กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนมิถุนายน ๒๕๖๑ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6199)

เถรี 29-06-2018 19:52

ถาม : ผมบอกบุญกับแม่ว่าจะมีบวชพระร้อยรูป แม่ทำบุญไป ปรากฏว่าทางวัดบวชพระจริงแค่ ๘๔ รูป แม่จะได้อานิสงส์บวชพระ ๑๐๐ รูปไหมครับ ?
ตอบ : ไปหาเพิ่มอีก ๑๖ รูป ไม่อย่างนั้นโดนโทษย้ายเจดีย์ แม่เขาตั้งใจทำบุญบวชพระร้อยรูป เขาได้ร้อยไปแล้ว ความซวยตกอยู่ที่เรา รีบไปหาให้ครบ

เถรี 29-06-2018 20:17

มีคนมารับวัตถุมงคล "ในจำนวนวัตถุมงคลพอกครั่งทั้งหมดของหลวงพ่อทองศุข เบี้ยแก้หายากที่สุด ทำให้คนไม่ค่อยรู้จักกัน"

ถาม : ใช้แง่ไหนครับ ?
ตอบ : ลักษณะเดียวกับเบี้ยแก้ทั่ว ๆ ไป ป้องกันอันตราย แก้อาถรรพ์ ขับไล่ภูตผีปิศาจ แต่ของหลวงพ่อทองศุขท่านมีคงกระพันชาตรีด้วย ไปหาคำอาราธนาที่ไหนก็ได้

เถรี 29-06-2018 21:31

ถาม : ถ้าคนต่างชาติเขาเกิดมีศรัทธาในคำสอนของพระพุทธศาสนา แล้วนำมาปฏิบัติ มาพิจารณา เขาก็สามารถเข้าถึงพระอริยบุคคลได้ใช่ไหมคะ ?
ตอบ : การปฏิบัติธรรมไม่ประกอบด้วยเชื้อชาติ สำคัญตรงสติ สมาธิ ปัญญาว่าเพียงพอหรือไม่ ?

ถาม : จำเป็นไหมว่าต้องระลึกถึงพระพุทธองค์ ระลึกถึงพระรัตนตรัย ?
ตอบ : เอาเป็นว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านพบท่านเจอส่วนใหญ่ คือคนต่างลัทธิซึ่งไม่มีศรัทธาอะไรเลย แต่ฟังเทศน์จบเดียวไปกันหมด สิ่งที่คุณว่ามาถึงพร้อมหมดตอนนั้นแหละ

เถรี 29-06-2018 21:37

ถาม : กำลังของสมาธิต้องถึงระดับไหนคะ จึงสามารถที่จะโน้มน้าวคนได้ ต้องเป็นพระอริยเจ้าหรือเปล่า ?
ตอบ : จะว่าไปแล้วเอาแค่กำลังสมาธิก็พอ ถ้ากำลังสมาธิสูงกว่าก็สามารถใช้งานได้แล้ว แต่ถ้าถึงความเป็นพระโสดาบันขึ้นไป ในบุคคลปกติทั่วไปท่านสามารถที่จะโน้มน้าวได้หมด

เถรี 30-06-2018 08:20

ถาม : ประคำที่เนื้อเป็นหิน ถ้าเราภาวนาแล้วเนื้อเปลี่ยนไป เช่น ยืมน้องเขามาใช้ไม่นานนักนี้ แล้วสีซีดลง ออกเป็นขาว ๆ ไป เป็นลักษณะเดียวกับที่เขาหุงพลอยไหมคะ ?
ตอบ : คนละอย่างกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องของพลังหรือปราณที่แทรกเข้าไปในวัสดุธรรมชาติ จนกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น พูดง่าย ๆ ว่าลักษณะเดียวกับการพุทธาภิเษกนั่นแหละ แค่เพิ่มพลังงานเข้าไปเท่านั้น

เถรี 30-06-2018 08:46

พระอาจารย์กล่าวว่า "แจ้งให้ญาติโยมทราบว่า ต้นแบบหลวงพ่อทองคำงามสุดชีวิตที่เห็นอยู่นั้น ท่านอาจารย์สุชาติคิดค่าปั้น ๘๐,๐๐๐ บาท หลวงพี่มหาเอจ่ายแทนไปเรียบร้อยแล้ว สามองค์ที่ผ่านมาอาตมาไม่มีโอกาสได้จ่ายเลยสักองค์

ด้วยความที่เห็นว่าแบบสวยมากก็เลยอยากได้รูปถ่ายรอบด้าน เผื่อจะทำเป็นองค์เล็ก ต้องดูฝีมือช่างสมัยนี้ก่อนว่ามีความสามารถพอไหม ? ความจริงถ้ามีรูปรอบด้านก็น่าจะขึ้นรูปได้ ลอง ๆ ดูว่ามีใครถ่ายไว้หรือเปล่า"


ถาม : ทำแต่องค์ทองคำหรือคะ ?
ตอบ : ตั้งใจว่าอย่างนั้น แต่ว่าคงต้องเปิดจองในจำนวนจำกัด ด้านข้าง ๆ พอเห็นอยู่ แต่คราวนี้เอาแน่นอนดีกว่า

เถรี 30-06-2018 09:16

พระอาจารย์กล่าวว่า "ญาติโยมทั้งหลายทำบุญกันมากทั้งในส่วนของสังฆทาน ทั้งการสร้างพระพุทธรูปทองคำ ส่วนหนึ่งที่อยากจะเตือนก็คือ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้แม้จะมีอานิสงส์มากเพียงใดก็ตาม ก็ยังเป็นบุญในระดับของทานเท่านั้น กุศลผลบุญที่สูงกว่าทาน ยังมีศีล ยังมีการภาวนา

การที่เราทำทานเป็นปกติ แสดงให้เห็นชัดว่าสภาพจิตของเรามีความโลภน้อยมาก สามารถสละออกได้ทุกเวลาที่ต้องการ คราวนี้เราก็ต้องมาทบทวนศีลของเรา เพราะว่าศีลส่วนใหญ่แล้วเป็นการตัดราคะ โลภะและโทสะ ซึ่งจะเป็นการเบียดเบียนทั้งตนเองและผู้อื่น จึงต้องควบคุมทั้งกาย ทั้งวาจาของตนให้อยู่ในกรอบ แล้วก็ยังมีในส่วนของปัญญาคือการภาวนา ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นการตัดโมหะคือความหลง ที่ทำให้ยึดถือว่าร่างกายนี้ก็ดี โลกนี้ก็ดี ตลอดจนคน สัตว์ วัตถุธาตุ สิ่งของ เป็นเรา เป็นของเรา ซึ่งการที่เราตั้งใจปฏิบัติใน ทาน ศีล ภาวนา เป้าหมายใหญ่ก็อย่าให้ลืมว่า เราตั้งใจจะหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน

ในส่วนนี้พวกเราเมื่อให้ทานแล้ว ก็ต้องทบทวนศีลทุกสิกขาบทของเราให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ปฏิบัติสมาธิภาวนาให้อย่างน้อย ๆ ทรงฌานระดับปฐมฌานได้ ท้ายที่สุดก็คือใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นว่า ร่างกายของเราก็ดี ของคนอื่นก็ดี ไม่สามารถที่จะยึดถือมั่นหมายได้ เพราะสักแต่ว่าเป็นธาตุที่คุมกันมาให้เราอาศัยชั่วคราวเท่านั้น ท้ายสุดก็เสื่อมสลายตายพังไป

ถ้าสภาพจิตของเราไม่ยึดเกาะในร่างกายตนเอง ก็ไม่ยึดเกาะร่างกายคนอื่น ไม่ยึดเกาะร่างกายตนเอง ไม่ยึดเกาะร่างกายคนอื่น ก็ไม่ยึดเกาะในโลกนี้ด้วย โอกาสที่เราจะหลุดพ้นไปสู่พระนิพพานก็จะมีขึ้น เกิดขึ้นได้

ฉะนั้น...อย่าเพลินอยู่แค่ทาน ยังมีศีลและภาวนาสูงกว่านั้น และโดยเฉพาะว่าในเรื่องของ ศีล สมาธิ ปัญญา นั้น เป็นสิ่งที่เราทำแล้วไม่เสียเงินไม่เสียของ เรื่องของการทำทานแม้อยู่ในระดับต่ำกว่า ทำง่ายกว่า แต่ต้องสละสิ่งของออกไป ในส่วนที่เราทำโดยลงทุนน้อยแต่ผลานิสงส์มากกว่ายังมีอยู่ ต้องพยายามทำให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ถ้า ศีล สมาธิ ปัญญา ของเราครบถ้วนสมบูรณ์ บุคคลนั้นก็ย่อมสามารถก้าวล่วงพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานได้ดังปรารถนา"

เถรี 01-07-2018 09:23

ถาม : พระพุทธรูปตามวัด เราไม่แน่ใจว่าเป็นพระพุทธเจ้า หรือเป็นเทวดา เราควรจะวางกำลังใจอย่างไรเวลากราบครับ ?
ตอบ : เห็นพระพุทธเจ้าแล้วไม่แน่ใจได้อย่างไร ?

ถาม : ยังไม่แน่ใจครับ หรือนึกว่าเป็นพระพุทธเจ้าหมดเลย ?
ตอบ : นึกถึงพระพุทธเจ้าก็คือพระพุทธเจ้า

เถรี 01-07-2018 09:25

ถาม : อาชีพที่ทำแล้วทำให้คนติดมาก ๆ หรือเกิดมากขึ้นเรื่อย ๆ จะเป็นโทษมากไหมครับ ?
ตอบ : ก็ไม่มากเท่าไรหรอก อย่างนักแสดงถ้าไม่เคยทำบุญอื่นเลยก็แค่ลงอเวจีเท่านั้นเอง..!

เถรี 01-07-2018 09:29

ถาม : วัดเราเสนาสนะเพียงพอหรือยังครับ พร้อมหรือเปล่า ?
ตอบ : เคยได้ยินโบราณเขาพูดไหมว่า วัดกับวังสร้างเท่าไรไม่รู้จบ แบบวัดท่าขนุน สร้างของใหม่เสร็จ ของเดิมก็เก่า ก็ต้องไปซ่อมของเก่า ก็ต้องซ่อมไล่ไปเรื่อย

เถรี 01-07-2018 09:38

ถาม : เรามีลูก ลูกเราเป็นพุทธภูมิ เราต้องเลี้ยงดูอย่างไรครับ ?
ตอบ : ก็เลี้ยงตามปกติ ถ้าซ่ามากก็แจกไม้เรียวให้..!

เถรี 01-07-2018 22:42

ถาม : พุทธภูมิที่เลือกลงมาเกิดได้ ทำไมท่านจึงลงมาเกิดช่วงนี้ และถ้าท่านเลือกลงมาเกิด ทำไม ๒,๕๐๐ ปีหลังจึงเสื่อมลงเรื่อย ๆ ทำไมท่านไม่เลือกเกิดมาสมัยที่ดีกว่านี้ ?
ตอบ : ไปถามท่านสิ..!

ถาม : หรือเพราะลำบากกว่า มีความเสี่ยงอยู่ตลอด ?
ตอบ : พุทธภูมิท่านไม่สนใจความเสี่ยง พุทธภูมิท่านสนใจอยู่อย่างเดียวว่าจะได้ทำงานหรือเปล่า ยิ่งยากยิ่งสะใจ

เถรี 01-07-2018 22:56

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้แต่ละวัดมีภารกิจสำคัญ ๒ อย่าง อย่างแรกก็คือ ต้องไปทำบัตรประจำตัวผู้เสียภาษี อย่างที่สองก็คือ ต้องไปทำ QR Code เพื่อให้โยมโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป การออกอนุโมทนาบัตรทั้งหมดเขาจะออกให้เฉพาะท่านที่โอนผ่านธนาคารและมียอดเงินอยู่ในบัญชีเท่านั้น ถ้าหากว่าผิดยอด ผิดคน อนุโมทนาบัตรใบนั้นไม่เพียงเป็นโมฆะ เจ้าอาวาสยังเจอข้อหาเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบด้วย ก็แปลว่าโยมคนไหนโอนเงินเข้าบัญชีวัด โยมคนนั้นถึงจะมีสิทธิ์ขออนุโมทนาบัตร ไม่ใช่ว่าเราโอนเงินแล้วขอในนามคนอื่นได้

ตอนนี้กรมสรรพากรกำลังคิดรูปแบบของอนุโมทนาบัตรที่เหมาะสมที่สุด ต่อไปอาจจะเป็นทางกรมสรรพากรเป็นคนออกใบอนุโมทนาบัตรก็ได้

จากการนี้แปลว่าโยมถวายสังฆทานก็ดี หยอดตู้ก็ตาม ถวายทองคำ ถวายเม็ดเงินไม่สามารถที่จะขออนุโมทนาบัตรได้ เขาพยายามสร้างความลำบากในการทำบุญให้กับเรา เพื่อที่ญาติโยมเบื่อ ไม่สนับสนุน วัดจะได้อยู่ไม่ได้"

เถรี 01-07-2018 23:01

"เมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๑ มีการประชุมคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ ธนาคารก็ไปร่วมประชุมด้วย และพร้อมที่จะให้ทุกวัดเปิด QR Code อาตมายังไม่ทำเพราะเกี่ยงอยู่ตรงที่ว่าเป็นธนาคารออมสิน

อาตมาเข็ดกับธนาคารออมสินมาตั้งแต่สมัยฆราวาสแล้ว ฝากออมสินตอนอายุ ๑๒ ขวบ ไปถอนเงินตอนอายุ ๒๕ ปี เขาจะให้ลายมือเหมือนเดิม ลายมือไม่เหมือนเขาไม่จ่าย ลักษณะนั้นต้องบอกว่าเป็นความรอบคอบแบบโง่ ๆ สร้างความลําบากให้กับลูกค้า เพื่อที่จะไม่ให้เขาถอนเงินหรืออย่างไรก็ไม่รู้"

เถรี 01-07-2018 23:05

พระอาจารย์กล่าวว่า "ญาติโยมที่จองบาตรน้ำมนต์ ๖๐ ปีพระครูวิลาศกาญจนธรรม โปรดทราบบาตรใหญ่มาก อย่าคิดว่าใบเล็ก ๆ เพราะว่าอาตมาเบื่อครอบน้ำมนต์โบราณ เอาไม้พรมน้ำมนต์จิ้ม ๓ ทีก็หมดน้ำมนต์ไปครึ่งหนึ่งแล้ว ก็เลยทำให้ใหญ่หน่อย

แค่เหรียญทำน้ำมนต์พุทธบารมีสุริยันทรงกลดก็กว้าง ๙ เซนติเมตรแล้ว โยมลองนึกเอาแล้วกันว่า ๙ เซนติเมตรนี้อยู่ก้นบาตร แล้วปากบาตรจะกว้างเท่าไร ?

โยมบางคนอาจจะสงสัย เราใช้วัสดุจากการหล่อหลวงพ่อนากซึ่งผสมทองไปหลายกิโลกรัม ก็เลยต้องแพงหน่อย เพราะว่าใบใหญ่ด้วย อย่างน้อย ๆ ก็น่าจะถึง ๑๔ เซนติเมตร"

เถรี 01-07-2018 23:16

ถาม : ผมฟังยูทูบว่าจะแก้นิวรณ์อย่างไร ถ้าหายใจเข้าไปที่ท้อง หายใจออกไปที่กระหม่อม ใช้ได้ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าไม่ไปที่อื่นก็แก้ได้อยู่แล้ว ถ้าเผลอหลุดจากลมหายใจไปคิดเรื่องอื่นก็ฟุ้งต่อไป

เถรี 01-07-2018 23:21

พระอาจารย์เล่าว่า "ด้วยความที่ชื่อเสียงของพระอาจารย์เล็กที่ว่าตรงเวลาจนน่าเกลียด นัดทอดผ้าป่าวันวิสาขบูชาตอน ๑๐ โมง ท่านนายอำเภอจึงไปตั้งแต่ ๗ โมงครึ่ง ไปถึงก็ยุติธรรมมาก ไม่ว่าจะ ผบ.ร้อย ตชด. ผู้กำกับสถานีตำรวจทองผาภูมิ ผู้พิพากษา หรือนายอำเภอ นั่งแบกับพื้นเหมือนกันหมด เก้าอี้มีไว้ให้คนแก่เท่านั้น รู้สึกว่าท่านทำท่าไม่คุ้น ไม่เป็นไรหรอก...ไปบ่อย ๆ ก็จะคุ้นไปเอง

ตั้งโต๊ะหมู่แล้วไม่มีโต๊ะกราบ เขาก็งงเหมือนกัน ก็ต้องอธิบายให้ฟังว่า พวกเรากราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ ถ้ามีโต๊ะกราบก็กราบไม่ได้ เบญจางคประดิษฐ์ ๑ ศีรษะ ๒ ศอก ๒ เข่า ต้องลงพื้นหมด ถ้ามีโต๊ะกราบก็ได้แค่ไหว้แปะ ๆ เท่านั้น

ตอนนี้ทางด้านทองผาภูมิ พระเกือบทุกวัดเริ่มทำตาม เพราะหลายงานอาตมาไปเป็นประธานเอง เมื่อถึงเวลามีโต๊ะกราบ ก่อนจุดธูปเทียนอาตมาดึงโต๊ะกราบออกเลย กราบกับพื้นให้เขาดู ถ้ามีโอกาสก็จับไมค์ฯ อธิบายให้เขาฟัง โดยเฉพาะประเภทเดินเข้ามาทั้งรองเท้านี่โดนแน่ ๆ"

เถรี 01-07-2018 23:26

"ข้าราชการส่วนใหญ่แล้วมักจะเข้าศาลาเข้าโบสถ์ทั้งรองเท้าเลย ไปเลียนแบบมาจากไหนก็ไม่รู้ ? อาตมาไปเทศน์ที่โรงเรียนนาคประสิทธิ์ ครูและนักเรียนเกือบ ๕,๐๐๐ คน พอเขาอาราธนาเสร็จ บอกเขาว่าก่อนตั้งนะโมฯ ขอให้ครูและนักเรียนทำอะไรบางอย่าง อาจจะเพี้ยน ๆ แต่ขอให้ทำเถอะ ไม่อย่างนั้นพระก็เทศน์ไม่ได้ คือ ขอให้ทุกคนถอดรองเท้าก่อน เพราะว่าพระห้ามแสดงธรรมแก่ผู้ที่สวมรองเท้า อธิบายให้เขาฟังว่าการเข้าไปในสถานที่บางอย่าง เช่น ในโบสถ์หรือลานเจดีย์ให้ถอดรองเท้า ต่างชาติอย่างพม่าถอดรองเท้าตั้งแต่เข้าประตูวัดเลย ของเราเอาแค่ฟังธรรมก็แล้วกัน

ค่อย ๆ ปรับให้เข้าที่ แล้วเจ้าคณะอำเภอท่านก็เห็นด้วย บอกพระอาจารย์เล็กประสบการณ์เยอะ มีอะไรที่ถูกควร ช่วยกันปรับช่วยกันแก้ จะได้ไม่ขายหน้าเวลามีผู้ใหญ่จากกรุงเทพฯ มา

ในกรุงเทพฯ หลายแห่งกลายเป็นธรรมเนียมไปแล้วว่า ใส่รองเท้าเข้าไปในโบสถ์ได้ ซึ่งจริง ๆ แล้วถ้างานทั่วไปไม่เป็นไร แต่งานเกี่ยวกับพิธีสงฆ์หรือเกี่ยวกับพระเทศน์ โปรดถอดเสียเถิด เป็นอะไรที่แย่มาก หลายครั้งงานหลวง เขาใส่รองเท้าเข้าไปเลย ใส่รองเท้าเข้าในโบสถ์เลย อาตมาเองไม่รู้จะว่าอย่างไรเพราะว่าไม่ใช่เจ้าของงาน แล้วโยมก็จะขอผ้ากฐินพระราชทานไปให้ อาตมาก็บอกไม่ต้องหรอก เพราะว่าขี้เกียจจัดพิธีรับ ซึ่งบรรดาข้าราชการต้องใส่รองเท้าเข้าโบสถ์แน่ ๆ"

เถรี 03-07-2018 21:37

ถาม : ปรอทสำเร็จครูบาศรีอ่องบูชาอย่างไรคะ ?
ตอบ : พกติดตัว ป้องกันอาถรรพ์ต่าง ๆ ได้

ถาม : ต้องเลี้ยงทองอีกไหมคะ ?
ตอบ : ไม่ต้อง เพราะว่าอยู่ตัวแล้ว ลักษณะอย่างนั้นไม่กินทองอีกแล้ว

เถรี 03-07-2018 21:41

พระอาจารย์กล่าวถึงการดูวัตถุมงคลว่า "ถ้าเคยเห็นฝีมือช่างฝีมือเดียวจนคุ้นตา ก็จะบอกว่าฝีมืออื่นไม่ใช่ ของพวกนี้ไม่ได้ดูแค่ฝีมือช่าง ต้องดูเนื้อ ดูอายุด้วย ว่าใกล้เคียงกับระยะนั้นหรือเปล่า ? ไม่ใช่อะไรที่ต่างจากที่ตัวเองเห็นก็บอกว่าไม่ใช่ไว้ก่อน ลักษณะนั้นจะพลาดของดีไปอย่างน่าเสียดาย

แบบเดียวกับเดือนก่อนที่โยมเอามีดหมอหลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ มาออกเว็บ แล้วบอกว่าไม่รู้ว่าที่ไหน แต่น่าจะเป็นสายหลวงพ่อแจ่ม แล้วก็ออกในราคาถูกมา อาตมาก็เลยรีบตะครุบเอาไว้ เพราะว่านั่นคือลายมือของหลวงพ่อแจ่มเองเลย ส่วนใหญ่เขาเคยเห็นแต่ลายมือหลวงพ่อชิน ที่เป็นคนเขียนให้หลวงพ่อแจ่มในช่วงหลัง เขาก็เลยคิดว่าไม่ใช่ ก็แปลว่าของพระอาจารย์ลงมือจารเองแท้ ๆ ไม่รู้จัก ไปรู้จักแต่ของลูกศิษย์

ของบางอย่างหายากมาก คนเขาไม่รู้จัก โดยเฉพาะลูกอมชานหมากหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา นาน ๆ จะหลุดมาสักลูกหนึ่ง ส่วนใหญ่เป็นพระธาตุไปแล้ว แทบจะไม่มีลักษณะของชานหมากเลย"


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 04:18


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว