กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกบ้านเติมบุญ ต้นเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๓ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=7292)

เถรี 19-11-2020 09:35

พระอาจารย์กล่าวว่า “ได้วัตถุมงคลไปคุ้มครองรักษาตัวเองได้ อย่างน้อย ๆ ก็ต้องหมั่นภาวนา ถ้าไม่หมั่นภาวนา มีวัตถุมงคลอยู่ก็เหมือนอย่างกับมีสากกะเบือนั่นแหละ..!”

เถรี 19-11-2020 09:35

พระอาจารย์กล่าวว่า “ตอนนี้ที่วัดยังมีพระพุทธรูปอยู่เกือบ ๑๐๐ องค์ ใหญ่บ้างเล็กบ้าง อาตมาเอาเข้ากรรมฐาน ๓ วันไว้ เดี๋ยวมีโอกาสจะให้ "ตัวเล็ก" เอาออกกระทู้ ตอนนี้ยังไม่มีเวลาไปจัดการ เพราะว่าออกกรรมฐานมาก็บวชพระ หล่อพระ เสร็จแล้วยังต้องวิ่งไปพุทธาภิเษกที่วัดธรรมศาลา

แล้วก็เป็นเรื่องที่อัศจรรย์มาก ความจริงอาตมารับของวัดธรรมศาลาไว้ตั้งแต่ช่วงวันที่ ๓๐ แต่ไม่มีเวลาไป เพราะว่าได้รับคำสั่งให้เข้ากรรมฐาน ๓ วัน ก็เลยถามเขาว่า “ถ้าวันที่ ๑ ผมหล่อพระเสร็จแล้วค่อยไปถึงประมาณ ๔ โมงเย็น จะมีปัญหาไหม ?” ทางเจ้าอาวาสบอกว่า “ผมรอหลวงพ่อได้ครับ” ก็เลยไปให้เขา ปรากฏว่าพอนั่งลง พระที่ท่านสวดมนต์อยู่ขึ้น ‘นะโม เม สัพพะพุทธานัง อุปปันนานัง มะเหสินัง ฯลฯ’ สรรเสริญพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์พอดี ไม่ได้นัดกันไว้ ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่พระท่านสงเคราะห์จริง ๆ”

เถรี 20-11-2020 10:37

พระอาจารย์กล่าวว่า “เป็นห่วงญาติโยมอยู่ตรงที่ว่า ในเรื่องการปฏิบัติไม่ค่อยจะเอาจริงเอาจังกัน พวกเราถนัดแต่ในเรื่องของทาน เรื่องของศีล ทานกับศีลเป็นเบื้องต้นกับเบื้องกลางเท่านั้น เบื้องปลายหรือจุดสูงสุดต้องภาวนา ก็คือจากศีล จากสมาธิ ต้องไปปัญญา ปัญญาไม่ถึงก็ไม่สามารถที่จะหลุดพ้นเข้าสู่พระนิพพานได้ เพราะว่ากิเลสมีมายามาก

ถึงเวลาเราตั้งท่าตัดกิเลส กิเลสทำท่าจะตาย ด้วยความที่กิเลสอาศัยร่างกายนี้อยู่ก็บอกว่า เรานี่แหละจะตาย ก็ทำให้ญาติโยมที่กลัวตายต้องหยุด ความจริงทุ่มต่ออีกนิดเดียวก็ชนะแล้ว..!

เถรี 20-11-2020 10:40

พระอาจารย์กล่าวว่า “การที่จะให้ลมหายใจยาว โดยเฉพาะตอนให้พรบทมงคลจักรวาลน้อยโดยหายใจครั้งเดียวนั้น ขึ้นอยู่กับสองประเภท แบบแรกคือพยายามฝึกหัด แบบที่สองก็คือการที่เราเข้าสมาธิให้ลึกเข้าไว้ อาตมาเองไปแช่บ่อน้ำร้อนที่หินดาดเพื่อบำบัดอาการปวดหัวไหล่ จึงลองดำน้ำดู ภาวนาพระคาถาเงินล้านครั้งละ ๕ จบ แล้วค่อยโผล่ขึ้นมา ปรากฏว่าโยมที่ทำตามบอกว่า..จบเดียวยังไม่รอดเลย ...(หัวเราะ)...

คือถ้าเราเข้าสมาธิสูง ๆ จะใช้อากาศน้อย อาตมาลองดูได้ประมาณ ๗-๘ จบ แต่ว่าเพื่อความปลอดภัยก็เอาแค่ ๕ จบ เนื่องจากว่าอยู่ในบ่อน้ำร้อน ถ้าขาดอากาศนาน ๆ บางทีอาจจะน็อกจมน้ำไปเลย ก็เลยอยู่ที่ ๕-๗ จบเป็นประมาณ มากกว่านั้นแล้วไม่เอา

สมัยที่ฝึกในเรื่องของการภาวนาคาถา บางอย่างอย่างเช่น นะมะพะทะ ท่านให้ภาวนา ๑๐๘ จบภายในอึดใจเดียว โอ้พระเจ้า...แทบตาย คือต้องรัวอย่างชนิดที่กิเลสไม่มีโอกาสเกิดเลย เพราะว่าจิตต้องจดจ่ออยู่ตรงหน้า เขาเรียกว่า ๑ คาบลมหายใจ หรือว่า ๑ คาบพระคาถาจะต้องได้กี่จบ ส่วนใหญ่มาตรฐานก็อยู่ที่ ๙ จบ แต่ว่าการฝึกของอาตมาค่อนข้างจะโหดหน่อย ครูบาอาจารย์ท่านเล่นเสีย ๑๐๘ จบ เท่ากับบังคับว่าจะต้องเข้ากรรมฐาน คือเข้าสมาธิให้ได้ ถ้าเข้าไม่ได้ก็ไม่สามารถที่จะเร่งให้จบได้ภายในรอบลมหายใจเดียว”

เถรี 20-11-2020 10:40

พระอาจารย์กล่าวว่า “ได้วัตถุมงคลไปต้องหมั่นภาวนา หมั่นอาราธนาด้วยนะ จับภาพวัตถุมงคลเป็นกรรมฐานได้ก็ยิ่งดี แต่ถ้าเหรียญพญาเต่ามังกรเงินล้านเปิดโลกพลิกชีวิตอย่าไปจับภาพเต่า ให้จับภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเปิดโลกที่บนหลังเต่า ถ้าจับผิดเดี๋ยวก็ได้ไปเกิดเป็นเต่าเท่านั้นแหละ..! ...(หัวเราะ)...”

เถรี 20-11-2020 10:41

พระอาจารย์กล่าวกับโยมคนหนึ่ง “ทางด้านอำเภอท่าม่วง วัดวังขนาย เขามีการแช่น้ำร้อนบำบัดโรค ถ้าหากว่ามีเวลาให้ลองไปดู เพราะว่าเห็นดีขึ้นกันเยอะเลย ไปบอกหลวงพ่อเจ้าอาวาสว่าเป็นลูกศิษย์วัดท่าขนุนก็ได้ เพราะว่าคุ้นเคยกันดี หลวงพ่อเจ้าอาวาสท่านใจดี ท่านรับคนไข้อยู่ประจำเป็นร้อยเลย”

เถรี 20-11-2020 10:42

พระอาจารย์กล่าวกับโยมคนหนึ่ง “เวลาถ่ายรูปหมู่ต้องพยายามหามุมที่เห็นคนทั้งหมดให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ไม่ใช่ถ่ายข้างหลังบังข้างหน้า เห็นยืนอยู่ในมุมที่เหมาะสมแล้ว ทำไมถึงหลบไปถ่ายอีกมุมหนึ่งก็ไม่รู้ ?

เวลาถ่ายรูปงานไม่ใช่ถ่ายรูปเน้นเอาหลวงพ่อคนเดียว ต้องเน้นทั้งคณะ คืออย่างน้อย ๆ ต้องบอกได้ว่าในรูปมีใครบ้าง ไม่ใช่หันหลังให้อย่างเดียว ต่อให้ไม่สามารถรู้ได้ทั้งหมด อย่างน้อยก็ต้องรู้ส่วนมากในรูปให้ได้”

เถรี 20-11-2020 10:43

พระอาจารย์กล่าวถึงแผ่นยันต์เกราะเพชร เรื่องของแผ่นยันต์เกราะเพชร ที่ทำเอาไว้นั้นตั้งใจไว้ว่า คนมักจะให้มาจารแผ่นโน้น แผ่นนี้ แผ่นนั้น ถึงเวลาจะได้เอาแผ่นยันต์นี้ไปหล่อพระแทนได้เลย”

เถรี 20-11-2020 10:44

พระอาจารย์กล่าวว่า “หลวงพ่อพระพุทธลีลาประทานพรเนื้อทองคำหรือว่าเนื้อเงินก็ตาม บูชาด้วยพระคาถาเงินล้านเป็นดีที่สุด เพราะว่าท่านเป็นหลวงพ่อรวยของอาตมา โดยปกติถ้าท่านจะมาสงเคราะห์ก็มาในลักษณะอย่างนี้

แต่ถ้าช่วงไหนมีเรื่องของลาภผลเงินทองเข้ามามาก ท่านจะมาในลักษณะเหมือนอย่างกับหลวงพ่อเงินที่วัดท่าขนุน ก็คือของเรามีหลวงพ่อทองคำ หลวงพ่อนาก หลวงพ่อเงิน ท่านจะมาเป็นหลวงพ่อเงิน แต่สีกายเป็นทองคำสว่างไสวมาก ถ้าลักษณะอย่างนั้นท่านบอกว่าจะมีลาภเป็นพิเศษ ซึ่งท่านก็มาอยู่ภายในวันสองวันนี้ ก็แปลว่าช่วงที่อาตมามารับสังฆทานนี้จะรวยมาก...(หัวเราะ)...”

เถรี 20-11-2020 10:44

พระอาจารย์กล่าวว่า “เนื้ออัลปาก้าชาวบ้านเขาเรียกง่าย ๆ ว่าเนื้อช้อนส้อม คนจีนเขาเรียกว่าแปะตั๊ง ก็หมายถึงทองเหลืองหรือทองแดงสีขาวนั่นแหละ”

เถรี 20-11-2020 10:45

พระอาจารย์กล่าวกับโยมแม่ลูกอ่อนว่า “คุณแม่ไปตุ๋นไก่ดำใส่ขิงเยอะ ๆ ใส่ตังกุยด้วย กินลงไปหน่อย เพราะว่าร่างกายเสียเลือดมากจะเพลียและขี้หนาว คนรุ่นใหม่พ่อแม่ไม่ได้สอนเรื่องนี้ ดังนั้น..กว่าจะฟื้นตัวได้ก็นาน รีบ ๆ ไปทำเสีย หลังจากกินไปแล้วก็เว้นไป ๒-๓ วัน ก็โน่นเลย...แกงเลียงใส่พริกไทยเยอะ ๆ ลูกจะได้มีนมกิน

อาตมาอยู่กับหลานมา ๓๐ กว่าคน ไม่เป็นเรื่องเหล่านี้ก็ต้องเป็น เพราะว่าเห็นอยู่ทุกวัน ...(หัวเราะ)...”

เถรี 20-11-2020 10:47

มีคนลืมทิ้งถุงขยะในบ้านเติมบุญ “ดีเหมือนกันนะ เขาเอาขยะมาทิ้งให้เรา ถือว่าในสิ่งที่คนอื่นเขาไม่ต้องการแล้วยังเอามาให้เราได้นี่ ทุกอย่างเราต้องได้หมดอยู่แล้ว..ใช่ไหม ? ก็คือสิ่งที่คนเขาไม่ต้องการเรายังได้เลย เพราะฉะนั้น..สิ่งที่คนเขาต้องการ เราก็ย่อมต้องได้ด้วย”

เถรี 22-11-2020 09:07

ถาม : มีปัญหาเรื่องการเรียนกับอาจารย์ เสนอเท่าไรก็ไม่ผ่านค่ะ ?
ตอบ : มีอยู่ ๒ อย่างด้วยกัน อย่างแรกก็คือ แนวความคิดของเรายังไม่กว้างพอ สิ่งที่เราเสนอไปกลายเป็นระดับต่ำกว่าที่เรียน อย่างเช่นว่าถ้าเราเรียนปริญญาเอก แต่สิ่งที่เราเสนอไปเป็นแค่แนวคิดระดับปริญญาโท แบบนี้อย่างไรก็ไม่ผ่าน

อีกอย่างหนึ่งก็คือ เราเรียนสาขาอะไร เรื่องที่เราเสนอต้องเกี่ยวข้องกับสาขานั้น อย่างเช่นว่าอาตมาเรียนสาขาการจัดการ เรื่องที่เสนอไปก็คือรูปแบบการจัดการ ถ้าอย่างนี้ได้ แต่ถ้าเสนอไปอย่างเช่นว่า ต้องการที่จะศึกษาสัมฤทธิ์ผลของนักศึกษาที่ออกไปฝึกสอน แบบนี้จะเป็นคนละเรื่องกันเลย

เพราะฉะนั้น..ให้ไปพิจารณาดูว่าเรื่องที่เราเสนออาจารย์ไปนั้น ถึงระดับความรู้ที่เราเรียนอยู่หรือเปล่า ? แล้วขณะเดียวกันเรื่องนั้นเกี่ยวข้องกับสาขาวิชาที่เราเรียนหรือเปล่า ? บางอย่างเหมือนกับใช่แต่ไม่ใช่ อย่างเช่น คณะพุทธศาสตร์ แต่คนไปเสนอหลักธรรมาภิบาล เพราะคิดว่าเป็นธรรมะ แต่ไม่ใช่ ธรรมาภิบาลคือ Good Governance ของฝรั่งเขา อย่างนี้เป็นต้น เพราะฉะนั้น..ไปพิจารณาดูว่าของเราพลาดตรงไหน


ถาม : อาจารย์เขาอยากให้ทำแบบนี้ ๆ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าอาจารย์บอกอย่างไรให้ตามนั้น อย่าไปดื้อ เพราะว่าท่านเป็นที่ปรึกษาของเรา ในเมื่อท่านให้คำปรึกษาแล้วเราก็ควรทำตาม อย่าไปดื้อยืนยันแนวคิดตัวเอง เราเก่งแค่ไหนก็ตาม รอให้เรียนจบก่อน ถ้ายังเรียนไม่จบต้องตามท่านไปอย่างเดียวเลย

ที่เขาบอกว่าการศึกษาระดับมหาบัณฑิต ดุษฎีบัณฑิต เป็นการศึกษาอิสระนั้นไม่จริงหรอก อย่างน้อย ๆ อาจารย์เขาก็ต้องกำหนดกรอบแนวคิดให้กับเรา ในเมื่อเขาเป็นคนวางกรอบ ก็แปลว่าไม่อิสระ เอาเถอะ...รู้มากก็ยากนาน เอาแค่นั้นแหละ “ได้ครับ/ได้เจ้าค่ะ” เท่านั้นก็จบแล้ว ทำตามไปก็แล้วกัน


เถรี 22-11-2020 09:08

พระอาจารย์พูดถึงชื่อโยม “ภิยะพรรณี แปลว่า วรรณะ คือตระกูลอันรุ่งเรือง เป็นชื่อเก่า ๆ โบราณ ๆ ไพเราะมาก โยมเขาคงไม่นึกหรอกว่า บอกชื่ออาตมาเมื่อ ๒๐ กว่าปีก่อนแล้วยังจำได้..!

“ภิยะ” มาเป็นภาษาไทยชัด ๆ ว่า ภิญโญ คือความรุ่งเรืองยิ่ง ๆ ขึ้นไป “พรรณี” มาจากพรรณ มาจากวรรณ ก็คือวรรณะ วรรณะตัวนี้ไม่ใช่ผิวพรรณ วรรณะตัวนี้คือชาติตระกูล ที่เขาบอกว่า อายุ วรรณะ สุขะ พละ ให้เป็นผู้มีอายุยืนนาน ให้เป็นผู้อยู่ในตระกูลสูง ไม่ใช่เป็นผู้มีผิวพรรณงาม เพราะว่าทางด้านอินเดียเขาถือชั้นวรรณะมาก

ดังนั้น..นักเรียนบาลีนี่แปลเข้าป่าเข้าดงมาเยอะแล้ว เพราะว่าไม่ได้ดูบริบทสังคมของเขา วรรโณหรือวรรณะตัวนี้หมายถึงชาติตระกูล อย่างเช่นว่า วรรณะพราหมณ์
วรรณะกษัตริย์ วรรณะแพศย์ วรรณะศูทร อย่างนี้”

เถรี 22-11-2020 09:09

พระอาจารย์บูชาแผ่นยันต์เกราะเพชร “อาตมาไม่ได้อมเฉย ๆ นะ เจ้าอาวาสบูชายังต้องจ่ายเองเลย ...(หัวเราะ)... ราคาตลาดด้วย..! จะได้รู้ว่าวัดท่าขนุนนี่แน่นอนมาก เรื่องบัญชีไม่มีพลาด วัตถุมงคลในวัดแท้ ๆ เจ้าอาวาสต้องการยังต้องซื้อเองเลย

วัตถุมงคลสร้างขึ้นด้วยเงินวัด เพราะฉะนั้น..อาตมาไม่มีสิทธิ์ที่จะไปยึดมาเฉย ๆ อยากได้ก็ต้องจ่ายเอง..!”

เถรี 22-11-2020 09:14

ถาม : เดือนที่แล้วเป็นลมหน้ากุฏิ แล้วตัวล้มเฉียงไปชนกับชั้นวางของ คือถ้าเกิดลงทางด้านซ้ายก็หล่นบันไดไปแล้ว ถ้าล้มหน้าก็ลงพื้นเลย ? (สนทนากับพระ)
ตอบ : นั่นแหละ..อย่างน้อย ๆ ก็ยังมีพระ มีพรหม มีเทวดา ท่านช่วยป้องกันให้ ก็จะเปลี่ยนจากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นหาย หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านถึงได้บอกว่า เรื่องของวัตถุมงคลนี่ ตัวเราเผลอได้ ขาดสติได้ วาระกรรมเข้ามาถึงก็จะเป็น สังเกตว่าตอนนั้นความรู้สึกของเราจะหายไปวูบหนึ่ง นั่นแหละ..นั่นคือวาระกรรมเข้ามาแทรก แต่คราวนี้วาระแบบนี้ ถ้าเราอาราธนาวัตถุมงคลไว้ พรหม เทวดา ครูบาอาจารย์ ท่านก็จะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา

ถาม : อาราธนาเป็นประจำ เหมือนกับเป็นความมั่นใจอยู่ลึก ๆ ในตัวเองตลอดเวลา ?
ตอบ : ผมเองเจอพวกนี้มาจนเคยชิน คือเป็นไปไม่ได้เพราะว่าภาวนาอยู่ตลอด แล้วทำไมอยู่ ๆ สติถึงหายไปวูบหนึ่ง ?
ตรงนั้นเหมือนอย่างกับอะไรทุกอย่างโดนลบเกลี้ยงไปเลยนะ แค่พริบตาเดียวเท่านั้นเอง ประมาณ ๒-๓ วินาทีเท่านั้น แต่เรื่องก็เกิดแล้ว โชคดีที่ว่าทุกครั้งที่เกิดขึ้น ยังไม่เคยเป็นอะไรมาก

เถรี 22-11-2020 09:16

ถาม : ลูกขอห้อยตะกรุดเมฯ เจ้าค่ะ ?
ตอบ : ตีลูกไม่ได้แล้ว แต่บอกลูกให้ระวังเรื่องข้อห้ามเอาไว้ด้วย

ถาม : หนูก็ถามลูกว่า เพื่อนแกล้งไหม ? ครูตีหรือเปล่า ? เขาบอกว่าครูไม่ตีแล้ว เพื่อนก็ไม่ได้แกล้งมาก แต่ว่าหนูก็กลัวว่าจะเผลอตีเขาเล่น ๆ จะได้ไหมเจ้าคะ ?
ตอบ: ก็เล่น ๆ นั่นแหละ คนตีแขนหักมาแล้ว ...(หัวเราะ)...

ถาม : แล้วหนูสมควรจะให้เขาไหมเจ้าคะ ?
ตอบ : สมควร..เราจะได้มีสติรู้ระมัดระวัง แล้วขณะเดียวกันลูกก็จะต้องรู้ด้วยว่าต้องระวัง ต่อให้ไม่มีตะกรุด วัตถุมงคลชุดนี้ถ้าเป็นเนื้อทอง เนื้อนาก เนื้อเงิน ใช้ได้หมดเลย ก็แปลว่าสาหัสพอกับตะกรุดนั่นแหละ..!

เถรี 22-11-2020 09:16

พระอาจารย์กล่าวว่า “เขาบอกว่า โจ ไบเดน ยืนยันจะคืนดีกับจีน เพราะว่าเป็นญาติกับโจโฉ แซ่โจเหมือนกัน ...(หัวเราะ)... แซ่โจนี้ภาษาจีนกลางคือแซ่เฉา คนเขียนก็เขียนไปเรื่อยเปื่อย”

เถรี 22-11-2020 09:18

ถาม : ผมบูชาพระสมเด็จองค์ปฐมเนื้อเขียวเหล็กไหล แล้วผมโอนผิดบัญชี โดนแบนไป ๓ เดือน พอปลดแบนแล้วก็จองอะไรไม่ได้เลย เจ้าหน้าที่บอกว่าโดนแบนตลอดชีวิต ?
ตอบ : ก็ว่าไปตามกฎเกณฑ์กติกาของเขา

ถาม : ผมขอแสดงความคิดเห็นว่า ถ้าลูกศิษย์เก่า ๆ โดนแบนแล้วกลายเป็นจองไม่ได้ อีกหน่อยจะเหลือแต่ ...(ไม่ชัด)... เพราะว่าเขาก็จะเปลี่ยนคนหรือหาชื่อมาใหม่ ?
ตอบ : เรื่องของเว็บไซต์เขามีคณะกรรมการบริหารอยู่ อาตมาไม่มีหน้าที่ไปยุ่งเกี่ยวด้วย

ถาม : เขาให้มาแจ้งหลวงพ่อครับ ?
ตอบ : แจ้งหลวงพ่อ หลวงพ่อก็บอกชัด ๆ แบบนี้แหละ ก็คืออาตมาไม่ไปล้วงลูก ให้อำนาจเขาเต็มที่ ในเมื่อให้อำนาจเขาแล้ว ถ้าเราไปล้วงลูกก็ผิดมารยาท

กฎเกณฑ์กติกาการใช้เว็บไซต์เขากล่าวเอาไว้ชัดเจน บอกเอาไว้ชัดเจน เมื่อถึงเวลาของเราผิดพลาด ก็ต้องทำตัวให้สมกับนักปฏิบัติธรรม ก็คือยอมรับกฎของกรรมไป

เถรี 22-11-2020 09:20

พระอาจารย์กล่าวว่า “บ้านเราเมืองเราช่วงนี้ก็ลำบากเรื่องตรงที่มีม็อบ คำว่า ม็อบ คือพลังมวลชน มีทั้งช่วยกันในสิ่งที่ดี แล้วก็ช่วยกันในสิ่งที่ไม่ดี ถ้าหากว่าพลังมวลชนนี้ช่วยเหลือเจือจานกันในสิ่งที่ดี ก็ทำให้ส่วนรวมเจริญรุ่งเรือง ถ้าหากว่าช่วยกันในสิ่งที่ไม่ดี ก็อาจจะมีแต่สร้างความลำบากความเดือดร้อนให้กับคนอื่นเขา

แต่คราวนี้ในเรื่องของพลังมวลชนนั้น ถ้าหากว่ามาก รัฐบาลเขาไม่ปะทะด้วย เขารอตอนที่เหลือไม่กี่คน แล้วก็จะไปกวาดพวกหัวมาหมด เพราะฉะนั้น..ใครก็ตามถ้าหากว่าออกไปม็อบนี่ต้องทำใจเลยว่า ถ้าถึงเวลาคดีจะมาถึงตัวอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นโดยตรงไปตรงมาเพราะเราละเมิดกฎหมายจริง ๆ หรือว่าเป็นการกลั่นแกล้งกันโดยใช้กฎหมายก็ตาม ไม่ช้าก็เร็วต้องโดนแน่..!

เพราะฉะนั้น..การที่เราจะไปม็อบจะไปอะไรก็ต้องดูด้วย อย่างปัจจุบันนี้ก็จะมีพลังมวลชนในการหนุนสถาบันพระมหากษัตริย์ แล้วก็มีพลังมวลชนในการที่เรียกร้องให้รัฐบาลลาออก เรียกร้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่คราวนี้พลังมวลชนฝ่ายหลังคือการเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก เรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ยังขาดความชัดเจนอยู่มาก

คำว่า ขาดความชัดเจน เท่าที่ดูคลิปที่ญาติโยมส่งมาให้ เหมือนกับว่าขึ้นไปด่าเอามัน รัฐธรรมนูญมีเป็นร้อย ๆ มาตรา คุณจะแก้มาตราไหน ? แก้เพราะว่าไม่ดีตรงไหน ? แก้แล้วจะดีอย่างไร ? เราต้องตอกย้ำประเด็นให้ชัดเจน ต้องการให้รัฐบาลลาออกเพราะบริหารงานผิดพลาดตรงจุดไหน ? ไม่ใช่ขึ้นไปแล้วก็ด่า ๆ ๆ หยาบคายจนฟังไม่ได้

รุ่นของอาตมานี่อย่างน้อย ๆ พ่อแม่อบรมมา จะด่าใครก็ตามเราต้องคิดก่อน เพราะว่าอย่างน้อย ๆ เรื่องของการหมิ่นประมาทซึ่งหน้า ทางข้อกฎหมายเขาก็มีอยู่ ดังนั้น..เรื่องพวกนี้ถ้าหากว่าขาดความชัดเจน คนที่เขาจะเห็นด้วยแล้วก็ไปร่วมเป็นพลังมวลชนก็จะน้อย ถ้าหากว่าม็อบสามารถแก้ไขตรงจุดนี้ได้ สิ่งที่เขาเรียกร้องจะมีพลังมากกว่านี้ แล้วก็จะได้รับการสนับสนุนมากกว่านี้ โดยเฉพาะให้ลดความหยาบคายลงหน่อย บ้านเราเมืองเราอย่างน้อย ๆ ยังมีคำว่า สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล คนรุ่นของอาตมายังรู้สึกว่าระคายหูมาก ...(หัวเราะ)...”


เถรี 22-11-2020 09:22

ถาม : การปฏิบัติเพื่อความเป็นพระโสดาบัน มีจุดพิจารณาสำคัญอยู่ตรงไหนครับ ?
ตอบ : อยู่ตรงที่ว่ากำลังใจเราจะเกาะพระนิพพานแน่นแฟ้น พูดง่าย ๆ คือรักพระนิพพานอย่างชนิดที่ยอมตายได้เพื่อพระนิพพาน ถ้าเข้าถึงจะเป็นเองโดยอัตโนมัติ

เถรี 25-11-2020 09:19

ถาม : (การสร้างตะกรุดมหาสะท้อน) ?
ตอบ : เขียนแล้วเสกด้วยคาถา เมสัมมุกขา สัพพาหะระติ เตสัมมุกขา ๑๐๘ จบ ไม่ต้องไปขอคนอื่น ขอพระตรง ๆ ได้เลย เรื่องนี้ท่านให้ไว้นานแล้ว เพียงแต่วัสดุที่สร้างตะกรุดต้องเป็นทองคำ นาก หรือเงินเท่านั้น ไปดำเนินการได้ รู้วิธีแล้วก็ลุย
เลย

เถรี 25-11-2020 09:21

ถาม : สอบถามเรื่องพระวินัยครับ เรื่องของมหาปเทส ๔ เกี่ยวกับกาลิกที่ว่าเรื่องอาหาร ?
ตอบ : กาลิกไม่ต้องใช้มหาปเทสเพราะว่าชัดเจนอยู่แล้ว

ถาม : (ไม่ชัด) ?
ตอบ : ใช่...ก็คืออะไรเป็นยามกาลิก อะไรเป็นยาวกาลิก
อะไรเป็นสัตตาหกาลิก อะไรเป็นยาวชีวิก พวกนี้ระบุแน่นอนอยู่แล้ว ไม่ต้องอาศัยมหาปเทส มีแต่โลณเภสัชคือเกลือ ที่เขามีการตีความกันในช่วงการสังคายนาพระธรรมวินัยครั้งที่ ๒ ที่ภิกษุวัชชีบุตรเอาเกลือไปทำอาหาร แล้วยังนับอายุเป็นยาวชีวิกอยู่ ซึ่งปกติแล้วไม่ได้ เพราะว่าต้องนับอายุที่สั้นที่สุดก็คือเป็นอาหาร ก็ได้แค่หลังเพล ถ้าคุณต้องการก็ต้องให้เขาประเคนใหม่ ตรงนี้เขาตีความกันตอนสังคายนาพระธรรมวินัยครั้งที่ ๒

ถาม : สงสัยว่า ถ้าสละแล้วเขาคืนให้มา ก็ไม่ต้องประเคนใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ใช่..โดยปกติแล้วท่านให้ตัดใจสละทิ้งไปเลย แต่โดยมารยาทแล้ว ถึงเราสละให้คนอื่น คนอื่นเขาก็จะคืนให้เรามา เราก็ให้โยมประเคนใหม่อีกครั้งหนึ่ง ไม่ได้ลำบากอะไรมากหรอก ทำให้ถูกไว้ดีกว่า

ถาม : ไม่ต้องอาศัยการตีความด้วยมหาปเทส ?
ตอบ : คือมหาปเทส ๔ ท่านให้ไว้สำหรับเรื่องที่ตีความยากจริง ๆ ไม่ใช่เรื่องที่ชัดเจนอยู่แล้ว

เถรี 25-11-2020 09:52

ถาม : หนูป่วย แล้วมีอยู่ช่วงหนึ่งที่หายใจไม่ค่อยสะดวก คราวนี้เราเกิดความรู้สึกว่า ถ้าถึงเวลาเราหายใจไม่ออกจริง ๆ เราควรจะทำกรรมฐานอย่างไร ?
ตอบ : ก็แค่กำหนดรู้อย่างเดียว รู้ว่าตอนนี้หายใจไม่ออก รู้ว่าตอนนี้หายใจไม่สะดวก รู้ว่าตอนนี้จะตาย แล้วก็แบ่งความรู้สึกส่วนหนึ่งเกาะพระหรือเกาะพระนิพพานไว้

ถาม : ตามรู้คือคิดหรือคะ ?
ตอบ : ไม่ใช่คิด ตอนนี้เป็นอย่างไร รู้ว่าตอนนี้เป็นอย่างนั้น จะตายอยู่แล้วยังต้องคิดไปอะไรอีก..!

เถรี 25-11-2020 09:55

พระอาจารย์กล่าวว่า "ส่วนใหญ่ญาติโยมทำอะไรช้า ก็เลยไม่เคยชินกับความเร็วของวัดท่าขนุน อาตมาออกจากกรรมฐานมา นั่งรับศรัทธาญาติโยมที่ศาลา ๑๐๐ ปีหลวงปู่สาย พอหมดคนก็ไปพัก หกโมงครึ่งลงมาบวชสามเณร เจ็ดโมงครึ่งทำบวงสรวง เสร็จแล้วก็เข้าโบสถ์บวชพระ ๓๙ รูป สิบโมงห้าสิบเจ็ดนาที ออกมาเททองหล่อพระตอน สิบเอ็ดโมง ประมาณ ๑๐ นาทีก็เสร็จเรียบร้อย แล้วก็ไปฉันเพลกัน ญาติโยมเป็นหมื่นยังสงสัยว่า "นี่งานเสร็จแล้วหรือ ?"

ในระยะเวลาที่เท่ากัน ถ้าหากว่ากำลังใจของคนที่รวบรัดตัดตรงจะไม่ยุ่งยาก ทำอะไรมุ่งเอาประโยชน์ที่มากที่สุดและตรงที่สุดเท่านั้น โดยเฉพาะมุ่งเอาเฉพาะงานตรงหน้าเท่านั้น ก็จะทำงานได้มากกว่าคนอื่นเขา"

เถรี 25-11-2020 09:58

พระอาจารย์กล่าวว่า "พรุ่งนี้มีม็อบ ได้ยินว่านักเรียนก็จะไปม็อบ รู้สึกว่านักเรียนสมัยนี้ฉลาดกว่าครูบาอาจารย์

ไปนึกถึงเคออส ความชุลมุนวุ่นวายที่เกิดจากปิศาจ ๗ ตนช่วยกันสร้างขึ้นมา แล้วบรรดานักคิดก็เอามาสร้างเป็นทฤษฏี ความจริงความสับสนวุ่นวายไม่มีอะไรหรอก ก็เกิดจาก รัก โลภ โกรธ หลง ในใจของเรานี่แหละ เป้าหมายใหญ่ก็เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของตน

ดังนั้น...เหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นก็ตาม ถ้าอยากจะรู้ว่าเป็นฝีมือใคร ให้คิดเจาะลงไปเลยว่า เรื่องนี้ถ้าเป็นอย่างนี้ใครได้ประโยชน์ ถ้าเป็นอย่างนั้นใครได้ประโยชน์ ตีวงพักเดียวก็ได้ตัวการแล้ว แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า ตัณหาคือความทะยานอยาก ถ้ารู้จักควบคุมไปให้ถูกทาง จะสร้างความเจริญให้กับโลกเป็นอย่างมาก แต่ถ้าไปผิดทาง ก็จะสร้างความฉิบหายวุ่นวายให้กับโลกเป็นอย่างมากเช่นกัน

โลกเราในปัจจุบันไม่มีเวลาที่จะมาวุ่นวายแบบนี้ สิ่งที่ควรจะสนใจก็คือ ทำอย่างไรที่จะผลิตอาหารให้เพียงพอเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง เอาแค่แต่ละประเทศก่อน แล้วหลังจากนั้นค่อยไปเลี้ยงโลก ถ้าเป็นบ้านเราก็คือ ทำตามทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ ๙"


เถรี 25-11-2020 10:00

"ถ้าใครอ่านหนังสือ The Visionary ที่เขาแปลเป็นไทยว่า ผู้มองเห็นอนาคต ที่กล่าวถึงในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงงานทุกอย่างเพื่อความอยู่ดีกินดีของประชาชน อีกไม่นาน ถ้าหากว่าภาวะสงครามตลอดจนกระทั่งความวุ่นวายปะทุถึงขีดสุด ทุกคนจะเห็นว่าสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงงานมาตลอดพระชนม์ชีพ มีประโยชน์มหาศาลขนาดไหน เพราะไม่ว่าเขาจะวุ่นวายขนาดไหนก็ตาม เราจะสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น

แต่คราวนี้ด้วยความประมาทอย่างหนึ่ง ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ฟังดูแล้วไม่ช่วยให้รวยอีกอย่างหนึ่ง ก็เลยทำให้คนสนใจที่จะปฏิบัติน้อย ยกเว้นคนที่มีปัญญาเห็นความมั่นคงในครอบครัว ว่าจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีความมั่นคงในอาหาร มีความมั่นคงในสุขภาพ มีความมั่นคงในเรื่องที่อยู่อาศัย ถ้าหากว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้มีสมบูรณ์พร้อม เราไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใครก็อยู่ได้

อย่างสมัยโบราณ เรื่องของอาหาร หัวไร่ชายนามีมากมาย เพราะว่าผู้คนยังไม่มาก สมัยอาตมายังเด็กอยู่ ยังได้ยินเพลงชาติเก่า ที่เนื้อร้องมีระบุจำนวนประชากรไทยว่ามี ๑๘ ล้านคน สมัยนี้ ๖๘ ล้านคน ต่างกัน ๕๐ ล้านคน ก็แปลว่าต่างกันประมาณ ๕ เท่า ทรัพยากรย่อมไม่เพียงพอ

สมัยก่อนเจ็บไข้ได้ป่วย ก็ใช้สมุนไพรใบยาตามหัวไร่ชายนา ตามป่าตามเขา ชาวบ้านทำงานหนัก กินอาหารแต่ผักแต่ปลา ไม่ค่อยได้กินเนื้อ แต่สุขภาพแข็งแรงมาก ขนาดบาทหลวงลา ลูแบร์ รายงานถวายพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ ว่า คนไทยตัวเล็ก ผิวคล้ำ ล่ำสัน แต่แข็งแรงมาก ๆ เพราะว่าอยู่กับธรรมชาติ เราแค่หวนคืนไปสู่สิ่งที่บรรพบุรุษของเราทำกันมาก็จบแล้ว"

เถรี 25-11-2020 10:02

"แต่ปัจจุบันนี้ ทุกอย่างของพวกเราเลียนแบบต่างประเทศ เพราะเห็นว่าโก้เก๋ แม้กระทั่งเรือนชานบ้านช่องก็สร้างตามแบบของยุโรปอเมริกา กลายเป็นว่าถ้าไม่มีเครื่องปรับอากาศแล้วอยู่ไม่ได้ หลายคนสร้างบ้านเรือนทรงสเปน ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ บ้านทรงนั้นต้องการเก็บความอบอุ่นไว้ในบ้านมากที่สุด หลังคามีส่วนลาดให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้หิมะเกาะทับถมจนกระทั่งพัง พอมาอยู่บ้านเราก็กลายเป็นเตาอบดี ๆ นี่เอง

ในเรื่องของภูมิปัญญาคนโบราณ ภูมิปัญญาท้องถิ่น จะเหมาะสมอยู่ในทุกโอกาส คนไทยสมัยก่อนสร้างบ้านใต้ถุนสูง ถึงเวลาหน้าหนาวอยู่บนเรือน ก่อไฟใต้ถุนบ้าน ถึงเวลาหน้าร้อนอยู่ใต้ถุน มีหลังคา มีพื้นบ้านกันสองชั้นไม่ร้อน ลมเข้าทุกทิศทุกทาง หน้าน้ำหลากมีเรือขึ้นคานอยู่ใต้ถุน พอถึงเวลาเดือน ๙ เดือน ๑๐ ก็เริ่มตอกหมันยาเรือ ทาน้ำมันกันแล้ว เอาลงจากคานเตรียมไว้ เดือน ๑๑ น้ำไหลนอง เดือน ๑๒ น้ำทรง ลงเรือกันเป็นปกติ สมัยนี้เอารถเบนซ์ผูกไว้ น้ำท่วมทีรถเบนซ์ก็สำลักน้ำ...!

อาตมาให้แนวคิดไว้นานแล้วนะ ว่าหมู่บ้านจัดสรรให้ทำเป็นเรือนแพ ติดลูกทุ่นให้มั่นคง มีเสาหลัก ๔ มุม เอาไว้คล้องห่วง ถึงเวลาน้ำขึ้นเท่าไร ก็ลอยตามน้ำสูงเท่านั้น ไม่เดือดร้อนกับใคร ถ้าไม่มั่นใจก็เสาหลักสูงสัก ๑๐ เมตรไปเลย เผื่อน้ำท่วมเยอะ น่าจะขายดีนะ"

เถรี 25-11-2020 10:17

"The Visionary กษัตริย์ผู้เห็นอนาคต ฝรั่งยกย่องขนาดนั้น แต่คนไทยเราไม่สนใจเลย

ตอนนี้บ้านเรามีขบวนการ CIA คอยเกาะติดม็อบอยู่ตลอด พอถึงเวลาก็จะวิ่งนำไปรอ ไม่ว่าจะเป็น ลูกชิ้นปิ้ง ส้มตำ กาแฟ สารพัด

ส่วนหนึ่งที่คณะสงฆ์หนักใจก็คือเรื่องของพระหนุ่มเณรน้อยที่ขาดการอบรม ไม่ฟังมติ ระเบียบหรือคำสั่งมหาเถรสมาคม ที่เป็นกฎหมายคณะสงฆ์ ไปร่วมขบวนประท้วงหรือว่าร่วมปราศรัย สิ่งนี้ถ้าจะว่าไปแล้ว เกิดจากความบกพร่องของเจ้าอาวาสและพระอุปัชฌาย์

ถ้าหากว่าพระอุปัชฌาย์อาจารย์เข้มงวด อบรมสั่งสอนดี เรื่องเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น ถ้าเจ้าอาวาสเข้มงวด อบรมสั่งสอนดี เรื่องเหล่านี้ก็จะไม่เกิด เพราะฉะนั้น ๒ ด่านที่สำคัญก็คือด่านเจ้าอาวาสและด่านพระอุปัชฌาย์ แต่ว่าเจ้าอาวาสบางท่านก็เป็นพระอุปัชฌาย์เสียเอง อย่างอาตมาเป็นต้น"

เถรี 25-11-2020 10:18

"เมื่อเป็นเช่นนั้น เราต้องชี้แจงว่าอะไรเหมาะ อะไรควร อะไรไม่เหมาะไม่ควรต่อสมณสารูป อย่างที่ปัพพชิตอภิณหปัจจเวกขณะ เขาพิจารณากันทุกวัน ๆ ว่าเรามีเพศต่างจากคฤหัสถ์แล้ว อาการกิริยาใด ๆ ที่เป็นของสมณะ เราต้องทำอาการกิริยานั้น ๆ ตัวเราติตัวเราเองโดยศีลได้หรือไม่ ? ผู้รู้ใคร่ครวญแล้วติตัวเราโดยศีลได้หรือไม่ ? กาย วาจา ใจ ที่ดีกว่านี้ยังมีอยู่อีก เราต้องทำกายวาจาใจเหล่านั้นให้ได้ เป็นต้น

ก็แปลว่าท่านทั้งหลายที่ไป เพราะว่าขาดการอบรม เนื่องจากว่าสมัยนี้ ส่วนใหญ่แล้วเป็นพระอุปัชฌาย์เป็ด คือไข่แล้วทิ้ง ไม่ใช่พระอุปัชฌาย์ไก่ที่ไข่แล้วฟูมฟัก แต่ว่าคนเปรียบเทียบอย่างนี้ แสดงว่าไม่เคยเห็นเป็ดเทศ เป็ดเทศฟักไข่นี่ ห่วงไข่กว่าแม่ไก่อีก ถึงขนาดตีกับพ่อไก่อย่างชนิดที่หมดสภาพ แผ่หราไปด้วยกันทั้งคู่ อาตมาก็เคยเห็นมาแล้ว เพราะว่าพ่อไก่จะไปแย่งรังให้แม่ไก่วางไข่ ตรงไหนที่นกหรือว่าเป็ดไก่แย่งกัน แปลว่าปลอดภัย ปลอดภัยจากอะไร ? อยู่สูงจากพื้นเพียงพอที่จะพ้นจากบรรดางูเงี้ยวเขี้ยวขอหรือว่าสัตว์กินเนื้อ ด้านบนมีสิ่งบดบังอันตรายที่มาจากทางด้านบนได้ เป็นต้น

ดังนั้น ถ้าหากว่าเจอพระอุปัชฌาย์เป็ด ก็ทำให้ลูกศิษย์เละเทะอย่างที่เห็น สร้างความเสื่อมเสียให้กับองค์กรก็คือคณะสงฆ์ไทย จึงควรไปเคี่ยวเข็ญกันที่พระอุปัชฌาย์อาจารย์แทน"

เถรี 27-11-2020 22:16

ถาม : ปฏิบัติมาเป็นปีแล้ว ในกรณีที่หน้าเบี้ยว เสียงเปลี่ยน มีอะไรแก้ไหมคะ ไม่ได้รับองค์ค่ะ ยิ่งปฏิบัติยิ่งเป็นค่ะ ?
ตอบ : ปฏิบัติไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องไปใส่ใจ ถ้าหากว่ามีสิ่งที่ไม่ดีอยู่ เหมือนกับเป็นของมืด สิ่งที่เราปฏิบัติก็คือคุณพระรัตนตรัยที่เหมือนกับแสงสว่าง ถ้ายึดมั่นในแสงสว่างจริง ๆ จะขับไล่ความมืดไปได้เอง เพราะฉะนั้น..เราต้องฝืนสู้ พอชนะแล้วจะชนะเลย ไม่กลับมาเป็นอีก

ถาม : ถ้ากลัว เพราะมีการดิ้นตึงตัง ?
ตอบ : ไม่ได้เป็นอะไรหรอก อาการแบบนี้สำหรับนักปฏิบัติส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็น บางทีก็ดิ้นตึงตังโครมครามเหมือนอย่างกับผีเจ้าเข้าสิง แต่ความจริงแล้วเป็นอาการปกติธรรมดา ถ้าอาตมาขี้กลัวก็ไม่ได้ปฏิบัติธรรมหรอก เพราะว่าดิ้นตึงตังมาตั้งแต่เด็ก

เถรี 27-11-2020 22:23

พระอาจารย์กล่าวว่า "เหรียญพญาเต่ามังกรเงินล้านเปิดโลกพลิกชีวิตเนื้อพิเศษ (มีหน้ากาก) ประกอบไปด้วยหน้ากากทองคำ หน้ากากเงิน หน้ากากทองฝาบาตร อาตมาไม่ได้สั่งทำ พระครูเทพ เจ้าอาวาสวัดสี่แยกเจริญพร ให้ช่างทำตัวอย่างมาให้ อย่างละ ๑๐ เหรียญ สวยมาก แต่อาตมาเอาแค่ตัวอย่าง จ่ายไปสองแสนกว่าบาท เพราะว่ามีหน้ากากทองคำด้วย ก็เลยมีแค่อย่างละ ๑๐ เหรียญเท่านั้น

ตามที่ตกลงกัน คืออาตมาสร้างแล้วจะมอบให้ทางพระครูเทพเขา ๒๐ เปอร์เซ็นต์ ก็แปลว่าให้เขาไป ๒ เหรียญ ที่เหลือ ๘ เหรียญก็ฆ่ากันตายไปตั้งแต่เช้าแล้ว บางท่านถามว่าทำไมแพงนัก ? ทองคำไม่แพง แล้วอะไรจะแพงวะ ?

ส่วนเหรียญที่ใส่ซองเอาไว้ไม่ต้องแกะซองนะ จำหน่ายทั้งซอง จริง ๆ แล้วพระครูเทพท่านทำไว้แจกให้ญาติโยมจับสลากเสี่ยงดวง แต่ท่านถวายพระเถระที่ปลุกเสกมา เพราะฉะนั้น..โยมก็เสี่ยงดวงเอาก็แล้วกันว่าจะได้ซองไหน แล้วไม่ต้องมาคลำว่าซองใหญ่ซองเล็ก เดี๋ยวตีมือเลย..! เขาเรียกว่ารู้มากแล้วยากนาน พวกรู้น้อยก็พลอยรำคาญ"


เถรี 27-11-2020 22:32

พระอาจารย์กล่าวว่า "พระพุทธเจ้าตรัสถึงสุขของคฤหัสถ์ ๔ อย่าง
๑. สุขของการมีทรัพย์
๒. สุขของการจ่ายทรัพย์
๓. สุขของการไม่เป็นหนี้
๔. สุขของการทำงานที่ไม่มีโทษ

เพราะฉะนั้น..การช็อปปิ้งคือสุขของการจ่ายทรัพย์ ถ้าบ้านไหนไปช็อปปิ้งแล้วโดนด่า ให้บอกเลยว่าทำตามที่พระพุทธเจ้าสอน..! โบ้ยไปยันโน่น ท่านเพียงแต่บอกให้รู้ว่าความสุขของคฤหัสถ์มีอะไรบ้าง โดยเฉพาะการทำงานที่ไม่มีโทษ ต้องเป็นสัมมาอาชีวะ ไม่ผิดทั้งกฎหมายบ้านเมืองและศีลธรรม

อาชีพที่ผิดศีลผิดธรรม ท่านเรียกว่า มิจฉาวณิชชา การค้าขายในทางที่ผิด มีขายสุรา ขายยาพิษ ขายอาวุธ ขายมนุษย์ ขายสัตว์ที่ยังมีชีวิต ส่วนที่เหลือเป็นสัมมาอาชีวะ คราวนี้ในส่วนของการขายสุรา รวมยาเสพติดทั้งหมดด้วย เพียงแต่ว่าไม่ได้ระบุชัดเจนไว้เท่านั้น ถ้าภาษาบาลีเขาใช้คำว่า สงเคราะห์เข้าด้วยกัน"

เถรี 27-11-2020 22:38

ถาม : มีวันหนึ่งนานมาแล้ว หนูอ่านหนังสือของคุณหมอสมศักดิ์ ในนั้นเขาบอกว่าให้จับลมหายใจตลอดเวลา หนูก็จับตลอดเวลา อาบน้ำก็จับ ก่อนนอนหลับก็จับจนหลับไป แต่ว่าตื่นขึ้นมา เหมือนจับลมหายใจเอง หนูก็เลยกลัว ไม่ทำอีกแล้ว ?
ตอบ : กำลังจะเริ่มดีแล้ว ดันเลิกเสียได้..!

ถาม : จะต้องทำอย่างไรต่อไปคะ ?
ตอบ : ทำอย่างนั้นแหละ คือให้เรารู้ลมหายใจอัตโนมัติโดยไม่ต้องบังคับ แล้วก็เอาสติประคองเอาไว้แค่นั้น รัก โลภ โกรธ หลง ก็เข้าไม่ได้แล้ว พอ รัก โลภ โกรธ หลง เข้าไม่ได้ กำลังใจของเราจะผ่องใสขึ้นเรื่อย ๆ ปัญญาจะเกิดแล้วเห็นช่องทางเองว่าเราต้องทำอะไรต่อไป

ถาม : รู้สึกว่าหนักค่ะ ?
ตอบ : ยังหนักอยู่ เพราะว่าเราเพิ่งหัด ถ้าทำไป ๆ จะเบาไปเรื่อย ๆ จะรู้ลมโดยอัตโนมัติเอง ไม่ต้องเสียเวลาไปบังคับ เราก็แค่เอาสติประคับประคองไว้เท่านั้น อย่าให้หลุดหายไป

เถรี 27-11-2020 22:40

ถาม : เนื้อนวะโลหะ เป็นเนื้อที่ทำจากโลหะหรือครับ ?
ตอบ : เขาผสมขึ้นมาจากโลหะ ๙ ชนิด อย่างเช่นว่า มีชิน มีเงิน มีทอง อะไรพวกนั้น น้ำหนักทองจะมากที่สุดก็คือ ๙ บาท เงิน ๘ บาท เขาไล่ลงไปเรื่อย

เถรี 27-11-2020 22:43

พระอาจารย์กล่าวว่า "พวกเราถือว่าโชคดีมาก เพราะว่าหลวงพ่อทองคำมาถึงพอดี ไม่มีโอกาสกราบได้ใกล้ชิดอย่างนี้อีกแล้ว เพราะว่าเดี๋ยวก็อัญเชิญกลับวัด แล้วก็ไปอยู่ในมณฑปสูง ๆ

ต้องบอกว่าชุดของเรานี่ดวงเฮงสุด ๆ เพราะว่าเพิ่งอัญเชิญเพิ่งมาถึง

(โยมถ่ายรูปหลวงพ่อพระพุทธลีลาประทานพร) เขาเรียกว่านาทีทอง รีบถ่ายไว้ เพราะว่าเดี๋ยววันจันทร์ก็จะอัญเชิญกลับไปวัดแล้ว"

เถรี 27-11-2020 22:44

:cebollita_onion-17::cebollita_onion-17: เก็บตกเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๓ หมดแล้วค่ะ :cebollita_onion-17::cebollita_onion-17:
ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทะเล คะน้า เถรี เผือกน้อย และนายกระรอก


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:46


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว