กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๔ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=106)
-   -   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=7845)

ตัวเล็ก 31-07-2021 20:34

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔
 
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔



เถรี 31-07-2021 23:43

วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๓๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ เมื่อสักครู่ที่ฟังการทำวัตร ปลัดตั้ม (พระปลัดอาทิตย์ ชุตินฺธโร) ก็ยังคงกลับไปหาจังหวะเดิม ๆ คือจังหวะชักกะตุกแบบนี้ คนสวดตามจะเหนื่อยมาก แต่ด้วยความที่ท่านเคยชินกับการหายใจช่วงสั้น ๆ ท่านก็จะไม่รู้สึก แต่คนที่ไม่ชินตามจังหวะ แค่ได้ยินก็เหนื่อยแล้ว แต่คราวนี้ถ้าจะลบล้างความเคยชินตรงนี้ เมื่อสักครู่ตอนขึ้นจุลชัยยะมังคลคาถา ผมก็คิดว่าดีแล้ว เพราะว่าเหมือนกับแก้ไขได้ "นะโม เม พุทธะ เตชะสา..." แล้วทำไมได้ไม่ตลอด ? จังหวะการสวดที่ดีก็คือจังหวะอย่างนี้แหละ

มีวิธีแก้อีกวิธีหนึ่ง ก็คือต้องจินตนาการไปด้วย ว่าเราจะต้องไม่ใช่ลูกคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง เพราะว่าถ้าซัดกระแทกโครม ๆ แบบนั้น เดี๋ยวปราสาททรายก็พังหมด ทำอย่างไรที่เราจะเป็นแม่น้ำลำธารเล็ก ๆ ที่ไหลเอื่อย ๆ ไปเรื่อย โดยที่ไม่เซาะให้ปราสาททรายพัง เพราะว่าถ้าเราไม่มีจินตภาพประกอบขึ้นมา บางทีอาศัยการแก้ไขความเคยชินอย่างเดียวจะแก้ยากมาก

แต่จะว่าไปแล้ว ถึงจะยากก็ไม่ได้เกินความพยายาม เพียงแต่ว่าบางอย่างเป็นมาตั้งแต่เด็ก ก็คงแบบเดียวกับที่จะให้มหากว้าง (พระมหากว้าง ญาโณ) สวดโดยหายใจทางปาก ก็จะยากมาก แต่ถ้าหากว่า มหากว้างสวดโดยหายใจทางจมูก ท่านจะไปได้สบาย แต่คนอื่นฟังแล้วเครียด..!

ก่อนหน้านี้ท่านอั๋น (พระอัศนีย์ โฆสทินฺโน) ก็เหมือนกัน เพราะว่าท่านอั๋นอยู่กับพระธรรมยุตมามาก เคยชินกับการสวดแล้วออกเสียงแบบธรรมยุต แต่ท่านอั๋นปรับตัวได้เร็ว พอบอกไปครั้งเดียวก็ปรับตัวได้เลย แสดงว่าสติมั่นคงมาก จากการที่กลึงลูกประคำ ใช้เครื่องปั่นอยู่ทุกวัน ๆ สมาธิจับเป๊ะอยู่ตรงนั้น

ในเมื่อเป็นในลักษณะนั้น กำลังสมาธิที่ได้มา พอถึงเวลาเราแค่มาระมัดระวังจังหวะการสวดของเรา ระวังสำเนียงการสวดของเรา ใช้สมาธิน้อยกว่าตอนที่ไปกลึงหรือว่าขัดลูกประคำ เพราะว่าโอกาสที่พลาดแล้วจะเจ็บตัวแบบนั้นไม่มี ในเมื่อเคยใช้กำลังสมาธิ ใช้ความระมัดระวังที่มากกว่า เมื่อมาถึงเวลามาแก้ไขของเรา ก็ทำให้งานด้านนี้ง่ายขึ้น

เถรี 31-07-2021 23:45

บางท่านอาจจะสงสัยว่า ผมตั้งใจจะผลิตลูกประคำขาย...ไม่ใช่ครับ ที่ยอมซื้อเครื่องกลึง ซื้อเครื่องไม้เครื่องมือราคาเป็นหมื่น ๆ นั่น ตั้งใจซื้อมาให้ฝึกสมาธิกัน เพราะว่าถ้าพลาด ชิ้นงานจะพังเลย หรือไม่ก็..ถ้าพลาดก็ได้เลือดเลย สมาธิต้องจดจ่อแน่วแน่อยู่กับงานตรงหน้าจริง ๆ ถึงจะไม่พลาด

ตรงนี้ผมได้มาสมัยที่อยู่วัดท่าซุงตั้งแต่เป็นฆราวาส
ครับ มีการกวนข้าวทิพย์ แล้วงานกวนข้าวทิพย์จำเป็นต้องใช้มะพร้าวเป็นพัน ๆ ลูก เพื่อที่จะคั้นกะทิเอามาใช้ในงาน การที่จะขูดมะพร้าวเพื่อให้ทันกับงาน มีอย่างเดียวก็คือต้องใช้กระต่ายไฟฟ้า ไม่ใช่กระต่ายขูดมือ

หลายท่านก็คงจะเคยเห็น ไอ้ที่เป็นหัวรี ๆ แล้วก็มีตะปูแหลม ๆ อย่างกับเม่นเพียบเลย แล้วเขาก็จะเอากะละมังมาทำเป็นตัวกัน เพื่อที่จะไม่ให้เวลาปั่นแล้ว เนื้อมะพร้าวปลิวกระจัดกระจายไป เราต้องเกร็งมือเพื่อที่จะจับกะลาไว้ แล้วก็จ่อเข้าไป ทำอย่างไรที่จะไม่ให้ลึกจนกระทั่งกินเนื้อกะลาไปจนดำปี๋ แล้วก็ทำอย่างไรที่จะไม่เผลอพลาดให้กินเนื้อของเราเอง พลาดเมื่อไรก็ได้เลือดเมื่อนั้น..!

ผมได้สมาธิจากตรงนั้นเยอะมากเลย เพราะว่าคนอื่นทำทีไร ส่วนผสมของข้าวทิพย์ก็เปลี่ยนไป เพราะว่ามีเลือดผสมไปด้วย..! จนคนกลัวเจ้าเครื่องนี้ไปหมด ผมจึงต้องใช้อยู่คนเดียว

อีกส่วนหนึ่งในวันนี้ของพวกเราก็คือ ประกาศของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ประธานคณะกรรมการ คือ ท่านผู้ว่าฯ จีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ล็อกดาวน์อำเภอสังขละบุรี ทองผาภูมิ ไทรโยค แล้วก็ตำบลจระเข้เผือกของอำเภอด่านมะขามเตี้ย กับตำบลบ้านเก่าของอำเภอเมือง

ตรงจุดนี้จะว่าไปแล้ว การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ในบ้านเรานั้นสุกงอมเต็มทีแล้ว บ้านเรามีผู้ป่วยระดับวันละหลายหมื่นได้แล้ว เพียงแต่ว่าการตรวจคัดกรองทำไปไม่ถึงอย่างหนึ่ง อีกอย่างหนึ่งก็คือ บางคนมีเจตนากดตัวเลขให้น้อยลงไปด้วย

เถรี 31-07-2021 23:47

แต่คราวนี้ส่วนที่เรากลัวก็คือ ทางด้านประเทศเพื่อนบ้านคือพม่า ตอนนี้ต้องบอกว่า คนพม่าติดเชื้อเกินครึ่งประเทศแล้ว..! วันหนึ่งตายห้าหกร้อยศพจนเผาไม่ทัน แล้วเราลองนึกดูว่า ขณะที่รัฐบาลเผด็จการเอาแต่รักษาอำนาจตนเอง ไม่ได้สนใจในเรื่องการสาธารณสุขที่จะช่วยเหลือประชาชน การงานก็ไม่มีให้ทำ พอถึงเวลาความตายมาจ่อหลังเข้า อดอยากมากเข้า คนพม่าก็จะแห่กันมาประเทศไทยอีก

ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นคนพม่ากลับประเทศไปเยอะมากนะครับ ช่วงที่ท่านทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ คนพม่าที่เป็นลูกจ้างในทองผาภูมิ ลาออกกลับบ้านเป็นจำนวนเยอะมาก เพราะเขาเห็นอนาคตในบ้านเขา แต่ตอนนี้บ้านเขาไร้อนาคตแล้ว แถมยังมีโรคภัยไข้เจ็บที่ไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือช่วยเหลือ ไม่มีคนคอยดูแลคนป่วย ถ้าเขาทะลักเข้ามาเมื่อไร เราจะเดือดร้อนมากกว่านี้ เพราะไม่รู้ว่าเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ที่ระบาดอยู่ในพม่านั้นเป็นสายพันธุ์อะไรบ้าง

ท่านผู้ว่าฯ จีระเกียรติจึงต้องประกาศล็อกดาวน์ ซึ่งก็แค่ทำให้จำกัดเขตการเคลื่อนไหวของเราเท่านั้น ถ้าเป็นต่างด้าวก็ไม่แปลกหรอกครับ เพราะว่าต่างด้าวก็ไปได้แค่ไทรโยคเหมือนเดิม อย่างไรเสียก็คงติดอยู่แค่ด่านนั้น แต่ก็มีเว้นให้ อย่างเช่นว่าการขนส่งอาหาร การขนส่งเวชภัณฑ์ แล้วก็บุคลากรประเภทแพทย์ พยาบาล สามารถเดินทางเข้าออกได้ ถ้าหากว่าคนอื่นต้องการเดินทางผ่านไปไกลกว่านั้น ก็ต้องมีหนังสืออนุญาตของผู้ปกครองสูงสุดในพื้นที่ ก็คือนายอำเภอ

ตรงนี้ไม่น่าเป็นห่วง เพราะว่าวัดท่าขนุนของเรา ต่อให้ล็อกดาวน์สักครึ่งปี ผมมั่นใจว่าอาหารที่มีอยู่ก็พอกิน เพียงแต่อาจจะไม่ได้ฟุ่มเฟือยมากมายนัก

แล้ววันนี้ทางด้านกองงานเลขานุการในสมเด็จพระสังฆราชก็ติดต่อมา ให้ผมไปรับข้าวสารที่พระองค์ท่านพระราชทานให้กับโรงทานต้านภัยโควิด ๑๙ วัดท่าขนุน จำนวน ๑,๐๐๐ กิโลกรัม ความจริงพระองค์ท่านนัดวันอื่น แต่ผมบอกไปว่าวันที่ ๒ สิงหาคมเป็นกำหนดล็อกดาวน์แล้ว พระองค์ท่านก็เลยให้ไปรับในวันพรุ่งนี้ แล้วก็ย้ำด้วยว่า "ถ้าหากว่ามีผู้ป่วยมารักษาตัวในโรงพยาบาลสนามวัดท่าขนุนเท่าไร ก็ให้ทำอาหารเผื่อผู้ป่วยด้วย"

เถรี 31-07-2021 23:49

ต้องบอกว่าพระองค์ท่านให้ความใส่ใจกับประชาชน และพระที่ทำงานเป็นอย่างสูง ถ้าท่านทั้งหลายดูในช่วงที่ผ่านมา จะเห็นว่าโรงทานของวัดท่าขนุน ได้ข้าวสารที่พระองค์ท่านประทานให้มา ๒ รอบแล้ว นี่เป็นรอบที่ ๓

การงานที่เราทำทุกอย่างอยู่ในสายตาของพระผู้ใหญ่ ฉะนั้น..สิ่งที่เราทำ ท่านก็จะดูว่าเป็นการทำแบบไหน ทำจากใจจริงหรือว่าทำเพราะหวังผลประโยชน์อะไร บางท่านเปิดโรงทานเหมือนกันนะครับ แต่ไปรับบริจาค โดยเฉพาะเปิดรับบริจาคเป็นตัวเงิน ซึ่งถ้าหากว่ารับบริจาคเป็นตัวเงิน แล้วมีผลงานออกมาคุ้มกับเงินที่รับไป ก็ไม่มีปัญหา ถือว่าให้ชาวบ้านร่วมบุญด้วย แต่ว่ารับไป ๆ แล้วเปิดโรงทานครั้งสองครั้งก็เงียบไปเลย แต่เงินยังรับไม่เลิก ถ้าลักษณะอย่างนี้เจตนาก็ชัดเจนว่าเปิดเพื่อหาประโยชน์ ก็จะทำให้สมเด็จพระสังฆราชเสียหายไปด้วย เพราะว่าเป็นพระดำริของพระองค์ท่านที่ให้เปิดโรงทานเพื่อช่วยเหลือประชาชน

อีกส่วนหนึ่งก็คือโรงพยาบาลสนาม ที่พระองค์ท่านประทานแนวคิดมาว่า วัดที่มีศักยภาพควรที่จะจัดตั้ง เพราะเห็นอยู่แล้วว่าโรคภัยไข้เจ็บ ก็คือเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ นี่ ไม่หายไปจากเมืองไทยง่าย ๆ มีแต่จะหนักขึ้นไปอีก แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า ทองผาภูมิของเราเป็นอำเภอใหญ่มากนะครับ ถ้าใครยังไม่รู้ว่าทองผาภูมิใหญ่ขนาดไหน ทองผาภูมิมีพื้นที่เท่ากับจังหวัดสมุทรสงคราม สมุทรสาคร และสมุทรปราการ สามจังหวัดรวมกันครับ สามจังหวัดเท่ากับอำเภอเดียว..! แต่ทองผาภูมิมีโรงพยาบาลสนามแห่งเดียว คือโรงพยาบาลสนามวัดท่าขนุน

ขณะที่พื้นที่เล็กกว่าอย่างของอำเภอท่ามะกา มีไป ๗ - ๘ แห่ง ความจริงเขามีเป็น ๑๐ แห่งนะครับ แต่ว่า ๗ - ๘ แห่งที่ว่าก็คือวัด เป็นวัดที่รับภาระ ยินดีที่จะช่วยเหลือชาวบ้านตรงนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องทำให้ใหญ่เท่ากับวัดท่าขนุนครับ ประเภท ๕๐ เตียง ๑๐๐ เตียง ไม่ต้องไปคิดถึง เอาแค่ ๕ เตียง ๑๐ เตียงก็พอ ผมเชื่อว่าทุกวัดมีพื้นที่ซึ่งสามารถกันออกมาได้

แต่ว่ามีจุดหนึ่ง ถ้าเมื่อวานนี้ใครเข้าร่วมประชุมพระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ก็จะได้ยินคำถามที่ว่า "เผาศพผู้ตายจากเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ แล้วจะเบิกงบประมาณได้จากใคร ?" เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ เราต้องเข้าใจว่า ถ้าหากว่าเป็นวัดทั่ว ๆ ไปที่กำลังน้อย ถามคำถามนี้มาก็สมเหตุสมผลครับ แต่วัดที่ถามนั้น แค่หมู่กุฏิเรือนไทยนี่ก็ราคาหลาย ๑๐ ล้านบาทแล้วนะครับ..!

เถรี 31-07-2021 23:51

ดังนั้น...สิ่งหนึ่งที่เป็นเครื่องวัดที่ดีที่สุดก็คือ การทำความดี โดยเฉพาะในเรื่องของ ทาน ศีล ภาวนา เราทำดีเพราะอยากทำ หรือว่าเราทำดีเพราะอยากดี ? ถ้าเราทำดีเพราะอยากทำ เราจะทำได้ทน ทำได้นาน ทำได้ตลอดชีวิต ทำได้ตลอดไปอีกหลาย ๆ ชาติ แต่ถ้าเราทำดีเพราะอยากดี พอถึงเวลาความดีไม่ตอบสนอง เราก็จะหมดกำลังใจ..ท้อแท้

เพราะฉะนั้น...ถ้าหากว่าใครที่ทำดีเพราะอยากดี กรุณาเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ด้วยนะครับ โดยเฉพาะการทำเพื่อส่วนรวม การทำเพื่อประชาชน และการทำเพื่อชาวบ้านที่เคยอนุเคราะห์สงเคราะห์พวกเรามา

หลวงพ่อพระธรรมพุทธิมงคล วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ท่านพูดติดปากเสมอว่า "ทำเพื่อตนเองอยู่แค่สิ้นลม ทำเพื่อสังคมอยู่คู่ฟ้าดิน" กำลังใจตรงจุดนี้ สำหรับบางท่านอาจจะทำไม่ได้ เพราะว่าเรามาสายสาวกภูมิเต็ม ๆ แต่เชื่อผมเถอะครับ...ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายมานั่งอยู่ที่วัดท่าขนุนนี้ อย่างไรเสียก็ต้องกระเส็นกระสายมีเชื้อสายพุทธภูมิมาบ้าง ต่อให้เป็นแบบตกกระไดพลอยโจน ไม่ได้เต็มใจ ก็ต้องมีอยู่บ้าง

เพราะฉะนั้น...เรื่องของการช่วยเหลือคนอื่น ไม่ต้องดูใครหรอกครับ ตัวผมเองนี่แหละ ก่อนหน้านี้เห็นใครลำบาก..ทนไม่ได้ครับ ต่อให้เขาไม่เอ่ยปาก ก็แถเข้าไปช่วยเขาเอง แต่หลังจากที่ตั้งใจลาพุทธภูมิแล้ว ตอนแรกหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านบอกว่า "แกระวังไว้นะ ลาพุทธภูมิแล้วกำลังใจจะตก"

เถรี 31-07-2021 23:53

ผมเองก็พยายามสังเกตกำลังใจตัวเอง ไม่มีอะไรตกนี่หว่า ? สมาธิสมาบัติก็ยังคล่องตัวเหมือนเดิม แต่ปรากฏว่าพอสังเกตนานไป แล้วถึงได้รู้ว่ากำลังใจตกจริง ๆ ครับ จากที่ก่อนหน้านี้เห็นใครลำบากไม่ได้ ต้องวิ่งเข้าไปช่วยเขา เดี๋ยวนี้ผมใช้คำว่า "ถ้าไม่ได้มาล้มทับตีนอยู่ตรงหน้าจนผมไปไหนไม่ได้ ผมก็ไม่ช่วยใครแล้ว" งานยังเหมือนเดิม ก็คือยังทำอยู่ แต่จำกัดเขตลงมาเยอะมากเลยครับ

หลายท่านถ้าย้อนหลังไปหลายปีจะเห็นว่า บางทีผมทำการก่อสร้างทีละ ๒ วัด ๓ วัดพร้อม ๆ กัน สนุกสนานเฮฮามากกับการที่วิ่งหาเงินมาเพื่อสร้างวัด แต่ตอนนี้แทบจะเหลืออยู่แค่นี้ครับ คำว่าแค่นี้ก็คือเฉพาะภายในวัดท่าขนุน ที่อุตส่าห์พยายามสงเคราะห์ญาติโยมเขาต่อไป ก็เพราะว่าญาติโยมลำบากจริง ๆ ไม่อย่างนั้นผมก็จะจำกัดงานอยู่แค่ภายในวัดท่าขนุนนี้แค่นั้น

ดังนั้น..ท่านทั้งหลายที่มองงานตรงจุดนี้ เราต้องเข้าใจว่า ในเรื่องของพรหมวิหาร ๔ โดยเฉพาะ เมตตา กรุณา ไม่ใช่เรื่องที่เราจะมานั่งแผ่เมตตาเฉย ๆ ต้องลงมือทำเท่านั้น ถึงจะเห็นหน้าเห็นหลัง การแผ่เมตตาอย่างเดียว ผมอยากจะบอกว่าเป็นแค่จินตนาการครับ แต่ถ้าลงมือทำนี่ของจริง กำลังใจจากจินตนาการของเราเยือกเย็น พร้อมสงเคราะห์ ในเมื่อพร้อมสงเคราะห์ ก็ทำให้สมกับที่พร้อมสิครับ ไม่ใช่แค่ว่า "เราพร้อม..เราพร้อม..เราพร้อม" แต่ไม่ได้ทำอะไรเลย

จึงฝากข้อคิดเอาไว้สำหรับพระภิกษุสามเณร ตลอดจนกระทั่งญาติโยมทั้งหลายที่ติดตามฟังอยู่แต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๓๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:27


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว