กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   ซัวสะเดย..เนียงลออ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=59)
-   -   ซัวสะเดย..เนียงลออ ตอนที่ ๗ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=4090)

สุธรรม 24-09-2014 02:41

1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1411503594
เดินทางกลับ (ทำไมไม่มีสาวน่ารักแบบนี้มาเดินด้วยบ้างหนอ ?)

นอนหลับไปตื่นหนึ่ง ลุกขึ้นมาก็พอดีพี่วิไลชวนกลับ แต่มีผู้ประท้วงขอเข้าห้องน้ำก่อน บรรดาสาว ๆ จึงไปห้องน้ำกัน อาตมาเดินดูของเป็นการรอไปในตัว จนทั้งหมดตามมาทันจึงเดินไปหารถ ผ่านร้านถ่ายรูปเจ้าเก่า เจ้าของร้านหอบรูปในกรอบมาดักหน้า พลางส่งรูปมาเสนอให้ เฮ้ย..นี่รูปอาตมาเองนี่หว่า..!

ไอ้เจ้านี่ร้ายกาจมาก แอบถ่ายรูปอาตมาตั้งแต่ตอนเดินเข้า แล้วเอาไปตัดต่อกับน้ำตกพนมกุเลน ใส่กรอบมาเรียบร้อยเลย ป้ามอยกับลูกปุ๊กก็โดนไปด้วย แต่พวกเราไปไหนก็ "เก็บไว้เพียงความทรงจำ ทิ้งไว้แต่เพียงรอยเท้า" จึงปฏิเสธไปว่าไม่ต้องการ แต่ขอคิดค่าลิขสิทธิ์ที่คุณเอารูปอาตมาไปหากินด้วย ทำเอาเจ้าของร้านถอยกรูด น่าจะรีบไปเปลี่ยนนางกวักใหม่ เพราะไม่ได้ลูกค้าซ้ำยังจะพาเสียเงินอีกด้วย..!

สุธรรม 25-09-2014 02:51

1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1411590593
ประตูผาของอุทยานแห่งชาติพนมกุเลน

มาถึงรถที่คุณราญติดเครื่องรออยู่ คุณปัญญาเปิดประตูให้พวกเราขึ้นจนครบ พอปิดประตูคุณราญก็นำรถออกทันที เลี้ยวขวาเพื่อเข้าทางหลัก มีรถกำลังลงหลายคัน มีอยู่คันหนึ่งจอดตายเกือบจะปิดทาง ต้องรอเขาเข็น “แอบ” ทางซ้ายมือ รถตู้ของเราจึงผ่านไปได้...

มีรถหกล้อวิ่งนำหน้าอยู่คันหนึ่ง แม้จะกินฝุ่นตามหลัง แต่คุณราญก็ยังหาจังหวะแซงไม่ได้ จนเลยบริเวณประตูผาที่เป็นก้อนหินใหญ่ ทางช่วงนี้กว้างขึ้น คุณราญบีบแตรขอแซงขึ้นไป จึงเห็นว่าข้างหน้ามีรถอีก ๓ – ๔ คันวิ่งนำหน้ารถหกล้ออยู่ พลขับของเราแซงไปรวดเดียวทุกคันเลย...

สุธรรม 26-09-2014 02:27

1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1411675559
คุณอารีพามาซื้อของที่ระลึก

ลงมาถึงด่านของทางอุทยาน มีรถจอดเข้าห้องน้ำอยู่หลายคัน คันหนึ่งเป็นรถเก๋งโตโยต้า คัมรี เอารถแบบนี้ลุยป่าขึ้นเขาพนมกุเลน ถ้าไม่รวยจนสิ้นคิดก็นับว่ากล้าหาญมาก พวกเราวิ่งแซงออกมาจนถึงร้านที่คุณอารีลงไปซื้อมะม่วง ไม่รู้ว่าเจ้าของร้านแอบไปนอนที่ไหนแล้ว...

ด่านบุญทั้งสองด่านก็เลิกทำงานไปแล้ว น่าจะไปนอนพักกลางวันเช่นกัน ขึ้นทางลาดยางได้คุณราญก็พาวิ่งยาวกลับเข้าเมืองเสียมเรียบ พี่วิไลให้แวะตลาดเพื่อซื้อของที่ระลึกกัน ซึ่งมีแต่พวกเสื้อผ้า เครื่องเงิน อัญมณี และของเก่า เจ้าของร้านพอเห็นก็ทักทายพวกเราเป็นภาษาไทยเกือบทุกร้าน ชักชวนให้ซื้อสินค้าของตนเป็นการใหญ่...

สุธรรม 27-09-2014 01:45

1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1411759431
บริเวณนี้ "หามจดร็วด"

ไม่มีใครมีอารมณ์ซื้อ เพราะนอกจากราคาแพงเพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้ว ยังต้องหอบขึ้นเครื่องบินกลับพนมเปญอีกด้วย พี่วิไลเห็น “แขก” อย่างพวกเราเดินดูของแบบเซ็ง ๆ จึงชวนไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์เมืองเสียมเรียบ แต่ก็ไม่มีใครสนใจอีก ท้ายสุดจึงต้องให้พลขับไปส่งคุณอารี เพื่อเปลี่ยนตั๋วรถกลับพนมเปญ เนื่องจากตั๋วเดิมรถออกตั้งหนึ่งทุ่ม...

ในเมื่อจะจากกันแล้ว อาตมาจึง “ถีบ” ให้คุณปัญญากับคุณราญคนละ ๑๐ ดอลลาร์ แล้วแอบยัดให้คุณอารีไป ๑๐๐ ดอลลาร์ เพราะเหนื่อยมากกว่าเพื่อน คุณอารีทำตาโตแต่พอเห็นอาตมาตีใบ้เกรงว่าสองหนุ่มจะน้อยใจ จึงได้แต่ “ขอบคุณค่ะ” ลืมภาษาขแมร์เสียแล้วอีหนูเอ๊ย...

คุณราญมาจอดที่หน้าบริษัทขายตั๋วรถ ตรงป้ายที่มีภาษาขอมว่า “หามจด” พอดีเลย เฮ้อ..ขืนอ่านตรง ๆ แบบนี้ฟังแล้ว “เก๊กซิมซี่” คุณอารีไหว้ลาทุกคนแล้ว เข้าไปเปลี่ยนตั๋วและรอรถมารับ ส่วนคุณราญพาพวกเราตรงไปยังสนามบินเสียมเรียบเลย...

สุธรรม 28-09-2014 00:44

1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1411842162
ฝึกโยคะกับครู "ร้อนวิชา"

ล่ำลากันแบบไม่ต้องอาลัย ข้าวของติดตัวของแต่ละคนอย่างมากก็เป็นแค่เป้ใบเดียว เดินเข้าไปในอาคารสนามบินยังคิดว่าผีหลอก เพราะหาคนไม่ได้เอาเลย ส่วนใหญ่คงจะเที่ยวจนหมดวันจึงเดินทางกลับ ที่ขนาดเที่ยวยังขี้เกียจแบบพวกเรานี่ไม่ค่อยจะมี...

เข้าห้องน้ำกันแล้วก็ยึดมุมอาคารสนามบินไปมุมหนึ่ง แม่ป๋อมเห็นว่ายังมีเวลาเหลืออีกมาก จึงชวนพี่วิไลเล่นโยคะ เพื่อจะได้หุ่นสวยเป็นธิดาช้างบ้าง ทุกคนจึงไปยก ๆ ยืด ๆ ตามคุณแม่กันหมด ใครทำผิดทำพลาดก็ฮากันแบบไม่ต้องเกรงใจเจ้าหน้าที่ซึ่งนั่งมองตาปริบๆ ปล่อยให้อาตมานั่งอ่าน “คู่มือทหารอาชีพ” ไปคนเดียว...

สุธรรม 29-09-2014 03:04

1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1411936990
นักท่องเที่ยวเริ่มมากันมากขึ้น

บ่ายสามโมงครึ่งเริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้ามายังสนามบิน ทุกคนออกกำลังกายเล่นโยคะจนหมดสภาพไปตาม ๆ กัน อาตมาจึงชวนให้ไปตรวจตั๋วได้แล้ว พอได้บัตรขึ้นเครื่องมา พี่วิไลก็แจกให้กับทุกคน ของอาตมาเป็นหมายเลข 2D แปลว่าอยู่ด้านหัวเครื่องติดหน้าต่างเลย เพราะเครื่องบินเล็กจึงมีที่นั่งแค่ด้านละ ๒ แถว โดยทางซ้ายมือเป็นแถว A กับ B ทางขวามือเป็นแถว C กับ D...

อาตมาเอากล้องถ่ายรูปกับหนังสือใส่ถาดส่งเข้าเครื่องตรวจ อาราธนาพระบารมีแล้วเดินผ่านเครื่องตรวจจับอัตโนมัติ ผ่านตลอดไม่มีเสียงตามเคย พี่วิไล แม่ป๋อมกับลูกปุ๊ก ที่ตามมาก็ไม่มีปัญหา เครื่องมาดังตอนน้องเล็กเดินผ่าน เจ้าหน้าที่เอาเครื่องตรวจมือถือมากวาดรอบตัว เจอเสียงดังตรงกระเป๋ากางเกง พอล้วงออกมากลายเป็นเศษสตางค์ไปเสียนี่...

สุธรรม 30-09-2014 01:58

1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1412019478
กะเม็ด..จากบ้านจ่าตุ่ม

พี่มุกดาเอาเป้ใส่เข้าเครื่องตรวจ ตัวเองเพิ่งเดินผ่านไป เจ้าหน้าที่ซึ่งคอยดูจออยู่หน้าสายพานก็ตาเหลือก เอะอะกันใหญ่ “กะเม็ด (มีด) .. กะเม็ด (มีด)” เพราะภาพในจอมีทั้งมีดพับและกรรไกร แค่นี้ก็ทำเป็นตกใจ ถ้าเป็นที่เมืองไทยพี่เขาอาจจะพก “กำเพลิง (ปืน)” มาด้วยซ้ำไป...

มีดพับเป็นฝีมือบ้านจ่าตุ่ม ของ “ทำมือ” ราคาแพงเสียด้วย อยากจะยึดก็ให้ยึดไปแต่กรรไกร เป็นตายพี่เขาก็ไม่ยอมให้ยึดมีดพับบ้านจ่าตุ่ม จึงต้องเอากระเป๋าเป้ไปโหลดเข้าท้องเครื่องแทน เสียเวลาไปตั้งนาน...

ไปนั่งพักกันที่ห้องพักผู้โดยสาร พี่มุกดาบ่นเสียงอ่อย ๆ ว่า “ลืมขอให้พระท่านช่วย” หมั่นลืมบ่อย ๆ เข้า คงได้ไปนอนใน “ พันธนาคาร (คุก)” เข้าสักวัน อาตมามองออกไปนอกห้องที่เป็นประตูกระจก เห็นเมฆมามืดไปหมด ลักษณะแบบนี้อีกสักครู่ต้องมีฝนตกหนักแน่ ๆ...

สุธรรม 01-10-2014 02:00

1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1412105953
ข้างนอกฝนกระหน่ำจนเป็นห่วงว่าเครื่องบินจะลงไม่ได้

ผู้โดยสารที่เป็นนักท่องเที่ยวทั้งจีนและฝรั่งเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ อีกพักใหญ่สายฝนก็กระหน่ำลงมาอย่างหนัก...

“พลิงคะลัง” อาตมาบอก
พี่วิไลทำหน้างง ๆ “อะไรนะหลวงพี่ ?”
“ฝนตกหนัก”
“เฮ้ย..คำนี้วิไลยังฟังไม่ออก” อ้าว..แล้วกัน

ดูท่าว่าครูชาวบ้านที่ชายแดน จะสอนภาษาเขมรให้เพื่อน ๆ ของอาตมามากกว่าที่คิด ลองว่าคนที่อยู่เขมรมาหลายปีอย่างพี่เขายังฟังไม่ออก แปลว่าอาตมา “ได้มา” มากทีเดียว...

สุธรรม 02-10-2014 02:32

1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1412194331
น้ำท่วมใครว่าดีกว่าฝนแล้ง ?

“ค่าเครื่องบินคนละเท่าไรคะพี่วิไล ?” น้องเล็กถามขึ้น “๑๙๓ ดอลลาร์” คนละเกือบหกพันบาท ไม่ใช่ของถูกเลยนะนี่ มิน่าล่ะ..ถึงต้องให้คุณอารีนั่งรถทัวร์ทั้งขาไปและขากลับ อากาศเย็นจากฝนตก บวกกับความเย็นจากเครื่องปรับอากาศ ทำให้อาตมาปวดฉี่ จึงขอตัวไป “ปุรุสะตบตึ๊ก (ห้องน้ำชาย)” ก่อน...

กลับออกมาจากห้องน้ำ เห็นสนามบินด้านนอกมีแต่น้ำเจิ่งนองไปหมด ซ้ำฝนก็ยังตกไม่เลิก อาตมาชักจะเป็นห่วง “อย่ากังวลไปเลย ข้าพเจ้าขอรับรองว่าไปได้ และปลอดภัยด้วย” จอมคนแห่งกัมโพชที่ผ่านเครื่องตรวจเข้ามาตอนไหนก็ไม่รู้ ช่วยบอกให้คลายกังวล...

สุธรรม 03-10-2014 02:49

1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1412281707
คนที่เตรียมพร้อมที่สุดในเที่ยวบินนี้

๑๖.๔๐ น. เครื่องจากพนมเปญลงจอด มีรถบัสของทางสนามบินวิ่งไปรับผู้โดยสารแบบทุลักทุเล เพราะเจ้าหน้าที่ต้องกางร่มให้ผู้โดยสารลงมาขึ้นรถทีละคน แล้วค่อยวิ่งรถมาเทียบอาคารสนามบิน ส่งผู้โดยสารลงจากรถอีกที แบบนี้ทำงวงจอดเครื่องบินได้แล้ว...

ต้องรอจนเขาทำความสะอาดเครื่องบินเสร็จ รถบัสจึงมารับพวกเราไปขึ้นเครื่อง เจ้าหน้าที่ขอดูบัตรขึ้นเครื่องตั้งแต่เดินเข้าประตูรถบัสเลย พอรถไปเทียบบันไดเครื่องบินก็กางร่มให้ขึ้นเครื่องทีละคน อาตมาซึ่งยืนอยู่ท้ายรถ เห็นมีคนใส่เสื้อกันฝนสีเหลืองมีที่คลุมหัว เดินขึ้นบันไดอย่างสง่างาม ไม่ต้องไปกังวลกับร่มที่บังตัวเองไม่ค่อยมิดเหมือนคนอื่น ๆ...

“ใครกันนะ.? เตรียมพร้อมดีจัง” รำพึงกับตัวเองยังไม่ทันจบ แม่ป๋อมที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ก็บอกว่า “มณีวรรณค่ะ” หา..ป้ามอยเองหรอกหรือ ? นึกว่าเป็นคนอื่นเสียอีก พอดีถึงคิวของตัวเอง อาตมาจึงให้เขากางร่มเดินขึ้นเครื่องไปแบบตัวลีบ ๆ หน่อย เพราะร่มเล็กเกินไป...

สุธรรม 04-10-2014 01:39

1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1412363868
แม่น้ำโขงที่ขุ่นคลั่กเป็นสีกาแฟใส่นมเยอะ ๆ

นั่งยังที่ของตัวเอง รัดเข็มขัดเรียบร้อยแล้ว ก็หลับตาส่งจิตถึงเจ้าที่เจ้าทางทั้งหลาย ที่รักษาตลอดเส้นทางเสียมเรียบ – พนมเปญ ขอให้ช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยให้ด้วย ลืมตาขึ้นมาพอดีเจ้าหน้าที่บนเครื่องเอาผ้าเย็นมาส่งให้ พอเขาสาธิตการช่วยชีวิตเสร็จเครื่องก็ออกทันที...

มองออกไปทางหน้าต่าง เห็นแม่น้ำโขงที่คดเคี้ยวเป็นงูเลื้อย และโตนเลสาบซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดของเขมร มีน้ำสีโคลนขุ่นคลั่ก คงมาจากฝนที่ตกหนักนั่นเอง ยังดีที่มาตกเอาตอนพวกเรากลับแล้ว ถ้าตกตอนกำลังเที่ยวอยู่มีหวังงานกร่อยแน่ ๆ จะ "ขอบพระทัยฝ่าบาท" ก็ไม่ทราบว่าฝ่าบาทไปอยู่เสียที่ไหน สงสัยว่าคงจะลืมซื้อตั๋วเครื่องบิน สักครู่หนึ่งเมฆหนาทึบก็บังทิวทัศน์ข้างล่างไปหมด...

สุธรรม 05-10-2014 01:51

1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1412451084
ภายในสนามบินโปเชงตง

พนักงานสาวเอาอาหารกล่องมาส่งให้ อาตมาหยิบเอามาเฉพาะน้ำ ที่เหลือส่งให้แม่ป๋อมที่นั่งอยู่แถวหลังไป เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรน่าสนใจ อาตมาก็ส่งใจไปกราบพระ รักษากำลังใจให้สงบเย็นอยู่ที่นั่น จนกระทั่งได้ยินเสียงประกาศให้รัดเข็มขัด จึงลืมตาขึ้นมาดูโลกใหม่...

กัปตันนำเครื่องลดระดับลงสู่สนามบินโปเชงตง พอลงจากเครื่องพวกเราก็เผ่นไปเข้า “ตบตึ๊ก” กันก่อน ไม่รู้ว่าตึกไปทำอะไรให้โกรธนักหนา ถึงได้โดนตบอยู่ทุกบ่อย พอตบเสร็จก็มารอกระเป๋าของพี่มุกดา กว่าจะมาได้ก็เล่นเอาเกือบค่ำ ออกมาเจอนายลอนมารอรับอยู่ "จุมเรียบซัวครับโลก" เออ..สวัสดี..ตกลงว่าคุณจะใช้ภาษาอะไรกันแน่วะ ?

สุธรรม 06-10-2014 01:43

1 Attachment(s)

นายลอนกุลีกุจอช่วยหิ้วกระเป๋าขึ้นรถให้ ออกจากสนามบินมาก็เจอรถติดหนุบหนับ พี่วิไลบอกว่าที่นี่เขาถือว่าวันเสาร์เป็นวันเที่ยว วันอาทิตย์เป็นวันพักผ่อน วันนี้เป็นวันเสาร์ คนจึงเฮกันออกมาเที่ยวนอกบ้าน ทำให้รถติดมากเป็นพิเศษ ต้องกระดืบไปทีละคืบทีละศอก ยังดีที่ไป "ตบตึก" กันมาแล้ว ไม่อย่างนั้นคงทรมานน่าดู...

“เฮ้ย..กางเกงยีนส์ตัวละ ๔ เหรียญเอง” แม่ป๋อมตะโกนพลางชี้ให้ดู เล่นเอาหลายคนทำท่าจะตะกายลงจากรถ พี่วิไลหัวเราะพลางบอกว่า "ใจเย็น ๆ ตรงนี้เรียกว่าตลาดรัสเซีย มีของดีราคาถูกเยอะแยะ พรุ่งนี้ค่อยมาดูก็ยังทัน วันนี้ค่ำแล้ว กลับไปบ้านกันก่อน” เรื่องเสื้อผ้าราคาถูกจึงกลายเป็นจุดสนใจจนลืมรถติดไปเลย...

สุธรรม 07-10-2014 04:48

1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1412634517
กรุงพนมเปญในยามค่ำคืน

ผ่านย่าน “กะบาลมอนไจย (ถนนหัวไก่)” จนเลี้ยวเข้าบ้านแล้ว ยังคุยกันเรื่องกางเกงยีนส์ไม่เลิก อาตมาเผ่นขึ้นลิฟท์ไปยังห้องพักชั้นดาดฟ้า ไม่ใส่ใจแม้แต่การลาของจอมคนแห่งกัมโพช รีบสรงน้ำเปลี่ยนผ้า แล้วหอบชุดเก่าลงมาหาที่ซัก พี่วิไลตะโกนบอกลูกน้องให้มารับเอาไปใส่เครื่องปั่นให้...

อาตมาไปยืมที่ชาร์จแบตเตอรี่กล้องถ่ายรูปจากแม่ป๋อม แม้ว่าจะเป็นยี่ห้อเดียวกันแต่เป็นคนละรุ่น จึงไม่สามารถที่จะใช้แทนกันได้ ต้องกดให้จุดสัมผัสของก้อนแบตเตอรี่ไปชนกับเขี้ยวของแท่นชาร์จ แล้วเอาหนังสือทับไว้จึงยอมชาร์จให้...

เกือบจะหนึ่งทุ่มแล้ว อาตมาฝากให้พี่วิไลช่วยเอาผ้าไปตากให้ด้วย แล้วกลับขึ้นไปยังห้องพัก นอนภาวนาแผ่เมตตาไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลาย ขอให้ทุกชีวิตจงล่วงพ้นจากกองทุกข์ มีแต่ความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป แล้วส่งใจไปกราบพระตามปกติ...


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 15:11


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว