รากราคะ หรือ ว่านดอกทอง
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1296347083 ภาพจาก www.baanmaha.com รากราคะ หรือ ว่านดอกทอง เป็นว่านโบราณหายาก เชื่อกันว่าหากนำไปผสมดื่ม จะทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศรุนแรง อ้างอิง:
|
2 Attachment(s)
งานพฤกษาสยามครั้งที่ ๔ ซึ่งมี ตั้งแต่ ๒๔ สิงหาคม - ๒ กันยายน ๒๕๕๐ ณ ห้อง เอ็มซีซี ฮอลล์ เดอะมอลล์ บางกะปิ กรุงเทพฯ มีการจัดแสดงพันธุ์ไม้โบราณที่หายากและใกล้สูญพันธุ์เพื่อการอนุรักษ์ รวมทั้งการประกวดพันธุ์ไม้ ๘ ประเภท ได้แก่ บอนไซ โกสน บอนสี อโกลนีมา ลีลาวดี โป๊ยเซียน กล้วยไม้ และชวนชม ชิงถ้วยประทานพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ และเงินรางวัลรวมกว่า ๘ แสนบาท
นอกจากนี้ในงานยังมีการแสดงว่านไทยโบราณ จัดแสดงในรูปแบบสวนว่านไทย อาทิ ว่านกระบี่ทอง ว่านทรหด ว่านทุ่งเศรษฐี ว่านนเรศวร ว่านกล่อมนางนอน ฯลฯ แต่สิ่งที่ถือเป็นไฮไลต์ของงาน คือ “รากราคะ” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ว่านดอกทอง” ซึ่งเป็นว่านโบราณที่หายากและใกล้จะสูญพันธุ์ นายณรงค์ ค้านอธรรม นักอนุรักษ์ว่านไทยโบราณ เจ้าของว่านรากราคะ เผยว่า ว่านนี้อยู่ในวงศ์ซิงจิเบอร์เรซี เป็นพืชตระกูลเดียวกับขิง ลักษณะลำต้นใต้ดินเป็นเหง้ากลม แตกแง่งเป็นไหลเล็กยาว ๕-๑๐ นิ้ว เนื้อในหัวถ้าเป็นตัวผู้จะมีสีเหลือง ส่วนตัวเมียเนื้อสีขาว มีกลิ่นคาวจัดคล้ายกับอสุจิของคน พบมากทางภาคตะวันตกและภาคเหนือ แถบจังหวัดกาญจนบุรี ตาก ลำปาง ใบเป็นรูปหอกสีเขียวมีขนาดเล็ก เส้นกลางใบสีแดง ทั้งต้นสูงประมาณ ๑ ฟุต ออกดอกในหน้าฝน คล้ายดอกกระเจียว แต่ไม่มีก้านดอกจะอยู่ติดกับพื้นดิน มีสีขาวอมเหลือง โดยแทงดอกขึ้นจากเหง้าหลักที่อยู่ใต้ดิน ก่อนการงอกของใบ |
2 Attachment(s)
ว่านดังกล่าวนี้ ตามตำราโบราณระบุว่า มีอำนาจทางเพศรุนแรง โดยเฉพาะผู้หญิงเกิดรุนแรงมาก ถ้าเอาส่วนหัว หรือใบ หรือต้น ใส่โอ่งน้ำหรือบ่อน้ำ หากใครกินเข้าไปจะมีความรู้สึกทางเพศรุนแรงมาก โดยเฉพาะดอก เพียงได้กลิ่น ผู้คนที่ได้กลิ่นทั้งหญิงและชายจะพากันมัวเมาในโลกีย์รส ฉะนั้น..จึงต้องเด็ดดอกออกเสีย
นอกจากนี้ตามความเชื่อโบราณปลูกไว้ที่บ้าน ร้านค้า มีสรรพคุณทางเมตตามหานิยม ทำให้มีลูกค้าอุดหนุนอย่างไม่ขาดสาย อีกทั้งว่านดังกล่าวใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว จึงนำออกมาแสดงให้ประชาชนได้ชมก่อนที่จะสูญพันธุ์ไป http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1296347936 รากงอกจากเหง้า http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1296347937 ส่วนราก ข้อมูลข่าวจากไทยรัฐ วันศุกร์ที่ ๒๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๐อ้างอิงโดย http://www.arunsawat.com/board/index.php?topic=4904.0 |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:46 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.