กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนมิถุนายน ๒๕๖๑ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6199)

เถรี 07-06-2018 08:53

"ส่วนประการที่ ๓ นั้น เป็นเรื่องที่น่าเสียดายและน่าเสียใจมาก คือเป็นการทำลายล้างกันระหว่างนิกาย ธรรมยุติกนิกายจะเห็นว่าตัวเองดีเลิศประเสริฐศรีอยู่เสมอ และมหานิกายเป็นพวกที่เลวทรามใช้ไม่ได้ เพราะฉะนั้น...ธรรมยุตพยายามที่จะควบคุม โดยเฉพาะมีอำนาจในการปกครองให้เหนือมหานิกายเอาไว้ โดยอ้างความใกล้ชิดกับราชวงศ์

ซึ่งในส่วนนี้ถ้าเป็นการทำลายล้างกันระหว่างนิกาย จะเป็นเรื่องของการตีงูให้กากิน ก็คือถ้าทำลายกำลังหลักที่ช่วยค้ำจุนพระพุทธศาสนาลง ในประเด็นที่ ๒ ที่เป็นการทำลายล้างกันระหว่างศาสนา เท่ากับเราช่วยเขา ในเมื่อเราช่วยเขา เป็นแนวร่วมในลักษณะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม เหมือนกับเราทำลายกำแพงป้องกันที่แข็งแกร่งของศาสนาพุทธลง หรือว่าทำลายขุนศึกที่เฝ้าชายแดนด้วยความเข้มแข็งลง เกรงว่าต่อไปธรรมยุตจะหาขุนศึกที่รบกับศาสนาอื่นไม่ได้

ถามว่าท่านเจ้าคุณจำนงค์ คือหลวงพ่อพระพรหมเมธี ท่านก็เป็นธรรมยุต ทำไมท่านโดนด้วย ? ก็เพราะว่าท่านเจ้าคุณจำนงค์ท่านรู้ว่าในเรื่องของพระพุทธศาสนานั้น ถ้ามีนิกายอยู่เป็นความแตกแยก ท่านก็พยายามที่จะประสานโดยเข้ากับมหานิกายให้ได้ จนกระทั่งเขาเรียกท่านว่า ธรรมยุตนอกคอก ในเมื่อเป็นธรรมยุตนอกคอก ในความรู้สึกของธรรมยุตในคอกก็คือ มึงต้องโดนด้วย..!"

เถรี 07-06-2018 08:57

"ดังนั้น ตามที่อาตมาวิเคราะห์ด้วยปัญญาเล็ก ๆ น้อย ๆ ของตนเอง มองออกว่าเรื่องพรรค์นี้โยงกันอยู่ ๓ ประเด็น แต่ว่าทั้ง ๓ ประเด็นนั้นรวมแล้วเป็นประเด็นเดียว ก็คือต้องทำลายพระพุทธศาสนาให้ได้

เราถึงจะเห็นได้ว่าในส่วนของวันสำคัญทางศาสนา ไม่ว่าจะเป็นช่วงวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา เขาจะตีข่าวเล่นข่าวพวกนี้เสมอ ขอเพียงแค่ญาติโยมรู้สึกว่าพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาทำแต่ความชั่วช้าเลวทราม เป็นที่พึ่งไม่ได้ เขาก็ประสบความสำเร็จแล้ว

โยมสังเกตดูว่าทำไมข่าวออกแต่พุทธอิสระนุ่งขาวห่มขาว แต่ไม่มีรูปหลวงพ่อเจ้าคุณพรหมดิลก ไม่มีรูปหลวงพ่อเจ้าคุณพรหมสิทธิ ไม่มีเจ้าคุณอีก ๕ รูป เพราะว่านั่นคือสิ่งที่เขาอยากให้เราเห็น ทำในลักษณะที่ว่ามีความยุติธรรม ก็คือแม้แต่พวกเดียวกันอย่างพุทธอิสระก็โดน แต่ความจริงลักษณะนั้นเหมือนกับอุยกาย หรือไม่ก็วัสสการพราหมณ์ ยอมให้โดนโบยโดนตีเพื่อที่จะทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามให้ถึงรากถึงโคน ซึ่งลักษณะอย่างนี้เป็นการที่เอาเบี้ยแลกขุน ตัวเองไม่มีอะไรเสียหาย เพราะว่ากลับไปบวชใหม่เมื่อไรก็ได้ ซึ่งก็คือพุทธอิสระ

แต่ว่าบรรดาหลวงพ่อทั้ง ๓ รูป ตลอดจนกระทั่งเจ้าคุณ ถึงเวลาโดนถอดยศ พอไปบวชใหม่กลับกลายเป็นพระใหม่ ทุกอย่างต้องเริ่มต้นใหม่หมด และในส่วนที่น่าเกลียดที่สุดก็คือ แม้กระทั่งฆาตกรฆ่าหั่นศพ หรือว่าบรรดาผู้คนโกงกันเป็นร้อยล้านพันล้าน ถึงเวลายังต้องสู้กันถึง ๓ ศาล ยังมีการให้ประกันตัว แต่พระเราเขาจับถอดผ้าเหลืองเข้าคุกเลย การถอดผ้าเหลืองเอาเข้าคุกของพระนี่ เท่ากับประหารชีวิตทางพระพุทธศาสนา เพราะว่าขาดความเป็นพระไปแล้ว ตายจากความเป็นพระไปแล้ว

ก็ในเมื่อแม้แต่อาชญากรตัวกลั่นเขายังให้โอกาสถึงขนาดสู้กัน ๓ ศาลเป็นเวลาหลายต่อหลายปี แล้วขณะเดียวกันบางทีสู้กันจนถึงศาลฎีกาพิพากษายืนแล้ว ยังมีการถวายฎีกาต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอีกต่างหาก แต่ความเป็นพระเราไม่มีโอกาสแบบนั้นเลย เขาจับสึกเลย"

เถรี 07-06-2018 08:59

"เราจะเห็นว่าการทำลายล้างพระพุทธศาสนานั้นรุนแรงมาก ตั้งใจจะกวาดล้างให้พระพุทธศาสนาหมดไปจากประเทศไทย เพื่อเอาอีกศาสนาหนึ่งขึ้นแทนให้ได้ ขอให้ญาติโยมทุกคนตระหนักได้ว่า ภาระของพระพุทธศาสนาไม่ได้อยู่ที่พระเท่านั้น พระพุทธเจ้าฝากไว้กับพุทธบริษัท ๔ อุบาสก อุบาสิกาอย่างญาติโยมทั้งหลาย ถ้าไม่สามารถช่วยกันค้ำจุนพระศาสนา ไม่เป็นปากเป็นเสียง ไม่ปกป้องพระพุทธศาสนา ลำพังแค่สถาบันพระอย่างเดียวก็เอาไม่อยู่

เพราะนอกจากการทำลายล้างทางการเมือง ยังมีการทำลายล้างทางศาสนา และมีการทำลายกันเองระหว่างนิกายด้วย เรื่องพวกนี้ลึกซึ้งเกินกว่าที่พวกเราจะมองเห็นก็มี แต่อาตมายืนยันว่ามี และมีมานานแล้ว เพียงแต่ว่าปัจจุบันนี้เป็นช่วงระยะเวลาที่มีการใช้อำนาจพิเศษ ก็เลยสามารถที่จะรวบหัวรวบหางจัดการอย่างเด็ดขาดได้ โดยมีการแสดงละครร่วมกัน และขณะเดียวกันสื่อมวลชนทั้งหมดที่เป็นฝ่ายตรงข้าม ก็จะออกข่าวโจมตีแต่ทางด้านพระที่เป็นกำลังใหญ่ในพระพุทธศาสนา"

เถรี 07-06-2018 09:01

"เราจะเห็นว่าอย่างหลวงพ่อพระพรหมดิลก วัดสามพระยา ไม่ใช่คดีเงินทอน แต่เป็นการที่ท่านขอเงินไปบูรณะ ไม่ได้เอาไปสร้างอาคารในวัด แต่ว่าทางสำนักพุทธฯ นำส่งเงินให้โดยไม่มีหนังสือนำ เป็นเพียงเช็คใบเดียว ท่านเองก็คิดว่าเป็นเงินที่ท่านขอเอาไปสร้างอาคาร ท่านก็เอาไปใช้ ถ้าหากว่าเป็นความผิดก็เป็นแค่ใช้เงินผิดประเภท

โยมจะเห็นว่าเมื่อ ๒ วันก่อนเขามีข่าวออกมาเรื่องคดีโกงเงินคนจน สำรวจดูแล้วว่ามีคนผิดกี่ราย โทษสูงสุดก็คือให้ออกจากราชการ แค่นั้นเอง แต่ของพระกลับติดคุก เพราะฉะนั้น...ในส่วนนี้ถ้าเรารู้จักนำมาพินิจพิจารณาโดยที่ไม่เอาอารมณ์เข้าไปร่วมด้วย เราจะเห็นภาพอะไรที่ชัดเจนมาก

ศาสนาพุทธเราจะอยู่ยากขึ้นเรื่อย ๆ หลวงพ่อสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดญาณเวศกวัน หรือหลวงพ่อประยุทธ์ ปยุตฺโต บอกเอาไว้นานเป็น ๑๐ ปีแล้วว่า อีกศาสนาหนึ่งถ้ามีคนถึง ๕% เราจะเดือดร้อนมากกว่านี้อีก ปัจจุบันนี้เป็นอย่างนั้นแล้ว

หลวงพ่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ บอกเอาไว้นานแล้วว่า เรื่องของพระศาสนาเราต้องเตรียมทางถอยไว้ที่ต่างประเทศ ทุกวันนี้เหตุการณ์ไม่เกิดขึ้นไม่ใช่แปลว่าจะไม่เกิด แล้วท้ายสุดก็เกิดขึ้นอย่างที่ท่านเตรียมการเอาไว้ บรรดากำลังใหญ่ที่ท่านวางเอาไว้เพื่อค้ำจุนพระศาสนา โดนเขากวาดทีเดียวเกือบหมดวัด

เรื่องพวกนี้ถ้าเราไม่ตระหนักถึงภัยอันตราย ยังเพลิดเพลินเจริญใจอยู่ พระพุทธศาสนาจะสูญสิ้นไปจากเมืองไทย แบบเดียวกับที่หมดไปจากประเทศอินเดีย ค่อย ๆ คิด คิดอะไรได้แล้วก็ทำ อาตมามีหน้าที่เป็นกำลังใจให้ เพราะตัวเองก็ทำจนจะหมดแรงอยู่แล้ว

เมื่อวันที่ ๒๙ นี้ถ้าหากว่าญาติโยมไปวัด จะเห็นว่าทหารไปเป็นชุดเลย เพื่อกดดันไม่ให้เจ้าอาวาสวัดท่าขนุนพูดอะไรในลักษณะปลุกระดมญาติโยม"

เถรี 07-06-2018 09:04

"ตอนนี้ที่เขาตีข่าวใหญ่ทางพระพุทธศาสนามีจุดมุ่งหมายอยู่อย่างหนึ่งก็คือ จะออกกฎหมายใหม่เพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่อิสลาม กฎหมายนี้ดุเดือดมาก ก็คือจังหวัดไหนมีสุเหร่า ๓ แห่ง จังหวัดนั้นสามารถตั้งคณะกรรมการอิสลามกลางประจำจังหวัด ประจำอำเภอ ประจำตำบลได้

แล้วคณะกรรมการกลางอิสลามประจำจังหวัด มีหน้าที่ให้คำแนะนำผู้ว่าราชการจังหวัดว่าควรจะทำอะไร คณะกรรมการกลางอิสลามประจำอำเภอ เป็นคณะที่ปรึกษาให้คำแนะนำว่านายอำเภอควรจะทำอะไร และคณะกรรมการกลางอิสลามประจำตำบล มีหน้าที่ให้คำแนะนำว่ากำนันต้องทำอย่างไร

ช่วงนี้ที่เขาตีข่าวทางพระพุทธศาสนาให้ดังมาก ๆ เพื่อจะกลบกฎหมายเหล่านี้เสีย แล้วกฎหมายอีกอย่างหนึ่งที่จะออกมาก็คือ กฎหมายฉบับใหม่ที่จะล้มล้างมหาเถรสมาคมและการปกครองคณะสงฆ์ เป็นฆราวาสร่างกฎหมายปกครองพระ

อาตมาเองก็ยังนึกขำอยู่ว่า นี่ถ้าเขาให้พระร่างกฎหมายปกครองทหารตำรวจบ้างจะเป็นอย่างไร ? อย่างเช่นว่า ถ้าหากว่าจะเป็นทหารตำรวจต้องถือศีล ๒๒๗ ข้อ ต้องห้ามมีเมีย จะรับได้ไหม ? เพราะว่าเอาคนที่ไม่รู้เรื่องในวงการนั้นไปร่างกฎหมายให้เขาปฏิบัติตาม ก็คนที่ร่างบางคนบวชยังไม่เคยบวชเสียด้วยซ้ำไป แล้วโดยเฉพาะถ้าหากว่าเป็นคณะ สนช. ๘๔ คนเป็นอิสลามชัด ๆ ไป ๖๓ คน แล้วที่เป็นโดยแฝงอยู่แล้วเราไม่รู้อีกตั้งเท่าไร แล้วมาร่างกฎหมายปกครองพระ ก็เท่ากับกดดันและบีบคั้นให้พระอยู่ยากขึ้นไปเรื่อย ๆ

สรุปง่าย ๆ ว่า ต่อไปพระหายใจก็ผิด ต้องเลิกหายใจเท่านั้น ดังนั้น...เรื่องที่เขาตีข่าวใหญ่ในพระพุทธศาสนา ส่วนใหญ่แล้วเขามีเป้าหมายหลายอย่างด้วยกัน ทั้งทางด้านการเมือง ทั้งทางด้านศาสนา และทั้งการออกกฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายของตนและทำลายล้างศาสนาพุทธ เรื่องพวกเราจะต้องรู้เท่าทัน"

เถรี 07-06-2018 09:05

"เราจะเห็นว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผ่านมา ที่ออกกฎหมายแล้วให้ประชาพิจารณ์ภายใน ๙๐ วัน แต่ก็ตีข่าวใหญ่ขึ้นมาเพื่อกลบเสีย จนกระทั่งเราลืมไปหมดแล้วว่ากฎหมายที่ออกมาคืออะไร เรื่องพวกนี้ลึกซึ้งมาก เพราะว่าฝ่ายตรงข้ามระดมด็อกเตอร์ ๓๐๐ กว่าคน ปรับแผนยุทธศาสตร์กันทุกอาทิตย์ เพื่อครองประเทศไทยให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

น่าเสียดายที่ว่าพุทธศาสนิกชนของเรา นอกจากรู้ไม่เท่าทันแล้วยังเป็นแนวร่วมให้เขาโดยไม่รู้ตัว แค่ถึงเวลามีข่าวคุณออกมาด่าพระ เขาก็ประสบความสำเร็จแล้ว และการอวดดีอวดฉลาดด่าพระโดยไม่รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก เป็นการแสดงความโง่ในสายตาของอาตมา ท่านทั้งหลายเหล่านี้ต้องบอกว่าเป็นแนวร่วมชั้นดีในการทำลายพระพุทธศาสนา ด้วยความภาคภูมิใจว่าตัวเองทำดีทำถูก

พวกเราต้องระมัดระวังและมีความสามัคคีเหนียวแน่น แสดงออกในการปกป้องพระพุทธศาสนาให้มากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นศาสนาพุทธที่บรรพบุรุษของเราเอาเลือดเนื้อและชีวิตปกป้องรักษา เพื่อให้ตั้งอยู่ในแผ่นดินไทย จะสูญสิ้นไปในรุ่นของเรานี่เอง"

เถรี 07-06-2018 09:10

"โดยปกติปัจจุบันนี้แม้กระทั่งในคณะพระอุปัชฌาย์รุ่น ๕๑ ในสังกัดคณะสงฆ์หนกลาง ๒๓ จังหวัดที่อาตมาเป็นประธานอยู่ ถึงเวลาก็ออกมาโวยวายกันในลักษณะที่ว่าทำอย่างนี้ได้อย่างไร ? เราจะสู้เขาได้อย่างไร ? โดยที่ไม่ได้มีความคิดแนวทางอะไรในการที่จะต่อสู้ออกมาเลย

จนกระทั่งอาตมาต้องบอกว่า "แล้วทำไมไม่รู้จักหาข่าวดี ๆ มาสู้กับเขาบ้าง ?" เราทำอะไรมี Facebook มี LINE มีเว็บไซต์ใส่ลงไปให้มาก ๆ ให้ญาติโยมเขาได้รู้จักว่าพระในพระพุทธศาสนาของเราทำความดีอะไรบ้าง วิสาขบูชาที่ผ่านมาอาตมาเพิ่งให้ทุนการศึกษาไป ๑๒ โรงเรียน ถ้าหากว่านับเป็นตัวเงินก็เป็นล้าน ข่าวเหล่านี้เคยมีออกไหม ?...ไม่มี

ปัจจุบันนี้การออกข่าวทางสื่อโซเชียลเป็นเรื่องง่ายสำหรับพวกเรา เพราะฉะนั้นในเมื่อทางสื่อหลัก ๆ อย่างหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ เขาไม่ออกให้ หรือที่เขาบอกว่าข่าวร้ายลงฟรี ข่าวดีต้องเสียเงิน เราเองในฐานะพุทธศาสนิกชน เราก็ช่วยกันออกสิ ลง Facebook ของเราแล้วแชร์กันไปก็ได้ ลง YouTube ก็ได้ ถ้าหากว่าลง YouTube กลัวต่างประเทศไม่รู้ ก็ใส่ซับไตเติ้ลเป็นภาษาอังกฤษไปด้วยก็ได้

เป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินกำลังที่พวกเราจะทำ จะได้รู้ว่าพระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนาของเราจริง ๆ แต่ละปีสร้างสิ่งที่ดีมากมายมหาศาล แต่ว่าเราไม่เห็น ไม่ยกย่อง ไม่สรรเสริญ แต่พอมีสิ่งที่เขาบอกว่าไม่ดีออกมานิดเดียว เราช่วยกันรุมถล่ม ก็กลายเป็นเราทำตัวเป็นคนพังรั้วบ้านให้โจรปล้นบ้านเราเอง ก็แบบเดียวกับที่ว่าการโกงเงินคนจนให้ออกจากราชการ ถ้าหากว่าพระท่านทำจริงก็คือให้ออกจากตำแหน่งหน้าที่ที่ท่านบริหารอยู่ แต่คราวนี้กลายเป็นว่าพระของเรายังไม่ทันจะตัดสินว่าผิดหรือถูก เขาก็เอาเข้าคุกไปแล้ว

เขาพยายามที่จะทำให้พวกเราหวั่นไหว สงสัย ลังเล ในตัวบุคคลที่เราเคยเคารพเลื่อมใส แล้วท้ายสุดก็กลายเป็นหมดความเคารพนับถือในพระพุทธศาสนาไปด้วย
ดังนั้น...อาตมาถึงได้ดุเพื่อนพระอุปัชฌาย์ไป บอกว่าให้สร้างข่าวดี ๆ ขึ้นมาสู้กับเขา เขาก็บอกว่าข่าวร้ายลงฟรี ข่าวดีเสียเงิน อาตมาบอกว่าของตูไม่เห็นต้องไปจ้างเขาลง ถ้าคิดว่าคุณทำอยู่ในระดับที่ดีพอ เขาจะต้องมาง้อเอาข่าวไปลงเองนั่นแหละ"

เถรี 07-06-2018 09:12

"เรื่องของพุทธอิสระ ซึ่งปัจจุบันก็คือนักโทษชายสุวิทย์ ทองประเสริฐ เราสามารถมองเป็น ๒ อย่างด้วยกัน อย่างแรกก็คือท่านเสียสละตัวเองเพื่อจะล้มล้างฝ่ายตรงข้าม ก็คือทำให้รัฐบาลดูดีว่า ไม่ได้จัดการเฉพาะฝ่ายพระมหาเถระเท่านั้น แม้กระทั่งฝ่ายเดียวกันถ้าทำไม่ดี ทำไม่ถูกก็โดนด้วย นี่คืออย่างที่หนึ่ง

ส่วนอย่างที่สองก็ตรงกับภาษิตจีนที่ว่า เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล กลายเป็นว่า ตอนที่ต้องการใช้งานก็ปล่อยท่านเอาไว้ กี่ปีกี่ชาติก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าหากว่าไม่ใช้งานเมื่อไรลุยจับทันที ซึ่งลักษณะการบังคับใช้กฎหมายแบบนี้ ในความรู้สึกของอาตมาขอบอกว่าทุเรศมาก แต่เขาก็ทำกันเป็นปกติ

ในเมื่อเขาไม่รู้สึกรู้สาอะไร เราก็อย่าไปเสียอารมณ์ทุเรศกับเขาเลย แล้วเราจะเห็นว่าบรรดาข่าวทางหนังสือพิมพ์หรือโทรทัศน์ จะออกข่าวแต่ด้านพุทธอิสระที่โดนจับกุมคุมขังอยู่ในชุดนักโทษ แต่จะไม่มีข่าวทางด้านพระมหาเถระ เพราะว่าต้องการเอามาลดกระแสความไม่พอใจของพุทธศาสนิกชน เพราะว่าถ้าบุคคลที่ทางด้านลูกศิษย์ลูกหามั่นใจว่าท่านไม่ได้ทำผิด แต่ว่าโดนใส่ร้าย โดนให้ร้าย โดนทำลายล้าง ทั้งทางการเมืองและทางศาสนา ก็เกรงว่ากระแสความไม่พอใจของลูกศิษย์จะกลายเป็นการปลุกระดมมวลชนขึ้นมา จึงไม่ให้ออกข่าว

แต่ทางด้านของพุทธอิสระนี้ที่ให้ออกข่าว เพื่อลดกระแสความไม่พอใจลงให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ โดยที่ทางด้านรัฐบาลออกมากล่าวคำขอโทษในลักษณะว่าทำการรุนแรง แต่จริง ๆ แล้วในส่วนที่ออกมาขอโทษ ก็คือละครการเมืองอย่างหนึ่งเหมือนกัน ซึ่งถ้าเรามีความเข้าใจตรงจุดนี้ก็จะไม่รู้สึกว่ามีอะไรน่าแปลกใจ"

เถรี 07-06-2018 09:13

"เรื่องของทางด้านพระมหาเถระทุกรูปก็ดี ทางด้านพุทธอิสระก็ดี เมื่อเรื่องราวเกิดขึ้นเป็นเครื่องวัดกำลังใจของพวกเราเป็นอย่างดีว่า รัก โลภ โกรธ หลง ของพวกเรามีมากแค่ไหน ? มีโกรธ มีน้อยใจ มีเสียใจ มีหดหู่ มีเศร้าหมองหรือไม่ ? เป็นการวัดกำลังการปฏิบัติธรรมของเรา หรือว่าดีใจ สะใจ ที่เห็นอีกฝ่ายหนึ่งติดคุก ถ้าลักษณะนั้นก็แปลว่ากำลังใจของเราใช้ไม่ได้

ทำอย่างไรถึงจะทำให้กำลังใจของเราอยู่ในระดับกลาง ๆ ไม่ยินดียินร้าย พยายามมองให้เห็นว่าเป็นวาระกรรม อย่างที่หลวงพ่อพรหมดิลกท่านใช้คำว่า น่าจะหมดบุญของท่านแล้ว เป็นต้น"

เถรี 07-06-2018 09:15

พระอาจารย์เล่าว่า "วันก่อนอาตมาอุ้มถุงใส่เม็ดเงิน ๓๒ กิโลกรัมกว่า อุ้มมือเดียวอีกมือหนึ่งก็ปิดประตูรถ พระท่านก็วิ่งเข้ามาด้วยความหวังดี “หลวงพ่อครับ..ผมช่วย” ถามว่า “แน่ใจนะ ?” ท่านบอกว่าแน่ใจ “ถ้าแน่ใจ..ก็เอาไปเลย” พอรับไปท่านก็หัวทิ่มไปพร้อมกับถุงเลย"

เถรี 08-06-2018 09:22

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของพระ เรื่องของพรหม เรื่องของเทวดา อาตมาขอยืนยันว่ามีจริง และพบมาจนนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว สิ่งต่าง ๆ ที่ท่านบอก ที่ท่านกล่าว เป็นไปตามนั้นจนเลิกสงสัยมานานสิบปีแล้ว เมื่อเป็นเช่นนั้นท่านบอกอะไร อาตมาทำตามอย่างเดียว

สมัยก่อนมีรุ่นน้องคือทิดชาติชาย พอถึงเวลาอาตมาก็บอกว่าพระท่านบอกอย่างนี้ ให้ทำอย่างนี้ หลวงพ่อบอกอย่างนี้ ให้ทำอย่างนี้ ท่านย่าบอกอย่างนี้ ให้ทำอย่างนี้ ท่านก็มาซักรายละเอียดกับอาตมาว่า ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ? ทำไมถึงไม่เป็นอย่างนี้ ? อาตมาก็บอกว่า "กูไม่รู้" ทิดถามว่าทำไมถึงไม่รู้ ? "ก็กูไม่สงสัย กูเลยไม่ถาม" เพราะฉะนั้น...ถ้าใครสงสัยก็ไปถามท่านเอง

ตัวสงสัยอย่าลืมว่าเป็นส่วนของวิจิกิจฉา ในเมื่อลังเลสงสัยก็ทุ่มไม่เต็มร้อย ในเมื่อทุ่มเทไม่เต็มร้อยโอกาสจะได้ผลมากก็ย่อมเป็นไปไม่ได้ เราจะเห็นว่าการทำสิ่งเดียวกัน ทำไมคนหนึ่งทำแล้วได้ผลมากกว่า เพราะว่าเขาทุ่มเทเต็มร้อย ขณะที่เราเองลงแรงไปไม่ถึงครึ่ง"

เถรี 09-06-2018 16:49

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของการปฏิบัติธรรม ก็คือการที่เราปฏิบัติตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ว่าให้ละชั่ว ทำดี ทำจิตใจให้ผ่องใสจากกิเลส

คราวนี้การปฏิบัติธรรมส่วนใหญ่ เราจะเข้าใจว่าเป็นการนั่งสมาธิ ซึ่งก็ยังดีที่เข้าใจเช่นนั้น เพราะว่าถ้าอย่างน้อยกำลังสมาธิทรงตัว ก็กดกิเลสลงได้ชั่วคราว ทำให้สภาพจิตของเราผ่องใสไประยะหนึ่ง ถ้าไม่ได้ทำต่อเนื่อง ถึงเวลากิเลสตีกลับก็มัวหมองใหม่ แต่ถ้าทำได้ต่อเนื่องยาวนาน สภาพจิตยิ่งผ่องใส ก็จะเกิดปัญญาเห็นว่า จะชำระกิเลส รัก โลภ โกรธ หลง แต่ละตัวให้หมดไปอย่างไรบ้าง

ดังนั้น การที่เรามาปฏิบัติธรรม อันดับแรกเลยก็คือ สร้างความดีให้เกิดขึ้นในใจของเรา หลังจากนั้นก็เพิ่มความดีมากขึ้นไปเรื่อย ๆ เหมือนกับเติมน้ำจืดลงในน้ำเค็ม ถ้าเติมมากพอ น้ำเค็มไม่ได้หายไปไหน แต่รสเค็มไม่ได้ปรากฏ เพราะว่าน้ำจืดมีปริมาณมากกว่า พอถึงเวลาทำไปแล้วก็กลายเป็นความดีเฉพาะตัว

ความดีเฉพาะตัวเขาเรียกว่า คุณธรรม พอเรามีความดีเฉพาะตัวเวลาไปไหนคนเขาเห็นว่าเรามีศีลมีธรรม ก็ให้เกียรติยกย่อง คนที่อยากเป็นแบบนั้นบ้างก็ทำตาม การที่คนอื่นเลียนแบบทำตาม เขาเรียกว่า จริยธรรม

จะเห็นได้ว่าในเรื่องของคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรมนั้น ศีลธรรมต้องมาก่อน ปฏิบัติตามศีลตามธรรมจนเกิดความดีเฉพาะตัวจนเกิดเป็นคุณธรรม เมื่อคนอื่นเห็นว่าความดีเป็นสิ่งที่ดี อยากทำตาม เมื่อเริ่มมีคนทำตามก็เป็นจริยธรรม เป็นแบบอย่างแก่เขาได้"

เถรี 09-06-2018 20:23

"บางทีฟังมานานแต่เราก็แยกไม่ออก ประสิทธิภาพกับประสิทธิผลก็แยกไม่ออก ประสิทธิภาพคือความสามารถที่จะทำงานให้สำเร็จ ประสิทธิผลคืองานที่สำเร็จนั้นดีแค่ไหน ทำไมเวลาฟังคนอื่นพูดแล้วไม่รู้เรื่อง ฟังอาจารย์พูดแล้วง่ายนะ ?

พรุ่งนี้เป็นต้นไป อาตมาต้องเข้าสู่วงจรเดิม ๆ คือไปสอนนิสิต ซึ่งโดนนิสิตเรียกร้องมากขึ้น ๆ อย่างพรุ่งนี้ก็สอน ๕ ห้อง ๑๐ ชั่วโมง เหตุที่นิสิตเขาเรียกร้องมากขึ้น เพราะเขาบอกว่าเวลาอาจารย์พูดแล้วเข้าใจง่าย แต่เวลาอาจารย์ท่านอื่นพูดแล้วอาจารย์เองก็ยังไม่เข้าใจ อาตมาขอยกตัวอย่างท่านเจ้าคุณโสภณกาญจนาภรณ์ ท่านบอกว่า "อาจารย์เล็ก...ช่วยสอนวิสุทธิมรรคศึกษาแทนผมทีเถอะ ผมเองยังอ่านไม่เข้าใจเลย แล้วผมจะไปสอนให้ลูกศิษย์เข้าใจได้อย่างไร ?"

วิสุทธิมรรคศึกษาต้องแปลไทยเป็นไทยย้อนหลายชั้น เพราะว่าเป็นคำไทยเก่า ๆ ถ้าหากว่าเรายังไม่เข้าใจความหมาย พอถึงเวลาไปอธิบายให้คนอื่นเข้าใจย่อมเป็นไปไม่ได้"

เถรี 10-06-2018 09:36

พระอาจารย์กล่าวว่า "คุณเข้าใจคำว่า ติดหลังแห ไหม ? ส่วนใหญ่พวกเราไปใช้คำว่า ติดร่างแห ติดหลังแหก็คือปลาดวงซวย ถึงเวลาเขาเหวี่ยงแห พอแหคลุมลงไป ปลาก็จะติดขึ้นมา แต่ตอนที่เขาชักขึ้น ปลาดวงซวยดันติดหลังแหด้านนอกขึ้นมา นั่นแหละ...แบบพวกที่ไปนอนอยู่ข้างวงไพ่ พอตำรวจจับคนเล่นไพ่ ตัวเองก็โดนไปด้วย...ทำนองนั้น"

เถรี 10-06-2018 09:40

ถาม : ถ้าอยากให้ผอมต้องดื่มน้ำร้อนทั้งวันหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : งานวิจัยของคุณหมอเขาบอกว่า ให้ดื่มน้ำร้อนให้ได้วันหนึ่งประมาณ ๔ ลิตร แต่ว่าแก้วหนึ่งให้จิบให้นานที่สุด โดยอุณหภูมิสูงที่สุดเท่าที่เราทนได้ พอจิบลงไปเรื่อย ๆ อุณหภูมิร่างกายจะร้อนเหมือนตอนที่เราออกกำลังกาย ระบบร่างกายของเราพอร้อนถึงระดับหนึ่ง ก็จะเตือนให้ร่างกายผลาญแคลอรี

ก็คือตอนเราออกกำลัง ร่างกายต้องการพลังงานไปเพื่อจะใช้ในการออกกำลัง แต่น้ำร้อนเป็นตัวหลอกให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น แล้วระบบร่างกายก็จะคิดว่าจะเป็นการออกกำลัง ต้องการใช้พลังงาน ก็จะช่วยผลาญแคลอรี่ให้ เพราะฉะนั้น...ลองเปลี่ยนนิสัยดู ทำให้ได้อย่างที่คุณหมอเขาว่า แต่ต้องยอมรับนะ...หมออายุ ๕๐ กว่าแล้ว ยังสูงระหงทรงเพรียวหุ่นเรียวชะลูดอยู่เลย

วันละ ๔ ลิตรไหวไหม ? ความร้อนสูงที่สุดเท่าที่เราทนได้ แล้วจิบยาว ๆ อย่าไปอึกเดียวหมด เขาต้องการคงอุณหภูมิในร่างกายเราให้นานที่สุด เพื่อหลอกร่างกาย

อาตมาก็มานึกถึงตัวเองว่า ที่เราผอมอยู่ทุกวันนี้เป็นคงจะเพราะน้ำร้อนนี่แหละ แล้วที่เป็นอย่างนี้ไม่ใช่ว่าตั้งใจจะทำให้ผอม แต่เกิดจากว่าเป็นมาลาเรียแล้วโดนน้ำเย็นไม่ได้

เป็นผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ไปทั่วโลก ก็ถือว่าได้รับการรับรองแล้ว ในวงการแพทย์เขาฮือฮากันใหญ่

เถรี 10-06-2018 09:47

คุณหมอพิพิธพรน่ารักมาก ทำบุญตลอด หมอเกรียงศักดิ์สามีก็ประเภทภรรยาว่าอะไรก็ว่าตามกัน ถวายที่ดินที่เชียงราย ๒๐๐ กว่าไร่ให้หลวงพ่อเยื้อน ขนฺติพโล คุณหมอก็บอกว่า “ที่สวยมากนะคุณ แบ่งไว้สักนิดไม่ได้หรือ ?” หมอพิพิธพรบอก ว่า ไหน ๆ ก็ถวายแล้ว ก็ถวายทั้งหมดนั่นแหละ ตกลงก็ยกถวายไปหมดเลย

นี่กำลังเลี้ยวมาจะหาให้พระอาจารย์เล็ก อาตมาบอกว่าไม่ต้องหาภาระมาเลย ขนาดที่ของคุณนิรันดร์ที่เชียงรายยังไม่กล้ารับเขาไว้ เพราะว่าเวลารับไว้เขาก็จะให้หาพระไป ตอนนี้ทางเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิขอเจ้าอาวาสมาอีก ๒ ราย ยังไม่มีปัญญาหาให้เขา เดี๋ยวกลับไปค่อยไปประชุมว่าใครจะดวงเฮง เดี๋ยวคงต้องให้ปลัดนก (พระปลัดคมสันต์ ธมฺมรโส)ดวงเฮงสักวัดหนึ่ง

เถรี 10-06-2018 09:50

เมื่อวานนี้อาตมาไปเผาศพแม่ของท่านปลัดนกที่วัดป่ากลางทุ่ง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี ตอนกลางเดือนพฤษภาคมน้องชายของท่านตาย พอถัดมาอีกไม่ถึงอาทิตย์แม่ตาย เมื่อวานตอนไปเผา “อาจารย์ครับ ขออนุญาตลาต่อนะครับ เมื่อวานย่าผมตาย..!” ๓ ศพติดกัน ก่อนจะขึ้นเมรุท่านก็มาถาม “ตกลงนี่ผมเผาได้ไหม ?” อาตมาบอกว่า “เผาไปเถอะ ถ้าเป็นอาถรรพ์ว่าเผาแล้วจะตายต่อ ๆ กัน ก็เผาให้หมดบ้านไปเลยแล้วกัน”

ที่เขาห้ามคือคนเป็นพ่อเป็นแม่ ห้ามว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่อย่าไปเผาลูก ถ้าเผาแล้วจะได้เผาอีก เป็นความเชื่อของเขาอย่างนั้น นี่ตัวเองเป็นลูกจะเผาแม่ก็เผาไปเถอะ ก็มีแม่อยู่คนเดียวเท่านั้นแหละ ไม่มีอีกหรอก ยกเว้นว่าใครเป็นแม่บุญธรรมก็เผาต่อไปเลย

การที่เจอเหตุการณ์หนัก ๆ แบบนี้ คนในบ้านตายที ๓-๔ ศพติด ๆ กัน ถ้าหากว่าผ่านไปได้ จะเป็นการเจริญเติบโตทางจิตอย่างหนึ่ง ก็คือสภาพจิตรับการกระทบขนาดนี้ได้ เหมือนกับเป็นการตื่นรู้และยกระดับจิตของตัวเองขึ้นไป ต่อไปจะมั่นคงมาก ถ้าขนาดคนใกล้ชิด ๓ ศพ ๔ ศพยังเฉย เรื่องอื่นก็เรื่องเล็กแล้ว

เถรี 10-06-2018 22:35

มีโยมถวายมะม่วงเขียวเสวยยักษ์ "อาตมาถึงได้ว่ารู้จักต้นไม้กับรู้จักพระเครื่องก็เหมือนกัน จะมาลูกใหญ่ ลูกเล็ก ลูกบิด ลูกเบี้ยวอย่างไร เรามองก็รู้ว่านี่คือเขียวเสวย แต่โยมมองแล้วไม่แน่ใจ "มะม่วงอะไรวะ..ใหญ่จัง ?" เรื่องของพระเครื่องหรือบรรดาเครื่องรางก็เหมือนกัน พอเราดูเป็นดูออกแล้ว ชิ้นต่อไปก็เหมือน ๆ กัน"

เถรี 10-06-2018 23:12

ถาม : โบสถ์มีรูปแบบตายตัวไหมคะ ?
ตอบ : ไม่มี จริง ๆ แล้ว สมัยโบราณไม่มีอะไรเลยด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่าเป็นจุดที่กำหนดว่าให้ทำสังฆกรรมได้ ก็จะส่งพระออกไป ๘ ทิศ ในระยะที่เพียงพอต่อการที่พระส่วนใหญ่นั่งทำสังฆกรรมรวมกัน แล้วก็สวดถามว่าแต่ละทิศมีอะไรเป็นเครื่องหมาย ? เมื่อยืนยันกลับมาแล้วก็จดจำไว้ว่า ทิศนี้มีอย่างนี้เป็นเครื่องหมาย ๆ ครบทั้ง ๘ ทิศแล้วก็ทำสังฆกรรมได้

พอมาระยะหลังมีการสร้างเป็นอาคารถาวรขึ้นมา ก็แล้วแต่ว่าศิลปะของแต่ละสถานที่เป็นอย่างไร จะสร้างแบบไหนก็ได้ แต่ส่วนสำคัญก็คือต้องมีสีมา ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือที่ปัจจุบันเราเรียกว่าลูกนิมิต

ดังนั้นแบบไม่ตายตัว สร้างแบบไหนก็ได้ เล็กที่สุดต้องบรรจุพระได้อย่างน้อย ๒๑ รูป ใหญ่ที่สุดไม่เกิน ๓ โยชน์ ก็คือห้ามกว้างเกิน ๔๘ กิโลเมตร ที่กว้าง ๔๘ กิโลเมตร ส่วนใหญ่เขาเรียกว่า คามสีมา พูดง่าย ๆ ว่าทั้งหมู่บ้านหรือว่าทั้งเมืองเลย จะเป็นเขตสีมาหมด นั่นหมายความว่าถ้าพระพุทธเจ้าเสด็จแล้วพระตามไป ๒๐๐,๐๐๐ รูปอะไรอย่างนี้ ก็คงได้ปิดบ้านปิดเมืองเพื่อทำสังฆกรรมกันเลย

ถาม : แล้วที่ผ่านมาในพระไตรปิฎกมีแบบนี้ไหมครับ ?
ตอบ : เต็มที่ก็ ๒๐๐,๐๐๐ รูป เคยมีมาแล้ว

ถาม : โบสถ์ควรจะมีกี่ชั้นคะ ?
ตอบ : กี่ชั้นก็ได้ แต่ถ้าทำสังฆกรรมควรจะให้คนที่อยู่ข้างล่างออกไปเพื่อความแน่นอน เพราะว่าบางคนเขาลังเลสงสัย

ถาม : แล้วในช่วงที่ไม่มีสังฆกรรม สามารถเข้าไปใช้งานใต้โบสถ์ได้ไหม ?
ตอบ : จะทำอะไรก็เชิญ ถ้าทางฝั่งพม่าโบสถ์นี่ก็คือที่พัก ทางฝั่งพม่าไม่ให้ความสำคัญกับโบสถ์ ทั้ง ๆ ที่โบสถ์เป็นที่ทำสังฆกรรมทั้งหมด เขาจะให้ความสำคัญกับศาลารับแขก ก่อสร้างทุกอย่างเสียหรูหราสุด ๆ จนกระทั่งเขาสรุปว่าเอาไว้อวดแขก ส่วนโบสถ์อย่างไรก็ได้

เถรี 10-06-2018 23:23

ถาม : ช่วงงานกฐินเราถวายแต่เงิน ไม่ได้เอาผ้าไตรไป จะได้หรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ได้ ก็เท่ากับว่าเราร่วมกองบุญไป อย่าลืมว่าเขาใช้คำว่า กะฐินะจีวะระทุสสัง ผ้าจีวรสำหรับกรานกฐิน แล้วคราวนี้ยังมีบริวารอีก ที่เราถวายเงินไปก็คือบริวารกฐิน

ถ้าไม่มีผ้าไตรแล้วที่วัดไหนเขามี เราก็ไปบูชาที่วัดแล้วถวายร่วมไป กะฐินะจีวะระ ก็คือจีวรสำหรับกฐิน ทุสสัง คือผ้า ผ้าจีวร
สำหรับกรานกฐิน

เถรี 11-06-2018 20:02

พระอาจารย์กล่าวว่า "ต้องยอมรับว่าท่านอาจารย์สุชาติท่านปั้นแบบพระได้งามจริง ๆ ตอนนี้ที่กำลังเล็งอยู่ก็คือว่า น่าทำองค์เล็กแบบนั้นมากเลย แต่คราวนี้สำคัญตรงที่ว่า เราเอารูปถ่ายไปให้ทางโรงงาน เขาจะทำได้ไหม ? เพราะว่าถ้ารอองค์จริงมาแล้วค่อยสแกนย่อนี่ลำบากเลย

เรื่องวันเวลาส่วนตัวของอาตมานี่หายากมาก ตอนแรกกำหนดไว้ว่าจะเปิดบันไดขึ้นสักการะรอยพุทธบาทวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๑ เพราะช่างเขาบอกว่าจะส่งงานได้หลังวันวิสาขบูชา ปรากฏว่าช่างเขาส่งงานได้ก่อน แต่คราวนี้ก่อนที่ช่างจะส่งงาน ช่วงที่จะเสร็จครึ่งไม่เสร็จครึ่ง คนก็ขึ้นสักการะพระพุทธบาทกันจังเลย ก็เลยคิดว่าถ้าช่างเขาทำความสะอาดเรียบร้อยเตรียมส่งงาน ถ้าเราไม่รีบเปิดก่อน คน
ขึ้นได้นี่เละเป็นโจ๊กแน่ ก็เลยหาวันที่ใกล้เคียงที่สุด ในเมื่อเขาส่งงานได้ ๒๓-๒๕ พฤษภาคม โดยประมาณ เราก็เปิดขึ้น ๒๗ พฤษภาคมไปเลย ก็คือเอาก่อนวิสาขบูชาไปเลย จึงไปทำพิธีเปิดค่อนข้างฉุกละหุก ญาติโยมปลีกตัวไปได้จะว่าน้อยก็ไม่น้อยนะ เพราะว่าเตรียมเก้าอี้ไว้ ๓๐๐ ตัวก็ยังไม่พอให้เขานั่ง

คราวนี้วันเดิมที่กำหนดไว้ว่าจะเปิดบันไดรอยพระพุทธบาทนั้นเป็นวันว่างวันเดียว ก็ปรากฏว่าหลวงพี่เอท่านส่งรูปปั้นแบบหลวงพ่อทองคำมาให้ บอกว่า "เสร็จแล้วครับ จะหล่อเมื่อไร ?" อ้าว...ก็วันนั้นแหละ วันที่ ๒๓ มิถุนายน มีเหลืออยู่วันเดียว ต้องบอกว่าเป็นอะไรที่ธรรมะจัดสรร ไม่อย่างนั้นแล้วก็ไม่รู้ว่าจะไปหล่อช่วงไหน"

เถรี 11-06-2018 20:05

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาจะรับเม็ดเงินเฉพาะช่วงสามวัน ศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์นี้ พอวันอาทิตย์รวบรวมแล้ว เดี๋ยวจะถามทางด้านท่านอาจารย์สุชาติว่าประมาณน้ำหนักเงินไว้เท่าไร แล้วจะซื้อเพิ่มให้ได้ตามนั้น

ต้องบอกว่าใครที่เขาสร้างบุญไว้ดี ถึงเวลาก็จะได้ทำเอง อยู่ไกลแสนไกลเขาก็ฝากกันมา อยู่ต่างประเทศอะไรก็ฝากกันมา แต่ในประเทศของเราโดยเฉพาะใกล้ ๆ วัดนี่ บางทีหล่อเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้วค่อยมาถามว่าหล่อหรือยัง ? คนเขามาจะเหยียบกันตายค่อยมาถามว่าหล่อพระหรือยัง ? ไม่ได้ลืมตาดูโลกกับเขาเลย"

เถรี 11-06-2018 21:12

พระอาจารย์เล่าว่า "ตอนนี้ผู้ดูแลห้องสมุดวัดท่าขนุนตกบันไดบาดเจ็บ นอนอยู่โรงพยาบาล คือ เรื่องที่ท่านตกบันไดเป็นอะไรที่น่าพูดถึงอยู่หลายประเด็น ประเด็นแรกก็คือสี่ทุ่มกว่าท่านโทรเข้ามา อาตมาตื่นขึ้นมาก็ถามว่า “ใคร ?”
“แบงค์ครับ แบงค์ตกเขาไม่รู้อยู่ตรงไหน มืดมากเลยครับ เลือดออกมากด้วย”

อาตมาฟังเสร็จก็ “ใครนะ ?”
“แบงค์ครับ พระทรงพลครับ หลวงพ่อ”
“ทรงพลตกเขาเองใช่ไหม ?”
“ใช่ครับ”

ที่น่าตายที่สุดคือท่านพูดไม่ได้มีอารมณ์เลย ประเภททรงอารมณ์นิ่งมากเลย เหมือนอย่างกับคนอื่นตกเขาไม่ใช่ตัวเอง นั่นคือลักษณะของคนที่ปฏิบัติสมาธิ พอถึงเวลาฉุกเฉินแล้วกำลังใจรวมตัว เป็นอะไรที่ขำ ๆ

แต่คราวนี้วันนั้นวันวิสาขบูชา อาตมาทอดผ้าป่าช่วยกิ่งกาชาดทองผาภูมิ ท่านนายอำเภอว่าที่ร้อยตรีสุจินต์ ศรีวิเชียรท่านเป็นหวัด เอาไมค์ไปพูด พอรับไมค์คืนมาก็ติดหวัด คืนนั้นก็รีบฉันยาแล้วก็นอน ปรากฏว่าสี่ทุ่มกว่าฝนกำลังกระหน่ำทั้งฟ้าเลย ท่านแบงค์โทรมาก็ต้องออกไปกู้ภัย สรุปก็คือวิ่งไปเรียกพระ ปรากฏว่าส่วนใหญ่ก็เพิ่งจะวางผางประทีป เก็บผางประทีปกันหน้ามืดตาลายเพิ่งจะนอน ตะโกนเรียกไม่มีใครได้ยิน ทุบประตูเรียกไม่มีใครได้ยิน เปิดประตูเข้าไปเอาไฟส่องหน้าก็ไม่ตื่น

ท้ายสุดก็เรียกจนกระทั่งท่านโส (พระศรายุทธ์ ปณฺฑิโต) ตื่นขึ้นมารูปหนึ่ง ก็บอกว่า “คุณปลุกพวกเราสัก ๔-๕ รูปไปช่วยผมหน่อย ท่านแบงค์ตกเขาอยู่ทางฝั่งรอยพุทธบาทโน่น” แล้วอาตมาก็รีบเดินไป ออกมาตั้งเกือบ ๑๐๐ เมตรแล้วท่านตะโกนตามหลังมาว่า “ฝั่งไหนครับหลวงพ่อ ?” บอกว่า“ โน่น...นอกวัด..ฝั่งรอยพระพุทธบาทโน่น” อาตมาก็ขึ้นพรวด ๆ ไป ไปเจอท่านแบงค์กำลังนั่งภาวนาอยู่ ท่านบอกว่าท่านประมาทไปหน่อย ฝนตกมากแล้วก็บันไดลื่น แต่ท่านเดินตรงกลางโดยไม่ได้จับราว พอพลาดทีเดียวก็กลิ้งเป็นลูกขนุนลงมา"

เถรี 11-06-2018 21:18

"แต่จุดที่ท่านเล่าให้ฟังก็คือ ระหว่างที่ท่านกลิ้งลงมา ท่านรู้ทุกขั้นตอนเลยว่าเกิดช้า ๆ แบบนี้ ก็เลยพยายามจะพลิกตัวไม่ให้หัวฟาดพื้น นั่นคือลักษณะของกำลังใจที่เราฝึก พอถึงเวลาฉุกเฉินแล้วจะรวมตัว เวลากำลังใจรวมตัว ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเป็นปกติ แต่สภาพจิตแหลมคมว่องไวมาก เลยทำให้เห็นว่าทุกอย่างช้ามาก สามารถแก้ไขทัน ซึ่งลักษณะอย่างนี้ก็คือแบบเดียวกับที่กิเลสเกิดเร็วมาก ถ้าจิตของเราไม่เร็วพอก็จะต่อต้านกิเลสไม่ทัน

ตรงส่วนนี้เป็นส่วนที่ต้องเรียกว่าน่าชมเชย เพราะว่าถึงเวลาท่านกำลังใจทรงตัวได้ แต่คราวนี้พอท่านร่วงโครมลงไปกับพื้น แทนที่จะคิดเรื่องอื่น เรื่องแรกที่ท่านคิดก็คือ Bluetooth อยู่ไหน ? หนีบหูอยู่ โทรศัพท์อยู่ในกระเป๋ารู้แน่นอน แต่ Bluetooth หล่น ก็ควานหาก่อน แหม...ให้ตายเถอะ...! ถ้าเอ็งตายตอนนั้นจะเกิดเป็นตัวอะไรวะ ? จะไปเป็นเล็นเกาะ Bluetooth หรือเปล่าก็ไม่รู้ ?

เสร็จแล้วท่านก็ลุกขึ้นมาคลำตัวเองเห็นว่าเลือดออก แล้วก็ลองจับแข้งจับขาดู ปกติดียังลุกยืนได้ เออ...เบาใจ ถ้าอย่างนั้นก็ลง คราวนี้ฉลาดขึ้น จับราวลงด้านข้าง แต่ปรากฏว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ลื่นอีกทีหนึ่ง แล้วคราวนี้ลื่นทั้ง ๆ ที่ท่านจับราวไว้ มือท่านรับน้ำหนักตัวไม่ได้ ตัวก็โดนกระชากลงไป สองมือก็รูดราวลงไปอีก คราวนี้ท่านลงไปหลายขั้นมากเลยเพราะว่าเป็นช่วงสูงชัน ท่านก็เลยตัดสินใจแหย่ขาไปขัดข้างราวบันไดไว้ โอ้พระเจ้า...ดีที่ขาไม่หัก คราวนี้พอท่านแหย่ขาไปขัด ตัวท่านก็หมุนกระเด็นจะตกออกไปข้างนอก เพราะว่าน้ำหนักตัวกระชาก ยังดีว่าท่านหยุดตัวเองอยู่ได้"

เถรี 11-06-2018 21:27

"ตอนอาตมาขึ้นไปนี่ท่านกำลังคลำตัวเองอยู่ว่าทำไมเลือดออกเยอะมากอย่างนี้ ? เป็นอะไรมากหรือเปล่า ? เอ...เรายังคิดได้ แขนขาก็ไม่ได้เจ็บมาก จนทรงตัวไม่ได้ ก็กะว่าจะโทรเรียกรถพยาบาล แล้วท่านก็นึกขึ้นมาได้ว่า หลวงพ่อเพิ่งจะเปิดบันไดไปเร็ว ๆ นี้ ข่าววิทยุโทรทัศน์ลงหมดเลย อยู่ ๆ กูก็ตกบันได รถพยาบาลมารับนี่คงดังน่าดูเลยนะ ท่านก็เลยตัดสินใจโทรเรียกหลวงพ่อแทน เพราะโทรเรียกคนอื่นกลางคืนเขาปิดเครื่องกันหมดแล้ว

เป็นเรื่องที่ต้องบอกว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัดอาตมาเอง ดันลืมปิดเครื่อง ปกติ ๖ โมงเย็นก็ปิดเครื่องแล้ว ก็เลยต้องฝ่าฝนขึ้นไป ไปก็ช่วยประคองท่าน น้ำหนักท่านลดไปแล้ว ตอนนี้เหลือแค่ ๑๐๓ กิโลกรัม เหลือแค่นะ...! อาตมาเองก็เอาท่านเข้าปีก จับแขนซ้ายท่านเข้าบ่าไว้ แล้วก็มือขวาจับรัดประคดเอว เกร็งเอาไว้ไม่ให้ท่านทรุด ก็ค่อย ๆ เดินลงมา เดินลงมาเท่าไรพระเราก็ยังไม่มาเสียที ไปอยู่ไหนกันวะ ? ท้ายสุดก็ตะโกนเรียก มีเสียง “มาแล้ว ๆ” หอบแฮก ๆ มา

ปรากฏว่านอกจากท่านไปตามพวกมา ๔-๕ รูปแล้ว ท่านยังไปเอารถมาด้วย ท่านก็รอบคอบดี แต่ความที่ตัวเองก็ขึ้นเขาไม่เก่ง แล้วก็ยังมัวทำโน่นทำนี่อยู่ อาตมาก็พาท่านแบงค์ลงมาจนถึงช่วงที่ ๑๐ แล้ว จากประมาณสี่ทุ่มกว่าฝนก็กระหน่ำตลอด ลงมาถึงข้างล่างเที่ยงคืนกว่า พอเอาท่านขึ้นรถปรากฏว่าท่านด้าย (พระธิติวัส ชยวุฑฺโฒ) เป็นคนขับ ท่านก็คงไม่ชินกับระบบรถอินเดียของ TATA ท่านเบรกแต่ละทีนี่หัวทิ่มหัวตำเลย ก็เลยบอกท่านว่า "ไม่ไหวว่ะ..ถ้าขืนไปแบบนี้คนเจ็บตายก่อน" อาตมาก็เลยต้องไปปลุกน้องเล็ก (จิราพร) ให้มาช่วยขับรถที"

เถรี 11-06-2018 21:31

"ให้ท่านเอาน้ำราดแล้วก็ล้างเลือดออก ไม่ให้หมอเขาตกใจมาก แล้วก็เปลี่ยนผ้าเปลี่ยนอะไร ตอนที่ล้างเลือด พอเอามือถูท่านสะดุ้งเฮือก แล้วเลือดก็ไหลโกรกออกมาอีก อาตมาก็ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น ลองจับดูปรากฏว่าติ่งหูตรงนี้ฉีก ก็เลยมาคิดว่าน่าจะเป็นเพราะ Bluetooth หนีบหูอยู่ แล้วตอนที่ท่านร่วงลงไป หน้าไปไถกับขั้นบันไดแล้ว Bluetooth กระเด็นไป ก่อนที่จะหลุดกระเด็นไปก็กระชากหูไปด้วย เลยให้ท่านเอาผ้าโปะเอาไว้ เปลี่ยนผ้าแห้งได้ก็ให้น้องเล็กรับไปโรงพยาบาลทองผาภูมิ

อาตมาก็กลับเข้ากุฏิเปลี่ยนผ้า คราวนี้จะทำอย่างไร ตัวเองเป็นหวัดอยู่แล้วไปตากฝนมาเสีย ๒ ชั่วโมง มีอย่างเดียวก็คือฉันยาแก้ไข้น็อกตัวเอง ตื่นมาตอนเสียงตามสายมา พระทั้งวัดเขาก็สงสัยว่าหลวงพ่อเป็นอะไรวันนี้มาสาย ทำวัตรเช้าเสร็จค่อยคุยให้ท่านฟังว่า ตอนพวกคุณนอนหลับกันเป็นตาย พวกผมไปกู้ชีพช้างตกเขามา...!

ท่านก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก กระดูกอ่อนตรงหูขาดไปชิ้นหนึ่ง ต้องให้หมอเย็บให้ เมื่อวานไปเยี่ยมท่าน ท่านก็ยังพูดขำ ๆ ว่า "ตามที่เคยอ่านประวัติครูบาอาจารย์มา พอลูกศิษย์ลำบากนึกถึงขอให้ช่วย ครูบาอาจารย์ก็ไปด้วยกายละเอียด แต่ครูบาอาจารย์ของเรา พอขอให้ช่วยมาด้วยกายหยาบเลย" อาตมาก็ "เออ...เดี๋ยวกูก็ไปด้วยกายละเอียด แล้วก็เป็นกำลังใจให้มึงค่อย ๆ คลานลงมาเองแล้วกัน...!" ตอนนี้เจ็บไหล่กับตรงต้นแขนนี้มากเลย เพราะว่าเกร็งอยู่เป็นชั่วโมงตอนยกตัวท่านลงมา เจ็บไปซีกหนึ่งเลย แถมยังหวัดกินไม่เลิก เสียงบี้ไปเลย"

เถรี 11-06-2018 22:02

"ในส่วนที่ว่าของท่านเองพอถึงเวลาฉุกเฉินแล้วสติรวมตัว ถือว่าการปฏิบัติอยู่ในระดับใช้ได้ เพราะว่าท่านเองไปเรียนปริญญาโทสาขาวิปัสสนาภาวนามาด้วย ไปกรรมฐานที่พม่ามา ๗ เดือน ก็ไม่เสียทีที่ฝึกฝนมา

ส่วนพระของเราน่าจะเวลาเหนื่อยขึ้นมาแล้วทิ้งหมดเลย ไม่ได้ตั้งสติไว้แล้วนอน ก็เลยเรียกเท่าไรก็ไม่ได้ยิน นี่คืออย่างหนึ่ง

อีกอย่างหนึ่งก็คืออาจจะสมาธิทรงตัวแบบหลับลึกไป อย่างนั้นนี่ฟ้าผ่าข้างหูก็ไม่ได้ยิน เป็นอยู่สองอย่างด้วยกัน แต่คาดว่าน่าจะเป็นประเภทสมาธิทรงตัวแล้วหลับลึกมากกว่า เพราะว่าส่วนใหญ่เป็นนักภาวนากันทั้งนั้น แต่ตอนเรียกนี่ลำบากจริง ๆ เลย ประเภทหมาเห่าทั้งวัดก็ยังไม่ตื่น...!"

เถรี 12-06-2018 18:02

ถาม : ถ้าโยมไปทำให้พระตื่น จะบาปไหมคะ ?
ตอบ : ยอมบาปเถอะ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวที่เหลือจะตายเสียก่อน เรื่องการที่เรากระทำไปแล้วบาปกรรมไม่มีนั้นเป็นไปไม่ได้ เพียงแต่ว่าเราต้องชั่งน้ำหนักดูว่าควรค่าแก่การลงทุนไหม ? ถ้าเพื่อชีวิตคนอื่นก็ลงทุนไปเถอะ สรุปว่าพระหนุ่ม ๆ ตื่นยาก ไปช้า พระอาจารย์ก็เลยต้องจัดการไปก่อน

เถรี 12-06-2018 18:07

ตอนนี้ถ้าอาตมาขยับผิดจังหวะก็จะเจ็บ น่าจะเป็นกล้ามเนื้ออักเสบ เพราะว่าเกร็งอยู่เป็นชั่วโมง น้ำหนักจริง ๆ ลงทางด้านซ้าย แต่ทางขวาเกร็งเพราะต้องยกเอวท่านไว้ไม่ให้ทรุด ถ้าท่านลงนี่อาตมาแบนแน่ เพราะว่าตอนที่พยายามเอาท่านลงมา ความรู้สึกเหมือนกับมดแบกข้าวสาร ข้าวสารเม็ดใหญ่กว่ามดตั้งเยอะ

ตอนนี้ท่านกำลังพยายามจะลดน้ำหนักอยู่ ที่ไปขึ้นเขากลางดึกนั่นก็เพื่อที่จะลดน้ำหนัก ก็คือท่านอาศัยเดินภาวนาขึ้นเขา ตอนขึ้นก็ไม่มีปัญหา ดันไปมีปัญหาตอนลงเพราะว่าฝนตก ท่านประมาทไปเดินกลางบันได กลางบันไดเป็นส่วนของไม้โดนน้ำแล้วจึงลื่น ถ้าด้านข้างเขาทำเหล็กลายตีนเป็ดไว้ เดินอย่างไรก็ไม่ลื่น

คนอ้วนเวลาเดินต้องส่าย ๆ หน่อย ไม่อย่างนั้นก็ไปไม่ได้ ที่บางคนเขาบอกเดินเหมือนคิงคอง ถึงเวลาคิงคองต้องเดินส่าย ๆ หน่อย แต่ไปส่ายบนที่ลื่นก็เลยเป็นเรื่อง

เถรี 12-06-2018 18:25

เสี่ยต้อมบางพูน เอาช่อพระขรรค์โสฬสมาถวาย ให้พระอาจารย์ให้นำไปเข้ากระทู้ประมูล ท่านบอกกับเพื่อนพระว่า "พวกเจ้าต้อมนี่น่าตายมาก เอาเหรียญสมเด็จองค์ปฐมหลังพระสิวลีที่ผมพุทธาภิเษกไปลองกันที่สนามยิงปืน เขาเอาเหรียญไปติดไว้หลังเป้า แล้วไม่บอกเพื่อน ให้เพื่อนยิง เพื่อนยิงเท่าไรก็เป้าสะอาด ไม่รู้ว่ากระสุนหายไปทางไหนหมด แล้วเขาก็ไปแอบเอาพระออกแล้วยิงใหม่ พอยิงใหม่กลายเป็นว่าเข้าเป้าหมด เอาแผ่นป้ายใหม่ไปติดก็แอบเอาพระไปติดไว้อีก ยิงเท่าไรก็ยิงไม่ถูกอีก

เหรียญเล็กนิดเดียวประมาณเล็บมือเรา เขาก็แค่เอาเทปกาวแปะติดไว้อยู่ข้างหลังเป้า ไปติดไว้ไม่บอกเพื่อน เพื่อนก็ว่าอะไรวะ ? ยิงทุกวันก็ได้คะแนนดี ทำไมวันนี้ยิงเท่าไรก็ไม่เข้าเป้าเลย พวกนี้เชื่อยากครับ เขาต้องลองก่อน"


ถาม : พระอาจารย์สร้างเองหรือครับ ?
ตอบ : จริง ๆ แล้วเหรียญรุ่นนี้ผมไม่ได้สร้าง คนอื่นทำมาให้เป็นหมื่นเหรียญเลยครับ แล้วก็ถวายให้ผมเข้าพิธี ผมก็แจกไปเรื่อย

ถาม : ยังมีอยู่ไหมครับ ?
ตอบ : หมดแล้ว เหรียญเล็ก ๆ นิดเดียว พวกห้าว ๆ ชอบลองกันครับ เขาอยากรู้ว่าพระอาจารย์จะเก่งสักเท่าไร

เถรี 12-06-2018 18:34

ถาม : เหตุการณ์ที่วัดท่าซุงประเภทคนแน่นจนจะเหยียบกันตาย จะเกิดแบบนั้นไหมครับ ?
ตอบ : เกิดขึ้นไปแล้วครับ ปี ๒๕๓๐ หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเพิ่งสร้างศาลา ๑๒ ไร่เสร็จใหม่ ๆ ท่านก็จะเผาศพ คือศพจำลองของตัวท่านที่ตั้งมาเป็น ๑๐ ปีแล้ว

ท่านจัดงานเผาศพก็ปรากฏว่าคนแห่กันไป ผมบอกไม่ถูกว่าเยอะแค่ไหนครับ ที่พักไม่พอ ท้ายสุดคนก็เลยต้องไปหาหนังสือพิมพ์มาปูนอนกันในศาลา ๑๒ ไร่ แน่นไปหมด รู้ไหมครับว่าหนังสือพิมพ์ที่เขาชั่งกิโลฯ ขายกิโลฯ ละ ๖ สลึง เขาเอามาขายฉบับละ ๕ บาทให้คนไปปูนอน งานนั้นประมาณ ๓ แสนกว่าคน จะเหยียบกันตายจริง ๆ ครับ

เถรี 12-06-2018 18:42

ถาม : งานเผาศพจำลอง ?
ตอบ : งานเผาศพจำลองตอนนั้นหลวงพ่อสมเด็จฯ วัดสามพระยาไปเป็นประธาน คนเยอะแค่ไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าผมพรมน้ำมนต์ หมดไป ๒ แทงค์ แทงค์ละ ๒,๐๐๐ ลิตร

หลวงพ่อท่านบอกว่าไปช่วยจัดการให้หน่อย แทงค์นี้ตั้งไว้ที่หัวสะพานเหล็กที่เดินข้ามไประหว่างศาลา ๒ ไร่กับศาลา ๑๒ ไร่ พวกทหารตักใส่ถังเหลืองหรือถังสังฆทานมา ผมก็พรมไปเรื่อย โยมก็เดินออกมาจากศาลา ๑๒ ไร่ ไหลเป็นน้ำเลย พรมหมดไป ๒ แทงค์ ผมยกแขนไม่ขึ้นไป ๓ วัน คนจะเหยียบกันตายจริง ๆ น้ำมนต์ ๒ แทงค์ ๔,๐๐๐ ลิตร ตัวผมเองยังเปียกอย่างกับราดน้ำเลย

เวลาผมจัดงาน ๓,๐๐๐ – ๔,๐๐๐ คน เพื่อนพระถามว่าอาจารย์เล็กไปเอาคนมาจากไหนเยอะแยะขนาดนี้ บอกท่านว่า “นี่ไม่ถึงเสี้ยวหนึ่งที่หลวงพ่อผมจัด” งานของเขาจัดถ้ามีคน ๓๐๐ - ๕๐๐ คนก็ถือว่าประสบความสำเร็จ ส่วนของวัดท่าขนุนไปจนกระทั่งทั้งอำเภอไม่มีที่ให้พัก

นายอำเภอท่านมาพูดตอนเปิดบันไดขึ้นรอยพุทธบาท บอกว่าพระอาจารย์เล็กทำให้เศรษฐกิจทองผาภูมิดี ท่านจัดงานแต่ละทีที่พักไม่เหลือ จะกี่รีสอร์ท กี่โรงแรมก็ไม่มีเหลือเลย


ถาม : เปิดงานไปเมื่อไรครับ ?
ตอบ : เมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคมที่ผ่านมา เขาส่งงานวันที่ ๒๕ วันที่ ๒๗ ผมก็เปิดเลย คิดว่าจะไม่ค่อยมีคน เพราะว่าไม่ได้บอกใคร ปรากฏว่าแห่กันมาเต็ม คนเขาอยากขึ้น หนังสือพิมพ์ก็เอาไปลง โทรทัศน์ก็เอาไปลง ก็ดีตรงที่ว่าในขณะที่มีข่าวไม่ดี ๆ เยอะแยะไปหมด อย่างน้อยมีข่าวดีสักนิดหนึ่ง

เรื่องอย่างนี้ท้อไม่ได้ ต่อให้สิ่งไม่ดีไม่งามเกิดขึ้นในศาสนาของเราโดยเจตนาไม่เจตนาอะไรก็ตาม เรามีหน้าที่อย่างเดียวคือรักษาความดีเอาไว้ให้ได้ มั่นใจได้เลยว่าถ้าทำตามปฏิปทาของหลวงพ่อวัดท่าซุง อย่างไรเราก็รักษาคนเอาไว้ได้

เถรี 12-06-2018 18:59

ถาม : ตอนนี้มีคนถามว่า เกิดเหตุการณ์ใหญ่แบบนี้กับพระ ท่านคิดอย่างไร ?
ตอบ : เมื่อวานนี้ผมบอกไปแล้วครับ เป็นการทำลายล้างทางการเมืองเพราะว่าทั้ง ๓ ท่านเป็นแรงสนับสนุนวัดธรรมกาย วัดธรรมกายทำให้พระใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่ได้ เพราะว่าท่านสนับสนุนทั้งข้าวปลาอาหาร ทั้งเงินทอง และวัดธรรมกายใคร ๆ ก็รู้ว่าเป็นฐานของคนเสื้อแดง

คราวนี้ทางด้านเจ้าคุณพรหมเมธี เจ้าคุณพรหมสิทธิ เจ้าคุณพรหมดิลก ท่านสนิทสนมแนบแน่นกับวัดธรรมกายอยู่ ก็แปลว่าถึงแม้ว่าวัดธรรมกายจะโดนเด็ดหัวไปแล้ว แต่ถ้า ๓ ท่านนี้บอกลูกศิษย์ว่าเลือกใคร ก็เท่ากับบอกลูกศิษย์ธรรมกายเลือกด้วย ถ้าธรรมกายเทเสียงให้ใครฝ่ายนั้นก็ชนะ จึงต้องเด็ดหัวก่อน

ประการที่ ๒ เป็นการทำลายล้างกันทางศาสนา คือศาสนาอื่นเขาจ้องทำลายศาสนาพุทธอยู่แล้ว ๓ ท่านนี้เป็นกำลังหลักสำคัญของพุทธศาสนาเลย เขาต้องเอาลงให้ได้

ประการสุดท้าย เป็นการทำลายล้างกันระหว่างนิกายของพุทธกันเอง ก็ในเมื่อตัวเองจะต้องขึ้นให้ได้ ก็ต้องเหยียบคนอื่นลง ซึ่งลักษณะอย่างนี้ผมสงสาร สงสารตรงที่ว่าท่านไปรื้อรั้วบ้าน เดี๋ยวโจรก็ปล้นบ้านหมด โดยเฉพาะรั้วที่แข็งแกร่งอย่าง ๓ ท่านนี้ ถ้าพุทธเราเล่นกันเองก็เป็นอะไรที่น่าสงสารมาก

ฉะนั้น...เกิดจาก ๓ แนวทางนี้ด้วยกัน แต่ทั้ง ๓ อย่างที่ประสานมือร่วมกันได้ ทั้งที่เป็นแนวร่วมและเป็นตัวทำลายโดยตรง ส่วนที่เสียหายที่สุดคือศาสนาพุทธของเรา เพราะว่าเขาจะเร่งออกข่าวพวกนี้ในช่วงใกล้มาฆบูชา ใกล้วิสาขบูชา ใกล้อาสาฬหบูชา ลองดูสิครับ...ช่วงก่อนเข้าพรรษา ช่วงอาสาฬหบูชา ก่อนเข้าพรรษาจะมีอีกรอบหนึ่งใหญ่ ๆ มาเลย เขาจะทำให้คนไม่มีอารมณ์อยากเข้าวัดทำบุญ แล้วท้ายสุดคนเราก็จะห่างศาสนาไปเรื่อย

พอหลังจากนี้อีกทีคือช่วงออกพรรษา เขาจะเล่นเป็นจังหวะตอนใกล้วันสำคัญของพระพุทธศาสนามาตลอด เป็นการตั้งใจทำลายล้างพระพุทธศาสนาโดยตรง

เถรี 12-06-2018 19:02

บรรดาเพื่อน ๆ เขาวิตกกังวลกัน ผมบอกอย่าไปวิตกให้เสียเวลา คุณตั้งหน้าตั้งตาทำให้ดีเข้าไว้ เอาข่าวดีมาสู้เขา ถ้าหากว่าสื่อมวลชนไม่ลงให้ สมัยนี้ youtube ก็มี Facebook ก็มี Line ก็มี คุณก็ลงกันเองสิวะ เราทำดีอะไรก็ทำให้เขาดูไป ถึงเวลาคนจะได้รู้ว่าพระที่ทำดี ๆ ยังมีอยู่อีกมาก

สิ่งพวกนี้เป็นการกล่าวหากัน แล้วการกล่าวหา ฆราวาสทั่วไปก็ต้องสู้กัน ๓ ศาลแล้วถึงจะตัดสินว่าผิดถูก แต่ของพระเรามีไหมครับ เขาจับถลกจีวรยัดเข้าคุกเลย ไม่มีโอกาสทำอะไรเลยทั้ง ๆ ที่โทษนิดเดียว ใช้เงินผิดประเภทแค่นั้น จึงเห็นชัด ๆ ว่าเป็นการทำลายล้างกัน

ดีอยู่อย่างหนึ่งที่ว่าเหตุการณ์แบบนี้เป็นหินลองทองหรือไฟทดสอบทอง คือถ้าคุณเป็นทองแท้เผาเท่าไรหรือลองเท่าไรก็แท้ครับ แต่ถ้าหากว่าไม่แท้ก็หลุดวงโคจรไปเอง ทำให้เขาเห็นอย่างที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ท่านว่า ปิดทองหลังพระไปเรื่อย ๆ ถ้าคุณปิดได้มากพอก็จะล้นมาหน้าพระเอง นั่นคือสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ท่านทำมาทั้งชีวิตนะ

เถรี 12-06-2018 19:06

วัดท่าซุงเป็นเป้าหมายใหญ่นะครับ ถ้าเป็นวัด...(๑)... เขาสอนผิดจากพระไตรปิฎกแน่นอน วัด...(๒)... สอนผิดจากพระไตรปิฎกแน่นอน วัดท่าซุงของเราถึงสอนตามพระไตรปิฎก แต่คนของเรามีความสามารถน้อย ไม่สามารถพิสูจน์ยืนยันได้ สมมติว่าเขาเอาข้าวเอาของใส่ถุงใส่กล่องมา บอกได้ไหมว่าข้างในคืออะไร ? ถ้าบอกไม่ได้เขาจะถือว่ามโนมยิทธิเป็นเรื่องหลอกลวงกัน คุณสอนผิดจากพระไตรปิฎก ก็โดนเหมือนกันนะครับ

ผมยังเป็นห่วงท่านสมนึกอยู่เลย ยังบอกกับท่านไว้ว่าเตรียมพวกมือเจ๋ง ๆ ชนิดท้าพิสูจน์ได้เอาไว้ให้เขาพิสูจน์ด้วยนะครับ คุณเอาผมไปไม่ได้หรอก เพราะว่าเขาต้องกันผมไว้ว่าเป็นคนละวัดกัน

เราต้องเตรียมพร้อมครับ พูดง่าย ๆ ก็คือเขาท้าพิสูจน์เมื่อไรต้องมีให้เขาพิสูจน์ได้ ไม่ใช่ว่าถึงเวลาแล้วมีแต่ของปลอม มีแต่ราคาคุย ไม่อย่างนั้นไม่ได้เสียหายแค่เรา เสียหายถึงครูบาอาจารย์ เสียหายถึงพระศาสนาด้วย

ที่ไหนก็ตามที่เป็นแหล่งรวมคนมาก ๆ จะโดนครับ ถ้าเขาทำลายกำลังหลัก ๆ ได้หมด ศาสนาของเราก็หมดกำลัง เขาก็จะขึ้นแทน

เถรี 12-06-2018 19:09

ความจริงส่วนที่น่าจะโดนมากที่สุดคือมหาจุฬาฯ กับมหามกุฏฯ ๒ มหาวิทยาลัยสงฆ์ เพียงแต่ว่า ๒ มหาวิทยาลัยสงฆ์ สาขาทั่วประเทศรวมกันแล้วมีนิสิตหลายหมื่น ในขณะเดียวกันที่จบไปอีกเป็นแสน ถ้าไปแหย่รังแตนเมื่อไรก็ออกมาเยอะครับ เขาก็เลยยังไม่แตะ

เถรี 12-06-2018 19:17

ถาม : พวกเขาจ้องจะซัดเราอย่างเดียว เขาวางแผนเรียบร้อย ?
ตอบ : พวกเรารู้ แต่การรู้ไม่ใช่ลักษณะตื่นรู้แล้วระวังป้องกัน แต่รู้แล้วปล่อยวางด้วยความประมาท เขาก็ทำลายเราไปเรื่อย ๆ

ตอนนี้กำลังจะออกกฎหมายใหม่เพื่อล้มมหาเถรสมาคม อ้างว่าปรับปรุงการปกครองคณะสงฆ์ ให้อยู่เป็นเจ้าอาวาสไม่เกิน ๕ ปี ให้สับเปลี่ยนหมุนเวียนกัน ถ้าอย่างนี้ฉิบหายเลยครับ เพราะว่าเจ้าอาวาสแต่ละท่านที่เข้าไป กว่าจะได้รับการยอมรับในพื้นที่นานครับ บางท่านก็เกือบตลอดชีวิตเลยนะ

พอเจ้าอาวาสใหม่เข้าไป เขาจะนึกถึงแต่เจ้าอาวาสเก่า ถ้าคุณเก่งสู้เจ้าอาวาสเก่าไม่ได้ วัดจะโทรมทันตาเลยเพราะว่าชาวบ้านไม่สนับสนุน ถ้าคุณเก่งสู้เจ้าอาวาสเก่าได้ เขาก็ยังนึกถึงคนเก่าอยู่เพราะว่าอยู่กับเขามานาน กว่าที่เขาจะยอมรับคุณ บางทีก็ช่วงท้าย ๆ ของชีวิตแล้ว ยอมรับว่าคุณมีความรู้มีความสามารถ สามารถที่ทำให้วัดของเราเจริญ ชุมชนของเขาเจริญ ก็พอดีคุณตายอีก คนใหม่มาก็เจอวงจรอุบาทว์นี้

คราวนี้เปลี่ยนให้เป็น ๕ ปีครั้ง ๆ อันดับแรกเลย คือพระเราจะโตไม่ทัน จะหาเจ้าอาวาสไม่ทัน เพราะมีกติกาว่าอย่างน้อยต้อง ๕ พรรษาถึงจะเป็นเจ้าอาวาสได้ ประการที่สอง การไม่ยอมรับของเจ้าของพื้นที่มีมาก ทำให้อยู่ไม่ได้ ต่อไปวัดวาอารามจะไม่เหลือหรอก

เรื่องพวกนี้เอาจริง ๆ แล้วคือเอาฆราวาสมาเขียนกฎให้พระปฏิบัติ โดยไม่มีพระเข้าไปมีส่วนร่วม เป็นการทำผิดตั้งแต่แรกแล้ว เมื่อวานนี้ผมถึงบอกว่า ถ้าให้ตำรวจไปเขียนกฎหมายให้ครู ให้ครูไปเขียนกฎหมายให้ทหาร ให้ทหารไปเขียนกฎหมายปกครองพระ ก็วุ่นวายฉิบหายวายป่วงหมด เพราะต่างคนต่างไม่รู้ว่าแบบธรรมเนียมของเขาเป็นอย่างไร


เถรี 12-06-2018 19:20

แต่ก็อย่างว่าครับเพราะปัจจุบันนี้ สนช.ที่ร่างกฎหมายอยู่ เป็นแนวร่วมอิสลามไปเยอะแยะแล้ว จะไปเหลืออะไร ? เราไปเปิดโอกาสให้เขาเองโดยไม่มีการคัดค้านเลย คนไทยเสียอยู่อย่างก็คือสามัคคีไม่เป็น เห็นคนได้ดีก็ไม่มีการโมทนาด้วย มีแต่คอยอิจฉาริษยา ขัดแข้งขัดขากัน ถ้าไม่เปลี่ยนนิสัยเดี๋ยวก็คงต้องหัดละหมาดกันละครับ

หลวงพ่อประยุทธ์ (ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดญาณเวศกวัน) บอกไว้นานแล้วครับ ท่านบอกนิสัยคนไทยเหมือนกับไก่ในเข่งวันตรุษจีน จะโดนเขาเชือดเมื่อไรก็ไม่รู้ ยังจิกกันตีกันอยู่นั่นแหละ อยู่ใกล้กันไม่ได้ ขาดความสามัคคี ขณะเดียวกันคนของเขามีอะไรนิดหนึ่งก็แห่กันไปทั้งหมู่บ้าน

เถรี 12-06-2018 19:24

ถาม : สมัยพระพิมลธรรมท่านยังใส่ชุดขาวในคุก ?
ตอบ : สมัยนั้นได้แต่ว่าสมัยนี้ยาก ลองคิดดูว่าพอท่านไปจากวัด คนรักษาการที่ทำหน้าที่แทนท่านจะมา แล้วถ้าท่านออกมา เราลองคิดดูว่าคนอื่นอยากให้ท่านมาไหม ? ท่านมาตัวเองก็หลุดเพราะว่าต้องคืนตำแหน่งให้ท่าน รับรองว่ามีการเตะสกัดกันเองครับ

เถรี 12-06-2018 19:29

พระอาจารย์กล่าวว่า "ส่วนใหญ่โยมมาก็แวะไปดูตู้ด้วยความหวังว่า จะมีเหรียญหรือผ้ายันต์ท้าวเวสสุวรรณ วันนี้มีโยมถวายมา เดี๋ยวจะเอาไปลงกฐินปลดหนี้ ถ้ามีคนถวายเพิ่มมาเรื่อยก็จะสะสมไปเรื่อย ๆ ถ้ากฐินปลดหนี้จะราคาแพง ก็คือให้ทำบุญกฐินแล้วแถมวัตถุมงคลให้"


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:53


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว