กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๔ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=107)
-   -   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๔ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=7945)

ตัวเล็ก 31-08-2021 20:57

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๔
 
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๔



เถรี 31-08-2021 23:41

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๓๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ สิ้นเดือนอีกแล้ว สำหรับวันนี้ทางมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก ส่งของใช้ส่วนตัวประเภท สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน มีดโกนหนวด ฯลฯ จำนวนพันกว่าชุดให้กับทางโรงพยาบาลสนามวัดท่าขนุน แต่ผมไม่สามารถที่จะเอางานลงกลุ่มไลน์ให้โมทนากันได้ เพราะว่าถ่ายรูปออกมา ผู้รับมีแค่สบงกับอังสะเท่านั้น..! ซึ่งเรื่องพวกนี้ถ้าพวกท่านสังเกตจะเห็นว่า ถ้าไม่ใช่เรื่องฉุกเฉินจริง ๆ ประมาณต้องมาไล่จับงูจงอาง..! คุณจะเห็นว่าออกนอกกุฏิเมื่อไร ผมจะห่มผ้าไปด้วยเสมอ ถ้าไม่ใช่ห่มดอง อย่างน้อยก็ต้องห่มเฉียง

เรื่องพวกนี้บังคับอยู่ในศีลพระของเรานะครับ ทบทวนปาฏิโมกข์กันทุก ๑๕ วัน จำกันได้หรือเปล่า ?

ปริมณฺฑลํ นิวาเสสฺสามีติ สิกฺขา กรณียา เราจะต้องนุ่งให้เป็นปริมณฑล ปริมณฺฑลํ ปารุปิสฺสามีติ สิกฺขา กรณียา เราต้องห่มให้เป็นมณฑล ทั้งนุ่งทั้งห่ม
ถ้าหากว่าเอาไปแค่สบงกับอังสะแบบของพวกคุณ ต้องถือว่านุ่งอย่างเดียวไม่มีห่ม จริงอยู่ว่าสะดวกกับการทำงาน แต่ว่าไม่เรียบร้อย ถ้าหากว่ามีอะไรที่จำเป็นต้องรับแขก รับญาติโยม รับของ ควรที่จะมีจีวรติดตัวไปด้วย

ไม่ต้องถึงขนาดหลวงพ่อธัมมะเสนะ รองเจ้าคณะรัฐมอญ วัดเจ้าไว อันนั้นนี่พระที่วัดท่านขนาดก่อสร้างยังต้องห่มจีวร ห่มจีวรขนเหล็ก ขนปูน ขนอิฐ ขนทราย ของเราไม่ต้องถึงขนาดนั้นครับ

อย่างวันก่อนที่ผมเตือนมหาเสริฐ (พระอุตรา อุตฺตโร) ไปว่า เรื่องของการเข้าระบบซูมให้ระวังข้างหลังไว้ด้วย เพราะว่าพระเณรที่เดินผ่านทางด้านหลังใส่แค่สบงกับอังสะเท่านั้น เขาถือว่าไม่ให้เกียรติที่ประชุม

คราวนี้ในเรื่องของมารยาทในสังคม จะถือว่าผิดก็ไม่ใช่ เพียงแต่ว่าอาจจะไม่รู้กาลเทศะ ก็อยู่ที่ว่าสภาพจิตของเราหยาบ โอกาสเข้าถึงธรรมน้อยลง แต่โทษทางพระวินัยนี่ผิดแน่ ๆ เพราะระบุเอาไว้ชัดแล้ว ต้องนุ่งให้เป็นปริมณฑล ต้องห่มให้เป็นปริมณฑล ต้องลองไปพยายามหัดให้ชิน ว่าถ้าไม่ใช่ทำงานโยธากันจริง ๆ ก็ควรที่จะมีจีวรติดตัวเอาไว้ด้วยเสมอ

ผมเองในช่วงหน้าร้อน บางทีต้องซักจีวรสองรอบ เช้าซักเย็นต้องซักอีกแล้ว แต่ยังดีว่าเป็นหน้าร้อน เพราะว่าหลังทำวัตรค่ำ ซักแล้วตากก็ยังแห้งทัน เพราะอะไร ? ก็เพราะว่าเป็นหน้าร้อน ห่มจีวรเข้าไปก็เหงื่อท่วมตัว แต่ก็ต้องทนครับ..จำเป็นต้องทน เพราะว่าอันดับแรกก็คือเพื่อรักษาศีล อันดับที่สองก็คือเพื่อมารยาทในสังคม

เถรี 01-09-2021 00:19

พวกคุณจะเห็นว่าบางวันผมประกาศว่าผมไม่ออกไปไหน เพราะวันนี้ผมซักผ้าจีวร ก็ไม่มีจีวรห่มแล้วจะไปไหนได้ ? เหลืออังสะกับสบงเท่านั้น และไอ้หุ่นผมก็อวดชาวบ้านไม่ได้เสียด้วย ผอมกะหร่องเชียว...! พอถอดจีวรออก ก็ซี่โครงเดินได้ดี ๆ นี่เอง บางทีญาติโยมเห็น ก็อาจจะประเภทได้ "อัฏฐิกอสุภะ" ไปด้วย พิจารณากระดูกเป็นอารมณ์ บรรลุกันไปบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ ?

อีกส่วนหนึ่งก็ในเรื่องของการประชุมคณะสงฆ์ในเขตปกครองภาค ๑๔ วันนี้ เรื่องที่เจ้าคณะภาค ๑๔ ท่านเตือนเป็นพิเศษก็คือ การที่พระเราเล่นสื่อโซเชียลโดยไม่ได้ระวัง อย่างที่ผมบอกไปแล้วว่า ถ้าเราไม่ระวัง ทันทีที่ลงไป ถ้าใครเห็นไม่ชอบมาพากล เขาก็จะแค็ปเอาไว้ แล้วก็จะเป็นข้อมูลที่เขาเอามาถล่มเราทีหลัง..!

อย่างที่บอกพวกท่านทั้งหลายเอาไว้ว่า ช่วงที่เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ แพร่ระบาด คณะสงฆ์ของเราทุ่มเทเพื่อชาวบ้านมหาศาลมาก มหาศาลชนิดที่รัฐบาลทำไม่ได้ แต่ละวัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ตั้งศูนย์พักคอย ตั้งโรงทาน มอบเครื่องเวชภัณฑ์ มอบยาต่าง ๆ ช่วยเหลือญาติโยมที่ลำบากเดือดร้อน รัฐบาลทำได้หรือเปล่า ? ทำไม่ได้หรอก แต่มีใครชมไหม ? ไม่มี..!

แม้กระทั่งพระต้องลงไปเผาศพผู้ติดเชื้อไวรัสจนสิ้นชีวิตเสียเอง เพราะว่าสัปเหร่อกลัวติดเชื้อ ก็เลยหนีไปเสียแล้ว เรื่องดี ๆ พวกนี้ไม่ค่อยจะมีนะครับที่เป็นข่าว แต่ทันทีที่พระไปล้อมวงฉันหมูกระทะแกล้มเบียร์ เขาเล่นข่าวเป็นอาทิตย์ แล้วข่าวนี้ก็จะอยู่ไปชั่วฟ้าดินสลายครับ วันดีคืนดีก็จะโผล่ขึ้นมาใหม่ ประมาณอาทิกัมมิกบุคคล ถึงเวลาก็ต้องได้รับการอ้างถึง

หลวงพ่อเจ้าคณะภาค ๑๔ ท่านเป็นห่วง เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วพระภิกษุสามเณรของเรา โดยเฉพาะที่บวชมาใหม่ ๆ สติสัมปชัญญะยังน้อยครับ มักจะคิดว่า "ไม่เป็นไร" แล้วก็โพสต์ภาพออกไป

ขณะที่ไอ้ตัวเล็กถ่ายรูปสามเณรนั่งกรรมฐานตอนเช้า แล้วกลายเป็นเลื้อยกับพื้น ผมยังเตือนบอกว่า "ห้ามเอาไปลงสื่อ เป็นภาพที่น่ารัก แต่ไม่น่าดู เพราะว่าสามเณรคือเชื้อสายของสมณะ เป็นบุคคลที่ชาวบ้านเขาเคารพเป็นปูชนียบุคคล"

แม้กระทั่งในกลุ่มไลน์ที่มีรูปสามเณร ๓ รูปนั่งเซลฟี่กัน แล้วมีรูปหนึ่งประเภทนั่งสบงเปิด ป้าตุ่น (นางสาวบุญสนอง บุญยงค์) เอามาลงกลุ่มไลน์ ผมก็บอกไปว่า "ไม่ควรที่จะทำ อะไรก็ตามที่ทำให้คุณค่าของพระภิกษุสามเณรลดลง อย่าได้ทำเป็นอันขาด" เราอาจจะเห็นว่าเป็นภาพที่น่ารักและตลกดี สามเณร ๓ รูป ถ่ายรูปด้วยกัน แต่มีรูปหนึ่งนั่งชันเข่า สบงเปิดเห็นไปยันไหนก็ไม่รู้..!? แต่ถ้าสำหรับคนทั่ว ๆ ไปก็คือเสื่อมศรัทธา ถ้าหากว่าแม้แต่พระเณรของเราไม่รู้จักระมัดระวังเรื่องพวกนี้ จะให้โยมเขาระมัดระวังแทน ย่อมเป็นไปไม่ได้

เถรี 01-09-2021 00:21

ในช่วงที่ผมไปเรียน ไม่ว่าระดับปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก สิ่งหนึ่งที่ผมดีใจมากก็คือ พบอาจารย์บางท่านรักและเคารพพระเณรแบบสุดจิตสุดใจเลย ขอออกชื่อไว้ที่นี่ก็ได้ คือ พลตรีเฉลิมชัย เสียงใหญ่ ท่านเคยเป็นผู้อำนวยการกองอนุศาสนาจารย์กองทัพบก ตอนนี้ท่านเกษียณอายุแล้ว ท่านระมัดระวังและให้ความเคารพพระเณรอย่างสูงสุด ประมาณว่าทุกรูปอย่างน้อยคือพระโสดาบัน..!

แม้กระทั่งการรับของจากพระจากเณร บางทีผมก็ตั้งใจแกล้งครับ กระผมถือไมค์ลอยอยู่ ถึงเวลาผมก็ส่งด้านหัวให้ ถ้าท่านรับก็แปลว่ามือจะต้องอยู่สูงกว่าพระ ซึ่งเรื่องพวกนี้ถ้าหากว่าใครที่เป็นพิธีกร หรือว่าเป็นผู้ช่วย เวลาส่งข้าวส่งของ รับส่งเทียนชนวนให้กับพระหรือให้กับประธานในงาน จะสังเกตว่า ไม่ว่าจะส่งหรือจะรับ มือเราต้องอยู่ต่ำกว่าเสมอ ในเมื่อผมตั้งใจส่งด้านหัวไมค์ให้ ท่านไม่รับ แต่ท่านแบ ๒ มือให้ผมวางลงไปแทน

แค่ท่านบรรจุเข้าเป็นอนุศาสนาจารย์ได้ไม่นาน ตอนนั้นท่านน่าจะยศร้อยโท ก็งัดข้อกับผู้บัญชาการกองพล..ยศพลตรีครับ ที่ให้โอวาทโดยเรียกทหารใหม่ว่า "ไอ้เณร" ท่านยกมือขัดคอกลางคันเลยนะครับว่า "ขออภัยครับท่านผู้บัญชาการ คำว่า "เณร" มาจาก "สามเณร" แปลว่าเชื้อสายของสมณะ เป็นบุคคลที่ควรเคารพ กรุณาตัดคำว่า "ไอ้" ออกด้วยครับ..!"

ถ้าเป็นพวกคุณกล้าไหม ? อนาคตตัวเองนะครับ ทำให้ผู้บังคับบัญชาเหม็นหน้านี่เป็นเรื่องทุกราย แต่ว่าเพื่อความถูกต้องอาจารย์ท่านกล้า..!

เถรี 01-09-2021 00:24

ผมถึงได้ไปนึกถึงพุทธภาษิตที่ว่า เราต้องยอมสละทรัพย์ เพื่อรักษาอวัยวะ ยอมสละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต ยอมสละทั้งทรัพย์ ทั้งอวัยวะ ทั้งชีวิต เพื่อรักษาธรรม ท่านทั้งหลายเป็นพระภิกษุสามเณรเอง ถ้าท่านไม่รัก ไม่ปกป้องสถาบันพระพุทธศาสนาของเรา แล้วจะให้ใครทำหน้าที่นี้ครับ ?

ดังนั้น...ทุกสิ่งทุกอย่างที่จะออกไปทางสื่อโซเชียล ผมถึงได้เตือนนักเตือนหนา โดยเฉพาะหลายท่านที่ชอบกันมาก ประเภทถ่ายเบื้องหลังครูบาอาจารย์ บางท่านครูบาอาจารย์ลงไปนั่งถ่างขา เล่นกับลูกหมา ก็ถ่ายมาด้วยความปลื้มใจว่า "ครูบาอาจารย์ของกูเมตตามาก" แล้วก็เอาไปลงสื่อ แล้วก็มีคนเข้ามาคอมเมนท์ว่า "พระห่_อะไรวะ ? นั่งถ่างขา..ไม่สำรวมเลย"

คราวนี้คุณเห็นหรือยังว่า ไอ้สิ่งที่เราเห็นว่าดี แล้วคนอื่นเขาเห็นดีด้วยหรือเปล่า ? กลายเป็นว่ากาย วาจา ใจของเรา เป็นทุกข์เป็นโทษกับคนอื่น เพราะคนที่ตำหนิด่าว่าพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไม่รอดอเวจีสักรายครับ ซ้ำยังปิดกั้นมรรคผลอีกด้วย เพราะไม่มีความเคารพอย่างแท้จริง กลายเป็นว่าเราทำตัวเป็นทุกข์เป็นโทษกับคนอื่นเสียด้วยซ้ำไป ก็คือซ้ำเติมให้เขาเดือดร้อน

เพราะฉะนั้น..เรื่องนี้ก็ขอให้พวกเราถือเป็นบทเรียนและระมัดระวังด้วย เพราะว่าหลวงพ่อเจ้าคณะภาค ๑๔ ท่านก็เป็นห่วง หลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีท่านก็เป็นห่วง ท่านกำชับว่าบรรดาเจ้าคณะปกครอง ตั้งแต่เจ้าอาวาส เจ้าคณะตำบล ต้องกำชับ
กันเป็นชั้น ๆ ไป เพราะว่าเราทำดีเป็นร้อยครั้ง ไม่มีใครเขาชม แต่ถ้าพลาดครั้งหนึ่ง เขาด่าไปเป็นร้อยครั้ง..!

สำหรับวันนี้ ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา แล้วก็บอกกล่าวแก่ญาติโยมที่ฟังอยู่ ทั้งทางบ้านและที่นี่แต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๓๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:28


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว