กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกันยายน ๒๕๖๘ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=166)
-   -   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๘ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=11222)

ตัวเล็ก 20-09-2025 17:35

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๘
 
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๘



เถรี 21-09-2025 00:45

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๐ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ พวกเราก็มีรัฐบาลใหม่ ซึ่งก็คงจะไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้กับประชาชน นอกจากพวกพ้องและตัวเอง..! โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์เลย ที่บุคคลซึ่งเป็นคนต่างศาสนาและมีจำนวนเพียงเล็กน้อย แต่กลับมาเป็นผู้นำทางวัฒนธรรมของประเทศชาติ..!

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ อาจจะโดนเปลี่ยนแปลงจนกระทั่งทำลายถึงฐานรากของประเทศไทย แต่เชื่อเถอะ..บรรดานักการเมืองไม่มีใครกังวลสนใจเรื่องของประเทศชาติหรอก นอกจากอำนาจเฉพาะตน ที่จะพาให้เขารุ่งเรืองและร่ำรวย พูดง่าย ๆ ว่าไม่ได้มาบริหารประเทศ หากแต่มาเพื่อที่จะเกาะกินประเทศของเราต่างหาก..! โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นพรรคที่รังเกียจสถาบันหลักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะเป็นเจ้าของวาทกรรมที่ว่า "ทหารมีไว้ทำอะไร ?" "พระมหากษัตริย์มีไว้ทำอะไร ?"

กระผม/อาตมภาพอยากจะบอกกับท่านทั้งหลายว่า ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายยังทำตัวเป็นคนหูหนวกตาบอด ปล่อยให้คนพวกนี้เข้ามาเกาะกิน ประเทศชาติของเราก็อาจจะพังทลายเช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ ตัวอย่างก็คือประเทศเนปาล สถาบันพระมหากษัตริย์โดนทำลายลงไป แล้วบรรดานักการเมืองก็ขึ้นมามีอำนาจแทน แต่ไม่ได้ทำอะไรซึ่งเป็นประโยชน์แก่ประชาชนเลย นอกจากกอบโกยและโกงกินจนกระทั่งร่ำรวย ปล่อยให้ลูกหลานกร่างไปทั้งบ้านทั้งเมือง จนกระทั่งท้ายที่สุด ประชาชนก็ทนไม่ได้ ออกมาเผาบ้านเผาเมือง โดยที่ไม่มีใครสามารถห้ามปรามได้..!

ไม่เหมือนกับประเทศของเรา ไม่ว่าจะเป็น "วันมหาวิปโยค" ก็ดี หรือว่า "พฤษภาทมิฬ" ก็ตาม เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวออกมา ทุกอย่างก็โดนระงับยับยั้งลงอย่างราบคาบ เพราะว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็คือเจ้าของประเทศชาตินั่นเอง แล้วพระองค์ท่านก็ไม่ได้เห็นว่าเป็นคนไทย เป็นคนต่างด้าว เป็นไทยพุทธ เป็นคริสต์ เป็นอิสลาม เป็นฮินดู หรือว่าเป็นซิกข์ แต่ในสายตาของพระองค์ท่าน ทุกคนก็คือพสกนิกรที่พระองค์ท่านต้องดูแล เพื่อให้เขาเหล่านั้นอยู่ดีกินดี เพียงแต่ว่าบรรดานักการเมืองไม่ได้คิดแบบนี้ ไม่ได้เห็นแบบนี้

เถรี 21-09-2025 00:47

ถ้าสมมติว่าประเทศไทยเป็นบริษัทบริษัทหนึ่ง บรรดาบุรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าของเรา ก็คือผู้ก่อตั้งบริษัทขึ้นมา พระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบันก็คือผู้จัดการบริษัทนั้น จึงไม่มีใครต้องการที่จะทำให้บริษัทของตนพังทลายลงไป นอกจากต้องพยายามบริหารให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นมา

แต่ว่าบรรดานักการเมืองของเรา ซึ่งเป็นบุคคลที่เปรียบเสมือนลูกจ้าง ที่ได้รับการว่าจ้างเพื่อให้บริหารบริษัทนี้ให้เจริญรุ่งเรือง แต่ปรากฏว่าทุกคนเข้ามาแล้ว ก็เบียดบัง กอบโกย โกงกิน เท่านั้นยังไม่พอ ยังพยายามที่จะล้มล้างเอาเจ้าของบริษัทเดิมออกไป โดยที่ไม่ได้สนใจว่าพนักงานชั้นล่างอีกจำนวนมากมายมหาศาลนั้น มีความต้องการอย่างไร ? สนใจอยู่อย่างเดียวก็คือ ถ้าอำนาจอยู่ในมือของตนเมื่อไร ก็จะทำการกอบโกย โกงกินกันอย่างไม่ลืมหูลืมตา แม้ว่าจะสร้างความเดือดร้อนให้กับพนักงานส่วนใหญ่ทั้งบริษัทก็ไม่สนใจ..!

ท่านทั้งหลายต้องไม่ลืมภาษิตจีนที่ว่า "น้ำพยุงเรือให้ลอยได้ ก็สามารถล่มเรือได้" สักวันหนึ่งถ้าประชาชนทนไม่ไหว ก็จะออกมาลักษณะเดียวกับประเทศเนปาล หรือว่าอย่างในปัจจุบันก็คือประเทศฝรั่งเศส ที่มีการประท้วงกันอย่างหนักหนาสาหัส

ถ้าท่านทั้งหลายสามารถที่จะปราบปรามได้ อย่างน้อยก็ต้องมือเปื้อนเลือด เสียประวัติ ทำให้วงศ์ตระกูลของตนเองฉาวโฉ่ไปชั่วกาลนาน แต่ถ้าปราบปรามไม่ได้ ท่านทั้งหลายก็จะกลายเป็นบุคคลที่ไม่มีแผ่นดินจะอยู่..! เพราะว่าไม่มีประชาชนคนไหนต้องการบุคคลที่เข้ามาโกงกิน โดยไม่สนใจความเป็นอยู่ของชาวบ้านทั่วไป แล้วก็ไม่มีประชาชนคนไหนต้องการบุคคลที่ทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์แบบนั้น

โดยเฉพาะบุคคลที่มีพ่อเป็นเขมร..! เมื่อเป็นใหญ่ในแผ่นดินขึ้นมา แทนที่จะทำความเจริญให้กับประเทศชาติบ้านเมืองของเรา กลับไปเกรงใจเพื่อนบ้านที่หาความดีไม่ได้ นอกจากคอยที่จะทำลายและทำร้ายเราอยู่ตลอดเวลา แต่ท่านก็ยังเห็นเขาเป็นพ่อ รู้สึกว่าอนาถใจมาก ไม่คิดเลยว่าบุคคลที่ได้ชื่อว่ามีชื่อเสียง มีฐานะ มีเกียรติในสังคม จะยอมลดตัวลงไปเป็นลูกไล่ของประเทศเล็ก ๆ ที่หาเครดิตไม่ได้ในสายตาชาวโลก พูดง่าย ๆ ว่าท่านไม่รู้สึกอับอายขายหน้า เรียกเขาเป็นพ่อได้อย่างเต็มปากเต็มคำ แต่กระผม/อาตมภาพและประชาชนคนไทย อับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว..!

เถรี 21-09-2025 00:51

อยากจะบอกว่าบรรดานักการเมืองนั้น มีสิ่งหนึ่งที่คนทั่วไปไม่มี ก็คือความหน้าด้านและใจดำ คำว่า "หน้าด้าน" ก็คือ สามารถที่จะกลืนน้ำลาย หรือว่าพลิกลิ้นทุกอย่างได้ เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง คำว่า "ใจดำ" ก็คือ เพื่อผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องแล้ว ต่อให้ชาวบ้านจะล้มตายสาหัสแค่ไหน ทหารตำรวจชายแดนจะบาดเจ็บล้มตายแค่ไหนก็ไม่สนใจ แถมยังเหยียบย่ำซ้ำเติมอีกด้วย..!

อยู่ในลักษณะที่ว่า มียามคอยดูแลให้บ้านของท่านปลอดภัย นอกจากไม่เห็นความดีแล้ว ยังตำหนิด่าว่ายามเสียอีก ว่าไร้ความสามารถ ต่อต้านบรรดาผู้ร้ายที่มาบุกรุกไม่ได้ ถึงขนาดบาดเจ็บล้มตาย จะจ้างเอาไว้ทำอะไร ? เหล่านี้เป็นต้น สิ่งที่บั่นทอนกำลังใจของบรรดาผู้เป็นรั้วของชาติก็ดี บั่นทอนกำลังใจของชาวบ้านทั้งหลายก็ตาม สักวันหนึ่งก็จะกลับมาสนอง ให้ท่านทั้งหลายกลายเป็นบุคคลที่ไม่มีแผ่นดินจะอยู่ในเวลาอันไม่นาน..!

เรื่องพวกนี้จะว่าไปแล้ว ไม่น่าที่กระผม/อาตมภาพจะต้องออกมาพูด แต่ก็ขอพูดเอาไว้ อย่างน้อยก็เป็นบันทึกประวัติศาสตร์หน้าหนึ่ง ประมาณว่าบ้านเราเมืองเราหาคนดีไม่ได้แล้ว เพราะว่าคนดี ๆ ไม่มีใครอยากจะลงไปเกลือกกลั้วในปลักโคลนโสมมแบบการเมือง จึงพากันถอนตัวหนีห่างออกไป

ส่วนท่านทั้งหลายเมื่อเข้ามา ชื่อเสียงเกียรติภูมิ เกียรติยศ เกียรติศักดิ์ของวงศ์ตระกูลก็ไม่คำนึงถึง ถ้าสามารถทำให้ตนเองและพรรคพวกร่ำรวยขึ้นมาได้ มีอำนาจอยู่ในมือ ก็สามารถทำได้ทุกอย่างแบบหน้าด้าน ๆ ไม่ว่าใครจะมีคดีความอะไรก็ตาม กูก็สามารถใช้อำนาจในการกลบเกลื่อน หานักการเมืองหรือนักกฎหมายที่มีวาทะกรรมสวยหรู ออกมาพลิกลิ้น "กล่าวผิดเป็นถูก" "ชี้ม้าเป็นกวาง"..!

เรื่องพวกนี้มีประวัติศาสตร์ในชาติอื่น ๆ เป็นจำนวนมากมาแล้ว ที่เห็นชัด ๆ อยู่ว่า เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นเมื่อไร ประเทศชาติก็จะมีการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้าคว่ำดินเมื่อนั้น เนื่องเพราะว่าถึงเวลาชาวบ้าน ถ้าโดนกดอยู่จนทนอึดอัดไม่ไหว ก็จะระเบิดออกมา แล้วท่านทั้งหลายก็ได้เห็นเนปาลเป็นตัวอย่าง ได้เห็นฝรั่งเศสเป็นตัวอย่าง หรือว่าเห็นอดีตของประเทศไทยเป็นตัวอย่าง ไม่ว่าจะเป็น "เหตุการณ์๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖" "เหตุการณ์ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙" หรือว่า "พฤษภาทมิฬ ๓๕" ก็ตาม..!

เถรี 21-09-2025 00:53

เมื่อถึงเวลานั้นแล้ว ต่อให้ท่านทั้งหลายพยายามที่จะขอความเมตตาเท่าไร ประชาชนคนไทยก็คงจะรู้จักหลาบจำ แล้วท่านก็ไม่สามารถที่จะกลับคืนบ้านคืนเมืองตนเอง ดีไม่ดีตายแล้วแม้แต่กระดูกยังไม่ได้กลับสู่มาตุภูมิ..! ถ้าอยู่ในลักษณะอย่างนั้น แทนที่จะมีคนเห็นใจ กลับมีแต่คนจะสมน้ำหน้า บุคคลที่มารยาทน้อยหน่อย ก็อาจจะมีการถ่มถุยให้อีกต่างหาก..!

ถ้าท่านคิดว่าสภาพแบบนั้น เหมาะสมกับตัวเองและวงศ์ตระกูลแล้ว ก็ขอให้ท่านทั้งหลายทำประโยชน์เพื่อตนเองต่อไป รอเวลาที่หม้อน้ำทานแรงเดือดไม่ไหว ระเบิดออกมาเมื่อไร แล้วท่านก็จะได้รู้ว่าพลังประชาชนนั้นคืออะไร..!?

สำหรับวันนี้กระผม/อาตมภาพได้ไปทำหน้าที่นำญาติโยมทั้งหลายภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ ที่วัดอุทยาน ตำบลบางขุนกอง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี เห็นญาติโยมตั้งใจไปทำความดีกันอย่างหนาแน่น ก็ยังรู้สึกปีติและปลื้มใจ

ถ้าหากว่างานใหญ่ ก็คืองานบวงสรวงไหว้ครูและเป่ายันต์เกราะเพชร ในวันเสาร์ที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๖๘ นี้ ญาติโยมทั้งหลายไปกันหนาแน่นแบบนี้ กระผม/อาตมภาพก็จะได้อาศัยบารมีพระ หรือว่าพรหมเทวดา ท่านช่วยกันอนุเคราะห์สงเคราะห์ รวบรวมกำลังใจของญาติโยมทั้งหมด ที่มุ่งมั่นเป็นหนึ่งเดียวนั้น ใช้ในการรักษาสถานการณ์ประเทศชาติของเรา อะไรที่หนักก็จะได้ผ่อนให้เบา อะไรที่เบาก็จะได้ทำให้หาย

อย่างน้อย ๆ ให้ประเทศชาติของเราสามารถยืนหยัด ฝ่าวิกฤตโลก ซึ่งจะเกิดขึ้นในเวลาอีกไม่นานนี้แล้ว สามารถที่จะเอาตัวรอดท่ามกลางกระแสคลื่นลมสาหัสนี้ไปได้ จึงต้องขอยืมกำลังใจทุกท่าน โดยที่ไม่ได้บอกกล่าวให้ชัดเจน แต่ก็ขอแสดงความขอบคุณขอบใจทุกคน ที่ให้ความร่วมมือด้วยดีเสมอมา

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๒๐ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:49


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว