กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=51)
-   -   ขับรถเร็วเพื่อฝึกสมาธิ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=7323)

รุ้งทรงกลด 02-12-2020 16:09

ขับรถเร็วเพื่อฝึกสมาธิ
 
หลังจากที่เคยฝึกสมาธิ จนจิตรวมเป็นหนึ่ง เหลือแค่สติเพียงอย่างเดียว แต่ตอนนั้นเกิดกลัว เพราะหาร่างกายไม่เจอ มีแค่สติเท่านั้น นึกว่าตัวเองตายแล้ว ก็เลยเกิดกลัวขึ้นมา สักพักสมาธิก็ถอนออกมา เลยรู้ว่าตัวเองยังไม่ตาย ไม่นานจิตก็จะรวมอีก ก็พยายามยั้งไว้ เพราะตอนนั้นไม่รู้ว่าอาการแบบนี้ คืออะไร

มาตอนหลังถึงได้รู้ว่านั้นคือ สมาธิ ก็พยายามจะทำให้ได้แบบนั้นอีก แต่ก็ไม่สามารถรวมจิตให้เป็นหนึ่งแบบนั้นได้สักที ได้มากที่สุดก็คือ มีอารมณ์ทรงตัวได้ง่ายกว่าแต่ก่อน พอทำอะไรที่ชอบใจแล้วก็มักจะมีอารมณ์ที่มั่นคง มีอาการหน่วง ๆ ที่ใบหน้า บางครั้งก็สามารถรู้ลมได้เองโดยที่ไม่ต้องกำหนด แต่ก็ไม่ต่อเนื่องเหมือนแต่ก่อน เลยไม่สามารถรวมจิตได้สักที

แต่หลังจากนั้น เท่าที่สังเกตไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามที่ชอบใจ จิตก็มักจะทรงตัวได้ง่ายมาก โดยที่ไม่ต้องกำหนดรู้ลมหายใจ เพราะเมื่ออารมณ์ทรงตัว ก็จะรู้ลมได้เอง

ผมเคยลองขับมอเตอร์ไซต์เร็ว ๆ เสียงดัง ๆ ก็รู้สึกสนุก แล้วอารมณ์ก็ทรงตัวได้เหมือนกัน มีอาการรู้ลมได้เองโดยที่ไม่ต้องกำหนด เหมือนกับการทำสมาธิแบบอื่น ๆ เพียงแต่พอเลิกขับรถแล้ว สักพักอารมณ์ทรงตัวนั้นก็หายไป ก็ต้องกลับไปขับรถเร็ว ๆ ใหม่ อารมณ์ก็จะกลับมาทรงตัวอีก

แบบนี้ก็แสดงว่า คนที่ชอบขับรถเร็ว ๆ แรง ๆ ก็เป็นการฝึกสมาธิไปในตัวสำหรับชาตินี้ของเขาใช่หรือไม่ครับ

นาย หวังดี 02-12-2020 18:34

มีใกล้เคียงกับคำถามที่หลวงพ่อเคยตอบไว้ครับ


ถาม : นักแข่งรถ เวลาเขานั่งอยู่ในรถ เขาจะทำตัวไม่มีตัวไม่มีตน นั่นคือการใช้อรูปฌานหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : การที่เขาจดจ่ออยู่แค่ว่าตัวเองทำอะไร โดยที่ไม่ได้คิดถึงว่าตัวเองจะเจ็บจะตายหรือเปล่า สมาธิต้องเป็นระดับปฐมฌานละเอียดขึ้นไป ถึงจะทำได้

ถาม : แค่ปฐมฌานละเอียดหรือคะ ?
ตอบ : เพราะว่าพอถึงระดับนั้นแล้ว จิตกับประสาทเริ่มจะเป็นคนละส่วนกัน จะมุ่งงานเฉพาะหน้า ไม่ได้ใส่ใจในร่างกาย คนที่ทำได้ในระดับนี้ บางทีทำงานไประยะหนึ่งแล้วหมดสภาพไปเฉย ๆ เพราะว่าลืมพักผ่อน ประเภททำข้ามวันข้ามคืนไปเลย พอถึงเวลาจะพัก ตัวเองก็ไม่ไหวเสียแล้ว งานหมดก็หมดสภาพไปเลย เขาเรียกว่ายังหาจุดพอดีของตัวเองไม่เจอ


ฉะนั้น..กำลังใจที่มุ่งมั่นขนาดนั้น พอถึงเวลาจิตกับประสาทแยกส่วนกัน ก็เลยทำให้ไม่รู้สึกว่าจะต้องกลัวอะไร สมาธิระดับนั้นก็เลยกล้าที่จะขับรถด้วยความเร็วระดับสองร้อยกว่ากิโลเมตรต่อชั่วโมง บางครั้งเข้าโค้งทีไฟแลบเลย

ถาม : ไม่ต้องถึงอรูปฌานหรือคะ ?
ตอบ : ถ้าถึงอรูปฌานก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะว่าจะไม่รับรู้ข้างนอก ถ้าไม่คล่องตัวจริง ๆ อรูปฌานจะไม่รับรู้อะไรข้างนอกเลย แล้วจะไปบังคับรถอย่างไร ? ยกเว้นท่านที่ชำนาญเป็นพิเศษ ก็คงจะเป็นหนึ่งในหลายสิบล้าน..!

ถาม : แค่ปฐมฌานจะสามารถรับรู้อะไรข้างนอกได้ ?
ตอบ : จะยิ่งรู้ละเอียด เพราะเป็นลักษณะของฌานใช้งาน โดยเฉพาะปฐมฌานละเอียด สติจะสมบูรณ์พร้อมอยู่กับตัวเอง หลับกับตื่นความรู้สึกเท่ากัน เวลาทำอะไรก็จะทำได้ดีกว่าคนทั่วไปเยอะมาก บางทีมีส่วนของความเป็นทิพย์มาช่วยคำนวณด้วย

อย่างเช่นต้องเข้าโค้งแรงแค่นี้ ต้องแตะเบรกแค่นี้แล้วรถจะไถลไปถึงมุมนั้นพอดี แทนที่จะคำนวณด้วยความชำนาญเฉพาะตัว ก็เริ่มไม่ใช่แล้ว กลายเป็นมีความเป็นทิพย์บางส่วนมาช่วยแล้ว

นักกีฬา หรือนักรบ นักต่อสู้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีสมาธิมาช่วยเป็นอย่างมาก เราจะสังเกตว่า นักกีฬาบางคน ถ้าสมาธิไม่ทรงตัว สถิติจะเสียไปเลย หรือแพ้คู่ต่อสู้แบบยับเยินเลย

อย่างสมัยก่อนเวลารบกันไม่เหมือนกับสมัยนี้ สมัยนี้ห่างกันเป็นกิโลก็ยิงกันแล้ว สมัยก่อนต้องถือดาบถือหอกเข้าไปประจัญบานกัน ถ้าสมาธิไม่ทรงตัว กำลังใจลดหน่อยเดียว ก็ไม่กล้าสู้แล้ว บางทีวิ่งหนีเอาดื้อ ๆ ก็มี..!



เก็บตกบ้านอนุสาวรีย์ ต้นเดือนมกราคม ๒๕๕๔

สุธรรม 05-12-2020 03:47

ถาม : หลังจากที่เคยฝึกสมาธิจนจิตรวมเป็นหนึ่ง เหลือแค่สติเพียงอย่างเดียว แต่ตอนนั้นเกิดกลัว เพราะหาร่างกายไม่เจอ มีแค่สติเท่านั้น นึกว่าตัวเองตายแล้วก็เลยเกิดกลัวขึ้นมา สักพักสมาธิก็ถอนออกมาเลยรู้ว่าตัวเองยังไม่ตาย ไม่นานจิตก็จะรวมอีกก็พยายามยั้งไว้ เพราะตอนนั้นไม่รู้ว่าอาการแบบนี้คืออะไร

มาตอนหลังถึงได้รู้ว่านั้นคือสมาธิ ก็พยายามจะทำให้ได้แบบนั้นอีก แต่ก็ไม่สามารถรวมจิตให้เป็นหนึ่งแบบนั้นได้สักที ได้มากที่สุดก็คือ มีอารมณ์ทรงตัวได้ง่ายกว่าแต่ก่อน พอทำอะไรที่ชอบใจแล้วก็มักจะมีอารมณ์ที่มั่นคง มีอาการหน่วง ๆ ที่ใบหน้า บางครั้งก็สามารถรู้ลมได้เองโดยที่ไม่ต้องกำหนด แต่ก็ไม่ต่อเนื่องเหมือนแต่ก่อน เลยไม่สามารถรวมจิตได้สักที

แต่หลังจากนั้น เท่าที่สังเกตไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามที่ชอบใจ จิตก็มักจะทรงตัวได้ง่ายมาก โดยที่ไม่ต้องกำหนดรู้ลมหายใจ เพราะเมื่ออารมณ์ทรงตัว ก็จะรู้ลมได้เอง

ผมเคยลองขับมอเตอร์ไซค์เร็ว ๆ เสียงดัง ๆ ก็รู้สึกสนุก แล้วอารมณ์ก็ทรงตัวได้เหมือนกัน มีอาการรู้ลมได้เองโดยที่ไม่ต้องกำหนด เหมือนกับการทำสมาธิแบบอื่น ๆ เพียงแต่พอเลิกขับรถแล้ว สักพักอารมณ์ทรงตัวนั้นก็หายไป ก็ต้องกลับไปขับรถเร็ว ๆ ใหม่ อารมณ์ก็จะกลับมาทรงตัวอีก

แบบนี้ก็แสดงว่า คนที่ชอบขับรถเร็ว ๆ แรง ๆ ก็เป็นการฝึกสมาธิไปในตัวสำหรับชาตินี้ของเขาใช่หรือไม่ครับ ?
ตอบ : บางคนก็แค่ชอบความตื่นเต้นระทึกใจเท่านั้น


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:49


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว