กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   ประวัติและปฏิปทาของพระสุปฏิปันโน (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=21)
-   -   ประวัติและคำสอนของหลวงปู่สิม (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=1101)

สายท่าขนุน 12-10-2009 22:13

คำสอนหลวงปู่สิม ๑๑
 
ความตายนี้ไม่มีใครหลบหลีกได้
ท่านให้นึกให้น้อมให้ได้ว่า ทุกลมหายใจเข้าไป ก็เตือนใจของตนให้นึกว่า
นี่ถ้าลมหายใจนี้ เข้าไปแล้วออกมาไม่ได้ เกิดติดขัด คนเราก็ตายได้
แม้ลมหายใจออกไปแล้ว เกิดอะไรติดขัดขึ้นมา สูดลมหายใจเข้าไม่ได้ คนเราก็ตายได้


(พระธรรมเทศนา พุทธาจารานุสรณ์)

สายท่าขนุน 12-10-2009 22:16

คำสอนหลวงปู่สิม ๑๒
 
เราทุกคนทุกดวงใจที่มีชีวิตอยู่ ณ ภายในนี้ ก็อย่าพากันนิ่งนอนใจ
อยู่ที่ไหน กายกับใจอยู่ที่ไหน ก็ที่นั่นแหละ เป็นที่ปฏิบัติบูชา
อยู่บ้านก็ภาวนาได้ อยู่วัดก็ภาวนาได้ บวชไม่บวช ก็ภาวนาได้ทั้งนั้น


(พระธรรมเทศนา พุทธาจารานุสรณ์)

กาแฟ 13-10-2009 10:50

ขอเป็นธรรมทานให้กับบุคคลทั่วไป ด้วยนะครับ

สายท่าขนุน 13-10-2009 11:59

อ้างอิง:

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ กาแฟ (โพสต์ 22163)
ขอเป็นธรรมทานให้กับบุคคลทั่วไป ด้วยนะครับ

ที่ได้มาก็เพราะมีกัลยาณมิตรส่งให้เป็นธรรมทานเช่นกัน:onion_love:

สายท่าขนุน 15-10-2009 00:46

คำสอนหลวงปู่สิม ๑๓
 
ตั้งจิตดวงนี้ให้เต็มในขั้นสมถกรรมฐาน พร้อมกับวิปัสสนากรรมฐาน
ให้แจ่มแจ้งในดวงใจทุกคน เท่านั้นก็พอ
เพราะว่าเมื่อเราเกิดมา ทุกคนก็ไม่ได้มีอะไรติดมา
ครั้นเมื่อเราทุกคนตายไปแล้ว แม้สตางค์แดงเดียวก็เอาไปไม่ได้
ด้วยเหตุนี้ จงพากันนั่งสมาธิภาวนาให้เต็มที่
จนกิเลสโลภะ อันมันนอนเนื่องอยู่ให้หมดเสีย

วันนี้ ๆ ถ้ากิเลสความโลภนี้ยังไม่หมดจากจิต
ก็ยังไม่หยุดยั้งภาวนาจนวันตาย...โน้น


(ธรรมลิขิตจากหลวงปู่)

สายท่าขนุน 15-10-2009 00:50

คำสอนหลวงปู่สิม ๑๔
 
การภาวนาละกิเลสให้หมดไปจริง ๆ นั้นต้องปฏิบัติดังนี้
เมื่อกำหนดรูปร่างกายของเรา บริกรรมกำหนดลมหายใจจนจิตตั้งมั่นดีแล้ว
ต้องกำหนดรูปร่างของเราเอง นับตั้งแต่ ผม ขน เล็บ ไปตลอดหมดในร่างกายนี้
ให้เห็นตามความเป็นจริง ที่มันตั้งอยู่และมันเสื่อมไปด้วยความเจ็บไข้ได้ป่วย
มีทวารทั้ง ๙ เป็นสถานที่ไหลออก ไหลเข้า ซึ่งของไม่งาม


(ธรรมลิขิตจากหลวงปู่)

สายท่าขนุน 17-10-2009 23:59

คำสอนหลวงปู่สิม ๑๕
 
อันความตายนั้น จงระลึกดูให้รู้แจ้งด้วยสติปัญญาของตนเอง
ยกจิตใจ ตั้งให้มั่นอย่าได้หวั่นไหว
เจ็บจะเจ็บไปถึงไหนก็แค่ตาย
อยู่ดีสบายอยู่ไปถึงไหน ก็แค่ตาย
แก่ชราแล้วไม่ตายไม่ได้
เมื่อมาถึงบุคคลผู้ใด จะให้ผู้อื่นช่วยไม่ได้

ต้องภาวนาให้พ้นจากความตาย
ความตายนั้นมีทางพ้นไปได้
อยู่ที่การละกิเลส ล้างกิเลสในใจให้หมดสิ้น

สายท่าขนุน 18-10-2009 00:02

คำสอนหลวงปู่สิม ๑๖
 
วันคืนเดือนปี หมดไปสิ้นไป แต่อย่าเข้าใจว่าวันคืนนั้นหมดไป
วันคืนไม่หมด ชีวิตของแต่ละบุคคลหมดไปสิ้นไป
มันหมดไปทุกลมหายใจเข้าออก
ฉะนั้น ภาวนาดูว่า วันคืนล่วงไปเราทำอะไรอยู่
ทำบุญหรือทำบาป เราละกิเลสได้หรือยัง
เราภาวนา ใจสงบหรือยัง

สายท่าขนุน 22-10-2009 18:54

คำสอนหลวงปู่สิม ๑๗
 
ทุกข์อยู่ที่ไหน ทุกข์อยู่ในใจยึดมั่นถือมั่น
ยึดมั่นถือมั่นในชาติ ตระกูล ในตัว ในตน ในสัตว์ ในบุคคล
ความยึดอันนี้แหละ ที่ยึดให้มีทุกข์ ไม่ให้มีความสุข
มันเป็นไปไม่ได้ เหมือนกับว่าเราจะไม่ให้แก่ ก็แก่เรื่อยไป
ต้องรู้ว่าแก่เพราะอะไร ก็เพราะว่าจิตมายึดถือ
เมื่อจิตมายึดมาถือ จิตจึงมาเกาะอยู่
มาเกิด มาแก่ชรา เจ็บไข้ได้พยาธิ ผลที่สุดก็ถึงซึ่งความตาย

สายท่าขนุน 22-10-2009 18:57

คำสอนหลวงปู่สิม ๑๙
 
ความเที่ยงแท้แน่นอนในโลกนี้ จะเอาที่ไหน ไม่มี
ผู้ปฏิบัติจงรู้เท่าทัน รู้เท่านั้นแล้วก็ปล่อยวาง อย่าเข้าไปยึดถือ
อย่าไปยึดว่าตัวกูของกู ตัวของข้า ตัวของเรา เราเป็นนั้นเป็นนี้
ตัวเราของเราไม่มี มีแต่ธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม
มีแต่หลักอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทั้งโลก

สายท่าขนุน 28-10-2009 19:03

คำสอนหลวงปู่สิม ๒๐
 
ให้ทานข้าวของ วัตถุภายนอกก็เป็นบุญ แต่ยังไม่ลึกซึ้ง
ให้ทำบุญภายในใจให้เป็นบุญอยู่เสมอ
ภาวนาพุทโธ นึกน้อมเอาคุณพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งอยู่ภายใน
นี่แหละบุญภายใน

สายท่าขนุน 06-11-2009 23:49

คำสอนหลวงปู่สิม ๒๑
 
อวิชชา แปลว่าไม่รู้ ไม่รู้ต้น ไม่รู้ปลาย ไม่รู้อยู่
จิตจึงได้วนเวียน หลงใหล เข้าใจผิดว่าโลกนี้ยังมีความสุขซ่อนอยู่
ความจริงแล้วในมนุษย์โลกก็ดี เทวโลกก็ดี พรหมโลกก็ช่าง
ล้วนแล้วตกอยู่ในกองทุกข์กองภัย ต้องมีภัยอันตรายรอบด้าน

สายท่าขนุน 06-11-2009 23:52

คำสอนหลวงปู่สิม ๒๒
 
ชีวิตของคนเราไม่นาน ชีวิตนี้มีน้อยที่สุด
เวลาเรายังไม่ตาย ก็ได้ข่าวคนนั้นว่าตาย
ที่เขาเอาไปฝังทิ้งหรือเอาไปเผาไฟ เพื่อไม่ให้กลิ่นมันเหม็นจมูกเขาต่างหาก
เราต้องพิจารณา ต้องทำด้วยกำลังศรัทธาของเรา
ทำไมพระพุทธเจ้า พระอริยเจ้าทั้งหลาย
ท่านจึงเกิดอสุภเห็นแจ้งในจิตในใจได้
เห็นคนก็เห็นก้อนอสุภกรรมฐาน เห็นคนก็เห็นความตายของคนนั้น

สายท่าขนุน 09-11-2009 20:32

คำสอนหลวงปู่สิม ๒๓
 
สงบแต่ปาก ใจไม่สงบก็ไม่ได้ ต้องให้สงบ
ใจสงบคือว่า เมื่อฟุ้งซ่านรั่วไหลไปที่อื่นก็ให้คอยระวัง
นึกน้อมสอนใจของตัวเองด้วยว่า ความเกิดเป็นทุกข์
เกิดมาแล้วเป็นทุกข์อย่างนี้แหละ จะไปเอาสุขที่ไหนในโลก

ที่ไหนมันก็ทุกข์เท่า ๆ กัน เอาสิ่งเหล่านี้มาเตือนใจตนเอง

สายท่าขนุน 11-11-2009 19:26

คำสอนหลวงปู่สิม ๒๔
 
เวลาความตายมาถึงเข้า กายกับจิตจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ เรียกว่าแยกกันไป
จิตทำบาปไว้ก็ไปสู่บาป จิตทำบุญไว้ก็ไปสู่บุญ
จิตละกิเลสราคะ โทสะ โมหะได้ ก็ไปสู่นิพพาน
จิตละไม่ได้ก็มาเวียนตายเวียนเกิด วุ่นวายอยู่อย่างนี้

พระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ในโลก มนุษย์ทั้งหลายก็ยังไม่หมดไปจากโลก
ยิ่งในปัจจุบันนี้ ยิ่งมากกว่าในสมัยก่อน มันเกิดมาจากไหน
ก็เกิดมาจากจิตที่เต็มไปด้วยอวิชชา-ความไม่รู้ ตัณหา-ความดิ้นรน ไม่สงบตั้งมั่น
ก็สร้างตัวขึ้นมาในแต่ละบุคคล แล้วก็มาทุกข์ มาเดือดร้อน
วุ่นวายอยู่ในวัฏสงสารอย่างนี้แหละ

สายท่าขนุน 13-11-2009 19:19

คำสอนหลวงปู่สิม ๒๕
 
ให้ละกิเลสออกจากจิตให้หมดทุกคน
กิเลสนี้แหละ ทำให้คนเราเดือดร้อนวุ่นวายอยู่ไม่มีที่สิ้นสุด
กิเลสนั้นเมื่อย่นย่อเข้ามาก็คือ ความโกรธ ความโลภ ความหลง ๓ อย่างเท่านี้
ทำไมจึงเกิดมาสร้างกิเลสให้มากขึ้นไปทุกภพทุกชาติ
ทำไมหนอ ใจคนเราจึงไม่ยอมละ การละก็ไม่หมดสักที
ในชาติเดียวนี้ตั้งใจละ ทั้งพระเณรและญาติโยมทั้งหลาย
ความโกรธเมื่อเกิดขึ้น อย่าโกรธไปตาม
ถ้าไม่โกรธไปตามมัน จะตายเชียวหรือ
ทำไมจึงไม่ระลึกอยู่เสมอว่า คนเราจะละความโกรธให้หมดสิ้นไปในเวลาเดี๋ยวนี้
อย่าให้มีการท้อถอยในการสร้างความดี
มีการรักษาศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ ศีล ๒๒๗ พร้อมทั้งการเจริญสมาธิภาวนา
ฆ่ากิเลส ตัณหา ให้หมดไป ใจจึงจะเย็นเป็นสุขทุกคน

สายท่าขนุน 16-11-2009 23:07

คำสอนหลวงปู่สิม ๒๖
 
ภาวนา ให้ได้ทุกลมหายใจเข้าออก
เมื่อมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น จิตของผู้ภาวนาก็สูง
คำว่า สูง ก็เหมือนเรือที่ลอยลำอยู่ในแม่น้ำลำคลองหรือที่มหาสมุทร
ก็คือ จิตมันอยู่เหนือน้ำ

สายท่าขนุน 16-11-2009 23:11

คำสอนหลวงปู่สิม ๒๗
 
จิตอยู่เหนืออารมณ์ เหมือนเรืออยู่เหนือแม่น้ำ
มันก็ไม่ทุกข์ไม่ร้อน จึงจำต้องฝึกอบรมตัวเองให้มีความอดทน

สายท่าขนุน 26-11-2009 22:12

คำสอนหลวงปู่สิม ๒๘
 
เวลาความสุขมาถึงเข้า เราจะไปเอาความสุขในความสรรเสริญเยินยอ มั่งมีศรีสุขอย่างเดียว
แต่เราหารู้ไม่ว่า "ความสุขมีที่ไหน ความทุกข์ก็มีที่นั้น"

สายท่าขนุน 26-11-2009 22:15

คำสอนหลวงปู่สิม ๒๙
 
มรณกรรมฐานนี้เป็นยอดกรรมฐาน
คนเราเมื่ออาศัยความประมาทมัวเมา ไม่ได้มองเห็นภัยอันตรายจะมาถึงตน
คิดเอาเอง หมายเอาเอง ว่าเราคงไม่เป็นไรง่าย ๆ
เราสบายดีอยู่ เรายังเด็กยังหนุ่มอยู่ ความตายคงไม่กล้ำกรายได้ง่าย ๆ
อันนี้เป็นความประมาท มัว เมา.......


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:23


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว