กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมกราคม ๒๕๖๕ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=113)
-   -   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๖ มกราคม ๒๕๖๕ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=8279)

ตัวเล็ก 06-01-2022 20:09

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๖ มกราคม ๒๕๖๕
 
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๖ มกราคม ๒๕๖๕



เถรี 06-01-2022 23:35

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๖ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ซึ่งบรรดาพระทั้งหลายของเรา ก็คงจะทราบข่าวไปแล้วว่ามีเรื่องเกิดขึ้นที่วัดบ้านห้วยน้ำขาว ซึ่งจะว่าไปแล้วก็คือสาขาของวัดท่าขนุนนั่นเอง ก็คือพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. ท่านย้ายไปอยู่ที่วัดอุทยาน จังหวัดนนทบุรี เพราะว่าญาติโยมอยากให้ท่านไปอยู่ใกล้ เนื่องจากว่าเมื่อ ๒ ปีที่ผ่านมา สุขภาพท่านชำรุดเกือบจะเสียชีวิต ตอนนี้ก็ยังไม่แข็งแรงดี

แต่เมื่อย้ายไปแล้ว ปรากฏว่าทางด้านนี้มีการปล่อยข่าวกันสารพัดว่า ท่านหอบเงินหนีบ้าง ทุบโบสถ์เขาทิ้งแล้วไปเฉย ๆ บ้าง ทางด้านผู้บังคับบัญชาก็เลยขอให้ท่านกลับไป "เคลียร์"ื กับชาวบ้าน จากผลสรุปที่ออกมาก็คือท่านไม่ได้ทำผิดอะไร เท่ากับว่าเอาตัวไปให้ชาวบ้านด่าเฉย ๆ แล้วบรรดาสื่อต่าง ๆ ก็เอาข่าวไปลงจนเสียหาย..!

ตรงจุดนี้มีส่วนที่ทำให้กระผม/อาตมภาพรู้สึกว่าไม่พอใจมาก เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะผมมั่นใจว่า ผู้บังคับบัญชาทุกรูปรู้ว่าท่านไม่มีความผิด แต่ต้องการจะผลักภาระให้พ้นตัว ก็เลยต้องลากท่านไปให้ชาวบ้านท่านด่า เพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่โดน ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ขาดความรับผิดชอบอย่างมาก เพราะว่าโดยนิสัยของ
กระผม/อาตมภาพแล้ว ถ้าหากว่ามีเรื่องกับผู้ใต้บังคับบัญชา กระผม/อาตมภาพจะแก้ไขให้จบลง โดยที่ไม่ให้ไปกระทบกระเทือนผู้อื่น

ท่านทั้งหลายจะเห็นว่า หลายวัดในเขตปกครองคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ เวลามีเรื่อง เจ้าคณะอำเภอจะให้
กระผม/อาตมภาพเข้าไปเป็นคนแก้ไข แม้กระทั่งเรื่องของวัดห้วยปากคอก ที่ปลัดตั้ม (พระปลัดอาทิตย์ ชุตินฺธโร) ไปเป็นเจ้าอาวาสอยู่ ซึ่งตอนนั้นแม้กระทั่งเจ้าคณะอำเภอก็ไม่กล้าเข้าไป เพราะว่าชาวบ้านเขาแรงมาก กระผม/อาตมภาพก็แก้ไขให้จบลง โดยที่ไม่ให้เรื่องกระทบกระเทือนไปถึงเบื้องสูง

เถรี 06-01-2022 23:37

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้ากระจายไปสู่สื่อมวลชนเมื่อไร ส่วนที่เสียทันทีก็คือคณะสงฆ์ของเรา เพราะว่าสื่อมวลชนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะกี่สิบกี่ร้อยปีก็นิสัยเหมือนกันหมด ก็คือขายข่าวร้ายไว้ก่อน พอพิสูจน์ได้ว่าข่าวคราวนั้นไม่เป็นความจริง หรือไม่มีความผิด ก็ไม่มีการแก้ข่าวให้ ยกเว้นว่าอีกฝ่ายหนึ่งฟ้องร้องจนกระทั่งศาลบังคับให้ต้องลงแก้ข่าวกี่วัน กี่เดือน ก็แล้วแต่คำสั่งศาลจะระบุไว้

ซึ่งตรงจุดนี้ การที่จะไป "เคลียร์ใจ" กับชาวบ้าน แล้วปล่อยให้มีสื่อมวลชนเข้าไป ถือว่าพลาดตั้งแต่ก้าวแรกแล้ว ท้ายสุดสรุปผลออกมาว่าทำอะไรไม่ได้ เพราะว่าท่านไม่ได้เป็นเจ้าอาวาสที่วัดบ้านห้วยน้ำขาว แล้วคุณเอาท่านไปทำอะไร ?

ดังนั้น...ตรงจุดนี้ ถ้าหากว่าผู้บังคับบัญชาเป็นที่พึ่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ได้ ต่อไปก็อย่าหวังว่าผู้ใต้บังคับบัญชาจะตอบสนองอะไรให้กับทางคณะสงฆ์ เนื่องเพราะว่าเขาเห็นตัวอย่างชัดเจนแล้วว่า "จะถึงคิวตัวเอง" เมื่อไรก็ไม่รู้ ?

ตรงนี้ไม่ได้เสียหายแต่คณะสงฆ์อย่างเดียว ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ โดยเฉพาะที่ใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นเจ้าคณะตำบล เลขานุการเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ เลขานุการเจ้าคณะอำเภอ เรื่องเกิดขึ้นในวัดควรที่จะจบลงไม่เกินตำบล เรื่องเกิดขึ้นในอำเภอ เรื่องควรจะจบลงไม่เกินอำเภอ แต่ปรากฏว่านี่กระจายออกไปทั่วประเทศแล้ว หรือน่าจะทั่วโลกด้วย..!

ตรงจุดนี้ต่างจากสิ่งที่
กระผม/อาตมภาพกระทำอยู่ เพราะว่ากระผม/อาตมภาพจะทำเรื่องหนักให้เบา ทำเรื่องเบาให้หาย จะไม่ให้กระทบกระเทือนถึงผู้บังคับบัญชาเลย โดยเฉพาะในเรื่องของการซ้ำเติมกันเอง พอมีอะไรเกิดขึ้นก็วิจารณ์กันเอามัน โดยไม่ได้คิดว่าจะทำให้คณะสงฆ์เสียหาย

โดยเฉพาะข่าวที่ว่าหอบเงินหนีบ้าง ทุบโบสถ์เขาทิ้งแล้วไม่สร้างให้บ้าง ทั้ง ๆ ที่การก่อสร้างโบสถ์ก็เสร็จไปตั้งมากตั้งมายแล้ว ข่าวเหมือนอย่างกับว่าทุบทิ้งไปเฉย ๆ แล้วข่าวนี้ออกไปทางฝ่ายปกครองเอง..! โดยเฉพาะพระสังฆาธิการด้วยกันเอาไปกระจาย เท่ากับกระพือให้ชาวบ้านเขายิ่งเดือดเข้าไปใหญ่

เถรี 06-01-2022 23:44

เรื่องพวกนี้ไม่สมควรจะเกิดขึ้นในคณะสงฆ์ เพราะถือว่าเป็นผู้ที่บวชเพื่อละกิเลส การนินทาว่าร้ายต่าง ๆ นั้น พระพุทธเจ้าตรัสว่า นินทา ปสังสา การนินทาเป็นธรรมดาของโลก ไม่ใช่หมายความว่าให้เราทำจนเป็นธรรมดา แต่ให้เราเห็นว่าสิ่งนี้เป็นโทษ เพราะว่าทุกคนทำอยู่ แล้วให้ละเว้นเสีย

สมัยที่พระเดชพระคุณพระพรหมดิลก วัดสามพระยา ยังเป็นพระเทพสุธี เจ้าคณะภาค ๑๔ อยู่ ด้วยความที่สนิทสนมคุ้นเคยกันตั้งแต่สมัยที่กระผม/อาตมภาพยังอยู่วัดท่าซุง พอเจอหน้าท่านก็จะถามเรื่องราวต่าง ๆ ในคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิและจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งถามทุกครั้ง
กระผม/อาตมภาพก็จะบอกว่า "ดีครับ" แล้วก็นำเอาเรื่องดี ๆ ของเราที่ได้ทำรายงานให้ท่านทราบไป พอหลายครั้งเข้า ท่านก็รู้ว่าไม่สามารถจะขุดคุ้ยเรื่องอะไรที่ไม่ดีจากปากของกระผม/อาตมภาพได้

เพราะว่าอันดับแรกเลย โดยสันดาน
กระผม/อาตมภาพเป็นคนนินทาคนไม่เป็น ถ้าไม่ชอบใจใคร กระผม/อาตมภาพก็ฉะตรงหน้าเลย ประการที่สองก็คือ ได้รับการอบรมมาแบบทหาร "ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน" ไม่รู้เหมือนกันว่าทหารสมัยนี้ยังได้รับการอบรมในแนวนี้หรือเปล่า ? โดยเฉพาะคำปฏิญาณที่ว่า "ทหารต้องเป็นสุภาพบุรุษทุกเมื่อ" ก็คือไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลัง ก็ต้องทำตนเป็นสุภาพบุรุษอยู่เสมอ ให้เกียรติผู้อื่น ไม่นินทาว่าร้ายผู้อื่น

ในเมื่อเป็นอย่างนี้ พอเจอเหตุการณ์แบบนี้
กระผม/อาตมภาพจึงรู้สึกว่าไม่พอใจ เพราะว่าเท่ากับเอาคนของเราไปให้ชาวบ้านเขายำ จนกลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วประเทศ เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่าท่านไปเป็นเจ้าอาวาสที่ใดที่หนึ่ง จะต้องเกิดกับตัวเอง ไม่มากก็น้อย เพราะว่าสิ่งที่เอาใจยากที่สุดก็คือชาวบ้าน

อีกสิ่งหนึ่งก็คือผู้บังคับบัญชาบางประเภท ที่นอกจากไม่ช่วยลูกน้องแล้วยังคอยซ้ำเติม ต่อหน้าดีด้วยหมด แต่ลับหลังนินทาว่าร้าย บุคคลประเภทนี้ ถ้าอยู่ในสังคมปกติก็ถือว่าไม่เป็นไร เพราะสันดานมนุษย์ก็เป็นอย่างนั้น

แต่ว่าในสังคมของพระภิกษุสามเณร เป็นปูชนียบุคคลที่คนเขาเคารพบูชา คนเขาจะเคารพเราก็ต่อเมื่อเรามีความดีที่ต่างจากเขา ถ้าหากว่าเหมือนกัน ใครจะเสียเวลามาเคารพกราบไหว้
แต่ปรากฏว่าคำพูดคำจา การกระทำทุกอย่าง ไม่ได้ต่างจากชาวบ้านที่เป็นปุถุชนกิเลสหนาเลย แถมยังน่าเกลียดน่าชังกว่า เพราะว่าอยู่ในเพศสภาพของบุคคลที่ละกิเลส

เถรี 06-01-2022 23:49

ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายเคยไปอินเดียหรือว่าศรีลังกา ถ้าเป็นพระไทยแล้วสูบบุหรี่ อย่าให้ญาติโยมเห็นนะครับ ถ้าหากว่าเห็นนี่ เขากระชากขว้างทิ้งตรงนั้นเลย เขาถือว่าแค่บุหรี่ยังตัดไม่ได้ แล้วคุณบวชมาละกิเลสทำไม ? เรื่องนี้พระไทยที่ไม่คุ้นเคย ไปใหม่ ๆ นี่ทะเลาะเบาะแว้งตีกันแทบตายมาแล้ว เพราะฉะนั้น...เราจะเห็นว่าในส่วนที่ชาวบ้านทั่วไปทำได้นั้น พระภิกษุสามเณรของเราทำไม่ได้ หรือไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง

ในเมื่อเป็นไปในลักษณะอย่างนั้น สิ่งที่บอบช้ำที่สุดก็คือศาสนาของเรา ต้องบอกว่าไม่มีอะไรจะทำ อยู่ ๆ ก็ไปเตะลูกเข้าทางตีน แล้วมีหรือที่คู่แข่งเขาจะไม่ยิงเข้าประตู พวกเราจึงต้องระวังให้จงหนัก แม้ว่าเรื่องทุกอย่างจะชี้แจงได้ แต่ก่อนที่ความจริงจะปรากฏ ศาสนาของเราและคณะสงฆ์ของเราก็บอบช้ำสาหัสไปแล้ว เพราะว่าสื่อทุกอย่างไปตีข่าว และโดยเฉพาะที่สรุปตอนสุดท้ายว่าทำอะไรไม่ได้ เพราะว่าท่านเป็นเจ้าอาวาสที่วัดอุทยาน ไม่ใช่เจ้าอาวาสที่วัดบ้านห้วยน้ำขาว

กระผม/อาตมภาพถึงอยากจะถามจริง ๆ ว่า แล้วอย่างนั้น คุณจะเอาท่านไปทำอะไร ? ไปให้ชาวบ้านเขาด่าเล่นหรืออย่างไร ? เขาเรียกว่าเรื่องดี ๆ ควรจะทำก็ไม่ทำ ตั้งใจจะเอาตัวเองให้พ้นผิด แต่ว่าส่งลูกน้องไปขึ้นตะแลงแกง..!

ลักษณะของผู้บังคับบัญชาแบบนี้ ถือว่าพึ่งพาไม่ได้ แล้วคิดว่าถ้าหากว่าบรรดาผู้ใต้บังคับบัญชารู้สึกเหมือน
กระผม/อาตมภาพทั้งหมด ต่อไปจะทำอะไรก็ยากแล้ว เพราะว่าเขาจะเห็นชัด ๆ เลยว่า ถึงเวลามีประโยชน์ท่านจะเอา แต่ถึงเวลาเกิดอะไรเดือดร้อนขึ้นมา ไม่มีการช่วยเหลือป้องกัน แต่กลับผลักเขาเข้าไปหากองไฟ ต้องบอกว่าน่าสงสารคณะสงฆ์ของเราที่มีบุคคลประเภทนี้อยู่ และมีอยู่ค่อนข้างมาก

พวกท่านจึงควรที่จะถือเป็นบทเรียนและระมัดระวังเอาไว้ว่า ทุกอย่างที่เราทำ ต่อให้ดีแสนดี ถ้าหากว่าคนจะติก็หามาติ ต่อให้ชั่วแสนชั่ว ถ้าอำนวยประโยชน์ให้เขา เขาก็พยายามหามาชม เราต้องเข้าใจว่าธรรมดาของโลกเป็นเช่นนี้

จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และญาติโยมที่ฟังอยู่ ขอให้รู้ว่าอย่าเพิ่งหมดหวัง คณะสงฆ์ของเราในส่วนดี ๆ มีอีกมาก แต่ว่าส่วนน้อยกลายเป็นปลาเน่าตัวเดียวทำให้เหม็นไปทั้งข้อง เราต้องแยกให้ออกว่าส่วนไหนดี เราก็เคารพนับถือ ส่วนไหนไม่ดี ก็แค่เลิกให้การสนับสนุน ท่านก็อยู่ไม่ได้แล้ว ก็ขอเจริญพรบอกกล่าวทุกคนแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๖ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:13


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว