กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=51)
-   -   การให้ผลของทานบารมีกับการพัฒนาด้านจิตใจ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=7037)

สวนกุหลาบ 10-05-2020 16:49

การให้ผลของทานบารมีกับการพัฒนาด้านจิตใจ
 
บุคคลบางคนเกิดมาเพียบพร้อมไปด้วยมนุษย์สมบัติในทุก ๆ ด้านบริบูรณ์ไปด้วยทรัพย์สมบัติ รูปสมบัติ สติปัญญา บริวารมากมาย ชาติตระกูลสูงส่ง แต่ก็ “ชั่วร้ายเลวทราม” เบียดเบียน เอารัดเอาเปรียบ ทำร้ายและเข่นฆ่าชีวิตผู้อื่นเป็นอาจิณมาโดยตลอดชีวิตของบุคคลผู้นั้น (อดีตถึงปัจจุบันมีบุคคลประเภทนี้ให้เห็นอยู่มาก)

ที่สงสัยคือ...บุคคลใดจะเกิดมาบริบูรณ์ไปด้วยมนุษย์สมบัติได้ย่อมต้องเคยสร้างบุญมาในกาลก่อนยิ่งเกิดมาเพียบพร้อมมากย่อมต้องเคยสร้างบุญมามาก แล้วเหตุใดผู้ที่สร้างบุญมามากเช่นนี้ในด้านสภาพจิตใจกลับเลวทรามต่ำช้าไม่มีศีลมีธรรมอยู่เลยแม้แต่น้อย ?

หรือว่าการสร้างทานบารมีอันเป็นเหตุแห่งความบริบูรณ์ในมนุษย์สมบัติเป็นคนล่ะเรื่องกับการพัฒนาในด้านของจิต ? กล่าวคือคนชั่วที่ไม่เคยฝึกจิตให้อยู่ในศีลธรรม ไม่เคยรักษาศีล ไม่มีความละอายชั่วกลัวบาป ทำชั่วได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตนต้องการ หากแต่คนคนนั้นรู้จักหมั่นให้ทานอันมีอานิสงส์ใหญ่ในเขตพระพุทธศาสนา เช่น สังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน สร้างพระ เจ้าภาพบวชพระ ฯลฯ เป็นต้น ก่อนตายจิตมั่นคงในบุญคือทานบารมีที่ทำ ผลแห่งทานก็ส่งผลให้เกิดมาใหม่บริบูรณ์ไปด้วยมนุษย์สมบัติตามเหตุแห่งบุญที่เคยสร้างมา แต่ด้วยความที่ไม่เคยสนใจที่จะพัฒนาในด้านจิตใจของตนเลยจากที่ชาติก่อนเลวยังไงเกิดมาใหม่จิตใจก็เลวดังเดิม กลายเป็น “คนชั่วแต่ชีวิตดีและสุขสบาย”

ในขณะที่บางคนมีศีล ๕ และกรรมบท ๑๐ ครบถ้วน ไม่ได้เบียดเบียนใครเลย ประกอบสัมมาอาชีพ มีใจทรงพรหมวิหาร ๔ เป็นปกติ แต่กลับมีความอัตคัดในชีวิตความเป็นอยู่ ยากจน ขาดแคลนในมนุษย์สมบัติทุกอย่าง ถ้าเป็นไปตามเหตุแห่งบุญกรรมแสดงว่าคนประเภทนี้มุ่งเน้นแต่ในด้านรักษาศีล ฝึกจิตให้ทรงไว้ซึ่งคุณความดี ปฏิบัติภาวนา แต่...ไม่ได้สร้างทานบารมีมาในกาลก่อน เมื่อเกิดใหม่เลยมีสภาพจิตที่ดีแต่ไม่มีความสมบูรณ์ในมนุษย์สมบัติ กลายเป็น “คนดีแต่มีชีวิตที่ลำบาก”

ความเข้าใจเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกแล้วสิ่งที่ถูกต้องแท้จริงเป็นอย่างไร

สุธรรม 10-05-2020 17:26

ถาม : บุคคลบางคนเกิดมาเพียบพร้อมไปด้วยมนุษย์สมบัติในทุก ๆ ด้านบริบูรณ์ไปด้วยทรัพย์สมบัติ รูปสมบัติ สติปัญญา บริวารมากมาย ชาติตระกูลสูงส่ง แต่ก็ “ชั่วร้ายเลวทราม” เบียดเบียน เอารัดเอาเปรียบ ทำร้ายและเข่นฆ่าชีวิตผู้อื่นเป็นอาจิณมาโดยตลอดชีวิตของบุคคลผู้นั้น (อดีตถึงปัจจุบันมีบุคคลประเภทนี้ให้เห็นอยู่มาก)

ที่สงสัยคือ...บุคคลใดจะเกิดมาบริบูรณ์ไปด้วยมนุษย์สมบัติได้ย่อมต้องเคยสร้างบุญมาในกาลก่อนยิ่งเกิดมาเพียบพร้อมมากย่อมต้องเคยสร้างบุญมามาก แล้วเหตุใดผู้ที่สร้างบุญมามากเช่นนี้ในด้านสภาพจิตใจกลับเลวทรามต่ำช้าไม่มีศีลมีธรรมอยู่เลยแม้แต่น้อย ?

หรือว่าการสร้างทานบารมีอันเป็นเหตุแห่งความบริบูรณ์ในมนุษย์สมบัติเป็นคนล่ะเรื่องกับการพัฒนาในด้านของจิต ? กล่าวคือคนชั่วที่ไม่เคยฝึกจิตให้อยู่ในศีลธรรม ไม่เคยรักษาศีล ไม่มีความละอายชั่วกลัวบาป ทำชั่วได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตนต้องการ หากแต่คนคนนั้นรู้จักหมั่นให้ทานอันมีอานิสงส์ใหญ่ในเขตพระพุทธศาสนา เช่น สังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน สร้างพระ เจ้าภาพบวชพระ ฯลฯ เป็นต้น ก่อนตายจิตมั่นคงในบุญคือทานบารมีที่ทำ ผลแห่งทานก็ส่งผลให้เกิดมาใหม่บริบูรณ์ไปด้วยมนุษย์สมบัติตามเหตุแห่งบุญที่เคยสร้างมา แต่ด้วยความที่ไม่เคยสนใจที่จะพัฒนาในด้านจิตใจของตนเลยจากที่ชาติก่อนเลวยังไงเกิดมาใหม่จิตใจก็เลวดังเดิม กลายเป็น “คนชั่วแต่ชีวิตดีและสุขสบาย”

ในขณะที่บางคนมีศีล ๕ และกรรมบท ๑๐ ครบถ้วน ไม่ได้เบียดเบียนใครเลย ประกอบสัมมาอาชีพ มีใจทรงพรหมวิหาร ๔ เป็นปกติ แต่กลับมีความอัตคัดในชีวิตความเป็นอยู่ ยากจน ขาดแคลนในมนุษย์สมบัติทุกอย่าง ถ้าเป็นไปตามเหตุแห่งบุญกรรมแสดงว่าคนประเภทนี้มุ่งเน้นแต่ในด้านรักษาศีล ฝึกจิตให้ทรงไว้ซึ่งคุณความดี ปฏิบัติภาวนา แต่...ไม่ได้สร้างทานบารมีมาในกาลก่อน เมื่อเกิดใหม่เลยมีสภาพจิตที่ดีแต่ไม่มีความสมบูรณ์ในมนุษย์สมบัติ กลายเป็น “คนดีแต่มีชีวิตที่ลำบาก”

ความเข้าใจเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกแล้วสิ่งที่ถูกต้องแท้จริงเป็นอย่างไร ?

ตอบ : ในเทวภูมิยังมีมารและอสูร นับประสาอะไรกับมนุสสภูมิ บุคคลที่มีโอกาสทำทาน ไม่ใช่ว่าจะต้องมีจิตใจดี พร้อมในการสละออกทั้งหมด มีทั้งทำทานเอาหน้า ทำทานแบบตกกระไดพลอยโจน ทำทานเพราะถูกพ่อแม่บังคับ ฯลฯ แต่บังเอิญได้เนื้อนาดี ผลรับย่อมอุดมสมบูรณ์ แต่สภาพจิตใจยังไม่ได้รับการพัฒนาตามไปด้วย เนื่องจากจิตใจนั้น ต้องขัดเกลาด้วยศีลและภาวนา ถึงจะปรากฏผลอย่างชัดเจน


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:34


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว