กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=39)
-   -   เทศน์ช่วงทำกรรมฐานเช้า วันอาทิตย์ที่ ๒๕ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=8564)

หยาดฝน 05-05-2022 16:24

เทศน์ช่วงทำกรรมฐานเช้า วันอาทิตย์ที่ ๒๕ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
 
เทศน์ช่วงทำกรรมฐานเช้า
วันอาทิตย์ที่ ๒๕ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔



เชิญรับฟังได้ที่ https://youtu.be/pAWKBS8Kd6o


หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป
หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจออกมา

เผลอคิดเรื่องอื่นขึ้นมาเมื่อไร รีบดึงเข้ามาอยู่กับลมหายใจเข้าออกเสียใหม่

เวลาเช้ามืดเป็นเวลาที่สำคัญที่สุดในการสร้างความดีของเรา เพราะว่าสภาพจิตที่ได้รับการพักผ่อนมาแล้ว มีความฟุ้งซ่านน้อยกว่าเวลาอื่น จึงต้องรีบวิ่งเข้ามาหาลมหายใจเข้าออก

หยาดฝน 05-05-2022 16:27

การภาวนาจะใช้แบบไหนก็ได้ คำภาวนาจะใช้อะไรก็ได้ที่เราถนัดมาแต่เดิม
อย่าเปลี่ยนวิธีการ อย่าเปลี่ยนคำภาวนา เพราะว่าสภาพจิตที่เคยชินจะวิ่งไปหาของเดิม
ถ้าเราเปลี่ยนใหม่ก็จะเกิดการยื้อแย่งกันระหว่างของใหม่กับของเก่า ทำให้ของเก่าก็ไม่ได้ ของใหม่ก็ไม่ดี

หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป
หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา

เมื่อรู้สึกว่ากำลังใจกับลมหายใจเข้าออกเริ่มเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแล้ว ก็ให้กำหนดภาพพระพุทธรูปที่เรารักเราชอบมากที่สุดเอาไว้บนศีรษะของเรา

หายใจเข้า..ให้ภาพพระไหลตามลมหายใจเข้าไปอยู่ในท้อง
หายใจออก..ให้ภาพพระเลื่อนตามลมหายใจขึ้นไปอยู่บนศีรษะ

เหมือนกับเราหายใจทางกระหม่อมแทน โดยไม่ต้องไปสนใจว่าลมที่แท้จริงเข้าออกด้านไหน

หยาดฝน 05-05-2022 16:31

หลักสำคัญก็คือ อย่าเอาความชัดเจนของภาพพระ แค่รู้สึกว่ามีภาพพระก็ใช้ได้แล้ว
ความชัดเจนจะมีขึ้นต่อเมื่อเราขยัน หมั่นฝึกฝนจนสมาธิทรงตัว ยิ่งสมาธิทรงตัวมากเท่าไร ภาพพระก็จะชัดเจนขึ้นมากเท่านั้น

คราวนี้ความชัดเจนก็ต้องมาทำความเข้าใจกันอีกว่า เป็นความชัดเจนโดยความรู้สึก ไม่ใช่ตาเห็น
เป็นความรู้สึกแบบเรานึกถึงคนอื่น นึกถึงสถานที่ต่าง ๆ ที่เคยไปมา จะรู้สึกว่าชัดเจนเหมือนตาเห็น แต่ไม่ใช่ตาเห็น
ดังนั้นอย่าใช้สายตาไปเพ่งเพื่อให้ภาพพระชัดเจน

หยาดฝน 05-05-2022 16:32

กำหนดความรู้สึกว่ามีภาพพระอยู่เหนือศีรษะของเรา ไหลตามลมหายใจลงไปในท้อง ไหลตามลมหายใจขึ้นไปบนศีรษะ
จะหายใจเข้า..องค์พระเล็กลง เล็กลง ไปอยู่ในท้อง
หายใจออก..องค์พระใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น ไปอยู่บนศีรษะก็ได้

หรือจะหายใจเข้า..องค์พระใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น จนครอบเราไว้ทั้งตัว
หายใจออก..องค์พระเล็กลง เล็กลง ไปอยู่บนศีรษะก็ได้

ท่านที่นึกถึงองค์พระที่เป็นวัตถุมงคล ก็เป็นการปลุกไปในตัว
หายใจเข้า..ภาพพระไหลลงไปอยู่ในท้อง
หายใจออก..ภาพพระเลื่อนขึ้นไปอยู่บนศีรษะ

หยาดฝน 05-05-2022 16:36

เมื่อรู้สึกว่าภาพพระและลมหายใจ สามารถกลมกลืนไหลเข้าออกโดยคล่องตัวแล้ว ก็กำหนดใจให้ภาพพระนิ่งอยู่บนศีรษะของเรา
หายใจเข้า..ทำความรู้สึกว่าภาพพระสว่างขึ้น
หายใจออก..ทำความรู้สึกว่าภาพพระสว่างขึ้น

ท่านที่รู้สึกว่าองค์พระใหญ่ ๆ ข้างบนมืดนั้น ความจริงแล้วองค์พระท่านสว่าง แต่กำลังสมาธิของเรามีน้อย จึงยังรู้สึกว่ามืดอยู่
ถ้าเคยฝึกมโนมยิทธิมา ให้น้อมจิตขอบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอให้ภาพพระนี้สว่างไสวตามความเป็นจริง เต็มบุญเต็มบารมีของพระองค์ท่านด้วย
ถ้าไม่เคยฝึกมา ก็แค่กำหนดใจ..รู้สึกว่าภาพพระนี้สว่างขึ้นตามลมหายใจเข้า สว่างขึ้นตามลมหายใจออก

หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น

หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น
จะมีคำภาวนาหรือไม่มีคำภาวนาก็ไม่เป็นไร แต่ต้องมีลมหายใจเข้าออก

หยาดฝน 05-05-2022 16:38

เมื่อรู้สึกว่าภาพพระสว่างไสวอยู่ในห้วงนึก ก็กำหนดให้ความสว่างนั้นค่อย ๆ คลุมตัวเราลงมา

หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น

หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น

ท่านที่ไม่ชำนาญก็จะรู้สึกว่าภาพพระสว่างขึ้นก่อน แล้วตัวเราสว่างตามไปทีหลัง
ถ้ามีความชำนาญ มีความคล่องตัวแล้ว บางคนรู้สึกว่าตัวเรากับภาพพระกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราก็สว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราก็สว่างขึ้น

หยาดฝน 05-05-2022 16:43

อย่าใช้สายตาเพ่ง..ไปใช้สายตาเพ่งแบบนั้น พอเลิกกรรมฐานบางทีจะปวดหัวไปเลย เพราะว่าไม่ใช่ตาเห็น

ให้กำหนดเป็นห้วงนึก..เหมือนกับเรามองขึ้นไปบนกระหม่อมตัวเอง แล้วก็โค้งลงไปในอก ลงไปในท้อง
นึกว่ามีภาพพระสว่างไสวอยู่บนศีรษะของเรา สว่างขึ้นตามลมหายใจเข้า สว่างขึ้นตามลมหายใจออก เหมือนกับสายตาเรามองที่ศูนย์กลางกายที่ท้อง แต่ความรู้สึกทั้งหมดคือภาพพระที่สว่างอยู่บนศีรษะ

ไม่อย่างนั้นแล้วเราจะแยกไม่ออกว่า สายตาเห็นกับใจเห็นต่างกันตรงไหน เมื่อบังคับสายตาไม่ได้ ให้เอาสายตามองกึ่งกลางกายของเราไว้ เอาความรู้สึกจับภาพพระที่สว่างไสวอยู่บนศีรษะของเรา

หยาดฝน 05-05-2022 16:46

เมื่อรู้สึกว่าภาพพระสว่างไสวกลมกลืนดีแล้ว ก็กำหนดใจว่า..ความสว่างนี้คือพระเมตตาแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่แผ่ปกไปยังสรรพสัตว์ทุกภพ ทุกภูมิ ทุกหมู่ ทุกเหล่า

หายใจเข้า..ให้ความสว่างแผ่กว้างออกไปรอบตัวของเรา
หายใจออก..ให้ความสว่างแผ่กว้างออกไปรอบตัวของเรา

แผ่กว้างออกไปเหมือนกับเราโยนหินลงน้ำ น้ำเกิดการกระเพื่อมเป็นวงกว้างออกไป ๆ
ความสว่างไสวเต็มไปทั้งศาลาแห่งนี้ สว่างกว้างออกไปทั้งวัด กว้างออกไปทั้งหมู่บ้าน

หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น
หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น ตัวเราสว่างขึ้น

สว่างออกไปทั้งตำบล สว่างออกไปทั้งอำเภอ สว่างออกไปทั้งจังหวัด

หยาดฝน 05-05-2022 16:48

ให้กำหนดใจว่า..มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ผู้ที่ชีวิตของท่านทั้งหลายเหล่านั้น ได้ตกล่วงไปแล้วในวันหนึ่งคืนหนึ่ง ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้น จงไปเสวยสุขในสุคติภพโดยถ้วนหน้ากันเถิด

หายใจเข้า..ภาพพระสว่างไสวกว้างออกไป ๆ
กว้างไปทั้งจังหวัด กว้างไปทั้งภาค กว้างไปทั้งประเทศ กว้างออกไปทั้งโลก
รู้สึกว่าตัวเราใหญ่โตเต็มแผ่นดินแผ่นฟ้า โลกเป็นวัตถุเล็ก ๆ นิดเดียว อยู่ภายใต้ร่างกายของเรา สามารถกำหนดใจครอบคลุมทั่วถึงได้โดยง่าย

ให้ตั้งใจว่า..มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ผู้ที่ชีวิตของท่านทั้งหลายเหล่านั้น ตกอยู่ในความทุกข์ยากเศร้าหมอง เดือดร้อนลำเค็ญ ทุกข์กายทุกข์ใจ เจ็บไข้ได้ป่วย พิกลพิการใด ๆ ก็ดี ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้น จงล่วงพ้นจากความทุกข์ทั้งหลายนั้นเถิด

หยาดฝน 05-05-2022 16:50

หายใจเข้า..พระรัศมีสีขาวสว่างไสวแผ่กว้างออกไป ๆ ครอบคลุมไปทั้งโลก
กว้างออกไปทั้งสุริยจักรวาล กว้างออกไปตลอดดาราจักรทางช้างเผือก กว้างออกไปสู่อนันตจักรวาลที่มีมนุษย์และสัตว์นับไม่ถ้วน

ให้ตั้งใจว่า..มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ผู้ที่ชีวิตของท่านทั้งหลายเหล่านั้น มีความสุขความเจริญดีอยู่แล้ว ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้น จงมีความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยเถิด

กำหนดใจแผ่กว้างออกไป ๆ ..
เมื่อกว้างจนสุดเอกภพ ก็คือขอบเขตของเทวดาชั้นจาตุมหาราช ให้พระรัศมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครอบคลุมไปทั้งกามาวจรสวรรค์ ๖ ชั้น รูปพรหม ๑๖ ชั้น อรูปพรหม ๔ ชั้น เบื้องล่างคือหมู่สัตว์เดรัจฉาน อสุรกาย เปรต สัตว์นรก

ตั้งใจว่า..มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น พึงเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่กันและกัน เสียสละให้ปัน ช่วยเหลือเกื้อกูลแก่ผู้ที่ตกอยู่ในความทุกข์ยากยิ่งกว่าตนให้พ้นทุกข์ เพื่อยังโลกทั้งหลายไปสู่สันติสุขอันสมบูรณ์ด้วยเถิด

หยาดฝน 05-05-2022 16:52

เมื่อแผ่เมตตาเสร็จสิ้นแล้ว ให้กำหนดนึกถึงลมหายใจเข้าออก พร้อมกับภาพพระของเรา
หายใจเข้า..ภาพพระสว่างไสวออกไปไม่มีประมาณ
หายใจออก..กลับมาสว่างไสวอยู่บนศีรษะของเราตามเดิม

หายใจเข้า..ภาพพระสว่างไสวกว้างไกล กว้างออกไป ๆ จนสุดกำลังสมาธิของเรา
หายใจออก..ภาพพระกลับมาสว่างไสวบนศีรษะของเราตามเดิม

หายใจเข้า..ภาพพระสว่างไสวกว้างออกไป ๆ ไม่มีประมาณ
หายใจออก..กลับมาสว่างไสวบนศีรษะของเราตามเดิม

หยาดฝน 05-05-2022 16:54

เมื่อรู้สึกว่ากำลังสมาธิทรงตัวแล้ว ภาพพระชัดเจนสว่างไสวดีแล้ว ก็น้อมจิตน้อมใจกราบลงไปตรงนั้น ว่านั่นคือพระพุทธนิมิตแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งพระองค์เสด็จมาโปรดเราจนถึงที่อยู่

ให้ตั้งใจว่า..วันนี้ถ้าหากเราหมดอายุขัยตายลงไปก็ดี หรือเกิดอุบัติเหตุอันตรายใด ๆ ก็ตาม เราขอไปอยู่กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระนิพพานแห่งเดียวเท่านั้น

หายใจเข้า..ภาพพระสว่างไสวอยู่ในห้วงนึกของเรา
หายใจออก..ภาพพระสว่างไสวอยู่ในห้วงนึกของเรา

หยาดฝน 05-05-2022 16:55

ให้รักษาลมหายใจเข้าออกและคำภาวนาเอาไว้ พร้อมกับภาพพระ..
ถ้าลมหายใจเบาลง กำหนดรู้ว่าลมหายใจเบาลง
ถ้าคำภาวนาหายไป กำหนดรู้ว่าคำภาวนาหายไป
ถ้าลมหายใจหายไป กำหนดรู้ว่าลมหายใจหายไป

เอาความรู้สึกจดจ่ออยู่เฉพาะภาพที่สว่างไสว ไม่ต้องสนใจลมหายใจหรือคำภาวนา
ประคับประคองรักษาอารมณ์นี้เอาไว้ จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา

หยาดฝน 05-05-2022 17:00

(สัญญาณบอกว่าหมดเวลา)

พุทโธ พุทโธ พุทโธ..
ได้ยินหนอ ได้ยินหนอ ได้ยินหนอ..

ค่อย ๆ คลายสมาธิและลืมตาออกมาช้า ๆ ถ้าสมาธิทรงตัวมากแล้วคลายออกมาเร็ว หัวใจจะเต้นแรงมาก

ดังนั้นต้องตั้งสติค่อย ๆ คลายสมาธิออกมา แล้วเมื่อเราจะขยับเขยื้อนเคลื่อนกายอย่างไร ให้กำหนดใจนิ่งอยู่จุดใดจุดหนึ่งเสียก่อน แล้วค่อยขยับ ค่อยเคลื่อนไหว ค่อยกราบพระ หรือว่าสวดมนต์ทำวัตร ไม่เช่นนั้นแล้วพอขยับ สมาธิก็จะหลุดจะลอยหายไปหมด

เราต้องซักซ้อมในเรื่องการทรงสมาธิในระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำวันของเราให้ได้ ถึงเวลาจะทำอะไรก็ตั้งสติไว้ก่อน ถ้ารู้สึกว่าภาพพระหรือสมาธิจะหลุดลอยหายไป ก็หยุดงานไว้ชั่วคราว อย่างเช่นว่า หยุดการสวดมนต์ เมื่อสมาธิทรงตัวแล้วค่อยมาว่ากันต่อไป



พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐานเช้า
วันอาทิตย์ที่ ๒๕ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:50


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว