กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมิถุนายน ๒๕๖๘ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=163)
-   -   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๘ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=11056)

พิชวัฒน์ 17-06-2025 18:19

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๘
 
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๘



เถรี 18-06-2025 00:43

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๑๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ เมื่อนำพระภิกษุสามเณรบิณฑบาตและฉันเช้าแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เดินทาง "ลง" เมืองกาญจนบุรี ซึ่งการเดินทางลงนั้นก็พูดตามลักษณะของพื้นที่ เนื่องเพราะว่าทองผาภูมินั้นเป็นที่สูงกว่า ถ้านับระหว่างทองผาภูมิกับกรุงเทพฯ ทองผาภูมิก็จะสูงกว่าถึง ๖๐๐ กว่าเมตร ดังนั้น..ถ้าหากว่าออกจากทองผาภูมิ ภาษาคนโบราณจึงเรียกว่า "ขาล่อง" ก็คือลงไปยังจังหวัดกาญจนบุรี หรือว่าออกไปจังหวัดอื่น ๆ แต่ถ้าหากว่ากลับทองผาภูมิก็จะเป็น "ขาขึ้น" ก็คือกลับขึ้นสู่ที่สูงนั่นเอง

มาพักฉันภัตตาหารเพลที่วัดราษฎร์ประชุมชนาราม (วัดท่ามะขาม) หมู่ที่ ๒ ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี แล้วจึงตรงไปยังวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) เพื่อร่วมการประชุมพระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรี ระดับเจ้าคณะจังหวัด รองเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ และเลขานุการ ร่วมกับสำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี และประธานฝ่ายบริหารงานคณะสงฆ์ทั้ง ๖ ด้านของจังหวัดกาญจนบุรี

ความจริงวันนี้ ถ้านับตามตำแหน่งของกระผม/อาตมภาพ ก็คือที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีนั้น ไม่ต้องเข้าร่วมการประชุมก็ได้ แต่ในการประชุมครั้งที่แล้ว กระผม/อาตมภาพเพิ่งได้รับแต่งตั้ง เป็นประธานฝ่ายบริหารการศึกษาสงเคราะห์ ของคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรี จึงต้องมาประชุมตามตำแหน่งใหม่นั่นเอง โดยมีพระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ. ๙) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีเป็นประธานในการประชุมครั้งนี้

เพียงแต่ว่าการประชุมในวาระที่ ๑ ถึงวาระที่ ๔ นั้น มีกระผม/อาตมภาพเป็น "ตัวปัญหา" อยู่คนเดียว เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าท่านอื่นคงจะมีความฉลาด อยู่ในลักษณะที่ว่า "พูดมากผิดมาก พูดน้อยผิดน้อย ไม่พูดไม่ผิดเลย" ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงไม่มีใครแสดงความเห็นในที่ประชุม ทั้งที่หลายต่อหลายเรื่องนั้น เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีตั้งวาระการประชุมมาแล้ว ก็ยังมีสิ่งที่ต้องบอกกล่าวเพิ่มเติมกันอีกมาก

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น กระผม/อาตมภาพจึงต้องเป็น "ตัวปัญหา" ต่อไป เนื่องเพราะว่า
เป็นบุคคลที่ไม่ห่วงความก้าวหน้าทางสมณศักดิ์ของตนเอง ไม่ห่วงความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงานของตนเอง หากแต่เอาความดี ความงาม ความถูกต้อง ในการบริหารคณะสงฆ์เป็นหลัก

เถรี 18-06-2025 00:48

โดยเฉพาะการแต่งตั้งคณะกรรมการในการปกครองคณะสงฆ์ทั้ง ๖ ด้านของแต่ละฝ่ายนั้น ไม่มีผู้ใดแสดงความเห็น กระผม/อาตมภาพจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแสดงความเห็นว่า เนื่องจากเป็นการปกครองคณะสงฆ์แต่ละฝ่ายในระดับจังหวัด ดังนั้น..คณะกรรมการจึงควรที่จะมาจากทุกอำเภอ ใน ๑๓ อำเภอของจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อที่จะได้มีผู้รับผิดชอบในแต่ละพื้นที่อย่างชัดเจน ไม่ใช่ให้ประธานบริหารของแต่ละฝ่ายตั้งใครมาก็ได้ ซึ่งถ้าตั้งลักษณะแบบนั้น เราจะเข้าไม่ถึงพื้นที่ ในเมื่อไม่เข้าใจ ไม่เข้าถึง เราก็ไม่สามารถพัฒนาได้ ตามพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่กล่าวถึงการทำงานว่า "ในงานแต่ละอย่างนั้น เราต้องเข้าใจ เข้าถึง จึงสามารถที่จะพัฒนาได้"

ในเมื่อกล่าวขึ้นมาเช่นนี้ ก็เป็นการสร้างงานให้กับบุคคลอื่นอีก..! ก็คือแต่ละอำเภอต้องคัดเลือกตัวบุคคล เพื่อส่งเข้ามาให้เลขานุการเจ้าคณะจังหวัด จัดทำเป็นรายชื่อคณะกรรมการ เสนอต่อหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดให้แต่งตั้งอย่างเป็นทางการ

กระผม/อาตมภาพเองได้ยินแบบนั้นแล้วก็ถอนใจ เนื่องเพราะว่าในการปกครองคณะสงฆ์ทุกระดับ ตั้งแต่เจ้าอาวาสขึ้นไป ก็ต้องทำหน้าที่ในการปกครองคณะสงฆ์ทั้ง ๖ ด้านอยู่แล้ว ในเมื่อเป็นระดับอำเภอ ก็ต้องมีผู้รับผิดชอบในแต่ละด้านเป็นปกติ คุณก็แค่เสนอชื่อผู้รับผิดชอบด้านนั้นของอำเภอคุณขึ้นมา ก็จะได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการฝ่ายนั้น ๆ ไปแล้ว

พูดง่าย ๆ ว่า ถ้าคุณเห็นว่าเป็นภาระที่จะต้องไปค้นหาตัวบุคคลมา แสดงว่าการบริหารงานที่ผ่านมาของคุณนั้นเฮงซวยมาก..! ก็คือไม่มีคณะกรรมการรับผิดชอบอย่างเป็นทางการเลย ต้องขออภัยที่กระผม/อาตมภาพเวลาประชุมก็มักจะไม่ค่อยเกรงใจใคร เนื่องเพราะถือว่าในที่ประชุมนั้น แต่ละท่านมีสิทธิ์มีเสียงเท่ากัน หลังการประชุมแล้วค่อยมาขอขมากันทีหลัง

ส่วนในเรื่องของการฝ่ายศาสนศึกษา ซึ่งท่านพระครูสิริกาญจนาภิรักษ์, ดร. เจ้าคณะอำเภอบ่อพลอย เจ้าอาวาสวัดทุ่งมะสัง ท่านปรารภว่าถ้าแต่งตั้งกรรมการมา เกรงว่าจะไม่ทั่วถึง เนื่องเพราะว่าการศึกษานั้น มีทั้งแผนกบาลี มีทั้งแผนกนักธรรม มีทั้งแผนกธรรมศึกษาซึ่งคู่กับแผนกนักธรรม มีทั้งแผนกปริยัติสามัญ และมีฝ่ายการอุดมศึกษา อย่างเช่นวิทยาลัยสงฆ์ เป็นต้น

กระผม/อาตมภาพจึงบอกว่านั่นไม่ใช่ปัญหา เนื่องเพราะว่าคณะกรรมการบริหารฝ่ายศาสนศึกษา ก็แต่งจากตั้งแต่ละฝ่ายให้มาครบถ้วนสมบูรณ์ ถือว่าเป็น "บอร์ดใหญ่" แล้วให้แต่ละฝ่ายออกไปตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา เพื่อให้การดำเนินงานของแต่ละฝ่ายมีความคล่องตัว ส่วนคณะอนุกรรมการและ "บอร์ดใหญ่" ก็ขึ้นตรงกับหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดอยู่แล้ว เหล่านี้เป็นต้น

เถรี 18-06-2025 00:51

เรื่องของการแสดงความเห็นในที่ประชุม ซึ่งไม่ค่อยมีใครกล้าแสดงความเห็น เพราะเกรงว่าจะกระทบกระทั่งผู้อื่น หางานเพิ่มให้กับผู้อื่น แล้วเขาจะไม่ชอบขี้หน้าตน หรือว่าพูดผิดหู พูดผิดแนวทางการบริหาร กลายไปเพิ่มงานให้ผู้บังคับบัญชา ก็จะทำให้ท่านไม่ชอบขี้หน้า อาจจะทำให้ตำแหน่งหน้าที่การงานของตนสะดุดหยุดยั้งลงก็เป็นได้ ซึ่งเรื่องพวกนี้ กระผม/อาตมภาพไม่เคยคิดถึง เนื่องเพราะว่าจะได้เป็นหรือไม่ได้เป็น จะได้เลื่อนหรือไม่ได้เลื่อนนั้นไม่สำคัญ สำคัญที่สุดก็คือให้งานปกครองคณะสงฆ์ของเราซึ่งกระพร่องกระแพร่งเต็มทีนั้น ออกมาให้ดีที่สุดเท่าที่ความสามารถของเราจะทำได้

ในเรื่องของการศึกษาสงเคราะห์ที่กระผม/อาตมภาพเป็นประธานฝ่ายบริหารอยู่นั้น ก็ได้เสนอแนวคิดไปว่า พระสังฆาธิการทุกระดับตั้งแต่ผู้ช่วยเจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาส และเจ้าอาวาสขึ้นมา ต้องมีการตั้งทุนการศึกษาสงเคราะห์อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นทุนระดับประถมศึกษา ทุนระดับมัธยมศึกษา หรือว่าทุนระดับอุดมศึกษาก็ตาม ให้พิจารณาตั้งทุนการศึกษาพระภิกษุสามเณรแบบวัดท่าขนุนด้วย

เมื่อตั้งทุนแล้ว ก็ขอแค่การบริจาคทุน หรือว่าการแจกทุน ในลักษณะของ "สัจจะออมทรัพย์" ก็คือให้ทำเท่า ๆ กันทุกเดือน จะเป็น ๑๐๐ บาท ๒๐๐ บาท ๓๐๐ บาท ก็แล้วแต่มากน้อยที่ท่านจะศรัทธา แต่ให้โอนเข้าวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีทุกเดือน ฝ่ายเจ้าหน้าที่การเงินก็จะออกใบเสร็จรับเงินให้ ซึ่งท่านสามารถนำไปแสดง เป็นผลงานด้านการศึกษาสงเคราะห์ของตนเอง ในเวลาขอตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นพระครูสัญญาบัตร หรือว่าตำแหน่งพระอุปัชฌาย์ เราก็จะมีงานที่ครบถ้วนสมบูรณ์ทั้ง ๖ ด้าน

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้พูดไปแล้วก็เป็นการเพิ่มงานให้กับคนอื่นอีกเช่นกัน
แต่ถ้าหากว่าเราไม่ช่วยกันแสดงความเห็น ไม่ช่วยกันพูดออกมา คนที่เขาตีบตันมืดบอด มองไม่เห็นหนทางว่าจะไปอย่างไร ก็คิดไม่ออกเสียทีว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง ซึ่งกระผม/อาตมภาพเองก็ถือว่า เราชี้ทางออกบอกทางถูกให้แล้ว ส่วนท่านจะทำหรือไม่ทำ ถ้ากระผม/อาตมภาพยังมีแรงอยู่ ก็จะช่วยกระตุ้นไปเรื่อย ๆ หมดแรงวันไหน ก็เป็นภาระหน้าที่ของท่านทั้งหลายจะรับผิดชอบกันต่อไป ตัวกระผม/อาตมภาพก็คงไม่ต้องเสียเวลามารับผิดชอบอีกแล้ว..! เป็นต้น

เถรี 18-06-2025 00:54

เรื่องพวกนี้เป็นที่น่าหนักใจมาก ไม่ว่าจะเป็นส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนกระทั่งวงการคณะสงฆ์ของเรา อะไรที่เป็นผลประโยชน์สำหรับตน ก็โดดออกมาแย่งชิงกันอย่างเต็มที่ แต่ถ้าอะไรที่ทำแล้วเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม มักจะไม่ค่อยมีใครยอมแสดงความเห็น ไม่มีใครคอยจะออกความคิดให้ เหมือนอย่างกับกลัวว่าวงการนั้น ๆ หรือองค์กรนั้น ๆ จะเจริญจนเกินไป..!

ทำให้กระผม/อาตมภาพบางทีก็นึกว่า ในเรื่องของการกระทำความดีนั้น เราก็ต้องหน้าด้านหน้าทน ทำไปเรื่อยจนกว่าคนอื่นจะเห็นด้วย หรือว่าจนกว่าจะวาระสุดท้ายของชีวิตเรา ทำไปแล้วถือว่า "ได้ทำ" คนอื่นจะเห็นด้วยไม่เห็นด้วย โครงการนั้นจะประสบความสำเร็จ หรือไม่ประสบความสำเร็จ ก็เป็นเรื่องของอนาคตข้างหน้า แต่ว่าเราได้ทำสิ่งที่สมควรแล้ว ถือว่าสามารถที่จะตอบต่อตัวเองได้ว่า เราได้ทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่ คือการทำหน้าที่ของเราอย่างดีที่สุดแล้ว

คำว่าดีที่สุดก็คือเต็มกำลังกาย เต็มกำลังใจ เต็มกำลังคน เต็มกำลังทรัพย์ เต็มกำลังสติปัญญา ส่วนทำเต็มที่ของเราทุกวิถีทางแล้ว จะเป็นไม้จิ้มฟันไปงัดไม้ซุงหรือเปล่านั้นไม่คิดถึง..! จะกระทบกระเทือนต่ออนาคตของตนหรือเปล่าก็ไม่คิดถึง เนื่องเพราะว่าเราสามารถตอบต่อตัวเองได้แล้วว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เราทำอย่างเต็มที่ อยู่คนเขาก็เกรงใจ จากไปเขาจะคิดถึงหรือด่าส่งก็แล้วแต่ เพราะตอนนั้นเราก็คงไม่ได้ยินแล้ว..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายต่อพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๑๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:50


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว