กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกบ้านเติมบุญ ต้นเดือนเมษายน ๒๕๖๓ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6940)

เถรี 25-03-2020 22:37

"การไปนั่งกินอาหารนอกบ้าน ซึ่งทำให้มีรายจ่ายสูงมาก ก็กลายเป็นการทำอาหารกินเองในบ้าน ได้อยู่พร้อมหน้ากันทั้งครอบครัว ได้ฝึกซ้อมฝีมือการทำอาหาร ได้รื้อฟื้นบรรยากาศรักใคร่กลมเกลียวกันในบ้านขึ้นมาใหม่

เท่ากับว่าทำให้พวกเราส่วนใหญ่ได้ปฏิบัติธรรมตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ โดยละเว้นจากอบายมุข คือ การดื่มสุรา การเที่ยวกลางคืน การเที่ยวดูการละเล่น ฯลฯ กลายเป็นคนดีของครอบครัว เป็นประชาชนที่มีคุณภาพของประเทศชาติ โดยการบังคับของไวรัส covid-๑๙ ซึ่งความจริงแล้วก็คือความกลัวตายของเรานั่นเอง"

เถรี 25-03-2020 22:42

"เมื่อการใช้รถใช้ถนนน้อยลง อุบัติเหตุย่อมน้อยลงไปด้วย ประเทศของเราซึ่งการตายด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์มาเป็นอันดับ ๑ ก็จะลดน้อยถอยลงไปมาก อากาศบริสุทธิ์ขึ้น ฝุ่น PM ๒.๕ ที่เรากลัวกันมาก ก็อาจจะหายไปเลยทีเดียว

ผู้คนส่วนหนึ่งกลับบ้านต่างจังหวัด ซึ่งถ้ามีการห้ามเดินทางข้ามจังหวัด ก็ต้องหาอยู่หากินกับไร่นาของตน ย้อนกลับไปใช้ชีวิตตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง พึ่งพาตนเอง พึ่งพากันเอง เท่ากับดำเนินการตามพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ไปโดยปริยาย

ปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ ซึ่งไม่มีรัฐบาลไหนแก้ได้สำเร็จ ตอนนี้ไม่ต้องแก้ไขก็แทบจะไม่มีรถวิ่ง การพึ่งพาตนเองตามทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงดำเนินเป็นแบบอย่างมานานหลายสิบปี ก็จะปรากฏประโยชน์ชัดในระยะนี้ บุคคลที่ทำตามย่อมสามารถที่จะอยู่ได้โดยไม่ลำบาก ใครที่เริ่มต้นใหม่ก็ต้องทนกับความลำบากในระยะแรกไปก่อน"

เถรี 25-03-2020 22:44

"ช่วงนี้จึงเป็นโอกาสทองของพวกเรา ที่จะยืนหยัดด้วยตนเอง เมื่อเรายืนได้มั่นคงแล้ว ก็ช่วยประคับประคองคนอื่น ถ้าทุกคนทำตามพระราชดำริ อยู่โดยระบบเศรษฐกิจพอเพียง ประเทศชาติของเราก็จะมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ตามยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปีโดยไม่ต้องทำอะไรมากนัก

การได้อยู่กับท้องไร่ท้องนา อยู่กับสายลมแสงแดด ทำการงานซึ่งเป็นการออกกำลังกายไปในตัว กินอาหารที่มาจากไร่นาของตนเอง ปราศจากมลพิษ ย่อมทำให้สุขภาพดี ร่างกายแข็งแรง อายุยืนนาน

เวลาที่เหลือเราก็สวดมนต์ไหว้พระ เข้าวัดทำบุญ แม้ว่าจะยากสักนิดหนึ่ง ที่ต้องปฏิบัติตามหลักการคัดกรองโรค แต่วัดก็ยังเปิดสำหรับสาธุชนอยู่เสมอ อาจจะฟื้นวิถีชีวิตแบบโบราณ ซึ่งทุกคนอยู่ในศีลกินในธรรมให้กลับคืนมา พระพุทธศาสนาย่อมเจริญรุ่งเรือง ทำให้ประเทศชาติมั่นคงไปด้วย"

เถรี 25-03-2020 22:50

"เรื่องหนึ่งที่บ้านเราไม่นิยม เพราะว่าไม่มั่นใจในความปลอดภัย ก็คือการทำธุรกรรมทางการเงินแบบออนไลน์ ก็คงจะได้เฟื่องฟูขึ้นในระยะนี้ แต่อาจจะทำให้ธนาคารต้องปิดสาขาไปเลย เพราะว่าผู้คนไม่ไปใช้บริการ หรือว่าใช้บริการกันน้อยมาก จนไม่คุ้มค่าที่จะเปิดสาขากันต่อไป

ส่วนที่เริ่มได้รับความนิยม คือการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ และการสั่งซื้ออาหารแบบส่งตรงถึงบ้าน อาจจะได้รับคำสั่งซื้อชนิดที่ส่งไม่ทัน แต่ว่าสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งก็คือ บริการที่รวดเร็ว ซื่อสัตย์ ซื่อตรง สินค้ามีคุณภาพตามที่โฆษณาเอาไว้"

เถรี 25-03-2020 22:51

"โบราณว่า "ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน" ถ้าหากว่าบริการดี สินค้ามีคุณภาพ ส่งถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็ว ก็จะมีการบอกต่อกันในโลกออนไลน์ แล้วลูกค้าจะเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ส่วนที่ยากลำบากก็คือ การรักษาระดับคุณภาพสินค้า และคุณภาพของการบริการ ให้อยู่ในระดับเดียวกันตลอดเวลา

จะเห็นได้ว่าปัจจัยพื้นฐานของชีวิตเรานั้น ได้แก่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค นอกเหนือจากนี้แล้วเป็นส่วนที่สามารถขาดได้ คือไม่มีความจำเป็นต่อชีวิตมากนัก เพียงแค่อำนวยความสะดวกให้กับเราเท่านั้น"

เถรี 25-03-2020 22:52

"หลักธรรมที่สำคัญในระยะนี้ ซึ่งจำเป็นต้องมีก็คือ หลักสันโดษ หรือ ความพอเพียง ตามที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงแปลไว้นั่นเอง ประกอบด้วย

๑. ยถาลาภสันโดษ ยินดีตามที่ได้มา
๒. ยถาพลสันโดษ ยินดีตามกำลังที่ตนหาได้
๓. ยถาสารุปปสันโดษ ยินดีตามฐานะของตน

ดังนั้น..สันโดษไม่ได้แปลว่าต้องจน หากแต่เป็นการทำตนให้สมกับฐานะ หรือถ้าใครสามารถโลว์โปรไฟล์ ทำตนให้ต่ำกว่าฐานะของตนเองได้ ก็จะเป็นเรื่องที่ประเสริฐยิ่ง"

เถรี 25-03-2020 22:54

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อบนท้องถนนไม่มีรถยนต์ หรือนาน ๆ จะมีมาสักคันหนึ่ง บางคนถึงกับกลัว เพราะว่าสูญเสียความเคยชิน โดยที่ไม่รู้ว่าความเคยชินนั่นแหละ ที่สร้างความเสียหายให้กับนักปฏิบัติธรรมอย่างยิ่ง

เมื่อเราอยู่ที่ใดที่หนึ่งนาน ๆ จนคุ้นชินกับที่นั่นแล้ว สภาพจิตจะเกิดความรู้สึกว่าปลอดภัย ก็เริ่มขาดการระมัดระวัง เป็นเหตุให้ขาดสติ โดนกิเลสทำลายได้ทุกเวลา"

เถรี 25-03-2020 22:56

"องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงบัญญัติธุดงควัตรขึ้นมา เพื่อให้พระของเราได้ไปในสถานที่ต่าง ๆ อันไม่คุ้นเคย สภาพจิตก็จะตื่นตัว ด้วยความกลัวเกรงว่าเป็นที่ไม่คุ้นชิน อาจจะมีอันตรายเกิดขึ้นได้

ดังนั้น..หลายท่านเมื่อเปลี่ยนที่นอน ก็มักจะนอนไม่หลับ โดยให้เหตุผลว่าแปลกที่ แต่ความจริงก็คือสภาพจิตไม่คุ้นชิน ทำให้เกิดการหวาดระแวงอันตราย จึงนอนไม่หลับเหมือนกับสถานที่ซึ่งเราคุ้นชิน

โดยที่หารู้ไม่ว่า สำหรับนักปฏิบัติธรรมแล้ว สภาพจิตที่ตื่นอยู่เสมอ จึงจะรู้เท่าทันกิเลส และสามารถป้องกันไม่ให้กิเลสเกิดได้ทัน ถ้าสภาพจิตขาดการตื่นรู้ ขาดสติ ก็ย่อมจะโดนกิเลสกินได้ตลอดเวลา"

เถรี 25-03-2020 22:57

"เราจึงต้องฝึกตนเองให้มีสภาพจิตที่ตื่นอยู่เสมอ จะหลับหรือว่าจะตื่น สภาพจิตต้องมีการตื่นรู้เท่ากัน จะได้ระมัดระวัง ไม่ไปก่อสาเหตุแห่งกิเลส จนกิเลสนั้นเจริญงอกงามได้

ไม่อย่างนั้นแล้วบุคคลทั่วไป ต่อให้กลางวันระมัดระวังมากแค่ไหน กลางคืนก็มักเสียท่ากิเลสอยู่เสมอ บางท่านกลางวันไม่กล้าเหยียบแม้แต่มดสักตัว กลางคืนฝันว่าฆ่าเขาไปหลายศพ บางคนสำรวมแม้แต่เพศตรงข้ามก็ไม่กล้ามอง กลางคืนฝันว่าปล้ำลูกชาวบ้านเขาไปแล้ว"

เถรี 25-03-2020 23:02

"ท่านทั้งหลายจึงต้องอยู่กับลมหายใจเข้าออก หรืออานาปานสติ จนสภาพจิตมีการตื่นรู้ กำหนดการภาวนาเองโดยอัตโนมัติ แล้วเราใช้สตินั้นประคับประคองการตื่นรู้เอาไว้ อย่าเผลอให้หลุดไปไหน ถ้าอย่างนั้นท่านก็จะพ้นมือกิเลสได้ชั่วคราว เพราะว่าสภาพจิตที่อยู่กับปัจจุบันธรรม ไม่สามารถเกิด รัก โลภ โกรธ หลง ขึ้นมาได้

แต่ถ้าเผลอหลุดไปเมื่อไร รัก โลภ โกรธ หลง ก็จะมาเป็นฟ้าถล่มดินทลาย เพราะว่าโดนเก็บกดเอาไว้ กิเลสกลัวว่าตัวเองจะตาย ถึงเวลาก็ดิ้นรนอย่างเต็มที่ ท่านก็จะประสบกับอาการกรรมฐานแตก จิตตก สมาธิตก ซึ่งสำหรับนักปฏิบัติแล้ว ก็เหมือนกับตกนรกดี ๆ นี่เอง..!

ฉะนั้น.. ต้องพึงระวังเอาไว้เสมอ ถึงการอยู่กับลมหายใจเข้าออก จะเป็นการพ้นกิเลสแค่ชั่วคราว ก็ขอให้ได้พ้นไปก่อน สภาพจิตที่ไม่ส่งส่ายวุ่นวาย ย่อมพาให้ปัญญาเกิด แล้วจะเห็นช่องทางว่า ทำอย่างไรจะรักษาความสงบเย็นของจิต เอาไว้ให้ได้นานเท่าที่เราต้องการ จนกว่า
กำลังของสมาธิและปัญญาจะเพียงพอ ในการประหารฆ่ากิเลสลงไปได้"

เถรี 26-03-2020 06:41

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาออกคำสั่งเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ปิดวัด ห้ามคนในออก ห้ามคนนอกเข้า นอกจากการบิณฑบาตตามปกติแล้ว ไม่ว่าจะการงานใด ๆ ที่ต้องมีคนนอกเข้าออกเพื่อทำงานให้วัด ต้องยกเลิกไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง

จะว่าไปแล้วในเรื่องของการเข้าวัดทำบุญ ไม่ควรที่จะมีการห้ามใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ในวาระที่ไม่ปกติ เราจะเอาเหตุผลปกติมาใช้ไม่ได้ ควรที่จะทำตามโดยไม่มีข้อแม้ ไม่เช่นนั้นแล้วท่านอาจจะเป็นผู้แพร่กระจาย หรือได้รับเชื้อไวรัสโดยไม่รู้ตัว"

เถรี 26-03-2020 06:43

"แบบเดียวกับต่างประเทศ ที่ทำแชลเลนท์ท้าทายต่าง ๆ เพื่ออวดว่าไวรัส covid-๑๙ ไม่มีอะไรน่ากลัว ไม่จำเป็นต้องป้องกัน ด้วยการเลียโถส้วมแข่งกัน

ในที่สุดก็มีคนติดเชื้อไวรัสจากการเลียโถส้วม ซึ่งไม่มีใครเวทนาเลย นอกจากสมน้ำหน้า เป็นการใช้ชีวิตที่ประมาท ขาดสติ ท้าทายกรรม จนในที่สุดกรรมก็ตามสนอง สมเจตนารมณ์ของตนทุกประการ

ส่วนในประเทศอิตาลี นายกเทศมนตรีเมืองมิลานต้องไลฟ์สด ด่าประชาชนภายใต้การปกครองของตนเอง ที่ใช้ชีวิตโดยประมาท เห็นว่าตัวเองยังไม่ติดเชื้อ ก็ไม่ยอมละทิ้งความเคยชิน ยังออกไปสวนสาธารณะ ออกไปสังสรรค์ในพื้นที่สาธารณะ โดยไม่สนใจคำเตือนหรือข้อห้ามของทางราชการ จนอิตาลีกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อนอกเมืองจีนมากที่สุดในโลก และมียอดการเสียชีวิตสูงสุดในโลก กระนั้นก็ยังมีผู้ไร้จิตสำนึก ทำตนจนกระทั่งนายกเทศมนตรีทนไม่ได้ ต้องออกมาด่าประจานกัน"

เถรี 26-03-2020 06:45

"อาตมาแค่ปิดวัดท่าขนุน ทางรัฐบาลแค่ขอความร่วมมือให้ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในบ้าน ถ้าไม่มีความจำเป็นระดับถึงแก่ชีวิต หรือทำให้งานส่วนรวมเสียหายมาก โปรดกรุณาใช้ชีวิตอยู่ในบ้าน อย่าได้ออกไปสร้างความเดือดร้อนให้แก่ตัวเองและผู้อื่น

ถ้าเรายังยอมรับความลำบาก ความไม่เคยชิน ไม่เกิน ๓ อาทิตย์ ทุกอย่างก็จะอยู่ในความควบคุม เจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาล ตลอดจนทางราชการก็ทำงานง่ายขึ้น สามารถเอาชนะโรคภัยไข้เจ็บได้เร็วขึ้น ช่วยให้ตัวเราและคนที่เรารักปลอดภัยได้เร็วขึ้น

โปรดเสียสละประโยชน์ส่วนน้อยของตน เพื่อประโยชน์ส่วนใหญ่ของชาติบ้านเมือง เราจะได้เดินไปด้วยกัน มีส่วนร่วมในการต่อสู้กับไวรัสด้วยกัน และท้ายที่สุด..ได้รับชัยชนะร่วมกัน"

เถรี 26-03-2020 08:22

"แม้ว่าจะห้ามเข้าออกวัด แต่กฎทุกกฎย่อมมีข้อยกเว้น พระภิกษุสามเณรยังต้องออกบิณฑบาต ก็ด้วยเหตุ ๒ ประการ

๑. พระภิกษุสามเณรก็คือคนทั่วไป ยังต้องการอาหารเพื่อดำรงธาตุขันธ์นี้ไว้รักษาพระพุทธศาสนา

๒. ญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลายต้องการที่พึ่งทางใจ ยิ่งในภาวะวิกฤต การได้เห็นพระภิกษุสามเณร นับเป็นมงคลใหญ่ตามมังคลสูตรที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสเอาไว้"

เถรี 26-03-2020 08:24

"ในเมื่อเป็นเช่นนั้น การออกบิณฑบาตจึงเป็นเรื่องจำเป็นมาก และทำให้เห็นอัจฉริยภาพขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงบัญญัติวิธีการปฏิบัติต่าง ๆ แก่พระภิกษุสามเณร ได้เหมาะสมกับทุกยุคทุกสมัย

เช่น การเดินบิณฑบาตต้องทิ้งช่วงห่างกัน พอให้คนวิ่งรอดได้ เพราะว่าในสมัยพุทธกาล ผู้คนขับไล่โจรมา โจรไม่กล้าวิ่งลอดแถวพระภิกษุสงฆ์ เพราะเกรงว่าจะติดกาลกิณี ยอมให้ชาวบ้านทุบตาย แม้ว่าจะเป็นไปด้วยความเขลา ขาดปัญญาในการปฏิบัติ แต่ก็เพราะพระภิกษุสามเณรเป็นเหตุ

องค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ จึงต้องมีพระพุทธบัญญัติ ให้พระภิกษุสามเณรเดินทิ้งช่วงห่างกัน กลายเป็น Social Distancing ที่ถือปฏิบัติมาสองพันกว่าปีแล้ว

การฉันในบาตร การห้ามฉันร่วมภาชนะเดียวกัน ก็เป็นการป้องกันการติดโรคได้ดียิ่ง การปลีกตัวออกจากหมู่ ก็เปรียบได้กับการกักกันตัวเองในปัจจุบันนี้เช่นกัน"

เถรี 26-03-2020 08:27

"แม้ว่าสถานการณ์คับขันเพียงไร คนไทยก็ยังมีอารมณ์ขัน นำเอาการเว้นช่วงทางสังคม มาล้อเลียนกันเป็นที่สนุกสนาน เปลี่ยนอารมณ์เครียดมาเป็นอารมณ์ขันได้แบบน่ารักยิ่ง

หลวงวิจิตรวาทการกล่าวไว้ว่า "ฯลฯ เป็นการง่ายยิ้มได้ไม่ต้องฝืน เมื่อชีพชื่นเหมือนบรรเลงเพลงสวรรค์ แต่คนที่ควรชมนิยมกัน ต้องใจมั่นยิ้มได้เมื่อภัยมา ฯลฯ" ทำให้เห็นลักษณะนิสัยว่า คนไทยของเรานั้น ถึงแม้มีวิกฤตการณ์เพียงไหนก็ตาม ก็ยังสามารถสนุกสนานเฮฮาได้ในทุกเรื่อง

นิสัยแบบนี้บางคนบอกว่าจับจด ทำอะไรไม่จริงจัง แต่กลับทำให้เรามีความสุขมากกว่า ไม่เครียดจนเป็นโรคประสาท นำเอามัชฌิมาปฏิปทาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาใช้ได้ถูกต้องกับสถานการณ์ทีเดียว"

เถรี 26-03-2020 12:02

พระอาจารย์กล่าวว่า "หลังจากปิดวัดแล้ว วัดท่าขนุนเปิดศาลาร้อยปีหลวงปู่สาย เฉพาะเวลาทำวัตรเช้า-เย็นเท่านั้น แต่ยังคงเปิดเสียงธรรมะตามสายวันละ ๔ เวลาเท่าเดิม เมื่อไม่มีคนพลุกพล่าน วัดก็ดูสงบขึ้นมาก แต่ว่า..งานทั้งหมดที่ทางคณะสงฆ์ช่วยกันทำมา พังบรรลัยไม่เหลือชิ้นดีเลย..!"

เถรี 26-03-2020 12:05

"พระเดชพระคุณพระธรรมโพธิมงคล รักษาการเจ้าคณะภาค ๑๔ เป็นพระเถระเจ้าคณะปกครองที่ทุ่มเทเพื่อพระพุทธศาสนาด้วยชีวิต ท่านให้นโยบายแก่พระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามารับตำแหน่งว่า "พระบวชเข้ามาแล้ว เมื่อสึกไปอย่าให้ไปพูดได้ว่าบวชแล้วสบาย เราต้องเคี่ยวเข็ญอบรม ทั้งทางวิชาการ ทั้งกรรมฐาน การสวดมนต์ทำวัตร การศึกษาพระธรรมวินัยให้หนัก สึกไปแล้วเขาจะได้มีอะไรดี ๆ ติดตัวไปบ้าง"

พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ก็รับสนองนโยบาย มาดำเนินการต่อ โดยเฉพาะอาตมาเอง ร่วมวางโครงการว่า "จะจัดงานวัดอย่างไรให้มีโยมมากกว่าพระ" เพราะว่าเท่าที่สังเกตมา ปัจจุบันนี้เวลาวัดต่าง ๆ มีงาน ส่วนมากแล้วแต่ละวัดจะมีพระไปร่วมงานมากกว่าโยมที่เข้าวัด"

เถรี 26-03-2020 12:06

"เมื่อพิจารณาดูสาเหตุแล้ว วัดที่มีโยมเข้ามากกว่าพระ เพราะว่ามี ๒ อย่างด้วยกัน ได้แก่

๑. เจ้าอาวาสขลัง คือ เป็นหมอดู เป็นพระเกจิอาจารย์ เป็นนักเทศน์ เป็นนักพัฒนา เป็นนักสอนกรรมฐาน เป็นต้น

๒. มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัด เช่น พระปฐมเจดีย์ หลวงพ่อวัดไร่ขิง พระแท่นดงรัง แม้กระทั่งไอ้ไข่ เป็นต้น

ทั้งสองสิ่งนี้สามารถดึงคนเข้าวัดได้มาก วัดใดมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถือว่ามีต้นทุนใหญ่อยู่ในมือ ถ้าวัดไหนไม่มี ก็ต้องสร้างเจ้าอาวาสให้เป็นพระอาจารย์ขลังให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นพระนักเทศน์ พระนักพัฒนา พระเกจิอาจารย์ พระกรรมฐาน อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือถ้าเป็นทุกอย่างได้ก็จะสุดยอดมาก"

เถรี 26-03-2020 12:08

"วัดท่าขนุนจึงพยายามที่จะเป็นต้นแบบ ทำสิ่งต่าง ๆ เป็นแนวทางให้เพื่อนพระสังฆาธิการได้เดินตาม ผู้บังคับบัญชาอย่างเช่นเจ้าคณะภาค ๑๔ เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ได้ช่วยกันมอบนโยบายให้

อย่างเช่น มีเทศน์ทุกวันอาทิตย์ มีการทำบุญทุกวันพระ มีการสวดมนต์เสริมบารมีทุกวัน มีการบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ มีการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน เป็นต้น วัดใดถนัดที่จะทำโครงการไหน ก็ให้ทำไปตามโครงการนั้น เพื่อดึงญาติโยมรอบวัดให้เข้ามาในวัดก่อน หลังจากนั้นค่อยกล่อมเกลากันด้วยหลักธรรมอีกทีหนึ่ง"


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 09:32


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว