่เสด็จในกรมหลวงชุมพร อยากจะลองสร้างหุ่นพยนต์ดู เราท่านก็รู้อยู่แล้วว่าท่านมีความสามารถขนาดไหน แต่ด้วยความที่ไม่มีฤกษ์ตรงกับตำรา ท่านเสกเท่าไร หุ่นก็แค่กระดิก ๆ ได้เท่านั้น ไม่สามารถจะลุกขึ้นมาให้ใช้งานได้..!

ดังนั้น..ท่านที่ขอบูชาโปรดรอไปก่อน อะไรที่มีอยู่ในเว็บไซต์วัดท่าขนุน ไปบูชาที่นั่นก่อน เพราะอย่างไรเสียก็เป็นล็อตสุดท้ายที่กระผม/อาตมภาพมีอยู่ ตอนแรกก็ตั้งใจจะเก็บของครูบาอาจารย์เอาไว้ ลักษณะเป็นไม้ตายประจำตัวบ้าง แต่ปรากฏว่ามีคนเรียกร้องมา

หลายท่านก็ถามว่า "ของรักของหวงสละได้ด้วยหรือ ?" นี่ขอย้อนไปถึงตอนที่มีปัญหาที่วัดทองผาภูมิ ทางคณะสงฆ์เขาประท้วงกัน เนื่องเพราะเกรงว่ากระผม/อาตมภาพจะมาเป็นเจ้าคณะอำเภอ แม้กระทั่งทุกวันนี้ก็มีการ "เตะสกัด" กันอุตลุด เพราะเกรงว่ากระผม/อาตมภาพจะขึ้นเป็นรองเจ้าคณะจังหวัด โดยที่พวกเขาไม่รู้หรอกว่ากระผม/อาตมภาพเองนั้นไม่ได้ต้องการเรื่องยศ เรื่องตำแหน่งอะไรเลย..!

อย่าลืมว่าแม้แต่ตำแหน่งเจ้าคณะตำบล
กระผม/อาตมภาพก็เคยลาขาดลาทิ้งมาแล้ว ตำแหน่งรองเจ้าคณะอำเภอจะลาออก พอดีตอนนั้นอดีตหลวงพ่อเจ้าคุณแย้ม - พระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) ท่านยังอยู่ ท่านขู่เอาไว้ว่า "อย่าเสือกลาออกเชียวนะมึง..!" ในเมื่อสิ่งที่เราไม่ต้องการ แต่คนกลับต้องการ เราก็เลยกลายเป็น "ตำบลกระสุนตก" ไปโดยปริยาย..!

ถ้าถามว่ามากล่าวถึงเรื่องพวกนี้ทำไม ? ก็เนื่องเพราะว่าตอนช่วงนั้น
กระผม/อาตมภาพได้ติดเอามีดหมอชาตรีรุ่นแรก ของหลวงพ่อวัดท่าซุงไปด้วย ซึ่งมีดหมอชาตรีนั้น กระผม/อาตมภาพเองทันทีที่ได้ยินว่าหลวงพ่อท่านตั้งใจจะเสกน้ำมันชาตรี ใครมีวัตถุมงคลอะไรให้เอาไปเข้าพิธีชาตรีกันเอง กระผม/อาตมภาพก็วิ่งไปที่พยุหะคีรี ซึ่งตอนนั้นเป็นร้านจำหน่ายพวกวัตถุมงคลต่าง ๆ โดยเฉพาะมีดหมอ กวาดมาหมดตลาด ทุกขนาดได้มาแค่ ๖๐ กว่าเล่ม แล้วก็มีขนาดใหญ่ที่เป็นด้ามงาฝักไม้ ๗ นิ้วอยู่เล่มเดียวเท่านั้น จึงใช้ติดตัวมาตลอด

เถรี 17-11-2025 00:27

ปรากฏว่าหลังจากที่ปล่อยให้คณะสงฆ์เขาสอบสวนและด่าจนพอใจแล้ว ก็กลับมานอนที่วัดท่าขนุน นึกขึ้นมาได้ว่าลืมมีดหมอไว้ที่วัดทองผาภูมิ ขยับตัวยังไม่ทันจะหัวพ้นหมอน ก็ทิ้งตัวลงนอนต่อ เพราะความรู้สึกบอกว่า "ถ้าของแค่นี้เอ็งยังตัดใจไม่ได้ เรื่องอื่นก็ตัดไม่ได้เหมือนกัน" ดังนั้น..แม้ว่าจะเป็นวัตถุมงคลของรักของหวงขนาดไหนก็ตาม กระผม/อาตมภาพใช้แค่ตอนนี้เท่านั้น หลังจากนี้จะไปอยู่กับใคร ก็แล้วแต่บุญแต่กรรมของเขา..!

พวกเราถ้าทำมาถึงตรงจุดนี้ ก็จะอยู่ในลักษณะที่ว่า "อยู่กับโลก แต่ไม่ติดในโลก" เพียงแต่ต้องระมัดระวังกำลังใจของตนเองให้ดี ของอะไรที่เราชอบจะตัดยากมาก เพราะว่าเราจะไปไขว่คว้าเข้ามา ของที่เราไม่ชอบจะตัดง่ายกว่า เพราะว่าเราไม่ต้องการอยู่แล้ว..!

ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะพูดถึงก็คือ เมื่อเปิดกระทู้ให้ผู้สมัครบวชวาระปัญญาสมวาร ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เห็นชื่อเห็นนามสกุลผู้สมัครแล้ว กระผม/อาตมภาพอยากจะบ้า..! พูดง่าย ๆ ก็คือว่าด้วยความรู้ความสามารถที่ศึกษา ยังมาแทบจะแปลชื่อของเขาไม่ออก..!

กระผม/อาตมภาพบอกแล้วว่า "แต่ละคนถ้าหากว่ามีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นในชีวิต ให้เร่งปฏิบัติในทาน ศีล ภาวนาให้มากเข้าไว้ เพื่อเอาบุญใหญ่ตรงนี้ ไปคานกับอกุศลกรรมที่กำลังแทรกเข้ามาสนอง จะเป็นการแก้ไขหรือว่าพลิกชีวิต เปลี่ยนดวงที่ดีที่สุด เพราะว่าเป็นสิ่งที่ยั่งยืน คงทน และส่งผลดีให้กับเราอย่างแท้จริง" แต่ส่วนใหญ่แล้วมักขี้เกียจ มักง่าย ให้ไปนั่งภาวนากูไม่เอา..ลำบาก เปลี่ยนชื่อง่ายกว่า บางคนเปลี่ยน ๗ รอบ ๘ รอบ ก็ไม่เห็นแม่...จะดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้สำนึกอีก..!

ดังนั้น..เรื่องพวกนี้สำคัญที่สุดก็คือเปลี่ยนความประพฤติของเราเอง ไม่ใช่ไปเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุล สมัยนี้เปลี่ยนมาก ๆ ดีไม่ดีก็ตำรวจมาถึงอีกด้วย ไปทำผิดอะไรมาหรือเปล่า ? ถึงได้เปลี่ยนนักเปลี่ยนหนา ก็เลยกลายเป็นเรื่องที่
กระผม/อาตมภาพเห็นแล้วก็นั่งเซ็งในอารมณ์ว่า "สมัยนี้คนมักง่ายมีเยอะเหลือเกิน" กระผม/อาตมภาพชื่อ "เล็ก" มาจนทุกวันนี้ ไม่เห็นจะเล็กอย่างที่ว่า เพราะว่าถ้าใจของเราดี อะไร ๆ ก็ดีทั้งหมด ถ้าหากว่ากำลังใจไม่ดี เปลี่ยนชื่อให้เลิศลอยฟ้า อ่านไม่ออก ยาวสัก ๒๐ ตัวอักษร ก็ไร้ประโยชน์..!

พระพุทธเจ้าก็ตรัสเอาไว้ชัดเจนแล้วว่า มโนปุพพังคมา ธัมมา มโนเสฏฐา มโนมยา ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า มีใจประเสริฐสุด สำเร็จได้ด้วยใจ ไม่ใช่สำเร็จด้วยการเปลี่ยนชื่อ..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๑๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:55


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว