กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๗ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=154)
-   -   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=10611)

ตัวเล็ก 13-11-2024 19:06

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
 
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๗



เถรี 13-11-2024 22:45

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๑๓ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปยังวัดโพธิ์ผักไห่ หมู่ที่ ๔ ตำบลผักไห่ อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อร่วมพิธีสมโภชพระพิชัยสงคราม ซึ่งพระครูปลัดพิจารย์ วิจารโณ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ผักไห่ ได้ทำการสร้างขึ้นมาตามตำราโบราณ ซึ่งผู้ที่ถ่ายทอดตำรามานี้ก็คือพระครูสมุห์อภิสิทธิ์ อภิญาโณ วัดยานนาวา ซึ่งก่อนที่ท่านจะมรณภาพได้สั่งเอาไว้ว่า "ต้องนิมนต์หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน มาแผ่เมตตาในงานทุกครั้ง เพื่อให้งานนี้สำเร็จอย่างสมบูรณ์"

กระผม/อาตมภาพพิจารณาแล้วว่า การที่ท่านสั่งเอาไว้เช่นนั้นก็เพราะว่า กระผม/อาตมภาพนั้นมาสายบวกนั่นเอง คำว่า "สายบวก" ในที่นี้ก็คือ เกิดมาเป็นทหารทุกชาติ นี่คือสิ่งที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านได้เมตตาบอกกล่าวเอาไว้ด้วย

เมื่อกระผม/อาตมภาพได้รับนิมิตกี่ครั้งก็เห็นว่าตนเองเป็นทหาร ถ้าไม่ใช่รบราฆ่าฟันกับผู้อื่น ก็รบราฆ่าฟันกันเอง..! เนื่องเพราะว่าสมัยนั้นมีการหักเหลี่ยมเฉือนคมกันในวงราชการ พวกใครพวกมัน สายใครสายมันอยู่เหมือนกัน ถ้าหากว่าต้องออกรบเพื่อประเทศชาติ ก็มีการร่วมมือกันชั่วครั้งชั่วคราว ครั้นสิ้นอริราชศัตรูแล้วก็มาฟาดฟันกันเอง เห็นดังนั้นแล้ว บางทีก็เกิดความสลดใจเป็นอย่างมาก..!

ในเมื่อการสร้างพระพิชัยสงครามนั้น พระครูสมุห์อภิสิทธิ์ท่านได้มีคำสั่งเอาไว้เช่นนี้ ทุกครั้งที่มีงานสมโภชพระพิชัยสงครามตามตำรานี้ กระผม/อาตมภาพก็ต้องไปทำหน้าที่กึ่ง ๆ ประธานในงาน แล้วในพิธีสมโภชก็ยังมีพิธีบูชาเทวดานพเคราะห์อีกด้วย บุคคลที่เกิดภายใน ๗ วัน ตลอดจนกระทั่งผู้ที่ไม่รู้วันเกิด ซึ่งใช้ดาวพระเกตุเป็นหลัก สามารถที่จะไปเข้าร่วมพิธีเพื่อเสริมศิริมงคลกันได้ แต่ว่าท่านทั้งหลายก็ต้องหาข้อมูลกันเองว่า ทางวัดโพธิ์ผักไห่นั้นจัดงานขึ้นในช่วงไหนบ้าง ?

กระผม/อาตมภาพไปถึงได้ไม่นาน ท่านพระครูปลัดพิจารย์ วิจารโณก็ดี บรรดาคณะศิษย์ก็ตาม ได้นิมนต์ให้ไปปล่อยพันธุ์ปลา ๕,๐๐๐ ตัว ลงสู่แม่น้ำน้อยหน้าวัดก่อน หลังจากนั้นแล้วถึงมาทำพิธีบวงสรวงบูชาพระรัตนตรัย แล้วก็อธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคล ที่ร่วมอยู่ในพิธีสมโภชพระพิชัยสงครามในครั้งนี้

เมื่อเป็นจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นจังหวัดของครูบาอาจารย์ ก็คือหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ก็ต้องกราบอาราธนาครูบาอาจารย์มาก่อน ครั้นเมื่อกราบอาราธนาครูบาอาจารย์ของตนแล้ว ก็ขออนุญาตกราบอาราธนาครูบาอาจารย์สายจังหวัดพระนครศรีอยุธยามาทั้งหมด

ปรากฏว่าผู้ที่เป็นผู้นำมาเลยก็คือสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว ไล่ลงมาตามลำดับ ๆ จนกระทั่งมีหลวงปู่ปาน วัดบางนมโคเป็นที่สุด ครูบาอาจารย์หลายองค์ก็เป็นที่คุ้นเคยกัน อย่างเช่นหลวงปู่คล้าย วัดบางนมโค หลวงปู่เล็ก วัดบางนมโค หลวงปู่อยู่ วัดบ้านแพน หลวงปู่สังข์ วัดน้ำเต้า หลวงปู่ยิ้ม วัดเจ้าเจ็ด หลวงปู่ขัน วัดนกกระจาบ ฯลฯ เหล่านี้เป็นต้น

เถรี 13-11-2024 23:00

ในเมื่อครูบาอาจารย์ท่านมา กระผม/อาตมภาพก็กราบเท้ามอบถวายหน้าที่ ให้ท่านทั้งหลายดำเนินการไปตามแต่จะเมตตาสงเคราะห์ แต่ไม่ทราบเหมือนกันว่าตนเองนั่งไปนานขนาดนั้น เนื่องเพราะว่าเริ่มพิธีประมาณ ๘ โมงครึ่ง ลืมตาขึ้นมาอีกทีก็ประมาณ ๑๐ โมงไปแล้ว..! แต่ว่าพิธีการสวดนพเคราะห์ก็ยังไม่จบสิ้น ไปถึงพระราหูพอดี ในเมื่อ "พี่ใหญ่" ท่านมา กระผม/อาตมภาพก็สบายใจ ปล่อยให้ท่านทำหน้าที่ของท่านไป ตนเองก็ทำน้ำมนต์พรมรอบพิธี แล้วเจ้าภาพถวายไทยธรรมมาพร้อมกับกล่องอาหารกลางวัน กระผม/อาตมภาพจึงขออนุญาตเดินทางกลับวัดตัวเอง

จากวัดโพธิ์ผักไห่วิ่งไปถึงวัดท่าขนุนเป็นเวลา ๔ ชั่วโมงกว่า อากาศก็ต่างกันสุดขั้ว เนื่องเพราะว่ายิ่งวิ่งขึ้นไปใกล้ทองผาภูมิเท่าไร อุณหภูมิก็ลดฮวบ ๆ ลงไป จนต่างกันถึง ๔ องศาเซลเซียส..! คาดว่าถ้าเป็นช่วงค่ำ อาจจะต่างกันมากกว่านี้อีก ทำให้บุคคลที่มีมาลาเรียอยู่ในร่างกายอย่างกระผม/อาตมภาพแทบจะสิ้นชีวา..!

ยังดีว่าวันนี้เป็นวันที่ ๑๓ ของเดือนที่อยู่นอกพรรษา ซึ่งจะเป็นวันที่ทางวัดท่าขนุนจัดให้มีการสวดพระพุทธมนต์เย็น ถวายแก่หลวงปู่สาย อคฺควํโส (พระครูสุวรรณเสลาภรณ์) ครูบาอาจารย์ของวัดท่าขนุน ซึ่ง
ตั้งแต่มรณภาพไปในวันที่ ๑๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๓๕ ก็ได้ทำพิธีแบบนี้มาตลอดทุกเดือน ยกเว้นว่าเดือนที่อยู่ในช่วงพรรษา ก็จะทำบุญในวันพระที่ใกล้เคียงกับวันที่ ๑๔ ของเดือนนั้นมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ถือว่าลูกศิษย์ของหลวงปู่สายทั้งหลายนั้น มีความมั่นคงเหนียวแน่นในครูบาอาจารย์ แสดงออกซึ่งความกตัญญูกตเวทิตามาอย่างยาวนาน ทำมาจนกระทั่งถึงปัจจุบันก็เข้าสู่ปีที่ ๓๒ แล้ว

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น การทำวัตรเย็นจึงงดลงไป เหลือแต่การสวดมนต์เย็นตอน ๑ ทุ่มเท่านั้น กระผม/อาตมภาพจึงมีเวลาพักมากขึ้น แต่เนื่องจากว่าทางเทศบาลตำบลทองผาภูมิ เริ่มมีการทดสอบการจัดงานลอยกระทง ซึ่งไม่ทราบเหมือนกันว่าจะเริ่มในวันไหน แต่ว่าเครื่องเสียงต่าง ๆ ดังกระหึ่มตั้งแต่วันนี้แล้ว ถ้ามีเสียงรบกวนเข้าไปภายในการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนในครั้งนี้ ก็ต้องขออภัยต่อทุกท่านด้วย

พรุ่งนี้จะงดบิณฑบาต ๑ วัน เพราะว่าตรงกับวันที่ ๑๔ ของเดือน ที่จะมีการทำบุญใส่บาตร แสดงพระธรรมเทศนา และสวดพระพุทธมนต์ถวายหลวงปู่สาย อคฺควํโส ที่บรรดาลูกศิษย์ก็จะมาใส่บาตร ฟังเทศน์ และฟังพระสวดพระพุทธมนต์ด้วยกัน กว่าที่จะได้บิณฑบาตก็ต้องเป็นวันลอยกระทง ก็คือวันที่ ๑๕ ไปแล้ว ซึ่งในวันนั้น ไม่ว่าจะเป็นวันพระใหญ่หรือว่าวันพระเล็ก ถ้าหากว่านอกพรรษา ทางวัดท่าขนุนก็จะออกบิณฑบาตตามปกติ ในเมื่อเป็นวันลอยกระทง แล้วต่อด้วยวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ ทางวัดก็จะจัดให้มีการบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติด้วย

เถรี 13-11-2024 23:07

ส่วนทางร้านค้าชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุน และร้านค้าที่ตลาดริมแควเมืองท่าขนุนนั้น ก็จะมีการแสดงของเด็กนักเรียนโรงเรียนต่าง ๆ ที่ผลัดเปลี่ยนหมุดเวียนกันมาทุกเดือน

เดือนนี้ก็จะมีในวันที่ ๑๖ และวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ ซึ่งท่านใดมาร่วมงานใส่บาตรตอนเช้า ไม่ว่าจะเป็นช่วงวันเสาร์ ในโครงการ "วันเสาร์ใส่บาตรตลาดริมแคว ยลวิถีเมืองท่าขนุน" หรือว่าในวันอาทิตย์ตามโครงการ "หิ้วตะกร้า นุ่งผ้าไทย นั่งแคร่ไม้ ใส่บาตรพระทุกวันอาทิตย์" ก็ตาม ก็จะได้ชมการแสดงของเด็ก ๆ แต่ละโรงเรียน ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมา ตามนโยบายที่กระผม/อาตมภาพมอบให้กับคณะกรรมการที่ว่า "ในเมื่อเราสนับสนุนให้เด็ก ๆ ซักซ้อมการแสดงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนาฏศิลป์หรือการละครก็ตาม เราก็ต้องมีเวทีให้เด็ก ๆ ได้แสดงออกด้วย"

ประกอบกับร้านค้าชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุน และร้านค้าที่ตลาดริมแควเมืองท่าขนุน เริ่มมีนักท่องเที่ยวมากันมากขึ้น ถ้าเดือนไหนมาถูกเวลา ตรงกับวันเสาร์ - อาทิตย์ที่มีการแสดง ก็จะได้ชมการแสดงของนักเรียนฟรี ๆ เป็นบุญตาเป็นบุญตัวกันต่อไป

สำหรับกระผม/อาตมภาพเองนั้น มีหน้าที่สนับสนุนรางวัลหรือว่าทุนการศึกษา สำหรับเด็กนักเรียนที่มาเปิดการแสดงเท่านั้น ตนเองก็ไม่ได้ดูไม่ได้ชมด้วย เนื่องเพราะว่าเมื่อพระรับบิณฑบาตเสร็จ ก็ต้องเดินเลยกลับจากวัดไปฉันเช้า แต่ว่าเด็ก ๆ ไปแสดงหลังจากที่ใส่บาตรเสร็จแล้ว ถือว่าเป็นการเสียสละประการหนึ่ง ก็ได้แต่ขอให้ทางคณะกรรมการชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุนก็ดี คณะกรรมการบริหารตลาดริมแควเมืองท่าขนุนก็ตาม ถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวเอาไว้บ้าง เมื่อถึงเวลาจะได้ส่งเป็นงานของทางชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุน ที่อุตส่าห์ได้รางวัล ๑ ใน ๑๐ สุดยอดชุมชนคุณธรรม ตามโครงการเที่ยวชุมชน ยลวิถีปี ๒๕๖๖ ที่ผ่านมา แต่ว่าเพิ่งจะทำการเปิดตัวกันไปเมื่อเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๗ ที่ผ่านมานี่เอง

การที่ได้รับรางวัลนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพราะว่าถ้าเราตั้งหน้าตั้งตาช่วยกันทำอย่างต่อเนื่อง โอกาสที่จะได้รางวัลนั้นก็มีอยู่แล้ว แต่ว่าการที่จะรักษาระดับเอาไว้ให้คงคุณภาพเท่าเดิมนั้นเป็นเรื่องยาก แล้วขณะเดียวกัน เมื่อรักษาระดับได้แล้ว ยังจะต้องเพียรพยายามให้ก้าวหน้าขึ้นไปอีกด้วย

นั่นเป็นโจทย์ใหญ่ที่บรรดาคณะกรรมการทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นทางชุมชน ทางวัด ทางโรงเรียน และส่วนราชการ จะต้องช่วยกันคิด ช่วยกันทำ เนื่องเพราะว่าชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุนนั้น ได้ขยายงานออกไปใหญ่โตเกินกว่าระดับชุมชนไปมากแล้ว น่าจะอยู่ในระดับอำเภอคุณธรรม ถ้าหากว่ามีรางวัลสุดยอดอำเภอคุณธรรมขึ้นมา ก็ว่าจะส่งเข้าประกวดอยู่เหมือนกัน..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๑๓ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:08


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว