กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกบ้านเติมบุญ ต้นเดือนเมษายน ๒๕๖๓ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6940)

เถรี 07-04-2020 04:31

"เหตุที่ต้องหมั่นภาวนาทบทวนอยู่ทุกวัน ก็เพื่อความคล่องตัวในการใช้งานในพระคาถาต่าง ๆ เหมือนกับเราลับมีดบ่อย ๆ ถึงเวลาจะใช้งานก็มีความคล่องตัว เพราะว่ามีดไม่ขึ้นสนิม ถ้าไม่หมั่นภาวนาเอาไว้ ถึงเวลาอาจจะหลงลืมได้ว่า พระคาถาแต่ละบทสำหรับใช้งานใดบ้าง

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า อสชฺฌาย มลา มนฺตา อนุฏฺฐาย มลา ฆรา มนต์ไม่ท่องบ่นเป็นมลทิน ผู้ครองเรือนไม่ขยันเป็นมลทิน ดังที่โบราณาจารย์แต่งไว้เป็นโคลงว่า

เจ็ดวันเว้นดีดซ้อม.......ดนตรี
ห้าวันอักขระหนี...........เนิ่นช้า
สามวันจากนารี............เป็นอื่น
หนึ่งวันเว้นล้างหน้า.......หม่นไหม้ หมองศรี

เมื่อเราหมั่นภาวนาเอาไว้เสมอ เป็นการสะสมกำลังและความคล่องตัว ถึงเวลาก็สามารถใช้งานได้ทันที สมาธิที่ทรงตัวอยู่เสมอจะทำให้มีกำลังมาก ทำให้ใช้พระคาถาต่าง ๆ ได้ผลมากกว่าคนอื่น

สภาพจิตที่ยึดเกาะการภาวนาจนเคยชิน ยังให้เกิดอัปปนาสมาธิหรือที่เรียกว่า ทรงฌาน เป็นหลักประกันได้อย่างหนึ่งว่า ถ้าเราตายลงไปตอนนั้นก็จะไปสู่สุคติ ถ้าทรงฌานได้มั่นคงก็ไปเกิดเป็นพรหม ถ้าพลัดจากฌานอย่างน้อยก็ไปเกิดเป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราชิกา"

เถรี 07-04-2020 04:37

"การภาวนาจึงมีแต่กำไร ไม่มีขาดทุน เมื่อทำเองจนชินก็ไม่ต้องรอให้ผู้อื่นช่วยบอกทางเวลาใกล้ตาย ถ้าสามารถทรงสมาธิได้คล่องตัว ยังช่วยระงับทุกขเวทนาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกายได้ เมื่อจิตใจไม่ไปกังวลกับความทุกข์ทางร่างกาย ก็ช่วยให้คติของเราในเบื้องหน้ามั่นคงยิ่งขึ้น

ยิ่งถ้าท่านสามารถพิจารณาเห็นว่า การเกิดมามีร่างกายนี้มีแต่ความทุกข์ ขึ้นชื่อว่าการเกิดมามีแต่ความทุกข์เช่นนี้เราไม่ต้องการอีกแล้ว สภาพจิตก็จะปล่อยวางจากการยึดเกาะในร่างกายนี้ ถ้าปล่อยวางได้ถึงที่สุดจริง ๆ ท่านก็จะหลุดพ้นจากกองทุกข์ไปสู่พระนิพพาน

ทุกท่านจึงควรที่จะภาวนาไว้ทุกวันจนคล่องตัว ซึ่งจะบังเกิดคุณประโยชน์อย่างอเนกอนันต์ต่อท่านทั้งในโลกนี้และโลกหน้าด้วยประการฉะนี้"

เถรี 07-04-2020 12:18

"อยู่ที่ไหน ?"

หลังจากหาจนหมดความอดทน ก็ทุ่นแรงด้วยการถาม "ท่านอารักษ์" ทั้งสอง

"โน่นเลยครับ"

ชี้ไปยังที่นอนของน้องเล็ก ที่สำคัญคือเจ้าตัวยังนอนอยู่..!

"Are you sure ?"
"Of course."

เถรี 07-04-2020 12:22

สืบเนื่องมาจาก "ไอ้ตัวเล็ก" แจ้งไปว่า อาตมายังไม่ได้ส่งปั้นเหน่งกะโหลกเสือ หลวงพ่อไฉน วัดสังโฆปรีดี ไปให้ ทั้งที่อาตมาจำได้แน่นอนว่าส่งไปแล้ว แต่เรื่องแบบนี้ก็ปรากฏขึ้นบ่อย ๆ คือวัตถุมงคลบางชิ้นไม่อยากไปอยู่กับเจ้าของใหม่ มีการหนีกลับมาเสมอ

วันก่อนอาตมาจึงต้องไปค้นหาในกล่องวัตถุมงคล ซึ่งกองพะเนินอยู่ในห้อง กว่าจะหาเจอก็แทบหมดอารมณ์ เมื่อได้มาแล้วก็จัดการห่ออย่างดี แต่ยังส่งไปรษณีย์ไม่ได้ เพราะว่าปิดเนื่องในวันจักรี

มาวันนี้เมื่อบิณฑบาตและฉันเช้าเสร็จแล้ว ก็ชวนน้องเล็กออกไปไปรษณีย์ แต่..ไอ้ตัวดีหายหัวไปแล้ว..!"

อาตมาต้องไปเริ่มต้นค้นใหม่ ส่วนน้องเล็กที่ว่างงานก็นอนให้กำลังใจอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ

ค้นดูในกล่องบรรจุวัตถุมงคลทีละกล่อง พบแต่ปั้นเหน่งชิ้นอื่น ส่วนชิ้นที่ต้องการหาไม่เจอ เมื่อครบทุกกล่องก็เริ่มต้นค้นใหม่ ครบ ๒ รอบแล้วก็ยังไม่เจอ จึงต้องถามแมลงภู่คำแทน

เถรี 07-04-2020 12:25

บางท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมไม่ถามตั้งแต่แรก ? จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เรื่องของการถามพระ ถามพรหมเทวดา หรือว่าถามผีเจ้าที่ เราต้องใช้ความพยายามจนหมดความสามารถเสียก่อน ไม่เช่นนั้นอย่าหวังเลยว่าท่านจะตอบให้

ดังนั้น..ถ้าใครคิดว่าตัวเองได้มโนมยิทธิ ได้ทิพจักขุญาณแล้ว จะถามอะไรใครก็ได้ อาตมาขอบอกว่าคิดผิด ต้องระดับสิ้นทั้งกำลังกาย กำลังใจ กำลังสติปัญญา กำลังคน กำลังทรัพย์ แล้วนั่นแหละ ถึงพอที่จะสงเคราะห์ให้บ้าง..!

"แล้วแบบนี้จะฝึกทิพจักขุญาณไปทำอะไรวะ ?" อ๋อ..ปัญหานี้อาตมาสงสัยมาก่อนท่านเสียอีก ตั้งแต่เริ่มเป็นวัยรุ่นก็ฝึกเรื่องของกสิณเรื่องของอภิญญา เพราะว่าอยากมีฤทธิ์มีเดช จะได้ใช้งานให้สะใจสบายตัว ที่ไหนได้...จะใช้อะไรแต่ละอย่างต้องขอแล้วขออีก อ้อนแล้วอ้อนอีก กว่าจะได้โควต้ามาสักครั้งก็แสนยาก ใครที่กำลังฝึกเรื่องแบบนี้อยู่ ถ้าคิดว่าฝึกแล้วจะใช้ได้ทุกเรื่อง ท่านกำลังคิดผิดแล้วครับ..!"

เถรี 07-04-2020 12:31

"ลุกขึ้นหน่อย" เมื่อได้ยินแบบนี้น้องเล็กก็ทำหน้างง ๆ "ทำไมคะ ?"

"กำลังหาของอยู่" พออีกฝ่ายพลิกตัวลุกขึ้นนั่ง ก็เห็น "ไอ้แสบ" ซุกอยู่ใต้ที่นอนจริง ๆ

หลบได้สุดยอดมาก ไม่มีใครคิดหรอกว่าจะอยู่ตรงนี้ ต้องจัดการใส่ซองจ่าหน้าถึง "ไอ้ตัวเล็ก" พร้อมกับข่มขู่ไปว่า ถ้าไม่อยากเจอสองรุมหนึ่งก็อย่าได้คิดหนีอีก..!

น่าสงสารน้องเล็กที่นั่งปากอ้าตาค้างด้วยความงงจัด ยังดีที่พอมีประสบการณ์เรื่องอย่างนี้มาบ้าง ไม่อย่างนั้นแล้วคงได้ช็อกไปอีกนาน

ปั้นเหน่งกะโหลกเสือชิ้นนี้ เป็นแบบไม่มีเชือกล่าม ถึงได้ออกฤทธิ์ออกเดชมากกว่าชิ้นอื่นเขา ผู้ที่จองบูชาไปโปรดระมัดระวังด้วย ถ้าเผ่นหนีไปอีกก็ตัวใครตัวมัน ตามกันเอาเองนะครับ..!"

เถรี 07-04-2020 14:46

พระอาจารย์กล่าวว่า "กิจกรรมอย่างหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องกักกันตัวเองในช่วงไวรัส covid-๑๙ ระบาด คือการออกกำลังกาย สำหรับบุคคลที่มีวินัยและรู้จักดูแลตัวเองแล้ว นี่เป็นโอกาสทองที่เรามีเวลาในการออกกำลังกายต่อเนื่องกันอย่างยาวนาน

การออกกำลังกายทำให้ร่างกายแข็งแรง จะได้มีภูมิคุ้มกันโรค แต่การออกกำลังกายด้วยจุดมุ่งหมายอื่นก็ยังมีอยู่ เช่น เพื่อให้รูปร่าง "ฟิตแอนด์เฟิร์ม" หรือว่าเพื่อให้มีร่างกายที่แข็งแรง จะได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่"

เถรี 07-04-2020 14:50

"ในสมัยที่ยังทรงพระชนม์ชีพอยู่ สมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ของพวกเรานั้น ทรงออกกำลังพระวรกายเป็นปกติ

บรรดานายทหารและนายตำรวจติดตาม ในฐานะราชองครักษ์ ก็ต้องออกกำลังกายไปด้วย เพราะว่าต้องคอยตามอารักขา ไม่ว่าพระองค์ทรงวิ่งเป็นระยะทางไกลเท่าไร ก็ต้องวิ่งด้วยระยะทางที่ไกลเท่านั้น

ผลปรากฏว่าบรรดาราชองครักษ์เป็นลมไปตาม ๆ กัน ขณะที่องค์ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ยังทรงวิ่งตามสำนวนวัยรุ่นสมัยนี้ที่ว่า "ชิลด์มาก" อาตมามั่นใจว่าสาเหตุเป็นเพราะองค์ในหลวงรัชกาลที่ ๙ วิ่งพร้อมกับทรงอานาปานสติ คือจับลมหายใจเข้าออกไปด้วย"

เถรี 07-04-2020 14:54

"สมัยที่อยู่กองโรงเรียน อาตมาก็ซ้อมวิ่งพร้อมกับจับลมหายใจเข้าออกไปด้วย ผลก็คือเหนื่อยช้ามาก ไม่ว่าจะ ๗ กิโลเมตร หรือว่า ๑๒ กิโลเมตร ก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไร ขนาดที่เพื่อนฝูงบางคนทำท่าเหมือนปลาติดบก อ้าปากพะงาบ ๆ ทำท่าจะตายเสียให้ได้..!

การฝึกซ้อมในลักษณะนั้น ทำให้สามารถทรงสมาธิระดับสูงได้ในขณะที่วิ่ง หรือตามที่หลวงพ่อวัดท่าซุงเรียกว่า ทรงฌานใช้งาน เมื่อได้ซักซ้อมต่อเนื่องกันเป็นปี ๆ จึงทำให้มีความคล่องตัวมากเป็นพิเศษ และยังมีผลพลอยได้อื่น ๆ ตามมาอีกด้วย"

เถรี 07-04-2020 15:00

"การลงโทษทางทหารบางอย่างไม่ได้หนักหนาสาหัส แต่ทุกคนกลัวกันมาก อย่างเช่นการ "ปั่นจิ้งหรีด" หรือบางคนเรียกว่า "กินเหล้า ทบ." โดยผู้ถูกลงโทษต้องก้มเอานิ้วชี้มือขวาจิ้มพื้น ไขว้มือซ้ายข้ามแขนขวาจับหูขวาตัวเองไว้ เสร็จแล้วก็หมุนรอบตัวเองไปตามแต่ครูฝึกจะสั่งว่ากี่รอบ ปกติที่เคยโดนมาก็อยู่ที่ ๑๐๐ รอบขึ้นไป..!

ผลก็คือบางคนก็ทำได้ครบ บางคนก็ทำได้ไม่ครบ แต่ส่วนที่เหมือนกันไม่ว่าจะทำได้ครบหรือทำได้ไม่ครบก็คือ ผู้ทำเมาจนอ้วกแตก..! เข็ดหลาบไปตาม ๆ กัน แต่ไม่ใช่อาตมา..!"

เถรี 07-04-2020 15:14

"อาตมาเองไม่เคยโดนลงโทษด้วยความผิดเฉพาะตัว ส่วนมากก็โดนลงโทษร่วมกับเพื่อนฝูงที่ทำผิด ตามระเบียบของร้อยฝึกที่ว่า "มีอะไรรับผิดชอบร่วมกัน" ส่วนนี้เป็นการดีคือว่า ทุกคนจะพยายามตักเตือนกันไม่ให้ทำผิด เมื่อผิดไปแล้วต้องรับผิดชอบร่วมกัน ก็ทำให้ "ได้ใจ" กันมาก ดังนั้น..ทหารในแต่ละรุ่นจึงรักกันมาก ขนาดให้เพื่อนยืมนาฬิการาคาแพง ๆ ทีหนึ่งยี่สิบกว่าเรือนก็ยังได้..!

เมื่อจะมาโดนลงโทษด้วยการปั่นจิ้งหรีดพร้อมกับเพื่อนฝูง อาตมาก็จะกำหนดจิตนิ่งเอาไว้ในกึ่งกลางศีรษะ แล้วหมุนไปเถอะ ๑๐๐ รอบก็แล้ว ๒๐๐ รอบก็แล้ว ไม่รู้สึกเมาเสียที จนเพื่อนฝูงบางคนทนไม่ได้ ถ้าไม่ใช่นักเรียนนายสิบสุรินทร์ จันทร์ท่าจีน ก็เป็นนักเรียนนายสิบศุภชัย บานเย็น ซึ่งอยู่ใกล้เคียงที่สุด เพราะว่าความสูงไล่เลี่ยกัน ต้องจับขากระชากให้ล้ม พร้อมกับคำรามใส่หูว่า "แม่งงเอ๊ยย.. ล้มสักทีสิวะ เพื่อนฝูงจะตายห่ากันหมดแล้ว..!"

จะเห็นได้ว่าการที่เราฝึกภาวนามาก่อน ช่วยให้การกระทำอะไรก็ตามเหนื่อยน้อยลง สามารถแสดงสมรรถภาพทางร่างกายออกมาได้มาก สมัยยังอยู่ที่วัดท่าซุง อาตมาออกกำลังกายด้วยการถูศาลา ถ้ามีเวลาเหลือก็เดินจงกรมทั้งวัน เมื่อไปอยู่ที่เกาะพระฤๅษี ระยะแรกต้องอยู่คนเดียว ก็ใช้เวลาช่วงเช้ากวาดใบไม้ครึ่งเกาะ ช่วงบ่ายกวาดใบไม้ที่เหลืออีกครึ่งเกาะ"

เถรี 07-04-2020 15:17

"พอมาเป็นเจ้าอาวาสวัดทองผาภูมิ และวัดท่าขนุน จะเก็บจะกวาดอะไรก็มีแต่พระและเณรแย่งทำ จึงเหลือแค่การเดินบิณฑบาตช่วงเช้าเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนั้นป้าติ๋ม (สุภาวดี ขันธิกุล) จึงถวายจักรยานออกกำลังกายมา ๑ เครื่อง ซึ่งได้ใช้งานอย่างคุ้มค่ามาก เพราะว่าถ้าอยู่วัดอาตมาก็ปั่นจักรยานทุกวัน ผ่านไปหลายปีปั่นจนสายพานขาด พระที่วัดท่านต้องไปหาซื้อของใหม่มาใส่ให้แทนของเก่าที่ขาดไป

เมื่ออาการมาลาเรียเรื้อรังกำเริบมากขึ้น การออกกำลังกายทำให้ไม่มีกำลังไปต่อต้านอาการป่วยของโรค ก็พอดีมีโยมถวาย "กระดานมหัศจรรย์" มา ซึ่งเหมาะกับพระภิกษุสามเณรมาก เพราะว่าขึ้นไปยืนเฉย ๆ ก็สามารถยืดเส้นยืดสายได้แล้ว

ทุกวันนี้ช่วงเย็น ถ้าอยู่วัดหรืออยู่ที่บ้านเติมบุญ อาตมาก็จะยืนบนกระดานมหัศจรรย์นี้ โดยตั้งให้สูงชันที่สุด แล้วพยายามก้มลงเพื่อแตะพื้นให้ได้ ใหม่ ๆ แค่ขึ้นไปยืนก็แย่แล้ว กว่าจะแตะพื้นได้ก็ต้องพยายามยืดเส้นอยู่หลายเดือน"

เถรี 07-04-2020 15:31

1 Attachment(s)
"มาถึงปัจจุบันอายุได้ ๖๑ ปีแล้ว ที่ต้องพยายามยืดเส้นยืดสายออกกำลังอยู่ ก็เพื่อให้สภาพร่างกายสามารถใช้งานได้เต็มที่ เท่าที่คนแก่คนหนึ่งจะทำได้ แต่ความแก่ก็ไม่ปรานีใคร ทำให้แตะไม่ค่อยจะถึงพื้นเสียแล้ว แต่ก็ยังคงไม่ทิ้งการออกกำลังกาย โดยทำใจว่าได้แค่ไหนเอาแค่นั้น เป็นการวางอุเบกขาตามหลักในการปฏิบัติธรรม ยอมรับสภาพความแก่แต่โดยดี จิตใจจึงไม่ไปกังวลกับร่างกายจนต้องทุกข์เหมือนกับคนอื่นอีกหลายคน"



หมดสมรรถภาพ เหลืออยู่แค่ที่เห็น (๕ เมษายน ๒๕๖๓)

เถรี 08-04-2020 05:39

พระอาจารย์กล่าวว่า "ภาระหนักเป็นอย่างยิ่งในช่วงนี้ของเจ้าหน้าที่เว็บวัดท่าขนุน ซึ่งเกิดจากความไม่รู้ภาษา ไม่เข้าใจ ไม่อ่านกฎเกณฑ์กติกา ทำตาม "กฎกู" เท่านั้น จึงทำให้งานยืนยันตัวตนของสมาชิกใหม่ช้าลงไปมาก พอที่จะรวบรวมสาเหตุได้ดังนี้

๑. ตั้งชื่อผิดกฎ แล้วโดนลบทิ้ง โดยเฉพาะท่านทั้งหลายที่ชื่นชมในนามสกุลตัวเองอย่างสุด ๆ จนเจ้าหน้าที่รับผิดชอบอยากถามว่า "มึงจะใส่นามสกุลมาให้ผิดทำไมวะ ?"

๒. ไม่ได้สมัคร แต่ส่งเอกสารและตั้งชื่อมาพร้อม บางคนถึงกับแจ้งโอนเงินมาเลย ซึ่งการกระทำแบบนี้ทางเว็บประกาศไว้ชัดแล้วว่า จะบันทึกไปเป็นการทำบุญตามศรัทธาให้ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง

๓. ใส่ชื่อยูสเซอร์มาผิดมั่วไปหมด ต้องเอาอีเมล์ไปค้นหาถึงจะพบ โดยไม่ได้คิดว่าจะทำให้เจ้าหน้าที่ต้องช้าลงไปอีกเท่าไร"

เถรี 08-04-2020 05:44

1 Attachment(s)

"๔. หลายท่านยกชื่อคนในครอบครัวทั้งบ้านมาลงสมัครเพื่อจะเอาสิทธิ์ เช่น พ่อ แม่ ลูก พี่สาว น้องสาว พี่ชาย น้องชาย กระทั่งแม่ที่แก่มากจนไม่น่าจะเล่นอีเมล์เป็นก็มา ดังรูปข้างบน แม่นอนหลับอยู่ยังอุตส่าห์ถ่ายรูปมายืนยัน เหมือนกับว่าศพนี้ใช่แน่..!

๕. แจ้งข้อมูลเท็จโดยไม่กลัวผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ เช่น ชื่อยูสเซอร์เก่า รูปเด็กหญิงคอซอง แต่ใช้คำนำหน้าว่า "นาย" เป็นต้น

๖. คนไม่รู้จักรอ ส่งอีเมล์ซ้ำมาเรื่อย ๆ คนละอย่างน้อย ๔ - ๕ อีเมล์ บางคนส่งมาในวันเดียวกันหลายครั้งด้วยเอกสารชุดเดิม ทำให้กล่องข้อความเต็ม พอเจ้าหน้าที่เห็นอีเมล์เยอะ ๆ ก็เกิดนิพพิทาญาณอย่างแรงกล้า แล้วบรรลุสังขารุเปกขาญาณ ปล่อยวางทุกอย่าง..! คือ ขอไปทำอย่างอื่นที่น่าเบื่อน้อยกว่านี้ก่อน ทำให้เพื่อนเสียโอกาส และยิ่งช้าเข้าไปอีก"

เถรี 08-04-2020 05:46

"๗. บางคนส่งอีเมล์มาทวงแล้วทวงอีก ว่าเกิน ๗ วันแล้ว ทำไมไม่อนุมัติหรือยืนยันตัวตนเสียที ? โดยไม่ตามอ่านประกาศใด ๆ เลย ก็ยิ่งทำให้อีเมล์ประดังเข้ามาจนล้นกล่อง จนเจ้าหน้าที่บังเกิดนิพพิทาญาณที่มั่นคงขึ้นไปทุกขณะ...!

๘. มีพวกที่สมัครทิ้งเอาไว้ ไม่ได้เข้าเว็บนานหลายชาติ แจ้งมาว่าลืมยูสเซอร์เนมบ้าง ลืมพาสเวิร์ดบ้าง ต้องเสียเวลาไปค้นหา แล้วเอามาสนองกิเลสของท่าน ก็ยิ่งทำให้งานอื่นล่าช้าลงไปอีก

๙. มีพวกสมัครหลายรอบเพื่อใช้สิทธิ์โดยใช้ชื่อต่าง ๆ กันไป เช่น nufu noofu fufu @.... แต่ดันใช้ชื่อ display name เหมือนกัน เลยจับได้ว่าเป็นคนเดียวกัน แต่บัตรประชาชนที่ส่งมาคนละชื่อกัน น่าจะขอเพื่อนที่สำนักงานมาลง แสดงให้เห็นว่าเพื่อนน่ารักมาก ยอมให้ใช้บัตรประชาชนโดยไม่ได้หวาดระแวงว่าจะเอาไปทำความผิด แต่ตัวคนสมัครทำได้ทุเรศมาก..!"

เถรี 08-04-2020 05:48

๑๐. รายชื่อที่สมัครจัดเข้ามาเป็น "นอมินี" มาเยอะมาก บางบ้านก็มาทั้งครอบครัว ลูกสาวลูกชายแต่ละคนช่างเป็นอัจฉริยะเหลือเกิน ๓ ขวบ ๕ ขวบ ก็ใช้คอมพิวเตอร์เป็นแล้ว ทำเอาเจ้าหน้าที่แก่ ๆ รู้สึกอับอายขายหน้ามาก..!

๑๑. ที่ไม่รู้ว่าควรจะประทับใจหรือว่ารู้สึกทุเรศดีก็คือ สมาชิกเลขไอดีหลักร้อย เพิ่งจะส่งเอกสารมาขอยืนยันตัวตน ทั้งที่เราประกาศแจ้งไปหลายครั้งและหลายปีแล้ว ขณะนี้เรามีสมาชิกอยู่ที่ ๑๓,๕๑๗ รายนะพ่อคุณแม่คุณทั้งหลาย เพิ่งจะออกมาจากเมืองลับแลใช่ไหม ?

๑๒. มีพวกที่สติไม่ดีกว่านั้น ส่งอีเมล์ยืนยันตัวตนไปที่อีเมล์แจ้งโอนเงิน จึงละไว้ในฐานที่เข้าใจว่าส่งผิด เจ้าหน้าที่ไม่ทำรายการช่องทางนั้นให้ จนกว่าท่านจะส่งไปถูกที่

๑๓. พวกที่ไม่อ่านประกาศ กฎเกณฑ์ กติกามีเยอะมาก สมแล้วที่หลวงพ่อท่านว่า คนสมัยนี้มักง่าย แค่คนรอบข้างที่เข้าไปช่วยตอบคำถามแทนยังเกิดนิพพิทาญาณ จนท้อแทนเจ้าหน้าที่ ถึงกับออกอาการ "น้ำตาจิไหล"

เถรี 08-04-2020 05:50

"เจ้าหน้าที่ของเราประกาศว่า ในเมื่อตั้งใจแล้วว่าชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย ก็ขอตายเพื่อชาติ..! อีเมล์ที่ยังเหลืออยู่ ๒,๕๙๖ ฉบับ จะพยายามอ่านและจัดการให้ตรงความประสงค์ของท่านโดยเร็วที่สุด

ขอขอบคุณและขออนุโมทนาทุกท่านที่ไม่ดูตาม้าตาเรือ ไม่สนใจกฎเกณฑ์กติกาใด ๆ ทั้งสิ้น จนทำให้เจ้าหน้าที่บรรลุซึ่งนิพพิทาญาณและสังขารุเปกขาญาณ จนมั่นใจว่าสามารถเข้าสู่พระนิพพานได้ในชาตินี้อย่างแน่นอน สาธุ..อนุโมทามิ..!"

เถรี 08-04-2020 05:51

"คำขอร้องครั้งสุดท้ายจากเจ้าหน้าที่ก่อนจะไปพระนิพพานว่า ถึงท่านจะเรียนสูงขนาดไหนก็ตาม เก่งภาษาอังกฤษระดับสอบโทเฟลได้คะแนนเต็มก็ตาม กรุณาอย่าตั้งยูสเซอร์เนมเป็นภาษาอังกฤษ ต่อให้ตั้งเป็นภาษาไทยทับศัพท์อังกฤษก็ใช้ไม่ได้

ส่วนชื่อภาษาไทยกรุณาเอาที่เจ้าหน้าที่อ่านออกและแปลได้ นึกเสียว่ากราบเท้าขอร้องท่านก็แล้วกัน..!"

เถรี 09-04-2020 06:19

พระอาจารย์กล่าวว่า "การเก็บตัวอยู่กับบ้านเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส covid-๑๙ หลังจากจมอยู่ในโลกโซเชียลจนกระทั่งเบื่อแล้ว ก็จะมีส่วนหนึ่งหันกลับมาหาเพื่อนเก่า คือ หนังสือ ซึ่งโดนหลงลืมไปนานแล้ว

จากผลงานวิจัยระบุไว้ว่า คนไทยอ่านหนังสือเฉลี่ยแล้วคนละ ๘ บรรทัดต่อวัน แสดงว่าเอาของอาตมาไปเฉลี่ยให้กับคนที่ไม่อ่านหนังสือเยอะมาก เนื่องจากว่าอาตมาเฉลี่ยแล้วอ่านหนังสือที่มีความหนา ๓๐๐ หน้าประมาณวันละ ๑ เล่ม

ช่วงสมัครเข้าเรียนปริญญาเอก ท่านอาจารย์ผู้สอนให้คำแนะนำว่า ถ้ายังอ่านหนังสือมาไม่ถึง ๓,๐๐๐ เล่ม ยังไม่ควรที่จะมาเรียนปริญญาเอก เพราะว่าแนวความคิดยังไม่กว้างขวางครอบคลุมพอ

อาตมาเรียนถามท่านอาจารย์ว่า "ถ้าอ่านเกิน ๓,๐๐๐ เล่มไปหลายเท่าตัว สามารถรับปริญญาเอกโดยไม่ต้องเรียนได้ไหมครับ ?" ท่านอาจารย์ก็ยังคิดว่าอาตมาพูดเล่น โดยไม่รู้ว่าอาตมาอ่านหนังสือหมดห้องสมุดตั้งแต่ยังเรียนอยู่ชั้น ป.๒..!"


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:32


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว