กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๔ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=107)
-   -   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๖๔ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=7872)

ตัวเล็ก 06-08-2021 20:39

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๖๔
 
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๖๔



เถรี 06-08-2021 22:32

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๖ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ ทางโรงพยาบาลสนามวัดท่าขนุน ได้ทำการโหลดผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ เข้าสู่โรงพยาบาลแล้ว ตอนนี้พวกเราทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุ สามเณร แม่ชี ฆราวาส อย่าได้เฉียดเข้าไปใกล้ ยกเว้นอยากลองของว่าขลังจริงไหม ก็ไม่เป็นไร ถ้าติดเชื้อมาเมื่อไร เดี๋ยวจะช่วยซ้ำ..!

ในเรื่องของการจัดการต่าง ๆ ตอนนี้จะเป็นของทางโรงพยาบาลและฝ่ายปกครอง พระเราก็รออยู่แค่ว่า สิ่งใดขาดเหลือ ทางผู้ดูแลก็จะขอมาเอง ตอนนี้ก็มีทหารคอยเข้าเวรอยู่ตลอด ๒๔ ชั่วโมง มีแพทย์พยาบาลเข้าเวรอยู่ตลอด ๒๔ ชั่วโมง

โดยทั่ว ๆ ไปแล้ว สถานที่อื่นเวลาจัดตั้งก็เป็นได้แค่ศูนย์พักคอยก็คือ Community Isolation แต่ว่าที่วัดของเรากลายเป็นโรงพยาบาลสนามได้ เพราะว่ามีแพทย์พยาบาลอยู่ประจำคอยดูแลคนไข้ ซึ่งตรงส่วนนี้ต้องบอกว่า สิ่งที่ทางวัดเราทำมาตลอดหลายปี โดยเฉพาะการสนับสนุนงาน
ต่าง ๆ ของโรงพยาบาล จึงทำให้ทางโรงพยาบาลให้ความอนุเคราะห์สงเคราะห์ ด้วยการส่งแพทย์พยาบาลมาประจำให้กับโรงพยาบาลสนามที่นี่ได้ แล้วส่วนที่โชคดีที่สุดก็คือ โรงพยาบาลสนามวัดท่าขนุนไม่ได้อยู่ภายในวัด และไม่ได้อยู่ภายในชุมชน

ตอนแรกที่ผมสร้างฐานหลวงพ่อสมเด็จองค์ปฐม ๒๑ ศอกเป็นห้องประชุม ตั้งใจจะทำเป็นห้องสมุด ๖๐ พรรษา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร แต่ว่าตั้งห้องสมุดได้ไม่นาน ก็โดนปลวกลุยเข้าไปกิน เนื่องจากว่าทองผาภูมิของเราเป็นพื้นที่ป่า ปลวกป่าไม่ได้ทำทางดินแล้วขึ้นไปกินเหมือนกับปลวกบ้าน ปลวกป่าใช้วิธียกพหลพลโยธาลุยเข้าไปเลย เจออะไรก็กินกระจาย แล้วพอใกล้สว่างก็ยกกำลังพลกลับ พรุ่งนี้ค่อยมาว่ากันใหม่..!

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น กระผม/อาตมภาพก็เลยต้องย้ายห้องสมุด ๖๐ พรรษาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เข้ามาไว้ภายในวัด ตรงจุดนั้นเราก็ได้ใช้สอยเฉพาะช่วงสงกรานต์ ในงานอุ้มพระสรงน้ำ มาตอนนี้ถึงได้ใช้คุ้มค่ากับที่ทำไป เนื่องจากว่าพื้นที่มีถึง ๙๐๐ ตารางเมตร ในเมื่อไม่ได้อยู่ในชุมชน ไม่ได้อยู่ในวัด แค่ล้อมเขตแล้วมีแพทย์พยาบาล มีทหารดูแล ก็กลายเป็นโรงพยาบาลสนามที่ค่อนข้างจะสะดวก

เถรี 06-08-2021 22:35

ก่อนหน้านั้นทางคุณจักษณา วรรณวาทกุล ตั้งใจจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารผู้ป่วยทุกวัน เพราะว่าเปิดบริษัททำอาหารกล่องสำเร็จรูป เมื่อนำเสนอเข้าในที่ประชุม ปรากฎว่าทางโรงพยาบาลขอทำเอง เพราะว่าถ้าเกิด "ความต่าง" เมื่อไร คนไข้จะแห่กันมาเฉพาะโรงพยาบาลสนามเท่านั้น..!

พวกเราที่เคยไปโรงพยาบาลก็น่าจะทราบว่า อาหารโรงพยาบาลนั้น ไม่ใช่คนไข้ป่วยแล้วเบื่ออาหาร แต่อาหารโรงพยาบาลทั่ว ๆ ไป ถ้าหากว่าไม่ใช่โรงพยาบาลเอกชนที่เราเรียกร้องตามใจได้ ส่วนใหญ่มีแต่รายการอาหารซ้ำ ๆ กัน ตั้งแต่ผมเป็นเด็กพอจะรู้ภาษา เข้าโรงพยาบาลมาจนปัจจุบันนี้อายุ ๖๐ กว่าปีแล้ว ยังไม่เคยเห็นเปลี่ยนรายการอาหารเลย..!

คราวนี้ถ้าหากว่าของเราเป็นอาหารกล่องแช่แข็งอย่างดี ถึงเวลาเอาเข้าเตาไมโครเวฟออกมา มีกับข้าว ๔ อย่าง ทางท่านผู้อำนวยการโรงพยาบาลทองผาภูมิ กลัวว่าคนไข้จะแห่กันมาอยู่ที่โรงพยาบาลสนามหมด ไม่ยอมอยู่ที่อื่น ก็เลยขอให้ทางโรงพยาบาลจัดการแทน นับว่าช่วยแบ่งเบาภาระของเราไปส่วนหนึ่ง

ทางด้านข้าวสาร ตลอดจนกระทั่งไข่ไก่สด ขนม ที่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เมตตาประทานมาให้ทางโรงทานของเรา และโรงพยาบาลสนามของเรา ถ้าหากว่าทางโรงพยาบาลมาขอมา ก็จะมอบให้กับเขาไป

โดยเฉพาะไข่ไก่สด ควรที่จะรีบนำมาทำอาหารเสียก่อน ทิ้งไว้หลายวันแล้วจะเสียได้ง่าย ในส่วนอื่นยังพอที่จะเก็บเอาไว้ได้ สำรองเอาไว้เผื่อยามฉุกเฉิน เนื่องจากว่าถ้าสถานการณ์หนักไปกว่านี้ ผมก็ตั้งเป้าว่าอาจจะต้องประกาศงดบิณฑบาตสัก ๒ - ๓ อาทิตย์ ถึงเวลานั้นสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ก็จะได้ใช้งานอย่างเต็มที่

เถรี 06-08-2021 22:40

แล้วระยะนี้ฝนก็ตกกระหน่ำได้ทุกวัน โดยเฉพาะตอนบิณฑบาต วันก่อนท่านที่เดินตามผม จะเห็นว่าผมเดินอยู่ดี ๆ ก็กระเด้งดึ๋งขึ้นไปได้ โดนไฟฟ้าดูดครับ...! ท่านที่เดินตามหลัง พอรู้แกวก็เบี่ยงออกไปนอกทางเลย ตรงหัวสะพานคอนกรีตไฟฟ้ารั่ว แล้วไฟฟ้าแรงสูงขนาดนั้น ตายเอาง่าย ๆ นะครับ

แต่คราวนี้ตอนที่ไฟดูด ผมกำลังเดินภาวนาอยู่ ไอ้ที่กระโดดไปทั้งตัว เพราะโดนไฟฟ้ากระตุกนะครับ ไม่ได้กระโดดเอง แต่ท่านจะเห็นว่าผมไม่ได้ตกใจ ไม่ได้ร้อง เพราะว่ากำลังใจทรงตัวอยู่กับภาพพระและคำภาวนา และโดยเฉพาะไฟดูดได้แค่ข้อเท้า ทั้ง ๆ ที่เปียกฝนโชกขนาดนั้น

ตรงนี้น่าจะเป็นอานุภาพของยันต์เกราะเพชร เพราะว่าผมมีประสบการณ์มาหลายครั้ง เกี่ยวกับเรื่องสัตว์มีพิษกัด ถ้ากัดตรงไหน พิษจะวิ่งขึ้นมาไม่เกินข้อใหญ่ตรงนั้น แต่คราวนี้ไม่ใช่สัตว์พิษ เป็นไฟฟ้าดูด ก็ยังดูดได้แค่ข้อเท้า ไม่ขึ้นสูงมาจนเป็นอันตราย

มาเมื่อเช้านี้ผมก็สังเกตเห็นหลายท่าน ไอ้ที่โดนดูดมาด้วยกัน พอเดินถึงตรงนั้นแล้วทำไมต้องจั๊กจี้ มีอาการเหมือนโดนไฟดูดอีกด้วย เป็นเพราะมันอุปาทานมากไปหรืออย่างไร ? ผมไม่ได้เดินเฉย ๆ นะครับ ภาวนาไปด้วย ดูพวกท่านไปด้วย แต่ละคนกำลังใจเฮงซวยห่วยแตกแบบไหนบ้าง ก็ตลกดีนะครับ พอไปถึงตรงนั้นแล้วขาคุณกระตุกกันเอง เหมือนอย่างกับโดนไฟฟ้าดูดอีกรอบหนึ่ง ทั้ง ๆ ที่วันนี้ไฟฟ้าไม่ได้รั่ว

คราวนี้ในช่วงนั้นที่ผมภาวนา ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพระคาถาเงินล้าน แต่ว่าก่อนที่จะภาวนา ก็จะภาวนาพระคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า กำหนดภาพพระพุทธรูปท่านครอบลงมา ถ้าไม่ใช่ทั้งตัวเลย ก็ครอบศีรษะอยู่ เหมือนกับเราใส่มงกุฎเป็นรูปพระพุทธเจ้า

พระคาถานี้ก็คือพระคาถาที่หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง ถวายแก่ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ เพราะเล็งเห็นว่าเมื่อพระองค์เสด็จประพาสยุโรป จะมีอันตรายหลายประการด้วยกัน ก็คือจะมีพายุ มีวังน้ำวน แล้วก็มีคนเอาม้าพยศมาทดลอง อยากดูว่าพระองค์ท่านมีฝีมือแค่ไหนถึงได้เป็นพระมหากษัตริย์

เถรี 06-08-2021 22:42

หลวงปู่เอี่ยมนอกจากทำตะกรุดและผ้ายันต์ถวายในหลวง ร.๕ แล้ว ยังมอบคาถามงกุฎพระพุทธเจ้าให้ไป จึงทำให้พระองค์ท่านสามารถฝ่าฟันคลื่นลมแล้วก็วังน้ำวนไปได้ เมื่อทางโน้นเอาม้าพยศมาลอง พระองค์ท่านก็เสกหญ้าด้วยพระคาถานี้ พอส่งให้ม้ากิน ก็สามารถขึ้นขี่ได้ โดยที่ม้าไม่ได้พยศอะไร

ตรงจุดนี้พวกท่านทั้งหลายต้องเข้าใจนะครับว่า เรื่องของคาถา ต้องประกอบด้วยความเชื่อมั่นอย่างเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าขาดตรงจุดนี้ ขาดศรัทธา ผลจะมีน้อยมาก

แต่พอมาถึงรุ่นของหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง พระท่านให้ใช้ไปในทางทิพจักขุญาณ ก็คือถ้าหากว่าภาวนา

อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ

อิเมนา พุทธะตังโสอิ อิโสตัง พุทธะปิติอิ


ซึ่งชักสูตรออกมาเป็นยันต์ดวง สลับกันไปสลับกันมา จากกึ่งกลางออกมารอบนอก จากรอบนอกย้อนเข้ากึ่งกลาง จากกึ่งกลางออกมารอบนอก รอบนอกย้อนเข้ากึ่งกลาง รวมแล้ว ๔ รอบด้วยกัน

"พระ" ท่านให้หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านใช้ในทางทิพจักขุญาณ เพราะว่าสายตาของท่านตอนนั้นแย่มากแล้ว ถ้าหากว่าท่านเคยเห็นหลวงพ่อท่านอ่านหนังสือพิมพ์ นอกจากแว่นตาแล้ว ท่านยังมีแว่นขยายกว้างเกือบฟุตหนึ่ง วางทาบบนหนังสือพิมพ์อีกชั้น แต่พอไม่มีเวลาขึ้นมา เวลาใกล้เพลท่านออกมาช้า พอผมส่งหนังสือพิมพ์ให้ ท่านก็หยิบแล้วโยน..หยิบแล้วโยน...หยิบแล้วโยน แล้วก็คุยถึงเนื้อหาในหนังสือพิมพ์..!!??

เถรี 06-08-2021 22:45

ผมเองเป็นคนขี้สงสัยครับ ผมจึงไปค้นดูว่าที่หลวงพ่อพูดถึงอยู่ตรงไหนของหนังสือพิมพ์ อย่างเช่นเล่าว่า วันนี้คนติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ สองหมื่นกว่าราย ตายร้อยกว่าเกือบสองร้อยศพ ปรากฎว่าเรื่องที่ท่านพูดนั้น ผมไปหาเจอในคอลัมน์ซุบซิบเล็ก ๆ ข้างใน แค่ท่านหยิบขึ้นมาแล้วก็โยนให้ผม เพื่อที่จะเอาออกไปข้างนอกให้พระเณรอ่านต่อ ยังไม่ได้อ่านอะไรเลยครับ

แล้วจุดที่ชัดที่สุดก็คือ ช่วงที่ผมไปดูแลรักษาหลวงปู่มหาอำพันที่วัดเทพศิรินทราวาส หลวงปู่ท่านป่วยหนัก แล้วพระอุปัฏฐากก็ดูแลคนแก่ไม่เป็น ดูแลคนป่วยไม่เป็น ผมที่ดูแลพ่อมา ๖ ปี ดูแลแม่มา ๓ ปี ต้องบอกว่าแม้กระทั่งฉีดยาก็ยังทำเป็นครับ ก็คือถ้าเป็นพยาบาลวิชาชีพ ผมเรียนนานเป็น ๑๐ ปีเลยครับ

ในเมื่อไปดูแลจนกระทั่งหลวงปู่ท่านสบายขึ้น แต่ท่านยังไม่หายป่วย ผมก็ลาต่อไปเรื่อย ทั้ง ๆ ที่ทางวัดท่าซุงให้ลาเต็มที่เดือนหนึ่ง ๑๐ วัน ถ้าไม่ได้ลา ๒ เดือน ให้ลาได้ ๑๕ วัน ผมเขียนใบลาลงไป ๑ เดือน พอส่งใบลาให้ปุ๊บ หลวงพ่อท่านฉีกคว่าก...! ล้วงใบลาข้างในออกมาส่งคืนให้ผม บอกว่า "แก้ตัวเลขข้างในให้ถูกต้องด้วย มีอะไรเกิดขึ้นจะได้ไม่ผิดระเบียบมากไปกว่านี้" ท่านแค่หยิบนะครับ รู้รายละเอียดในจดหมายลาทั้งหมดเลย..!

แต่ว่าคาถาบทนี้ ถ้าหากว่าตั้งแต่โบราณมา ใช้ในการป้องกันอันตรายครับ ผมเองเวลาภาวนา พออารมณ์ใจทรงตัว ก็ตั้งใจอาราธนาภาพพระเป็นมงกุฎสวมหัว หรือไม่ก็คลุมลงมาทั้งตัว แล้วแต่อารมณ์ของวันนั้นว่าชอบแบบไหน แล้วหลังจากนั้นค่อยไปภาวนาคาถาอื่นที่ชอบใจ หรือว่าจับลมหายใจเข้าออกต่อไป

เถรี 06-08-2021 22:48

เพราะฉะนั้น..ท่านทั้งหลายไม่ว่าจะอยู่ที่นี่ หรือว่าอยู่ทางบ้าน หรืออยู่ต่างประเทศที่ฟังอยู่ เราต้องเข้าใจว่าระยะนี้อันตรายจากเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ แพร่กระจายทั้งโลก แล้วเชื้อโรคนี้มีผู้ควบคุมนะครับ ขอพูดในเรื่องที่เหลือเชื่อเอาไว้บ้าง

เป็นหมู่เทวดาจำพวกหนึ่ง ที่ผมอยากจะเรียกว่า เทวดาโรคระบาด คอยควบคุมอยู่ เทวดาทั้งหลายท่านเกรงใจพระครับ ไม่ว่าจะเป็นพระสงฆ์ หรือว่าพระปัจเจกพุทธเจ้า หรือว่าพระพุทธเจ้า บางทีก็เกรงใจเจ้านายใหญ่ของตัวเอง อย่างเช่นท่านท้าวเวสสุวรรณ

ดังนั้น..ท่านที่พกเหรียญหรือผ้ายันต์ท้าวเวสสุวรรณอยู่และมีการอาราธนา ถ้าหากว่ากำลังใจมั่นคงจริง ๆ ก็จะปลอดภัย หรือถ้าหากว่าท่านที่พกรูปพระไปเลย ก็ใช้วิธีอย่างที่ผมทำ คืออาราธนาพระครอบเราลงมา หรือว่าเป็นมงกุฎสวมอยู่เหนือหัว บรรดาเทวดาที่ท่านดูแลเรื่องโรคระบาด ถ้าหากว่าเห็นในลักษณะนั้นก็จะเกรงใจ ละเว้นให้ชั่วคราว แต่เผลอเมื่อไรก็โดน เพราะฉะนั้น..ห้ามประมาท..!

ตรงจุดนี้ขอเรียนถวายท่านทั้งหลายที่เป็นพระภิกษุสามเณร ตลอดจนกระทั่งบอกเล่าให้กับบรรดาฆราวาส ทั้งที่วัดและที่บ้านได้ฟังว่า อาตมภาพเดินไปให้ไฟดูดเกือบตายมาแล้ว แต่ปรากฏว่าไฟนั้นขึ้นมาได้แค่ข้อเท้าเท่านั้น ก็คือสูงกว่าส้นเท้านิดเดียว แปลว่าในเรื่องของบารมีพระที่ท่านสงเคราะห์ ในลักษณะของยันต์เกราะเพชรก็ดี เรื่องของพระคาถาก็ดี ถ้าหากว่าเราทำจริงก็จะมีผลจริง ก็ขอเจริญพรแก่ทุกท่านไว้แต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๖ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:11


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว