ถามเรื่องของศีล
ถาม ถ้าครอบครัวทั่วไปมีศีล ๕ จะดีหรือไม่ อย่างไร?
ตอบ "อ๋อ ดีแน่นอนจ้ะ เพราะว่าการที่จะทรงตัวเป็นครอบครัวเดียวกันอย่างมีความสุข พระพุทธเจ้าบอกว่า ต้องมีทานเสมอกัน มีศีลเสมอกัน มีปัญญาเสมอกัน มีจาคะ คือการบริจาคเสมอกัน ไม่อย่างนั้นแล้วรังแต่จะมีปัญหา ผัวรักษาศีล เมียไม่รักษา เดี๋ยวผัวก็ติเมีย เมียรักษาศีล ผัวไม่รักษา เดี๋ยวเมียก็ติผัว จะมีแต่เรื่องระหองระแหงกันอยู่ตลอด เพราะฉะนั้นถ้าครอบครัวไหนมีศีล ๕ ทรงตัว จะตัดปัญหาเรื่องนอกใจออกไปได้เลย เรื่องจะต้องมาหวาดระแวงกันก็ไม่ต้องมีอีก" |
คุณค่าของบุคคลผู้มีศีล ถาม คุณค่าของบุคคลผู้มีศีล ๕ เปรียบกับอะไรได้บ้าง ตอบ ท่านบอกว่า ผู้มีศีล ๕ เปรียบเหมือนกัลยาณชนเป็นบุคคลโดยสมบูรณ์ ถ้าผู้ใดบกพร่องในศีลก็จะเปรียบเหมือนกับว่าความเป็นสัตว์เดรัจฉานหรือสัตว์นรกมันเข้ามาสิงใจของเราแทน ก็ตีเสียว่า ถ้าหาก ๕ ข้อเป็น ๑๐๐ เปอร์เซนต์ เราขาดไปข้อหนึ่ง ก็ความเป็นสัตว์นรกหรือเปรต อสุรกาย ก็เข้ามาสัก ๒๐ เปอร์เซนต์ ๒ ข้อก็ ๔๐ เปอร์เซนต์ ไล่ไปเรื่อย ครบ ๕ ข้อเมื่อไหร่ก็ไม่มีความเป็นคนเหลือแล้ว กลายเป็น มนุสสเนรยิโก มนุษย์ที่เป็นสัตว์นรก มนุสสเปโต มนุษย์ที่เป็นเปรต มนุสสติรัจฉาโน มนุษย์ที่เป็นเดรัจฉาน มันสักแต่ว่าเปลือกเป็น แต่ใจกลายเป็นอย่างอื่นไปซะแล้ว บางทีท่านก็บอกว่า ศีล ๕ เปรียบเหมือนดั่งทรัพย์อันประเสริฐ เป็นอริยทรัพย์ที่ไม่มีใครปล้นไปได้ ไม่มีใครที่จะช่วงชิงไปจากเราได้ |
เราถือศีลไปเพื่ออะไร ถาม เราถือศีลไปเพื่ออะไร? ตอบ ศีล อันดับแรกคือ ความอยู่สุขในปัจจุบัน เราไม่อยากให้ใครฆ่าเรา เราก็อย่าไปฆ่าใคร เราไม่อยากให้ใครขโมยเรา เราก็อย่าขโมยใคร เราไม่อยากให้ใครมาล่วงเกินคนที่เรารัก เราก็อย่าไปล่วงเกินคนรักของใคร เราอยากฟังแต่ความจริง ก็อย่าโกหกใคร เราอยากมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ เราก็อย่าไปดื่มสุราเมรัย อันนี้คือปัจจุบัน และ สุขในอนาคต ท่านบอกว่า "สีเลนะ สุคะติง ยันติ" ศีลย่อมทำให้เราไปสู่สุขคติ เพราะถ้าจิตเราเกาะความดีเป็นปกติ เราก็เกิดเป็นพรหม หรือถ้าหากว่าเต็มที่ไม่ต้องการการเกิดอีก กำลังของศีลก็ส่งไปพระนิพพาน ท่านบอกว่า "สีเลนะ โภคะสัมปะทา" ศีลทำให้มีโภคทรัพย์มาก คือคนที่รักษาศีลนี่จะมีสติทรงตัวอยู่เสมอ ไม่เบียดเบียนใคร ทำมาค้าขายกันอย่างสัมมาอาชีวะ เงินที่ได้มา ทรัพย์สินที่ได้มาก็จะเย็น คือรู้จักจับจ่ายใช้สอยอย่างมีสติ ก็เลยทำให้มีสมบัติมาก ขณะเดียวกันถ้าเกิดเป็นเทวดา พรหม ก็มีทิพสมบัติมาก แล้วท่านก็ยืนยันว่า "สีเลนะ นิพพุติง ยันติ" ศีลเป็นปัจจัยส่งให้ถึงพระนิพพานได้ นี่เป็นความสุขสูงสุด ฉะนั้น..การรักษาศีล นี่หมายเอาความสุขทั้งสามด้าน คือสุขในปัจจุบัน สุขในอนาคตและประโยชน์สุขสูงสุดด้วย จากหนังสือกระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๖๔ เดือนมิถุนายน ๕๒ หน้า ๕๑-๕๒ |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:13 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.