กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมีนาคม ๒๕๖๕ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=117)
-   -   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๕ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=8455)

ตัวเล็ก 25-03-2022 07:06

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๕
 
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๕



เถรี 25-03-2022 21:49

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๒๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ เมื่อวานนี้กระผม/อาตมภาพได้ทำการมอบอาคารหอพักนักเรียนบ้านไกลให้กับโรงเรียนทองผาภูมิวิทยา โดยที่ในพิธีมอบนั้น พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี เป็นผู้รับมอบ เนื่องจากว่าทางโรงเรียนทองผาภูมิวิทยานั้น เป็น ๑ ในโรงเรียนที่ได้รับพระบรมราชูปถัมภ์ ในหลวง ร.๑๐ พระองค์ท่านได้มอบหมายให้องคมนตรี คือ พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา รับผิดชอบทางด้านนี้

อาคารหอพักหลังนี้นั้น จากปี ๒๕๖๓ ที่ทางชมรมรักษ์ธรรมรักษ์ไทย ได้ไปสร้างอาคารให้กับทางโรงเรียนหมู่บ้านเด็ก (วังด้ง) ๑ หลังในงบประมาณ ๘ แสนบาท แล้วยังมีเหลือเล็กน้อย แต่เมื่อมาทำอาคารหอพักนักเรียนบ้านไกลของโรงเรียนทองผาภูมิวิทยาในปี ๒๕๖๔ ปรากฏว่างบประมาณบานปลายไปมาก

เนื่องจากว่าอยู่ในภาวะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ โรงงานไม่สามารถที่จะทำการผลิตเหล็กได้ ขณะเดียวกันการขนส่งต่าง ๆ ก็ขนส่งไม่ได้ ทำให้ราคาเหล็กซึ่งเป็นโครงสร้างหลักของอาคารหอพักนั้น ขึ้นราคาเป็นรายวัน ดังนั้น...อาคารหอพักหลังนี้จึงมาจบลงที่ราคา ๑ ล้าน ๔ แสนบาท มากกว่างบประมาณที่เคยทำในปีก่อนเกือบเท่าตัว..!

ตรงนี้ท่านองคมนตรีก็ได้กล่าวว่า บรรดาเครือข่ายต่าง ๆ ที่มาร่วมงานกัน ไม่ว่าจะเป็นการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยก็ดี ทางด้านมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีปทุมวันก็ตาม ควรที่จะเข้ามาช่วยเหลือพระสงฆ์ให้มากกว่านี้ อย่าปล่อยให้พระภิกษุสงฆ์ของเราแบกรับภาระของทั้งชุมชน

เนื่องเพราะว่าการกระทำทุกสิ่งทุกอย่างนั้น ถ้ามีการช่วยเหลือเจือจานกันอย่างจริงจัง จริงใจ ก็จะทำให้ทุกคนไม่จำเป็นที่จะต้องจ่ายมาก คนโน้นควักมานิดหนึ่ง คนนี้ควักมานิดหนึ่ง รวมแล้วก็จะพอดี แต่ถ้าปล่อยให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งรับผิดชอบไปแต่เพียงผู้เดียว ถ้าหากว่าท่านผู้นั้นไม่ไหวขึ้นมา โครงการก็ไม่สามารถที่จะดำเนินการต่อไปได้

ถ้าหากว่าญาติโยมทั้งหลายได้พินิจพิจารณาดู จะเห็นว่าตลอดระยะเวลาที่กระผม/อาตมภาพได้ทำงานด้านนี้มาเกิน ๓๐ ปีแล้ว จะไม่มีการบอกกล่าวเพื่อหาเจ้าภาพใหญ่มารับผิดชอบในงานต่าง ๆ แต่จะอาศัยการที่ญาติโยมทั้งหลายร่วมกับทำบุญคนละ ๕ บาท ๑๐ บาท ๒๐ บาท ๕๐ บาท ๑๐๐ บาท ในลักษณะอย่างนี้มาโดยตลอด

ทุกท่านก็จะได้มีส่วนร่วมในบุญต่าง ๆ กับทางวัดท่าขนุนโดยทั่วถึงกัน เนื่องเพราะกระผม/อาตมภาพเห็นว่า ถ้าหากว่ามีเจ้าภาพใหญ่ ก็จะทำให้การทำบุญนั้นอยู่ในวงแคบ มีผู้มีโอกาสร่วมบุญแค่ไม่กี่คนเท่านั้น

เถรี 25-03-2022 21:51

ตรงจุดนี้ไม่ใช่ว่าวัดท่าขนุนหาเจ้าภาพใหญ่ไม่ได้ วัดท่าขนุนมีบุคคลที่ปวารณาเอาไว้ในระดับที่ว่า ให้กระผม/อาตมภาพสร้างหนี้ได้ตามใจชอบ ถึงเวลาจะจัดการ "เคลียร์" หนี้ให้ ถ้าบอกนามสกุลมา พวกเราก็จะร้องอ๋อกันทั้งประเทศ

แต่กระผม/อาตมภาพไม่เคยไปรบกวนท่านทั้งหลายเหล่านี้เลย เพราะรู้ดีว่าถ้าให้ท่านทำคนเดียว ก็จะไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้องการให้พวกเราทุกคนตัดความโลภด้วยการให้ทาน ตัดโทสะด้วยการรักษาศีลและปฏิบัติในพรหมวิหาร ๔ ตัดโมหะด้วยการใช้ปัญญาพิจารณาให้รู้แจ้งเห็นจริง

ในส่วนนี้ภายหลังมาก็ได้มีผู้ช่วยบอกบุญตามกระทู้ต่าง ๆ ในเว็บวัดท่าขนุน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากญาติโยมทั้งหลายด้วยดี ท่านที่มีมากก็ทำบุญมาก ท่านที่มีน้อยก็ทำบุญน้อย คำว่าทำบุญน้อยในที่นี้ ถึงขนาดทำในลักษณะของเศษสตางค์ก็มี..! แต่ว่าท่านทั้งหลายก็มีจิตใจที่จะร่วมทำบุญกับทางวัด โดยการโอนเงินทำบุญเข้ามาอยู่บ่อย ๆ

วัตถุมงคลทั้งหลายที่ออกในกระทู้ ก็เท่ากับว่าเป็นของแถมให้กับท่าน เก็บเอาไว้เป็นอนุสติ เป็นที่ระลึกถึงว่าเราได้ทำบุญทำกุศลอันใด ถึงได้วัตถุมงคลชิ้นนั้นมาเป็นที่ระลึก ในส่วนนี้ก็ต้องขอเจริญพรขอบคุณท่านทั้งหลายที่ให้การสนับสนุนทางวัดด้วยดีเสมอมา

ประกอบกับระยะนี้ กระผม/อาตมภาพขอใช้คำพูดที่ค่อนข้างจะตลกแต่หัวเราะไม่ออก ก็คือ "เป็นวันจ่าย" คำว่า วันจ่าย ในที่นี้ ไม่ใช่การจับจ่ายซื้อของเพื่อเตรียมไหว้เจ้าในวันตรุษจีน แต่เป็นการจ่ายเงินให้กับผู้รับเหมา หรือว่าผู้ทำการก่อสร้างให้กับทางวัดท่าขนุน

เถรี 25-03-2022 21:53

เมื่อวานนี้กระผม/อาตมภาพเพิ่งจะได้เซ็นสัญญาจ้าง ในการสร้างตลาดชุมชนริมฝั่งแควน้อย โดยวัตถุประสงค์แรกก็คือ เพื่อให้ประชาชนในเขตทองผาภูมิ เมื่อผลิตสินค้าวัฒนธรรมออกมา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักสาน ไม่ว่าจะเป็นผ้าทอ หรือว่าเป็นข้าวปลาอาหารพื้นถิ่น ตลอดจนกระทั่งพืชผลทางเกษตร ได้มีสถานที่จำหน่ายกันโดยไม่ต้องหนักใจ เนื่องเพราะว่าการจำหน่ายข้าวของในสถานที่อื่น ๆ ท่านก็ต้องไปเสียค่าที่ค่าทาง ทำให้รายได้ที่น้อยอยู่แล้วก็น้อยลงไปยิ่งขึ้น

ประการที่สองก็คือ เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของชุมชน เมื่อมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจับจ่ายใช้สอย ไม่ว่าจะเป็นที่กิน ที่นอน สินค้าที่ระลึก รายได้ก็จะตกอยู่กับชุมชน เมื่อชุมชนมีความเข้มแข็งก็จะมาสนับสนุนวัดเอง ทางวัดจึงลงทุนเพื่อที่ในระยะยาวจะทำให้ชุมชนของเราเข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตนเองได้

การเซ็นสัญญาในครั้งนี้นั้น ตอนแรกบริษัทรับเหมาประเมินราคามาที่ ๑๔,๘๘๓,๐๐๐ บาท แต่ว่าให้ส่วนลดกับทางวัดเหลือ ๑๔,๕๐๐,๐๐๐ บาทถ้วน โดยขอเบิกงวดแรกเป็นเงินจำนวน ๒,๙๐๐,๐๐๐ บาท แต่ว่าโดนกระผม/อาตมภาพหักเงินค้ำประกันผลงานเอาไว้ ตามที่ได้ระบุไว้ในสัญญา จึงจ่ายงวดแรกไปแค่ ๒,๗๕๕,๐๐๐ บาท แล้วผู้รับเหมาที่รับทำศาลาพักผ่อนทรงแปดเหลี่ยมก็มาเบิกเงินงวดสุดท้าย ๖๔๐,๐๐๐ บาท

ประกอบกับปีนี้ กระผม/อาตมภาพรับปากทางวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ว่า นิสิตที่สมัครเข้าเรียนในปีนี้เทอมแรก ไม่ว่าจะเป็นในหลักสูตรประกาศนียบัตรก็ดี ปริญญาตรีก็ตาม ทุกหลักสูตร ทั้งพระภิกษุสงฆ์ สามเณร และฆราวาส กระผม/อาตมภาพจะรับเหมาจ่ายค่าเทอมของเทอมแรกนี้ให้ทั้งหมด

และอีกไม่นานก็จะมีการเซ็นสัญญาเพื่อสร้างพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุน ซึ่งพิพิธภัณฑ์ตรงนี้ไม่ใช่พิพิธภัณฑ์วางของทั่ว ๆ ไป แต่ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อท่านทั้งหลายที่เข้าไปชมตั้งแต่ก้าวแรก

การออกแบบพิพิธภัณฑ์นั้น ตอนแรกได้ยินว่าค่าออกแบบถึง ๓ ล้านกว่าบาท กระผม/อาตมภาพก็รู้สึกแปลกใจ แต่เมื่อเห็นเขาใช้เวลาในการออกแบบถึง ๓ ปีกว่าและเดินทางไปดูพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อนำเอาจุดเด่นของเขามาลงในพื้นที่อันจำกัดของวัดท่าขนุน ก็ทำให้รู้สึกว่าค่าออกแบบนั้นไม่ได้แพงเลย ดีไม่ดีทางด้านผู้ออกแบบอาจจะต้องชักทุนตัวเองด้วยซ้ำไป

เถรี 25-03-2022 21:59

พิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุนนี้ ราคาประเมินที่แจ้งมาในเดือนที่แล้วก็คือ ๑๕๙ ล้านบาท..! แต่ว่าจำเป็นที่จะต้องคิดเผื่อเหลือเผื่อขาดในภาวะสงครามที่เกิดขึ้น ทางผู้รับเหมาขอเวลาประเมินสถานการณ์ประมาณ ๓ เดือนก็จะแจ้งราคาสุดท้ายมา ซึ่งกระผม/อาตมภาพมีตัวเลขในใจเอาไว้อยู่แล้ว แต่คาดว่าต้องเกิน ๑๕๙ ล้านบาทอย่างแน่นอน

ตรงจุดนี้ทางวัดท่าขนุนของเรานั้น ตอนแรกกระผม/อาตมภาพได้รับคำสั่งจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษี ฯ วัดท่าซุง ให้ทำพระจากการใช้ข้าวเสกด้วยพระคาถาเงินล้าน หรือที่เรียกกันง่าย ๆ ว่าพระคำข้าว แต่ว่ากระผม/อาตมภาพได้ให้เหตุผลกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อไปว่า ขออนุญาตชะลอไว้ก่อน เนื่องเพราะว่าถ้าทำเช่นนั้นไปเมื่อไร ญาติโยมส่วนหนึ่งที่หันมาบูชาพระคำข้าวจากวัดท่าขนุน ก็จะทิ้งพระคำข้าวของทางด้านวัดท่าซุงไป โดยไม่ได้ใส่ใจไปติดตามบูชา จะทำให้ราคาของทางวัดท่าซุงนั้น อาจจะไม่มีการขยับขึ้นไปตามอุปสงค์อุปทานที่ควรจะเป็น

ดังนั้น...หลวงพ่อท่านจึงให้เปลี่ยนใหม่ มาทำวัตถุมงคลที่รับการภาวะสงคราม ก็คือให้กระผม/อาตมภาพไปพิจารณาลบผงวิเศษ เพื่อสร้างพระยอดขุนพลกาญจนบุรี ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนในการทำงานก็สำเร็จไปเกิน ๘๐ เปอร์เซ็นต์แล้ว ตรงจุดนี้การสร้างพระยอดขุนพลกาญจนบุรีนั้น น่าจะขออนุญาตพระท่านในการปลุกเสกเพื่อรับภาวะสงครามอย่างเต็มที่

โดยปกติแล้ววัตถุมงคลของทางวัดท่าขนุน กระผม/อาตมภาพจะเน้นในเรื่องของลาภผล โดยมีแนวคิดว่า ถ้าญาติโยมมีความคล่องตัวในแนวทางการทำมาหากิน ก็จะมาสนับสนุนวัดของเราเอง แต่ว่าผลในด้านอื่น ๆ โดยเฉพาะในเรื่องของการคงกระพันชาตรีก็แอบซุก ๆ เอาไว้ข้างใน

แต่ว่าพระยอดขุนพลกาญจนบุรีนี้ สร้างเพื่อรับภาวะสงครามที่เกิดขึ้น ก็อาจจะต้องนำในส่วนของคงกระพันชาตรีออกหน้า ซึ่งในเวลานั้นก็จะมีการกราบขออนุญาตจากพระ จากครูบาอาจารย์ แล้วแต่ว่าท่านจะอนุเคราะห์สงเคราะห์ไปในด้านใด และให้มาในระดับใด

เถรี 25-03-2022 22:01

ส่วนการออกทำบุญนั้นจะแบ่งเป็น ๒ ส่วน ส่วนแรกก็คือจะทำบุญในกระทู้กฐินปลดหนี้ วัดชลธราราม (ท่าซิก) อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งท่านพระครูวัชรชลธรรม ซึ่งกระผมเรียกตามความคุ้นเคยว่า "หลวงพ่อญา" ท่านสร้างวิหารหลังใหญ่มา ๒๐ ปีแล้ว ยังไม่เสร็จสรรพเรียบร้อย เนื่องเพราะว่าความประณีตในการสร้างอย่างหนึ่ง งบประมาณในการสร้างอีกอย่างหนึ่ง

กระผม/อาตมภาพได้รับปากท่านเอาไว้ว่าจะนำเอากฐินปลดหนี้ไปให้สักปีหนึ่ง ซึ่งก็มาตรงกับปี ๒๕๖๕ นี้ อีกส่วนหนึ่งก็จะทำบุญกฐินวัดท่าขนุนเอง

เมื่อถึงเวลานั้น ญาติโยมทั้งหลายก็พิจารณาเอาว่าเราจะบูชาพระยอดขุนพลพิมพ์มาตรฐาน ซึ่งโตประมาณฝ่ามือผู้ใหญ่ หรือว่าจะเป็นพิมพ์เล็กที่ขออนุญาตย่อลงมาทำ โตกว่าเหรียญ ๑๐ บาทเล็กน้อยเท่านั้น ก็ตามแต่ท่านทั้งหลายจะพิจารณาร่วมบุญกับทางวัดท่าขนุนเอา แต่ขอให้ทราบว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ท่านทำบุญมานั้น กระผม/อาตมภาพใช้ไปในงานของพระพุทธศาสนา คุ้มค่ายิ่งกว่าความตั้งใจของญาติโยมที่ได้ทำมา

อีกส่วนหนึ่งก็คือว่า การที่พวกเราได้สละปัจจัยไทยธรรมทำบุญมานั้น เป็นการตัดความโลภ ซึ่งรัก โลภ โกรธ หลง เป็นกิเลสใหญ่ ๔ ตัวที่ครองใจเราอยู่ เหมือนกับเก้าอี้ที่มี ๔ ขา เมื่อโดนตัดขาไปข้างหนึ่ง อีก ๓ ขาก็ไม่มั่นคง เราใช้กองกรรมฐานต่าง ๆ ที่ใช้ในการจัดการกับความโกรธ ความหลงต่อไปก็จะง่ายขึ้น

จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา ตลอดจนกระทั่งบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๒๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 12:58


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว