กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกันยายน ๒๕๖๘ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=166)
-   -   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๘ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=11227)

ตัวเล็ก 24-09-2025 19:48

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๘
 
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๘



เถรี 25-09-2025 00:02

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๒๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ ตอนนี้ก็แค่รอลุ้นกันว่า วันงานบวงสรวงไหว้ครูประจำปีและเป่ายันต์เกราะเพชร จะสามารถหลีกฝนหลีกฟ้ากันได้หรือไม่ ? เพราะว่าถ้าหากฝนตก แล้วคนส่วนหนึ่งไม่สามารถเข้ามาภายในศาลาได้ ก็คงจะค่อนข้างวิกฤตทีเดียว..!

ในส่วนของบุคคลที่เข้าในศาลามาแล้ว ส่วนใหญ่ก็มักจะเอาความสบายเฉพาะตัว ก็คือไม่สนใจว่าคนอื่นจะสามารถเข้ามาได้หรือไม่ ? ตัวเองต้องนั่งสบายอย่างเต็มที่ หลายต่อหลายคนก็หอบอาสนะมา หอบเก้าอี้ประจำตัวมา ยังดีที่ไม่ถึงขนาดแบกฟูกแบกหมอนมา..! ใครที่ทำหน้าที่อยู่ในศาลาก็ต้องปวดหัว ตรงที่พยายามขอให้เขาขยับ เพื่อให้คนอื่นเข้ามาได้บ้าง

ถ้าหากว่าญาติโยมท่านใดที่ฟังเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนอยู่ ขออาศัยตรงนี้แจ้งให้กับทุกคนว่าทราบ "ไม่ต้องจองที่นั่งมา" เพราะว่าช่วงหลายวันนี้ มีแต่โทรศัพท์เข้ามาเพื่อจองที่นั่งในการรับยันต์เกราะเพชร วัดท่าขนุนไม่มีการจองที่นั่ง ให้ไปเสี่ยงดวงเอาข้างหน้าว่า "คุณสร้างบุญมาเท่าไร ?" ถ้าสร้างบุญไว้ดีก็จะได้ที่นั่งในศาลา ถ้าสร้างบุญมาไม่ดี ก็อาจจะนั่งใต้ต้นไม้ข้างนอก แถมมีฝนตกอีกด้วย..! แล้ว
ถ้าหากว่าใครก็ตาม มีการไปบอกว่าต้องจองที่นั่ง ต้องจ่ายเงินเท่านั้นเท่านี้ ให้รู้เลยว่านั่นเป็นมิจฉาชีพ ที่ตั้งใจอาศัยวัดท่าขนุนเพื่อทำมาหากิน..!

จะว่าไปก็เป็นเรื่องแปลกที่ว่า บุคคลประเภทนี้สามารถหากินได้ทุกงาน แล้วที่แปลกยิ่งกว่านั้นก็คือ บรรดาผู้ที่โดนหลอกลวงก็ไม่รู้จักหาข้อมูลเสียด้วย ทั้ง ๆ ที่ข้อมูลแทบจะท่วมโซเชียลตาย หนักเสียยิ่งกว่า "พายุไต่ฝุ่นรากาซา" ส่งฝนมาเสียอีก แต่กูไม่อ่าน..! ถึงเวลาอย่างไรกูก็ต้องโทรถามก่อน พอบอกให้ไปอ่านข้อมูลก็ "ไม่ได้..ต้องการคำตอบเดี๋ยวนี้..!"

ต้องบอกว่า "สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน" นั้น เรียกได้ถูกต้องมาก..! เรียกว่ามนุษย์ก็คงไม่ได้ เพราะว่าไม่เห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน พอถึงเวลางี่เง่ามาก ๆ บอกให้ไปค้นข้อมูล ก็โวยวายใส่หน้าอีกว่า "พูดไม่ดี..!" บุคคลประเภทนี้ทำให้กระผม/อาตมภาพสงสัยไปยันปู่ย่าตาทวดว่า อบรมพ่อแม่มาอย่างไร ? ถึงทำให้พ่อแม่อบรมลูกมาได้แค่นี้ พูดต่อไปเดี๋ยวจะกลายเป็นด่าชาวบ้านเขาไปอีก..!

เถรี 25-09-2025 00:05

เพียงแต่อยากจะบอกว่า ตั้งแต่วันบวงสรวงเพื่อส่งงานก่อสร้างที่วัดอุทยาน และทำการภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ กระผม/อาตมภาพขอบารมีพระท่านสงเคราะห์อยู่เรื่องหนึ่งก็คือ เรื่องทางชายแดนของเราที่กำลังมีปัญหา คือ ประเทศไทยของเราไม่ได้มีปัญหากับเพื่อนบ้าน แต่เพื่อนบ้านมีปัญหากับไทยเรา..!

แล้วก็เหลือเชื่อที่ว่า คนเขมรจะเชื่อผู้นำของตนเองแบบสุดชีวิตจิตใจ ไม่ได้สนใจว่าความเป็นจริงเป็นอย่างไร ? แต่ถ้าผู้นำบอกกูเชื่อทันที..! บุคคลประเภทนี้ปกครองง่าย แต่ถ้าไม่ "โง่แล้วขยัน" จนโดนฆ่าทิ้งเสียหมด ก็คงจะสร้างความ "เสื่อม" ให้กับข้างบ้านไปอีกนานแสนนาน จนกระผม/อาตมภาพเลิกสงสัยไปแล้วว่าสมเด็จพระนเรศวรมหาราชของเรา ถึงได้จับพระยาละแวกมาทำพิธีปฐมกรรม ตัดศีรษะเอาเลือดล้างตีนเสียให้หายแค้น..! เพราะว่าแม้จะเป็นพระสงฆ์อยู่ในปัจจุบันนี้ กระผม/อาตมภาพก็ยังรู้สึกว่า ถ้าเป็นไปได้กูก็จะทำแบบนั้นบ้าง..!

พอดีวันนี้ไปอ่านบทวิเคราะห์ของต่างประเทศ ซึ่งไม่คิดว่าฝรั่งเขาจะคิดแบบเดียวกับกระผม/อาตมภาพ ก็คือคนเขมรที่พอจะฉลาดมีปัญญา โดนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ไปหมดแล้ว ตั้งแต่สมัยเขมรแดงยึดประเทศกัมพูชา แล้วเขมรแดงที่ลอยหน้าลอยตาอยู่ทุกวันนี้ ก็คือสมเด็จเดโช ฮุน เซน..!

แต่ก็แปลกมากว่าทำไมคนเขมรด้วยกันไม่ได้คิดถึงว่า ผู้นำของตนก็คือผู้ที่ทำลายประเทศชาติอย่างถึงรากถึงโคน..! เพราะว่ายุคนั้นสมัยนั้น ถ้าหากว่าใครมีความรู้ หรือว่าพูดภาษาต่างประเทศได้ ถ้าไม่ใช่เขมรแดงด้วยกันจะโดนฆ่าทิ้งหมด เขาไม่ได้ต้องการคนมีความรู้เอาไว้พัฒนาประเทศชาติ เขาต้องการแค่คนที่สั่งแล้วทำงานได้ ซึ่งความจริงไม่จำเป็นต้องเหลือไว้ก็ได้ ไปซื้อวัวซื้อควายมาสักฝูงสองฝูง ก็สั่งให้ทำงานได้เหมือนกัน..!

ด้วยความที่อดรนทนไม่ไหว
เมื่อขอบารมีพระท่านสงเคราะห์เรื่องความสะดวกสบายในงานที่วัดอุทยาน ก็เลยขอบารมีท่านสงเคราะห์ที่ชายแดนไปด้วย สิ่งที่ต้องการก็คือประมาณพุทธานุภาพในลักษณะของยันต์เกราะเพชร ใครทำอะไรไม่ดีมา ให้ย้อนกลับไปเป็นร้อยเท่าพันทวี..! ประมาณนั้น

จะว่าไปแล้วด้วยความที่เคยเป็นทหารมาทุกชาติ พอเจอเรื่องพวกนี้เข้าแล้ว เลือดรักชาติจึงขึ้นหน้า จะให้มาวางอุเบกขาแล้วดูพี่น้องชาวไทยของเราเดือดร้อนก็ใช่ที่ จึงต้องใช้วิธีนี้ เพราะว่าเป็นวิธีที่เบียดเบียนคนอื่นน้อยที่สุด ประมาณว่าเขาทำอะไรเท่ากับทำตัวเขาเอง อยากเตะฟุตบอลอัดข้างฝา ถึงเวลาฟุตบอลเด้งกลับใส่หน้า ก็ไม่ต้องไปโทษลูกฟุตบอล..!

เถรี 25-09-2025 00:13

เพียงแต่ว่าพวกเราท่านทั้งหลายต้องพยายามวางกำลังใจให้เป็นอุเบกขาให้ได้ ไม่อย่างนั้นก็จะกลายเป็น "วิหิงสาวิตก" ก็คือคิดในการเบียดเบียนคนอื่น เป็นการก่อ "มโนกรรม" ให้เกิดขึ้น ถ้าพูดออกมาอย่างกระผม/อาตมภาพ ก็โดน "วจีกรรม" เข้าไปอีกอย่างหนึ่ง แต่ว่าพวกเราต้องแยกแยะให้ออกว่า อะไรหนัก อะไรเบา อะไรควร อะไรไม่ควร

ยกตัวอย่างก็คือพระภิกษุสามเณรของเราห้ามพรากของเขียว ซึ่งต้นเหตุก็คือพระภิกษุไปตัดกิ่งไม้ แล้วไปทำลายที่อยู่ของรุกขเทวดา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงบัญญัติศีลว่า ไม่ให้พรากภูตคาม ก็คือสิ่งมีชีวิตในลักษณะพืชซึ่งเกิดขึ้น ตัวอย่างผู้ล่วงละเมิดแล้วต้องโทษก็คือเอรกปัตนาคราช ที่ไปทำใบต้นตะไคร้น้ำขาด แล้วไม่ได้แสดงคืนอาบัติ ต้องไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานคือพญานาค อยู่เป็นระยะเวลายาวนานนับพุทธันดร..!

คราวนี้คนรุ่นใหม่ ๆ ไม่รู้จัก "ต้นตะไคร้น้ำ" ก็เลยไปเขียนว่า "ตะไคร่น้ำ" ทำเอากระผม/อาตมภาพนึกถึงตอนที่ท่านปู่หมอชีวกโกมารภัจจ์ มาบอกสูตรยาล้างพิษให้ อย่างหนึ่งที่ท่านบอกก็คือ "ตะคร่าย ตะคร่าย " คนอินเดียพูดไทยได้ชัดแค่นั้น พอถามว่าใช่ตะไคร่น้ำหรือเปล่า ? เกือบจะโดนบาทาท่านเข้าไปแล้ว..! จนกระทั่งท่านบอกว่า "ไอ้ที่เราเอามากิน" เอ้า.. "เทา (ตะไคร่ผมนางเงือก)" บ้านเราก็กินได้ จนกระทั่งท่านต้องบอกว่าใส่แกง ถึงได้รู้ว่าคือต้นตะไคร้..!

เมื่อห้ามพรากภูตคาม แล้วท่านก็ปล่อยให้วัดรกจนเลี้ยงเสือได้ แบบนั้นก็คงไม่ใช่ จึงต้องรู้จักพิจารณา อะไรที่ทำให้วัด สะอาด สว่าง สงบ คนเห็นแล้วอยากเข้าวัด ถึงผิดพระวินัยก็ต้องทำ เพราะว่าการช่วยให้คนเข้าวัดมาสร้างความดี เป็นการลงทุนที่พอจะมีกำไร เราก็ยอมอาบัติไปแล้วกัน..!

จึงเป็นที่น่าเห็นใจ
โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันของเรา ส่วนใหญ่การทำคลิปลงยูทูบต่าง ๆ มักจะใช้ AI อ่าน ซึ่งสร้างความบรรลัยให้กับภาษาของเราเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่า AI ก็อ่านแบบ AI แต่เราอาจจะฟังไม่รู้เรื่อง เขาอ่านตามที่เขาเห็น

อย่างที่บอกทางในกูเกิ้ลแม็พ ซึ่งอ่านว่า "ไลแอ๊บคลองปราปา" ก็คือถนนเลียบคลองประปา นั่นขนาดภาษาอังกฤษ ยังอ่านได้แค่นั้นเอง ก็เลยกลายเป็นอะไรที่ถึงเวลาแล้ว มานั่งหัวเราะแทนที่จะโกรธ แล้วที่หนักกว่านั้นก็คือ เพิ่งจะรู้ว่าพวกนี้เขาฟังเราอยู่ทุกคำ เพราะว่าบางทีคุยกันไปคุยกันมา เจ้าเครื่องก็บอกว่า "ขอโทษ..ช่วยพูดใหม่ เพราะว่าฟังไม่ทัน" ดังนั้น..เวลาท่านบอกว่าต้องการอะไร จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมอยู่ ๆ มีโฆษณาของสิ่งนั้นโผล่ขึ้นมาให้ทันที..!

แต่ว่า
การที่ให้ AI เป็นคนบรรยายแทนเรา ทำให้การเสื่อมของภาษาเรารุนแรงชนิดถึงรากถึงโคน..! ฟังไม่รู้เรื่องยังไม่พอ วรรคตอนก็ใช้การไม่ได้อีกต่างหาก โดยเฉพาะได้ยินคำบรรยายในหนังซีรีส์จีนที่คนอื่นเขาเปิด อยู่ในลักษณะที่ตัวละครเขาหัวเราะ เจ้า AI อ่านว่า "ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ" ได้อารมณ์มากเลย คือ อ่านตามตัวหนังสืออย่างเดียว อารมณ์ไม่มี อาจจะทำให้เด็กรุ่นหลัง ๆ ของเราทำอะไรลงไปโดยที่ไร้อารมณ์ประกอบก็ได้..!

ถ้าอยู่ในลักษณะนี้ ก็เกือบจะเป็นพระอรหันต์อยู่แล้ว เนื่องเพราะว่า
พระอรหันต์ท่านทำการต่าง ๆ โดยกิริยา ไม่มีสภาพจิตปรุงแต่ง ก็เลยไม่เป็นกรรม ชักจะไปไกลเกิน เดี๋ยวคนจะหาว่ากระผม/อาตมภาพไปยืนยันว่า AI เป็นพระอรหันต์อีก..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๒๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:31


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว