กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกบ้านเติมบุญ ต้นเดือนเมษายน ๒๕๖๔ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=7512)

เถรี 22-04-2021 10:28

พระอาจารย์กล่าวว่า "สมัยก่อนเวลาปฏิบัติธรรม ก็ต้องบอกว่าช่วงตั้งแต่วัยรุ่น ด้วยความที่ต่อสู้กับกิเลสใหม่ ๆ ส่วนมากก็จะแพ้ พยายามอย่างไรก็เอาชนะไม่ได้ บางวันก็ใช้วิธีขี้โกง ก็คือนอนหลับไปเลย ตื่นขึ้นมาแล้วค่อยมาลุยกันใหม่

ประมาณว่าไหน ๆ ก็แพ้แล้ว เพราะฉะนั้น..ก็อาศัยเวลาพักผ่อน จะได้มีเรี่ยวมีแรงมาตีกับกิเลสต่อ ดูสิว่าจะแพ้อีกไหม ? ญาติโยมท่านใดจะเอาวิธีนี้ไปใช้ก็ไม่รังเกียจนะ เพียงแต่ว่าต้องตัดใจได้จริง ๆ ไม่อย่างนั้นจะนอนไม่หลับ ...(หัวเราะ)... อาตมาตัดใจเลย สู้ไปก็แพ้...นอนดีกว่า ว่าแล้วก็นอน ตื่นขึ้นมาค่อยสู้กันใหม่ ไม่อย่างนั้นตื๊อต่อไปเราก็จะหมดเรี่ยวหมดแรง ยิ่งแพ้หนักเข้าไปอีก"

เถรี 22-04-2021 10:31

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้ประเทศจีนกำลังรณรงค์กันอย่างหนักในเรื่องของการกินอาหารให้หมด อย่าให้เหลือ เพราะว่าคนจีนรุ่นใหม่ที่ร่ำรวยมีฐานะ มักจะอวดฐานะกันด้วยการสั่งอาหารชุดใหญ่เต็มโต๊ะ แล้วก็กินเหลือกันเป็นครึ่ง ๆ

จากการคำนวณของทางรัฐบาล เขาบอกว่าอาหารที่คนจีนกินเหลือในแต่ละวัน สามารถเลี้ยงคนได้ถึง ๕๐ ล้านคน..! ก็เลยมีการรณรงค์ในการที่จะกินอาหารให้หมด ไม่ให้เหลือ แล้วก็ถ่ายรูปลงเว่ยป๋อ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มของประเทศจีนที่มีชื่อเสียงโด่งดัง หรือไม่ก็ลง TikTok อาตมาอยากจะเรียกติ๊งต๊องมากกว่า..! ก็เพื่อที่จะได้กระตุ้นจิตสำนึกให้คนรู้จักประหยัด

อาตมาไปประเทศจีนบางทีก็รู้สึกเบื่อ อย่างเช่นว่าเราสั่งอาหารธรรมดา ปรากฏว่าโต๊ะธรรมดาของเขาก็คือกับข้าว ๑๘ อย่าง น้ำแกง ๑ อย่าง ได้ยินแล้วตกใจไหม ? นั่นคือโต๊ะธรรมดาของเขา ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า แล้วถ้าโต๊ะไม่ธรรมดาจะเป็นอย่างไร ? บอกเขาว่าไม่ต้องมากขนาดนี้ก็ได้ เพราะว่ากินไม่หมด เขาบอกว่าปกติเขาทำขนาดนี้อยู่แล้ว ก็เลยไม่รู้ว่าจะเถียงอย่างไร ก็คือพอเราจองโต๊ะ แปลว่าให้รู้เลยว่าจะโดนกับข้าว ๑๘ อย่าง ...(หัวเราะ)..."


เถรี 22-04-2021 10:33

"คราวนี้เรามาดูว่าในแต่ละประเทศ แม้กระทั่งประเทศที่เจริญแล้วอย่างอังกฤษ ฝรั่งเศส อเมริกา ก็มีพวกไร้บ้าน ไม่มีอาหารจะกิน อาตมาไปฝรั่งเศสไล่แจกเงินยิปซี มีแต่คนเขาโวยวาย "พระอาจารย์...ระวังเขาล้วงกระเป๋า" อาตมาตอบว่า "ถ้าเขามีปัญญาให้เขามาล้วง..!" ที่ล้วงกระเป๋าเพราะคุณไม่ให้เขานั่นแหละ ...(หัวเราะ)... อาตมาไปไล่แจกเงินเขาคนละ ๕ ยูโร ๑๐ ยูโร ได้เงินแล้วเขาจะล้วงไปทำอะไร ?

แม้แต่ประเทศที่เจริญแล้วก็ยังมีคนอด แล้วอดถึงขนาดเสียชีวิตเลยก็มี เพราะว่าเขาขาดการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน โดยเฉพาะระยะนี้ทางอเมริกามีกระแสเหยียดเชื้อชาติ ตอนสมัยอาตมาไปก็มีอยู่แล้ว ที่ไปอัดฝรั่งนักเลงดีเสียจนหมอบคาเท้า..! จนกระทั่งท่านอาจารย์ ดร.พิเชฐ ทั่งโต บอกว่าสมควรทำ ...(หัวเราะ)... ก็เพราะเขาเห็นว่าพวกเราผิวเหลืองไปแย่งงานเขา โดยเฉพาะพระไปที่ไหนก็เป็นจุดเด่น สารพัดกล้องหันมา ก็เลยมีรายการหมั่นไส้ โชคดีที่ตอนอาตมาเตะเขาชักไปไม่มีใครถ่ายคลิปไว้ ไม่อย่างนั้นจะดังกว่านี้อีกเยอะ..! ...(หัวเราะ)..."


เถรี 22-04-2021 10:34

สนทนากับพระ "ไม่ว่าจะวัดท่าซุงหรือวัดท่าขนุน ทางราชการเขาวิ่งยันวัดเลยนะ บอกเลยว่าห้ามจัดงาน ...(หัวเราะ)... มางวดนี้ที่สงกรานต์ผมจัดปฏิบัติธรรมได้ เพราะว่าทางราชการเขาเอาหนังสือมา บอกว่าตอนนี้มีการผ่อนผัน ถ้ามีการคัดกรองที่เข้มงวดพอ ก็อนุญาตให้จัดงานที่มีคนมากได้ แต่ขนาดนั้นผมก็ยังไม่ให้อุ้มพระสรงน้ำหรอก เดี๋ยวพระเณรติดโควิดไปก็ยุ่งตายชัก..! ปีนี้ก็น่าจะสรงผมคนเดียวนั่นแหละ ถ้าติดก็ติดอยู่คนเดียว ...(หัวเราะ)..."

เถรี 22-04-2021 10:35

พระอาจารย์กล่าวว่า "ยิ่งเชื้อโรคระบาดทำให้พวกเรายิ่งห่างวัด ยิ่งต้องเร่งรัดการปฏิบัติให้มากขึ้น ไม่อย่างนั้นแล้วเราจะห่างความดีไปเรื่อย โดยเฉพาะท่านที่ความดียังไม่ทรงตัว ถึงเวลาถ้าห่างแล้วจะเอาคืนยากมาก หลายท่านก็น่าจะมีประสบการณ์มาแล้ว

เรื่องของการที่จิตตก สมาธิตก กรรมฐานแตก พังไปเป็นเดือน ๆ ขอให้เข้าใจว่านั่นเป็นเรื่องปกติในการปฏิบัติช่วงระยะแรกเริ่ม เป็นเรื่องที่ต้องเจอทุกคน ไม่ใช่แค่เราคนเดียว ถึงเวลากรรมฐานตกก็ปล่อยไป แล้วตั้งหน้าตั้งตาทำใหม่ เสียเวลาไปนั่งคร่ำครวญ อุตส่าห์ทำมาได้แล้วตั้งเดือนหนึ่ง สองเดือน สามเดือน ไม่น่าจะมาพังเลย ต้องบอกว่าเสียเวลาทำความดี ลุยใหม่เสียยังได้เร็วกว่า เสียเวลาไปนั่งคร่ำครวญอยู่ก็ไม่ได้อะไร

หลังจากนั้นก็ต้องรู้จักระมัดระวังด้วย คราวที่แล้วตกเพราะอะไร คราวหน้าอย่าให้เป็นเพราะเหตุนั้น ก็คือโดนมาทีหนึ่งแล้วต้องรู้จักจำ"

เถรี 24-04-2021 07:49

พูดถึงลาพิส "อันนี้ลาพิสปลอม เพราะว่าไม่เย็น หินลาพิสจะเย็นโดยธรรมชาติ อันนี้อุ่น ๆ แสดงว่าเป็นเรซิ่น อาตมาไปซื้อที่ปากีสถาน คนขายก้มลงไปห่อ ซุกอยู่ใต้โต๊ะ เสร็จแล้วใส่ลังมา พอเขาส่งมาให้ อาตมาเปิดลังแกะดูเดี๋ยวนั้นเลย กลัวได้อย่างอื่นมาแทน

หินลาพิสนี้ พวกนักบวชทางยุโรปนิยมใช้กัน เพราะว่ารับพลังได้ดี ส่วนใหญ่ก็เอามาทำเป็นเครื่องราง เอามาเป็นส่วนประกอบหัวไม้เท้า บางคนก็เอามาเป็นส่วนของวงเวท เขาจะมีการเขียนอักขระ แล้วก็ร่ายเวทร่ายคาถากัน

อาตมารู้ตอนที่ไปประเทศอังกฤษ ไปที่หมู่หินสโตนเฮนจ์ อยากรู้ว่านั่นคืออะไร มี "เจ้าถิ่น" บอกว่านี่คือวงเวทของนักบวชดรูอิด เขาเอาไว้ทำพิธีเพื่อช่วยให้กษัตริย์ของตนชนะในการรบ เขาบอกว่าบรรดานักบวชที่เก่ง ๆ ถึงขนาดสามารถย้ายคนเป็นร้อย ๆ ไปได้ด้วยวงเวทนี้...เขาเก่งนะ ฉะนั้น...ไม่ต้องแปลกใจหรอกว่าทำไมหินหนักเป็นตัน ๆ เขาถึงเอาขึ้นไปวางบนนั้นกันได้

คนที่เล่าให้ฟังเป็นนักบวชดรูอิดชื่อดังที่สุด ชื่อเมอร์ลิน ที่เคยเป็นอาจารย์ของกษัตริย์อาเธอร์ "ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน ?" "อยู่ที่พรหมชั้นที่ ๖" เก่งโว้ย...เป็นพรหมด้วย ของพวกนี้ถ้าไปไม่ถึงที่ บางทีอยากรู้ เขาก็ไม่บอกให้รู้ พอไปถึงที่ก็เหมือนกับว่าเราสนใจจริง ๆ เขาก็ เออ..บอกให้รู้หน่อยก็ได้"


เถรี 24-04-2021 07:53

ถาม : นอกศาสนาพุทธ ส่วนใหญ่ไปได้แค่พรหมใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่จะไปประมาณนั้น เรื่องของเวทมนตร์คาถาอะไรก็ต้องอาศัยสมาธิ ศาสนาพราหมณ์ไปไกลที่สุดถึงขนาดสมาบัติ ๘ ได้ มีพระพุทธเจ้าของเรานี่แหละที่เอาเพชรยอดมงกุฎมา ก็คือวิปัสสนาญาณ ประดับเข้าไป...จบเลย

ศาสนาอื่นเขาเห็นอนิจจัง เห็นทุกขัง แต่ไม่เห็นอนัตตา ขาดไปตัวหนึ่ง แล้ววิธีออกจากทุกข์ของเขาก็สารพัดวิธีคิด แต่ไม่ใช่ทั้งนั้น แม้กระทั่งเรื่องของอรูปฌาณ ก็คือวิธีออกจากทุกข์นั่นแหละ แต่เป็นการออกจากทุกข์ในแบบของเขา


ถาม : แสดงว่าปรมาตมันของเขา ยังเป็นอัตตาอยู่หรือครับ ?
ตอบ : ปรมาตมันของเขา ในความรู้สึกของเราก็คือแค่พรหม

ถาม : แล้วอาตมันละครับ ?
ตอบ : เหมือนกันนั่นแหละ ก็คือตัวตน คือดวงจิตของเรา ไปรวมกับปรมาตมัน ก็คือลักษณะเป็นแดน ก็ประมาณว่าแดนพรหม ของเขารู้จักแค่นั้น

ถาม : แล้วสุขาวดีพุทธเกษตรละครับ ?
ตอบ : ถ้าเปรียบไปแล้วก็สวรรค์ชั้นดุสิตของเรานั่นเอง

เถรี 24-04-2021 07:59

ถาม : ในส่วนของอรูปฌาน มีวิปัสสนาญาณปนอยู่แล้วหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : จะเรียกว่าวิปัสสนาญาณก็ไม่ใช่ แค่เป็นการคิดเพื่อโยงจิตของตัวเองไปให้ถึงตรงนั้น คล้าย ๆ กับค่อย ๆ ตะล่อมให้ไปตามทางที่เราต้องการ

เถรี 26-04-2021 00:15

ถาม : การฝึกสติ คือการอยู่กับลมหายใจ วิธีนี้เป็นทางลัดที่สุดแล้วใช่ไหมคะ ?
ตอบ : การฝึกทุกประเภทไม่มีทางลัด มีแต่ทางตรง แบบนี้คือตรงที่สุดแล้ว ถ้าหากว่าอยู่กับลมหายใจเข้าออกตรงหน้า สติสมาธิก็จะแหลมคมว่องไว ถ้ามีความคล่องตัวจริง ๆ รัก โลภ โกรธ หลง อะไรจะเกิดขึ้น ก็จะรู้ทันแล้วก็ตัดไปตั้งแต่ต้น ก็คือมีสติรู้อยู่ว่า ถ้าคิดแบบนี้แล้วจะดี คิดแบบนี้แล้วจะไม่ดี ก็คิดแต่ในด้านดี เพื่อสร้างความดีให้เจริญขึ้น ตัดในด้านที่ไม่ดีออกไป จนกระทั่งท้ายสุด ถ้าสามารถหยุดความคิดไม่ปรุงไม่แต่งได้ ทุกอย่างก็ดับหมด จบแค่นั้น

ถาม : แล้วถ้าเทียบกับการที่อยู่กับอารมณ์ภาวนาหรือกับเทียบอารมณ์ฌาน จะเบากว่าหรือไม่คะ ?
ตอบ : เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถใช้ได้แค่ไหน ถ้าใช้ได้คล่องตัวระดับฌานใช้งาน สามารถใช้ได้ทุกอิริยาบถก็จะเบากว่า ถ้าทำได้เฉพาะตอนนั่ง ก็จะหนักหน่อย

เถรี 26-04-2021 00:18

ถาม : เวลาจับลมหายใจจะอยู่ได้ไม่นาน แต่ถ้าจับภาพพระ จะทำได้ดีกว่าครับ ?
ตอบ : วิธีไหนก็ได้ที่ทำให้ใจเราห่างจาก รัก โลภ โกรธ หลง ก็ทำไปเถอะ...ได้ทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าคนอื่นชอบกินข้าว แล้วเราจะไปกินข้าวตามเขา ถ้าเราชอบขนมปังแล้วจะทำอย่างไร ? ก็ต้องฝืนใจ..ใช่ไหม ? ฉะนั้น..อะไรที่ทำให้ใจสงบได้ ก็ให้ทำอย่างนั้นแหละ

ถาม : หลวงพ่อเคยบอกว่าอานาปานสติทิ้งไม่ได้ เป็นพื้นฐานทิ้งไม่ได้ ?
ตอบ : ก็ถ้าไม่มีอานาปานสติ ภาพพระก็ไม่มั่นคง

ถาม : ความเคยชินคือเราต้องจับลมหายใจ พอจับภาพพระ ใจก็ไปนั่งอยู่หน้าพระ ก็จะลืมเรื่องลมหายใจเลย ?
ตอบ : ถ้าลักษณะอย่างนั้น ไปไกลเกินกว่าที่จะจับลมหายใจแล้ว

ถาม : ไม่จำเป็นต้องกลับมาจับใหม่ ?
ตอบ : ไม่จำเป็น กระโดดข้ามขั้นไปได้เลย

เถรี 26-04-2021 00:21

ถาม : เวลาเราจับภาพพระ ถ้าเราเกิดความรู้สึกถึงความศรัทธากับความเมตตาของพระท่าน เมื่อก่อนผมจะมีปีติด้านอารมณ์และร้องไห้ตลอด แล้วสักพักหนึ่งก็หายไป แล้วตอนนี้ก็กลับมาใหม่ เป็นการบอกอะไรไหมครับ ?
ตอบ : บอกว่าหาความก้าวหน้าไม่ได้เลย ถ้ามีความก้าวหน้าจะก้าวพ้นไปแล้ว คุณความดีทุกอย่างจารึกอยู่กับใจเท่านั้น ก็คือยึดพระองค์ท่านเป็นที่พึ่งที่ระลึก ขณะเดียวกัน ก็ตั้งใจทำตามสิ่งที่พระองค์ท่านสอน ส่วนอื่นจะเป็นอย่างไรก็ช่าง คิดว่าชีวิตนี้มอบกายถวายชีวิตให้พระองค์ท่านไปแล้ว ทำไปแล้วจะได้ไปพระนิพพาน ไม่ได้ไปพระนิพพานก็ช่าง ขอทำเต็มความสามารถของเราก็แล้วกัน

ถาม : ดูใจที่เป้าหมายเป็นหลัก ?
ตอบ : เรียกว่าสังขารุเปกขาญาณ ก็คือเลิกปรุงแต่งเรื่องอื่นแล้ว มุ่งตรงไปสู่เป้าหมายอย่างเดียว

เถรี 26-04-2021 00:26

ถาม : สมัยก่อนคือจับภาพพระ เห็นตัวเองให้อยู่ใต้พระบาท ช่วงหลังพอนึกถึงคุณของพระรัตนตรัย นึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า เหมือนกับเราไม่มีตัวตน กลายเป็นว่าเราอยู่ท่ามกลางพระพุทธเจ้าเยอะแยะไปหมด นี่คือก้าวหน้าหรือไม่คะ ?
ตอบ : จะก้าวหรือไม่ก้าวก็ช่าง บอกแล้วว่าสำคัญตรงใจเราว่า รัก โลภ โกรธ หลง เกิดได้ไหม ? ถ้าไม่เกิด ก็ก้าวหน้าแล้ว

ถาม : แล้ววิธีวัดว่าเราทรงฌาณระดับไหน นี่คือให้สังเกตที่ลมหายใจใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ไม่ใช่ ต้องฝึกให้คล่องตัวจริง ๆ แล้วจะรู้ว่าตอนนี้เราอยู่ที่ระดับไหน ถ้าไม่มีความคล่องตัว บางทีก็คลำไม่ออก ทำได้แต่แยกไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร

ถาม : รู้แต่ว่ามันค่อย ๆ เปลี่ยนอารมณ์ไป แต่จับไม่ได้ว่าตรงไหนเป็นอะไร ?
ตอบ : ในเรื่องของสมาธิ ถ้าเราต้องการตัดกิเลสจริง ๆ ต้องการเข้าเมื่อไรต้องเข้าได้ ออกเมื่อไรต้องออกได้ รักษาระยะเวลาได้ตามที่ต้องการ จะเข้าฌานไหนก็ได้ แล้วขณะเดียวกัน เมื่อถึงเวลาพบเจอเห็นเหตุการณ์จริงที่ก่อให้เกิดรัก โลภ โกรธ หลง ขึ้น เราสามารถใช้กำลังสมาธิในการดับรัก โลภ โกรธ หลง นั้นได้หรือไม่ ?

ต้องซักซ้อมหลายขั้นตอน เอาให้คล่องจริง ๆ ส่วนใหญ่อย่างเดียว พวกเราก็แย่แล้ว

เถรี 26-04-2021 10:27

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้งานที่วัดท่าขนุน ส่วนที่เริ่มทำก็คือ ปรับภูมิทัศน์รอบทางรถไฟสายมรณะ โดยทำเป็นทางเดินรอบสำหรับนักท่องเที่ยว มีรั้วกั้น ทำเป็นจุดชมวิว จุดถ่ายรูป แล้วก็จะเปิดเป็นแหล่งเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของชุมชน เพิ่งจะเซ็นสัญญาจ้างบริษัทรับเหมาทำตรงส่วนนั้น พรุ่งนี้ต้องจ่ายเงินงวดแรก ๑,๒๕๐,๐๐๐ บาท ให้เดาว่าต้องจ่ายกี่งวด ?

หลังจากนั้นก็จะรีบทำแหล่งเก็บน้ำสำรอง เท่าที่ดูแบบแล้วก็กว้าง ๑๐ เมตร ยาว ๔ เมตร ความสูงต้องดูความลึกของลำห้วย แต่คาดว่าน่าจะบรรจุน้ำได้ประมาณ ๔๐๐ กว่าคิวบิกเมตร พูดง่าย ๆ ว่าถ้าน้ำไม่มี อย่างน้อยเราก็อยู่ได้เป็นเดือน

เรื่องพวกนี้ทำเอาไว้แล้ว จะได้ใช้หรือไม่ได้ใช้ ก็ปลอดภัยกว่าไม่มี ตั้งใจไว้ว่าเมื่อทำเสร็จแล้ว จะชักน้ำจากแม่น้ำขึ้นมา เพื่อที่จะแช่เอาไว้เพื่อให้คอนกรีตจืด ทิ้งไว้สักครึ่งค่อนเดือนแล้วเปิดทิ้ง จากนั้นค่อยเอาน้ำสะอาดที่เราจะใช้ใส่ลงไปเก็บกักไว้"

เถรี 26-04-2021 10:30

"คราวนี้น้ำสะอาดทางเราไม่กล้ว เพราะน้ำสะอาดของวัดท่าขนุนใช้ฟรี เนื่องจากได้ทำหนังสืออนุญาตให้ทางด้านการประปาเดินท่อผ่านสะพานแขวนหลวงปู่สาย ทำให้เขาประหยัดไปได้หลายกิโลเมตร เขาก็เลยอนุญาตให้ทางวัดใช้น้ำฟรี แต่อาตมาก็ต้องคอยดุพระดุเณรไว้ว่า ไม่ใช่เห็นว่าใช้น้ำฟรีก็ถลุงกันจนเคยชิน เดี๋ยวกลับบ้านไปก็ได้จ่ายกันหูตาลาย..!

ทางวัดมีถังประปา ๑๒๐ คิวบิกเมตรอยู่แล้ว ทางเทศบาลมาขอติดตั้งหัวท่อดับเพลิง ถ้าหากว่ามีไฟป่าหรือว่าอัคคีภัยขึ้นมา ทางด้านวังท่าขนุนที่ไม่ได้อยู่ในเขตฝั่งเทศบาลโดยตรง จะได้ไม่ต้องวิ่งรถอ้อมหลายกิโลเมตรเพื่อไปเอาน้ำ สามารถดูดน้ำจากแทงค์ของวัดได้เลย

หลายอย่างอยู่ในลักษณะของการร่วมมือกัน ระหว่างบ้าน-วัด-ราชการ หรือบ้าน-วัด-โรงเรียน ท้ายสุดวัดก็จะกลับมาเป็นศูนย์กลางชุมชนเหมือนเดิม งานพรุ่งนี้ก็คืองานต้อนรับผู้ตรวจการราชการกระทรวงวัฒนธรรมที่ไปดูงานอยู่ เขาจะได้รู้ว่า ต่อให้เจ้าอาวาสวัดท่าขนุนไม่อยู่ งานทุกอย่างก็ยังไปได้สวย"

เถรี 26-04-2021 18:42

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้หลายประเทศกำลังอยู่ในลักษณะของการแข่งกันไปดาวอังคาร น่าเสียดาย..ถ้าไปถูกที่ ก็ไม่ต้องเสียเวลาไปทำอะไร เพราะว่าสามารถที่จะลงไปแล้วก็อยู่อาศัยได้เลย แต่ดันไปดาวอังคาร

อย่างถ้าไปดาวศุกร์ สภาพใกล้เคียงกับโลกของเรา เพียงแต่ที่นักวิทยาศาสตร์ไม่รู้ ก็เพราะว่าดาวศุกร์อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่า ด้านที่หันเข้าหาดวงอาทิตย์ร้อนจนมนุษย์อย่างเราอยู่ไม่ได้ แต่ดาวศุกร์หมุนกลิ้งด้านเดียวเข้าหาดวงอาทิตย์ ก็เลยทำให้ฝั่งตรงข้ามเป็นเขตหนาว ช่วงค่อนข้างกึ่งกลางเป็นเขตอบอุ่น มีมนุษย์และสัตว์อาศัยอยู่ แต่อยู่ในเงามืด ก็เลยทำให้พวกเราที่ถ่ายรูปผ่านกล้องโทรทัศน์บ้าง ผ่านยานอวกาศบ้าง ไม่สามารถที่จะเห็นเขาได้

แต่คราวนี้พวกเราพูดไปก็กลายเป็นเพ้อเจ้อ เพราะว่าวิทยาศาสตร์เขาก้าวหน้าขนาดนั้น เขาก็ยังไม่รู้ไม่เห็นอะไรเลย"

เถรี 26-04-2021 18:43

:cebollita_onion-17::cebollita_onion-17: เก็บตกเดือนเมษายน ๒๕๖๔ หมดแล้วค่ะ :cebollita_onion-17::cebollita_onion-17:
ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทะเล เถรี เผือกน้อย และนายกระรอก


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:56


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว