|
โอวาทงานตักบาตรปีใหม่ ณ ตลาดนั่งยอง ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ปี ๒๕๖๒
ขอเจริญพรท่านสืบสาย ศักดิ์โสภิษฐ์ นายอำเภอทองผาภูมิ ท่านประเทศ บุญยงค์ นายกเทศมนตรี ข้าราชการ ตลอดจนกระทั่งญาติโยมและนักท่องเที่ยวทุกท่านอีกครั้งหนึ่ง วันนี้เป็นวันดีที่เราได้สร้างกุศลรับปีใหม่กัน เพียงแต่ว่าเรื่องของบุญกุศลนั้น ก็เหมือนกับเรากินข้าวกินน้ำ ถ้าหากว่ารอปีใหม่ครั้งหนึ่งแล้วค่อยกินทีหนึ่ง นอกจากท่านตั้งใจจะลดน้ำหนัก ไม่เช่นนั้นอย่างไรก็ไม่พอเลี้ยงตัวแน่นอน เรื่องของการสร้างคุณความดีไม่ใช่เฉพาะการให้ทานเท่านั้น ยังมีการรักษาศีล มีการเจริญภาวนา เป็นต้น การให้ทานมีสัญลักษณ์การแสดงออกอย่างชัดเจน คือสละทรัพย์สิน ข้าวของที่เรามีอยู่ เพื่อประโยชน์ต่อผู้อื่น ไม่ใช่เฉพาะในพระพุทธศาสนาเท่านั้น แต่ที่ท่านทั้งหลายเลือกทำกับพระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ก็เพราะว่าต้องการในจุดที่เป็นเนื้อนาบุญ เพราะว่าอย่างไรเสียพระก็มีศีลสองร้อยกว่าข้อ ญาติโยมมีศีลห้าข้อ สมมติว่าพระศีลขาดหมด ๕ ข้อ ลบไปก็ยังเหลืออยู่ ๒๒๒ ข้อ เป็นต้น ส่วนของคุณความดียังมีมากอยู่ จึงจัดเป็นเนื้อนาบุญที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากล่าวไว้ว่าเป็น “บุญเขต” เป็นส่วนที่เราทำแล้วได้กุศลมากกว่าคนทั่วไป ฉะนั้น..หลายท่านที่ไม่เข้าใจถามว่า ทำไมเราไม่ช่วยเด็กกำพร้า ? ทำไมเราไม่ช่วยเด็กนักเรียน ? ก็เพราะว่าบางวาระเราก็ต้องการทำบุญที่เป็นการประกันผลด้วย เพราะว่าจะว่าไปแล้ว การทำบุญก็เหมือนกับการลงทุนประเภทหนึ่ง ถ้าลงทุนแล้วได้กำไรแน่นอน ใคร ๆ ก็อยากทำกัน |
แต่คราวนี้ญาติโยมอีกส่วนหนึ่งก็ยังสงสัยข้องใจว่า ในเรื่องของคุณความดีในพระพุทธศาสนา ทำไปแล้วดีจริงหรือ ? เรื่องของนรกสวรรค์มีจริงหรือ ? เรื่องนี้ถ้าหากว่าจะว่าไปแล้ว บุคคลที่มีความสามารถ ท่านบอกกล่าวไว้ชัดเจน แต่เราก็ยังสงสัยอยู่ดี เพราะว่าไม่ได้รู้เห็นด้วยตนเอง ดังนั้น..ต้องให้ญาติโยมใช้สติปัญญาในระดับทั่ว ๆ ไปพิจารณาดูว่า ถ้าหากว่าเราเชื่อว่านรกสวรรค์มีจริง แล้วเราตั้งหน้าตั้งตาสร้างความดี ถ้านรกสวรรค์ไม่มี เราก็เสมอตัว แต่ถ้านรกสวรรค์มี เราได้กำไรแน่นอน เพราะว่าเราไปดี ถ้าท่านไม่เชื่อว่านรกสวรรค์มี แล้วท่านทำแต่ความชั่ว ถ้านรกสวรรค์ไม่มี ท่านก็แค่เสมอตัว แต่ถ้ามีเมื่อไร ท่านจะขาดทุนยับเยินทันที สิ่งที่เสมอตัวแล้วกำไร กับเสมอตัวแล้วขาดทุน โดยสามัญสำนึกทั่วไป ญาติโยมควรที่จะเลือกทำแบบไหน ? นี่ถือว่าเป็นแค่การใช้ปัญญาพื้นฐานเท่านั้น
|
คราวนี้ชาวทองผาภูมิของเรา นอกจากพี่น้องมอญพม่าที่ถือว่าเป็นหลัก เพราะว่ามีอยู่มาก มีมาแต่ดั้งเดิมแล้ว พี่น้องไทยของเราก็ยังอยู่ในศีล กินในธรรม คดีอะไรที่ร้ายแรงไม่มีเกิดขึ้น ต้องบอกว่าเป็นอำเภอที่สงบเงียบเรียบร้อยมาก ไม่ใช่ความสามารถของพระภิกษุสงฆ์อย่างอาตมา ไม่ใช่ความสามารถของนักปกครองอย่างท่านนายอำเภอ หรือว่าข้าราชการทุกท่าน แต่ว่าเกิดจากน้ำใสใจจริง ก็คือกำลังใจที่ประกอบด้วยคุณธรรมของญาติโยมทั้งหลายเอง ที่เป็นผู้ใฝ่ดี ปฏิบัติตามพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ซึ่งปกครองประเทศมาอย่างยาวนาน พระราชดำรัสของพระองค์ท่านฝังอยู่ในใจของพวกเราทุกคน
|
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ ทางด้านท่านนายอำเภอก็ดี ท่านนายกเทศมนตรีก็ดี นำพาพวกเราเสริมสร้างความดีในส่วนนี้ เพื่อเพิ่มพูนจากความดีเดิมที่เรามีอยู่แล้ว นี่คือสิ่งที่ราชการทั้งหลายทำอยู่เป็นปกติ สิ่งที่ฝ่ายปกครองทั้งหลายทำอยู่เป็นปกติ ก็คือ หนุนเสริมในส่วนที่ดีให้ดียิ่งขึ้นไป ถ้าหากว่าส่วนไหนขาดก็ให้การอบรม เพื่อที่จะเพิ่มเติมความรู้ในส่วนนั้นขึ้นมา ดังนั้น..บ้านเมืองของเราจะประกอบไปด้วยเฉพาะประชาชนทั่วไปก็ไม่ได้ ต้องมีหน่วยราชการที่รับหน้าที่ต่าง ๆ ต้องมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่คอยดูแลพวกเราอย่างใกล้ชิด และที่จะขาดเสียไม่ได้ก็คือหลักศีลธรรมประจำใจ ที่พวกท่านทั้งหลายมีอยู่ในใจมาตั้งแต่ยุคของบรรพบุรุษปู่ย่าตาทวด มาจนถึงรุ่นของเรา และพวกเราสามารถรักษาและสืบต่อมาจนถึงปัจจุบันนี้ได้
เราจะเห็นว่า สิ่งที่เราทำนั้นไม่ต้องมีอะไรมาก แค่ศีลห้าข้อ ถ้าท่านทั้งหลายรักษาเอาไว้ได้ จะไม่ต้องมีกฎหมายอะไรเลยก็ได้ ทุกวันนี้เรื่องที่เดือดร้อนผิดกฎหมายกันอยู่เพราะอะไร ? ฆ่าฟันกัน ทำร้ายร่างกายกัน นี่คือผลของการที่เราไม่รักษาศีลข้อที่หนึ่ง ลักขโมย ปล้นชิงทรัพย์สินสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้ นี่คือการที่เราละเว้นจากการรักษาศีลข้อที่สอง แย่งชิงคู่ครอง ถึงขนาดทำร้ายกัน เข่นฆ่ากัน ก็เพราะว่าเราขาดศีลข้อที่สาม หลอกลวงผู้อื่นเพื่อประโยชน์ตนเอง เพราะว่าเราขาดศีลข้อที่สี่ ขาดสติ ก่อให้เกิดอุบัติเหตุและอาชญากรรมต่าง ๆ ก็เพราะว่าเราขาดศีลข้อที่ห้า |
เราจะเห็นว่า ถ้าหากว่าเรามีศีลเป็นปกติ แทบจะไม่ต้องมีกฎหมายอะไรเลยก็ได้ เพราะว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นความต้องการพื้นฐาน ก็คือไม่มีใครอยากให้คนอื่นมาฆ่าเรา มาทำร้ายเรา ไม่มีใครอยากให้คนอื่นมาลักขโมย หยิบฉวย ช่วงชิงสิ่งของของเราไป ไม่มีใครอยากให้เขามาแย่งคนที่เรารัก ของที่เรารัก ไม่มีใครอยากให้เขาโกหกหลอกลวงเรา และไม่มีใครอยากขาดสติ มึนเมา กลายเป็นที่รังเกียจของผู้อื่น ในเมื่อทุกคนต้องการอย่างนี้ เราก็อย่าทำสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ เท่ากับว่าเรามีศีลอยู่ในตัวอยู่แล้ว และศีลทั้งหลายเหล่านี้แหละที่จะรักษาพวกเราในทุกที่ คุณความดีเหล่านี้ จะรักษาให้เราปลอดภัยในที่ทุกสถาน ในกาลทุกเมื่อ
ความจริงแล้วญาติโยมที่ใส่บาตรจะมากกว่านี้อีกหลายเท่า แต่แค่แผ่นดินไหวโครมเดียวเบา ๆ นักท่องเที่ยวก็ยกเลิกการจองที่พักไปเกินครึ่ง นี่คือสิ่งที่ท่านทั้งหลายขาดความมั่นใจในคุณความดี ถ้าเรามีความมั่นใจในคุณความดีของเราเอง อันดับแรก เรารักษาตัวเองได้ อันดับที่สอง ถ้าเรามีความมั่นคงจริง ๆ ก็จะช่วยรักษาหมู่คณะได้ ดังนั้น..ถ้าหากว่าท่านสร้างคุณความดีจนเป็นปกติ ก็จะประกอบไปด้วยเวสารัชชกรณธรรม ก็คือหลักธรรมที่ทำให้เรากล้าหาญ มีสติในทุกเวลา เราก็จะไม่หวั่นเกรงอะไรง่าย ๆ อาตมาเองอยู่หน้าปากเขื่อนมาหลายปีเต็มทีแล้ว ก็ยังไม่เคยเห็นว่าเขื่อนของเราจะมีปัญหาอะไร แต่บางคนที่อยู่ไกล ๆ โทรศัพท์มาถามว่า “แผ่นดินไหวเป็นอย่างไรบ้างพระอาจารย์ ? เขื่อนจะแตกหรือเปล่า ?” บอกไปว่า “ถ้าเขื่อนแตกโยมไม่ต้องถามหรอก อาตมาไม่ได้อยู่ตอบอย่างแน่นอน..!” |
ดังนั้น..ในส่วนนี้ขอให้ท่านทั้งหลายตั้งใจสร้างความดีในทาน ในศีล ในภาวนา ให้เป็นปกติ ทางราชการมีสิ่งหนึ่งประการใดที่ต้องการความร่วมมือจากพวกเรา ก็ขอให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจกระทำตาม ถ้าเรามีน้ำหนึ่งใจเดียวกันลักษณะอย่างนี้ บ้านเมืองของเราก็จะร่มเย็นเป็นสุข เป็นปึกแผ่น และขณะเดียวกันก็ใกล้ที่จะเลือกตั้งเข้ามาแล้ว ถ้าหากว่าญาติโยมทั้งหลายเห็นว่า ใครมีความสามารถจะเป็นตัวแทนของท่านได้ ก็พยายามไปใช้สิทธิ์ใช้เสียงเลือกตั้งในฐานะพลเมืองดี และเลือกตัวแทนของเราเข้าไปทำหน้าที่แทน เพื่อที่จะได้บริหารประเทศชาติบ้านเมืองของเราให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป
ท้ายสุดนี้ อาตมภาพในฐานะพระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ขอตั้งสัตยาธิษฐานอ้างคุณพระศรีรัตนตรัย มีพระพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะเป็นประธาน มีบารมีของหลวงพ่อ ภปร. หน้าวัดทองผาภูมิเป็นที่สุด ตลอดจนกระทั่งบารมีธรรมของหลวงปู่สาย อคฺควํโส อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุนที่ท่านทั้งหลายเคารพนับถือ จงมารวมกับความดีที่ท่านทั้งหลายได้กระทำแล้วตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ ขอให้เป็นตบะเดชะ พลวปัจจัย ดลบันดาลให้ท่านทั้งหลาย ประสบแต่ความสุขความเจริญ มีความปรารถนาที่สมหวังทุกประการ มีความเจริญก้าวหน้าทั้งทางโลกทางธรรม มีครอบครัวที่เป็นปึกแผ่นมั่นคง มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถกระทำหน้าที่พลเมืองดีของชาติได้อย่างเต็มสติกำลังสืบไปทุกท่านทุกคนเทอญ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. โอวาทในวันขึ้นปีใหม่ ณ ถนนนั่งยองทองผาภูมิ วันอังคารที่ ๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ |
| เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:47 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.