กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   อักขระและคาถาอาคม (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=9)
-   -   พระคาถาพระอินทร์ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=5463)

หยาดฝน 04-03-2017 21:31

พระคาถาพระอินทร์
 
1 Attachment(s)
สะหัสสะเนตโต เทวินโท ทิพพะจักขุง วิโสธายิ
(ควรต่อด้วย อิกะวิติ พุทธะสังมิ โลกะวิทู)


http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1501844130

หยาดฝน 04-03-2017 21:38

อ้างอิงจาก "คาถาท่านปู่พระอินทร์" ค่ะ http://www.watthakhanun.com/webboard...ad.php?p=73117

อ้างอิง:

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ โอรส (โพสต์ 73116)
ถาม : หนูสวดคาถาพระอินทร์ "สหัสสะเนตโตฯ" ค่ะ จะสวดก่อนอ่านหนังสือ อ่านเสร็จก็จะสวดอีก ๑ จบ คืนนั้นนอนหลับแล้วหนูรู้สึกว่ามีคนมาบอกในฝันค่ะ เหมือนเราเข้าไปนั่งทำข้อสอบในห้องสอบเลย แล้วเป็นข้อสอบแบบสอบฟังค่ะ ภาษาอังกฤษ พูด ๆ มาหมดเลย แล้วเราก็ทำในฝัน เป็นข้อสอบเดิมย้ำ ๆ ๒ รอบ พอตื่นมาจำไม่ได้เลยค่ะ แสดงว่า.. ?
ตอบ : จริง ๆ แล้ว ตัวคาถาท่านปู่พระอินทร์เป็นทิพจักขุญาณอย่างหนึ่ง ถ้าได้ทิพจักขุญาณก็สามารถที่จะล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้

อีกอย่างหนึ่งถ้าหากเราทำคาถานี้คล่องตัวจริง ๆ ท่านบอกว่า เวลารับกระดาษคำถามมาแล้วให้คว่ำลง ตั้งใจขอบารมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พรหม เทวดาทั้งหมด มีท่านปู่พระอินทร์เป็นที่สุด ขอให้ทำข้อสอบนี้ได้ถูกต้องและก็ถูกใจกรรมการผู้ตรวจข้อสอบด้วย ตั้งใจว่านะโม ๓ จบ แล้วก็ว่าคาถานี้ ๓ จบ แล้วพลิกขึ้นมาอ่านคำถามดู ถ้ายังทำได้ไม่หมดก็คว่ำลง ว่าคาถาอีก ๗ จบ คราวนี้รู้สึกอยากตอบอย่างไรก็ให้ทำไปเลย

อาตมาเคยทดลองมาแล้วได้ผลดีมาก ขนาดตอบตรงทุกตัวอักษรเลย ข้อสอบของพระจะไม่มีตัวเลือก มีแต่จงอธิบายความ ๓ หน้ากระดาษ ๕ หน้ากระดาษ ก็แย่เหมือนกัน..ใช่ไหม ? แต่ทีนี้ของอาตมาแย่หนักกว่านั้นอีก คือตอบตรงทุกตัวอักษรเลย ถ้าเขาจับว่าอาตมาลอกข้อสอบนี่ตายแน่..! เถียงเขาไม่ออก คุณไม่ได้ลอกทำไมเขียนตรงได้ขนาดนั้น

ความรู้สึกบอกชัด ๆ เลยว่ามีพลังงานวิ่งลงมาเข้าตรงกระหม่อม แล้วกระจายไปทั่วตัว โดยเฉพาะมือ จะสั่นแบบบังคับไม่อยู่ ต้องใจเย็น ๆ ถ้าเขียนไม่สวยเดี๋ยวกรรมการตรวจไม่อ่านแล้วจะแย่

ความรู้สึกเป็นอย่างไรให้ว่าไปตามนั้น ข้อสอบไม่มียากเลย บางคนที่เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุงถามหลวงพ่อว่า "เด็กไม่อ่านหนังสือแล้วไปทำข้อสอบในลักษณะนั้น เด็กจะไม่โง่หรือ ?"
หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านตอบว่า "ไม่ว่าข้อสอบออกอะไรเด็กก็ทำได้ แล้วอย่างนั้นเด็กโง่ไหมล่ะ ?"

เหลือเชื่อเหมือนกันนะ แต่ถ้าหากว่าเราได้อ่านสักหน่อยหนึ่ง จะเป็นการดีมากกว่า คาถานี้อาตมาลองมาด้วยตัวเองแล้ว ได้ผลเกิน ๑๐๐%

อ้างอิง:

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ โอรส (โพสต์ 73117)
ถาม : แล้วตอนอ่านหนังสือความจำจะดีด้วยไหมคะ ?
ตอบ : ความจำจะดีด้วย ถ้าหากว่าเวลาที่เราจะสอบ ถ้าเราว่าคาถาแล้ว ถ้าจิตของเรานิ่งจริง ๆ ความรู้สึกจะย้อนกลับไปถึงตำราที่เราอ่าน ย้อนทวนได้ทั้งหมด เหมือนเรากางตำราลอกเลย ค่อย ๆ ทำไป ซ้อมเอาไว้ทุกวัน

ถาม : นั่งอยู่เฉย ๆ ไม่อ่านได้ไหมคะ แต่ท่องคาถา ?
ตอบ : ให้อ่านไว้สักหน่อยเผื่อเหนียวไว้ จริง ๆ แล้วที่อาตมาใช้คาถาทำข้อสอบเพราะปีนั้นป่วยหนัก พอป่วยหนักก็ไม่มีเวลาอ่านหนังสือ แล้ววิชาของพระหนังสือตั้งสูงเป็นศอกออกข้อเดียว ...(หัวเราะ)... คุณอ่านอาจจะไม่ออก แต่ถ้าคุณไม่อ่านจะออกแน่ ๆ..! ก็เลยต้องใช้พระคาถาช่วย


สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๕


หยาดฝน 04-03-2017 21:40

"อดีตที่ผ่านพ้นตอนที่ ๕๒ : คาถาตาทิพย์"
http://www.watthakhanun.com/webboard...read.php?t=611

อ้างอิง:

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ คิมหันต์ (โพสต์ 10021)
๕๒. คาถาตาทิพย์

...มาจะกล่าวบทไป ถึงท้าวสหัสนัยน์ตรัยตรึงศา ทิพยอาสน์เคยอ่อนแต่ก่อนมา กระด้างดังศิลาประหลาดใจ จะมีเหตุมั่นแม่นในแดนดิน อมรินทร์เร่งคิดสงสัย จึงสอดส่องทิพยเนตรดูเหตุภัย ก็แจ้งใจในนางรจนา...ฯลฯ

บทกลอนที่ยกมานี้ มาจากวรรณคดีเรื่องสังข์ทอง ตอนตีคลี บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ของพระอินทร์ เกิดแข็งกระด้างนั่งไม่สบายขึ้นมา เหตุเพราะคนดีกำลังเดือดร้อน พระอินทร์ก็เลยคว้ากล้องส่องทางไกล เอ๊ย...! ส่องทิพยเนตรดูว่าใครเป็นสาเหตุกันแน่...? เนื้อเรื่องต่อไปจะเป็นอย่างไรก็ช่างมันเถอะ ที่ติดใจคือคำว่าทิพยเนตรนั่นแหละ ถ้าใครมีละคุณเอ๋ย...แทงไฮโลว์อย่างเดียวก็รวยอื้อแล้ว...! “ไอ้โลภแบบนี้มันน่าไปนรกนิ...!” แฮ่...คิดแค่นี้ ลุงจะลากไปปิ้งซะแล้วไหมละ...!

หลวงพ่อ” เคยใช้คาถาดูโปเหมือนกัน ใช้สีผึ้งปิดหน้าคนตายวันเสาร์ เผาวันอังคาร ใช้นิ้วตัวเองทำเป็นก้อนเส้า เสกคาถาหุงสีผึ้ง ตำราว่าทำสามเดือนจะได้ผล แต่ “หลวงพ่อ” ทำแค่ไม่กี่วัน แถมได้แบบสุดยอดซะด้วย...! ทีนี้ก็มาลองกัน ปั่นเองแทงเอง มันออกมาตามที่เห็นจริง ๆ กำลังรุมทดลองกันเพลิน ๆ หลวงปู่ปานมาจากเขาวงพระจันทร์ตอนไหนไม่รู้ เอาไม้เท้าล่อกบาลเรียงตัวเลย บังคับให้เอาไปทิ้ง โธ่...น่าเสียดาย...!

พระรูปที่เอาไปทิ้งเอาซ่อนไว้ในกระเป๋าอังสะ กลับมาบอกหลวงปู่ว่าทิ้งไปแล้ว เลยโดนซะอีกโป๊กเบ้อเร่อ “ชะ..ชะ...แล้วในกระเป๋าอังสะนั่นอะไร...คิดว่าพระแก่ตาไม่ดีเรอะ...?” จ๋อยไปซิ...ต้องเอาไปทิ้งทั้งที่สุดแสนเสียดาย... แสดงว่าตาทิพย์แบบดูโป สู้ทิพยจักขุของหลวงปู่ไม่ได้ ซึ่ง “ทิพยจักขุ” แปลว่า “ความรู้สึกทางใจที่รู้ได้เหมือนมีตาทิพย์” ไม่ใช่ทิพยเนตร เพราะทิพยเนตรคือตาทิพย์ มีได้เฉพาะโอปปาติกะประเภทต่าง ๆ เช่น เทวดา พรหม พระบนนิพพาน เป็นต้น

หลวงปู่มหาอำพัน แห่งวัดเทพศิรินทราวาส ติดคำว่าทิพยเนตรอยู่นาน เพราะคิดว่าเป็นการใช้ตาเห็น ไม่ใช่ใช้ใจเห็น “หลวงพ่อ” เล่าว่า วันแรกที่หลวงปู่มหาอำพันมาหา ท่านเจ้าคุณนรฯ ลอยคุมหลังมาด้วย... ท่านเจ้าคุณนรฯ บอก “หลวงพ่อ” ว่า “ท่านช่วยสงเคราะห์น้องชายผมด้วยเถอะ เขาต้องการทิพยเนตรท่าเดียว ผมหมดปัญญาแล้ว...” ซึ่ง “หลวงพ่อ” แนะนำนิดเดียวเท่านั้น หลวงปู่ก็ทำได้ดี เพราะเข้าใจแล้วว่า ตาเห็นกับใจเห็นนั้นต่างกันอย่างไร ภายหลังพอหลวงปู่เล่าเรื่องลูกศิษย์ถูกเชือดคอ เห็นท่านเจ้าคุณนรฯ มาช่วย ท่านย้ำเสียงใสว่า “ใจเห็นนะ ไม่ใช่ตาเห็น...

สมัยหลวงพ่อสอบเปรียญ ๔ ตอนนั้นเป็นช่วงสงครามพอดี ครูบาอาจารย์อพยพหนีลูกระเบิดกันหมด เลยไม่ได้เรียน แต่ถึงเวลาก็ไปสอบกับเขา แบบนี้ถ้าสอบได้ก็มหัศจรรย์ล่ะ แต่เหตุมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้นจนได้ซิน่า...! ท่านปู่พระอินทร์มาบอกคาถาบทหนึ่ง ท่านว่าเป็นคาถากันลืม อ่านหนังสือแล้วจะจำได้ แต่ “หลวงพ่อ” ท่านเรียกว่า “คาถารู้ก่อนเกิด” เพราะบาลีนั้น ถ้าไม่มีครูสอนให้แปล อ่านไปจำได้แต่แปลไม่ได้จะมีประโยชน์อะไร...คาถาว่าดังนี้...

“สหัสสเนตโต เทวินโท ทิพจักขุง วิโสธายิ”

เวลารับกระดาษสอบมาอย่าเพิ่งอ่าน ให้คว่ำกระดาษลงก่อน ให้นึกขอบารมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พรหม และเทวดาทั้งหมด มีท่านปู่พระอินทร์เป็นที่สุด ขอให้ช่วยสงเคราะห์ทำข้อสอบนี้ได้โดยถูกต้อง และถูกใจผู้ตรวจด้วย จากนั้นว่าคาถา ๓ จบ แล้วพลิกอ่านดู ถ้ายังไม่เข้าใจให้คว่ำกระดาษลงใหม่ ว่าคาถาอีก ๗ จบ คราวนี้อยากทำอยากเขียนอะไรให้ลุยได้เลย...!

“หลวงพ่อ” บอกว่าพอว่าคาถา ๓ จบ แล้วดูข้อสอบ มันแปลได้เกือบครึ่ง ว่าอีก ๗ จบ คราวนี้ทำได้หมดเลย ท่านเขียนแค่ ๑๕ นาทีเสร็จ เอากระดาษคำตอบไปส่ง ท่านเจ้าคุณธรรมปาหังสนาจารย์ ที่คุมห้องสอบถามว่า... “จะไม่ทำซะหน่อยรึ...?” “หลวงพ่อ” บอกว่า “เสร็จแล้วครับ” ท่านก็งง ถามว่า “ทวนแล้วยัง...?” “หลวงพ่อ” บอกว่า “ทวนหรือไม่ทวนก็เหมือนกันครับ...” ความหมายของ “หลวงพ่อ” คือ ตกแน่ ๆ แล้วจะไปทวนทำไมให้เสียเวลา...!

กลับไปนอนตีพุงที่วัดประยุรวงศาวาส วันประกาศผลสอบ พระรูปอื่นนั่งล้อมวิทยุฟังผลกัน “หลวงพ่อ” นอนเขลงอยู่คนเดียว หลังจากประกาศผลไม่นาน เสียงเจ้าคุณธรรมปาหังสนาจารย์ ตะโกนโหวกเหวกว่า... “ไอ้มหาสิบห้านาทีอยู่กุฏิไหนวะ...?” มีพระชี้กุฏิให้ ที่แท้ท่านสงสัยว่า “หลวงพ่อ” ทำข้อสอบอย่างไรเร็วนัก เลยจดชื่อ – ฉายา และวัดเอาไว้ ถึงเวลา “หลวงพ่อ” สอบได้จริง ๆ ท่านเลยรีบมา ช่วงสงครามข้าวของหายากยิ่งนัก ท่านอุตส่าห์เอานมกับโอวัลตินมาถวาย “หลวงพ่อ” จนได้...

นั่น “หลวงพ่อ” ทำ ทีนี้มาถึงตัวอาตมาเอง ตอนเป็นนักเรียนทหารสอบอะไร ๆ ก็ผลออกมายอดเยี่ยม เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ซะเรื่อยไป แม้แต่วิชาแผนที่ – เข็มทิศ ที่เป็นยาขมหม้อใหญ่ ก็ไม่เห็นยากสักนิด แต่บังเอิญตัวเองความจำดี เลยแยกไม่ถูกว่าเป็นอานุภาพของคาถา หรือตัวเองจำแม่นกันแน่...?

พอมาบวชเข้าคราวนี้ชัดเลย สอบนักธรรมไม่ว่าจะเป็นนวกะ ตรี โท เอก อ่านหนังสือเองแล้วไปอาศัยสนามสอบในเมือง วิธีอ่านหนังสือคือ เอาหนังสือวางบนอกแล้วกรนคร่อก ๆ ตามสบาย... เที่ยงจะไปสอบ เช้ายังนอนตีพุงอยู่เลย พอรับข้อสอบมา คว่ำกระดาษว่าคาถาซะรวดเดียว ๑๐ จบ แล้วตะลุยโลด รู้สึกมีพลังลึกลับแทรกมาทางขม่อม มันให้รู้ไปหมด ว่าควรเขียนอย่างไร ควรตอบอย่างไร...! ๑๕ นาทีเสร็จเหมือนกัน ส่งกระดาษคำตอบแล้วกลับมานอนต่อ ใช้วิธีแบบนี้มาตลอด สอบได้ทุกที คะแนนยอดเยี่ยมซะด้วย จนพนันกันว่า ถ้าอาตมาสอบตกจะต้องเลี้ยงโต๊ะจีนทั้งวัด จนป่านนี้ยังไม่มีใครได้ฉันสักคน...!

ตอนสอบนักธรรมเอก อาตมาป่วยเป็นไวรัสลงตับ ซังกะตายไปสอบอย่างนั้นเอง หนังสือตั้งเบ้อเร่อออกแค่ ๗ ข้อ น่าตกหยอกใครล่ะ...แถมป่วยจนไม่ได้อ่านด้วย ก็ต้องเล่นคาถาตามเคยซิ...! พอว่าคาถาจบ มือมันเขียนเองจนบังคับแทบไม่ได้ ตอนไหนเสือกรู้ดีไปแก้ ความรู้จะขาดวับไปเลย ทำต่อไม่ได้ จนยอมตอบตามความรู้สึกนั่นแหละ จึงต่อติดทำได้เหมือนเดิม จะยากง่ายแค่ไหนก็ ๑๕ นาทีเสร็จ...

ถ้ากรรมการออกข้อสอบรู้ว่า ข้อสอบที่ท่านพยายามเค้นออกมาเล่มละ ๑ ข้อนั้น คนไม่อ่านหนังสือก็ทำได้ คงแค้นจนแทบกระอักโลหิตตาย ก็ช่วยไม่ได้นี่ครับ “หลวงพ่อ” ของผมเก่งนี่นา...!

๑๓ เมษายน ๒๕๓๓
พระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ

หมายเหตุ : ตอนนั้นหมอวินิจฉัยว่าเป็นไวรัสลงตับ มาตอนนี้ทราบชัดว่าที่จริงแล้วเป็นมาเลเรีย...!

๙ สิงหาคม ๒๕๔๙
พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ


หยาดฝน 30-09-2021 00:14

เผื่อท่านใดอยากฝึกเขียน จะได้เหมือนมีเพื่อนฝึกเขียนไปด้วยค่ะ
รับชมการเขียนได้ที่ https://youtu.be/t7Na3q909TM



หรือรีบ..อยากดูไว ๆ รับชมแบบความเร็ว ๓ เท่า ได้ที่ https://youtu.be/C5zB_6cMgdw



หยาดฝน 30-09-2021 00:14

หรือถ้าใครจริตชอบสีแดง ก็สามารถรับชมแบบถูกจริตได้ที่ https://youtu.be/QOZBUWhevSo



ดูแบบรีบ ๆ ได้ที่ https://youtu.be/swqP6D3PABc



เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 12:55


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว