กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกบ้านเติมบุญ ต้นเดือนธันวาคม ๒๕๖๓ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=7334)

เถรี 17-12-2020 21:12

พระอาจารย์กล่าวว่า "เหรียญหรือผ้ายันต์พญาเต่ามังกรเงินล้านเปิดโลกพลิกชีวิต ถ้าคนอ่านอักษรขอมออก จะเห็นว่ามีพระคาถาหัวใจพระเจ้า ๑๖ พระองค์ มีพระคาถาเงินล้าน มีคาถาพญาเต่าเรือน มีคาถาเมตตา นะสิวัง พรหมา ของหลวงพ่อกวย อันนี้เมตตาทางค้าขายโดยเฉพาะ

คาถาพระเจ้า ๑๖ พระองค์ นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง คราวนี้บางทีเขาเพิ่มให้อีก ๑๖ พระองค์ คือ อุมิอะมิ มะหิสุตัง สุนะพุทธัง อะ
สุนะอะ

คาถานี้ครูบาอาจารย์ทางสายหลวงพ่อเดิม หลวงพ่อกวย ท่านใช้สืบ ๆ กันมา เสกของในร้านให้ค้าขายดี ส่วนพระคาถาเงินล้าน พวกเรารู้กันอยู่แล้วว่าเป็นอย่างไร ในพระคาถาเงินล้านก็ยังมีหัวใจพญาเต่าเรือนพิทักษ์ทรัพย์ คือ นาสังสิโม อยู่ด้วย"

เถรี 17-12-2020 21:14

"บางทีญาติโยมอาจจะมองข้ามสิ่งสำคัญไปอย่างหนึ่ง ก็คือผ้ายันต์พญาเต่ามังกรเงินล้านฯ ถ้าอาตมาบอกว่าติดอยู่ในกุฏิตัวเอง ๒ ผืน โยมอาจจะตกใจ เป็นรุ่นเก่าที่ท่านพระครูปฐมสาธุวัฒน์ หรือท่านอาจารย์เทพนำไปถวายตอนวันเกิด ๖๐ ปี ๑ ผืน แล้วก็เป็นรุ่นใหม่ที่สร้างพร้อมกับเหรียญพญาเต่ามังกรเงินล้านเปิดโลกพลิกชีวิต ตั้งแต่ติดคู่กันในกุฏิ แต่ละเดือนอาตมารับเงินเป็นสิบล้าน แต่จ่ายเท่าไรไม่บอก...!

วันก่อนพระครูปลัดฟลุก (พระครูปลัดธีร์นวัช ญาณสิทฺธิวาที) ถาม "หลวงพ่อสร้างวิทยาลัยสงฆ์ ไม่เอางบรัฐเลยใช่ไหมครับ ?" บอกว่า "เอา..เอางบหลวง...พ่อ" ต้องมีวรรคหน่อย ถ้างบหลวงพ่อก็ชัดเจนเกินไป ต้อง "งบหลวง...พ่อ"

เถรี 17-12-2020 21:18

"อาตมาเองก็เอาเหรียญตัวอย่างเลี่ยมใส่เป้ ทำไมต้องใส่เป้ ? เป็นเป้ใส่โน้ตบุ๊ก ถึงเวลาไปสอนหนังสือก็ต้องสะพายไป เดินทางก็ต้องสะพายไป จึงติดเป้เอาไว้ด้วย เพราะว่าการที่พระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์จะมาสงเคราะห์โดยพร้อมเพรียงกันนั้น ตั้งแต่อาตมาเกิดมายังไม่เคยได้ยิน และไม่คิดว่าพระองค์ท่านจะเมตตาสงเคราะห์ถึงขนาดนั้น

ตอนนั้นอาตมาแค่ตั้งใจน้อมใจระลึกถึงแต่ละพระองค์ท่านด้วยความเคารพ เพราะว่าเป็นการสวดคาถาสรรเสริญพระคุณของทั้ง ๒๘ พระองค์ ปรากฏว่าท่านเสด็จมานั่งเรียงกันเป็นแถว ท้ายสุดก็กราบทูลไปว่า ถ้าเวลาปลุกเสกวัตถุมงคลอื่น ๆ ขอให้ท่านสงเคราะห์แบบนี้ได้ไหม ? ท่านบอกว่า "ได้...แต่ต้องเข้ากรรมฐานอีก ๓ วัน" เอ้า...สามวันก็สามวัน ถ้าหากว่าระดับนี้มา ต้องเข้ากรรมฐานสัก ๓๐ วันก็คุ้ม เพียงแต่อาตมาไม่มีเวลาเยอะขนาดนั้น แต่ถ้าหากว่าเป็นรับสั่ง ๓๐ วันก็เอา ดีที่พระองค์ท่านขอแค่ ๓ วัน"

เถรี 17-12-2020 21:21

"วัตถุมงคลจำนวนมาก ทั้งวัดมีเท่าไรอาตมาขนไปเข้าพิธีนี้จนหมด โดยเฉพาะพระพุทธรูปใหญ่ ๆ เล็ก ๆ อยู่ในห้องประมาณ ๑๐๐ กว่าองค์ ให้ออกในเว็บไป ๔ - ๕ องค์แล้ว ส่วนใหญ่ก็เป็นพระสำคัญ

อีกชุดหนึ่งที่อยู่ในย่ามเป็นปกติเลย เป็นพระแก้วบ้าง พระหินบ้าง พระหยกบ้าง พระอัญมณีบ้าง น่าจะหลายสิบองค์ บางคนเห็นย่ามอาตมาสงสัยว่าทำไมหนักแท้ ? เฉพาะพระพุทธรูปก็เป็นสิบแล้ว แต่เป็นองค์เล็ก ๆ เท่านิ้วมือบ้าง สองนิ้วมือบ้าง เป็นงาช้างบ้าง เป็นแก้วบุษยรัตน์บ้าง เอาไว้ผลิตสตางค์ไม่ทันแล้วจะเอาออกมาจำหน่าย ตราบใดที่ยังทัน ต้องเก็บเอาไว้ก่อน ไม่รู้ว่าโอกาสที่ท่านจะสงเคราะห์แบบนี้จะมีแบบนี้อีกไหม ?

สมัยพ่อ สมัยปู่ ก็คือหลวงพ่อฤๅษีฯ หลวงปู่ปาน บารมีท่านสูง พระพุทธเจ้าเสด็จมาสงเคราะห์ ๑ องค์ ๒ องค์ ๓ องค์ ๔ องค์ ๕ องค์ บารมีส่วนตัวของท่านก็เหลือเฟืออยู่แล้ว มาน้อยก็เท่ากับท่านมีมาก ของเรารุ่นลูกบารมีไม่มี ถึงขนาดต้องเข็นเอาสมเด็จปู่มาช่วยตั้ง ๒๘ พระองค์"

เถรี 17-12-2020 21:26

พระอาจารย์ท่องโคลงนิราศนรินทร์ให้ฟัง

"เรืองเรืองไตรรัตน์พ้น..............พันแสง
รินรสพระธรรมแสดง................ค่ำเช้า
เจดีย์ระดะแซง......................เสียดยอด
ยลยิ่งแสงแก้วเก้า..................แก่นหล้าหลากสวรรค์

โบสถ์ระเบียงมรฑปพื้น.............ไพหาร
ธรรมาสน์ศาลาลาน.................พระแผ้ว
หอไตรระฆังขาน....................ภายค่ำ
ไขประทีปโคมแก้ว................ก่ำฟ้าเฟือนจันทร์

พูดง่าย ๆ คือจุดประทีปโคมไฟสว่างจนกลบแสงจันทร์เพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำไปเลย ก่ำฟ้าเฟือนจันทร์ คือ สว่างรุ่งโรจน์ไปทั้งฟ้าจนปิดบังพระจันทร์ไปเลย

บอกไม่ถูกว่าทำไมจึงจำได้ แต่จำได้หมดเลย เรียนตั้งแต่ ป. ๑ ยันปริญญาเอก ยังไม่ลืมเลย ท่องบาลีแข่งกับเด็กรุ่นใหม่ "โอ้โห...หลวงพ่อเรียนมานานขนาดนั้นยังจำได้หรือ ?" จำได้...ไม่เคยลืม ครูบาอาจารย์สอนให้ลืมอย่างเดียว คือลืมสร้างความชั่ว แล้วพยายามทำแต่ความดี"

เถรี 17-12-2020 21:27

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันพ่อ...ทำตามที่พ่อสอนบ้างนะ อย่าเอาแต่บูชาพ่อเป็นสมมติเทพ...เสียของ ทำตามพระองค์ท่านสอน ก็ยังได้อย่างพระองค์ท่านบ้าง ไปบูชาแค่ความดีของพระองค์ท่าน ถือว่าได้น้อยจนเกินไป"

เถรี 17-12-2020 21:32

พระอาจารย์กล่าวว่า "ถ้าอาตมาเป็นโยม จะบูชาวัตถุมงคลราคาถูก ๆ แล้วไปภาวนาคาถามหาสะท้อน ก็จะมีอานุภาพเหมือนกัน ส่วนใหญ่แล้วพวกเราไม่ค่อยมั่นใจกัน โดยเฉพาะเรื่องของวัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง คาถาอาคม ต้องซักซ้อมบ่อย ๆ ไม่อย่างนั้นแล้วก็จะกลายเป็น "มนต์ไม่ท่องบ่นเป็นมลทิน" ขาดความคล่องตัวยามใช้งาน ในเมื่อไม่ได้ซักไม่ได้ซ้อม ขาดความมั่นใจ ถึงเวลาตอบโต้ไม่ทัน แก้ไขไม่ทัน ถึงแก้ไขได้ตอบโต้ได้ ก็ขาดความมั่นใจ ทำให้ได้ผลน้อยอีก

ในการฝึกฝนปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นขั้นต้น ขั้นกลาง ขั้นปลาย สิ่งสำคัญก็คือซักซ้อมบ่อย ๆ ตรงนี้ก็คือตัววิมังสา ทบทวนอยู่เสมอ ๆ ถึงจะประสบความสำเร็จ ไม่ใช่ว่าอยู่เฉย ๆ แล้วพระคาถาจะมีผล ต้องทำแล้วทำอีก ย้ำแล้วย้ำอีก เห็นว่ามีจุดบกพร่องตรงไหน ก็แก้ไขไปเรื่อยจนสมบูรณ์พร้อม ทำไมบางคนทำพระคาถาเงินล้านขึ้น ร่ำรวยนักหนา ? เราทำแต่ทำไมได้เล็กได้น้อยเท่านั้น ? ก็จะต้องมีข้อบกพร่องที่เราจำเป็นต้องเสาะหามาและแก้ไข คราวนี้พวกเราภาวนาก็ขี้เกียจ ซักซ้อมก็ไม่เอา ประสบความสำเร็จได้ก็ประหลาดแล้ว

อสชฺฌาย มลา มนฺตา มนต์ไม่ท่อง บ่นเป็นมลทิน มาจากอังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต"

เถรี 19-12-2020 06:08

พระอาจารย์กล่าวว่า "พวกเราอยู่ในภพภูมิมนุษย์ เนื้อตัวก็จะประมาณนี้แหละ คราวนี้ในส่วนของโอปปาติกะ เทวดา นางฟ้า พรหม ถ้าหากว่ารูปร่างผิวกายเนื้อตัวใกล้เคียงมนุษย์ แปลว่าบุญน้อยมาก แต่ขนาดบุญน้อยมากของเขา ถ้าเราเอาไปประกวดนางงามจักรวาลคาดว่าคงได้มงกุฎทุกคน

ตอนแรกอาตมาก็สงสัยว่า ผีหักคอเราได้อย่างไร ? แต่ปรากฏว่าหลังจากตีกับผี ตีกับเทวดาอยู่ ๓ ปี ก็เพิ่งจะรู้ว่า จริง ๆ แล้วเนื้อตัวเขาเหมือนกับเรานี่แหละ เราจับเขาก็เป็นเนื้อ ๆ เหมือนกัน มีความรู้สึกเหมือนกัน แต่ถ้าตั้งใจมองก็จะมองทะลุได้ ที่สามารถรักษาเนื้อรักษาตัวมาจนบวชได้นี่ สาเหตุหนึ่งก็คือไปเห็นนางฟ้าเสียก่อน เพราะว่าไม่มีใครงามเกินนั้นแล้ว ...(หัวเราะ)... เลยหมดความสนใจมนุษย์..!

คราวนี้พอมีการทุบถองเตะถีบกันอยู่ ๓ ปี ถึงได้เข้าใจว่าทำไมผีถึงหักคอเราได้ คือสามารถสัมผัสเขาเหมือนกับพวกเรานี่แหละ เนื้อตัวเหมือนกัน เพียงแต่ว่าถ้าเขาไม่ทำเป็นกายหยาบขึ้นมา เราก็ได้แค่เห็นเฉย ๆ สัมผัสไม่ได้"

เถรี 19-12-2020 06:10

"ที่เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง เพราะว่าเมื่อเช้ามืด มีนางฟ้ามาอวยพรวันพ่อ ...(หัวเราะ)... เพิ่งนึกได้ว่าเรามีลูกสาวที่ตายไปแล้วเหมือนกัน คราวนี้พอเขากอดแขนกอดขา ก็ลักษณะเหมือนอย่างกับเนื้อตัวของคน เพียงแต่ว่าสัมผัสต่างกัน ของเขาเหมือนอย่างกับอะไรบอกไม่ถูก เหมือนอย่างกับโดนสำลีหรืออะไรที่มีความอุ่นเหมือนกับเนื้อมนุษย์

ก็เลยไม่แปลกใจว่าทำไมนางมณีเมขลาอุ้มเอาพระมหาชนกไปส่ง พระมหาชนกไม่ใช่ว่าว่ายน้ำมา ๗ วัน ๗ คืนหมดสภาพสลบไสลนะ แต่เนื่องจากว่าโดนสัมผัสเป็นทิพย์ รู้สึกสบายมากก็เลยหลับ ดังนั้น..ในส่วนของความเป็นทิพย์ สัมผัสเขาละเอียดกว่าเรามาก ถ้าหากว่าใครมีโอกาสได้เจอ ลอง ๆ ขอจับเนื้อตัวเทวดานางฟ้าเขาดู อาตมาอธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก รู้แต่ว่าถ้าตั้งใจมอง จะมองทะลุไปเห็นของข้างหลังได้

แต่ก็ยังดีว่าคนตายที่ทรงความดีได้ อย่างน้อยเขาก็ยังอยู่ในภพภูมิที่ดี มีโอกาสต่อบุญของตนเอง โดยเฉพาะการโมทนาในกองบุญการกุศลที่พวกเราทั้งหลายได้ทำกัน แล้วท่านทั้งหลายเหล่านี้ก็ยังมี รัก โลภ โกรธ หลง เหมือน ๆ กับพวกเรา ยังเห็นคนที่รัก คนที่รู้จักมักคุ้นมีความลำบาก มีความเดือดร้อน ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือ แต่ส่วนใหญ่แล้วพวกเราไม่รู้ว่ามีท่านทั้งหลายเหล่านี้อยู่ ก็เลยไม่ได้ขอความช่วยเหลือ

แล้วท่านทั้งหลายเหล่านี้ถ้าหากว่าช่วยเหลือนี่เขามีกฎเกณฑ์ มีกำหนดของเขาอยู่นะ ขอในเรื่องที่ไม่สำคัญนี่ซวยไม่รู้จบเลยจริง ๆ เสียโควต้าไปเลย ก็แบบเดียวกับคนที่เอาพระกริ่งสะท้านไตรภพไป แล้วขอดูอานุภาพ ก็มีฟ้าร้องฟ้าผ่าจริง ๆ แต่ก็เสียของไปเลย แทนที่จะขอในสิ่งที่มีสาระแก่นสารมากกว่านั้น ...(หัวเราะ)..."

เถรี 19-12-2020 06:10

พระอาจารย์กล่าวกับโยมที่ใส่หมวกมาทำบุญ "รุ่นของอาตมาถ้าหากว่าใส่หมวกเข้าวัด ใส่หมวกเข้าสถานที่สำคัญ ผู้ใหญ่เขาจะดุว่า "เดี๋ยวเกิดใหม่ก็ได้หัวล้านหรอก..!" เพราะว่าโดยมารยาทโบราณแล้ว ถึงเวลาเข้าไปหาพระหรือเข้าไปในสถานที่ควรเคารพ เราต้องถอดหมวก ถอดรองเท้า ลดร่ม ถ้าหากว่าเป็นพระก็ให้ห่มเฉวียงบ่า คราวนี้จะว่าอย่างไรได้ รุ่นหลัง ๆ นี่ไม่ค่อยจะรู้เรื่องกันเลย"

ทะเล 21-12-2020 06:35

พระอาจารย์พูดกับโยมเป็นภาษาแต้จิ๋ว พูดได้หลายภาษานี่ได้เปรียบ วันก่อนไปเติมแก๊สที่ปั๊ม เด็กปั๊มเขาคุยกันเป็นภาษาพม่า ถึงเวลาแก๊สตัด อาตมาก็เลยบอกราคาเป็นภาษาพม่ากับเขา จ่ายเงินเสร็จแล้วมีการแถมน้ำให้ด้วย เขาเห็นอาตมาพูดพม่าได้ ก็เลยแถมน้ำให้เยอะกว่าปกติ

ปกติแล้วเติมแก๊ส ๑๐๐ บาทเขาจะให้น้ำ ๑ ขวด คราวนี้เติมไป ๓๐๐ กว่าบาทเขาให้มา ๕ ขวด แสดงว่าการพูดภาษาเขาได้ ก็ได้เปรียบนะ แต่อาตมาไม่ได้ใช้ภาษาพม่านานแล้ว ชักจะลืมไปเยอะ

ทะเล 21-12-2020 14:20

พระอาจารย์เล่าว่า "ท่านมหากว้างกลับมาจากบ้านหนองบัว ประเทศพม่า เพื่อที่จะมารับประกาศนียบัตรเปรียญธรรม ๓ ประโยค ตอนนี้โดนกักตัวอยู่ที่วัดท่าขนุนเพื่อป้องกันโควิด ท่านติดต่อมาบอกว่า "หลวงพ่อ...ผมขอกักตัวที่ท่าขนุนก่อน ถ้าเข้านครปฐมเลย เดี๋ยวเขาจะแตกตื่นกันหมด" ก็เลยบอกให้รีบมา จะได้กักตัว ๑๔ วัน แต่จริง ๆ แล้ว เป็นหรือไม่เป็นโควิดนี่ ๑๐ วันก็รู้เรื่องแล้ว

ท่านมหากว้างอยู่บ้านหนองบัว ภาษาพม่าเรียกบ้านกะลอหยั่ว แปลว่าบ้านตีเกราะ ถึงเวลามีอะไรก็เคาะเกราะป๊อก ๆ ๆ เรียกกัน คำว่า "กะลอ" ในภาษาพม่า ทางอีสานเราเรียก "ข่อล้อ" เด็กรุ่นหลังทันเห็นข่อล้อไหม ? ภาคกลางนี่ผู้ใหญ่ลีตีกลองประชุมใช่ไหม ? แต่ทางด้านเหนือด้านอีสานนี่ตีข่อล้อ เป็นไม้ท่อนใหญ่ ๆ แล้วคว้านข้างในให้กลวง ถึงเวลาเอาไม้เคาะ เสียงจะดังก้องไปไกล

จะว่าไปแล้วบ้านกะลอน่าจะอยู่เขตเมืองไจ๊มะยอ แต่ปรากฏว่าดันไปขึ้นกับเขตเมืองจะอีน"

ทะเล 21-12-2020 14:21

"บ้านหนองบัวเป็นไทยเดิม ที่โดนกวาดต้อนไปในสมัยที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชโดนจับเป็นตัวประกัน เป็นบ้านเดียวที่ยังสามารถพูดไทยได้ คนที่เขียนไทยได้เหลืออยู่คนเดียว คือลุงทองแดง แต่ตอนนี้เพิ่งจะเสียชีวิตไปไม่นาน

ส่วนบ้านอื่น ๆ ที่อาตมาไป อย่างแถวปะโก หรือที่คนไทยเรียกพะโค หรือหงสาวดี แถวนั้นชื่อ ชานหยั่วจี แปลว่าบ้านใหญ่ชาวสยาม เนื่องจากว่าพม่าออกเสียงคำว่า 'สยาม' ไม่ได้ ออกเสียงเป็น 'ชาน' แทน ชานหรือฉาน รัฐฉานของพม่าก็คือรัฐสยาม คนไทยไปที่นั่นก็โดนเรียกว่า อูชาน คือ ไอ้คนไทย คนแถวนั้นพูดไทยไม่ได้แล้ว เพราะว่าอยู่ในที่เจริญ ภาษาไทยโดนกลืนไปหมด แต่ว่าทุกคนยังรู้ว่าตัวเองเป็นไทยอยู่

วิถีชีวิตต่าง ๆ ก็เหมือนกับคนไทย ทำนา ทำไร่ เลี้ยงวัว ถึงเวลาก็ใช้วัวไถนา ใช้วัวนวดข้าว ผูกวัวไว้กับแกนหลัก ๔-๕ ตัว เอารวงข้าววางไว้ แล้วก็ต้อนวัวให้เหยียบ เมล็ดข้าวก็จะหลุด ถึงเวลาก็ฝัดข้าวเปลือก เก็บเข้ายุ้ง

เหตุที่บ้านกะลอหรือว่าบ้านหนองบัวในภาษาไทย สามารถรักษาภาษาเอาไว้ได้ ก็เพราะว่าเป็นเกาะ มีแม่น้ำ ๒ สายอ้อมผ่าน แม่น้ำอัตทรานกับแม่น้ำสองแคว ก็เลยกลายเป็นล้อมเกาะอยู่ บริเวณนั้นจึงเป็นเมืองสองแคว ภาษาพม่าเรียกว่า ชองน่ะคัวะ ชองก็คือลำห้วย ลำธาร แม่น้ำ"

ทะเล 21-12-2020 14:27

ถาม : มาขอพรขอให้ขายที่ดินแม่ให้ได้ค่ะ ?
ตอบ : ขายถูกหน่อยสิ ...(หัวเราะ)... ไปกราบหลวงพ่อกวย ที่วัดบ้านแค สรรคบุรี รู้จักไหม ? วัดโฆสิตาราม ขอท่านว่าขอให้ขายที่ตรงนี้ได้ แล้วจะทำบุญใหญ่อะไรให้ท่านก็ว่าไป

ทะเล 21-12-2020 14:45

โยมมาทำบุญแล้วมัวแต่กราบพระอาจารย์ ทำให้ด้านหลังไม่สามารถทำบุญต่อได้ "ทำบุญแล้วให้ไปเลือกที่นั่งรอ แล้วไปกราบข้างนอกก็ได้ ถ้ามัวแต่ช้าอยู่เดี๋ยวหมดเวลา คนข้างหลังก็ไม่ต้องได้ทำบุญกัน แต่เอาที่สบายใจเถอะ ถ้าข้างหลังเขาหมดเวลาก็ตัวใครตัวมันนะ..!

ถ้าหากว่าเรายังสร้างบารมีมาน้อย เราจะติดอยู่ในกรอบ ไปไหนไม่รอด แม้แต่พระนิพพานก็เป็นการคิดนอกกรอบ ไปนอกกรอบ ถึงจะหลุดจากวัฏสงสารได้ พวกเราส่วนใหญ่แล้วไปยึดในกรอบเสียจนกระทั่งปรับเปลี่ยนไม่เป็น ในเมื่อพลิกแพลงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตรงหน้าไม่ได้ ก็ติดอยู่แค่นั้นแหละ

ฟังแล้วงง ๆ ไหม ? กรอบของสมัยก่อนเขาก็คือ ตายแล้วเกิด กับตายแล้วสูญ แต่พระพุทธเจ้าท่านคิดนอกกรอบ ก็คือในเมื่อมี เกิด แก่ เจ็บ ตาย ก็ต้องมี ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย ในเมื่อพระองค์ท่านคิดนอกกรอบ ถึงได้ค้นพบพระนิพพาน เพราะฉะนั้น...คำว่า Think outside the box ของฝรั่งนั่นมาทีหลังสองพันกว่าปี พระพุทธเจ้าท่านคิดมาก่อนนานมาก"

ทะเล 21-12-2020 14:53

"แต่ว่าอยู่ในกรอบไปก่อนก็ดี ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวก็แหกกรอบไปชูสามนิ้วโดยที่ไม่รู้ว่ากรอบคืออะไรก็ยุ่งอีก ...(หัวเราะ)... ดู ๆ แล้วย้อนแย้งกันมาก ต้องการประชาธิปไตย...แต่ใช้กำลังลักษณะเผด็จการ ไม่ต้องการใส่ชุดนักเรียน...แต่ใส่ชุดนักเรียนไปประท้วง ? อาตมาดูแล้วก็คิดว่าเจ้าพวกนี้น่าจะสับสนในชีวิต..! แล้วก็บรรดาแครอต...รู้จักไหม ? พระเณรที่ไปประท้วง เพราะว่ารับไม่ได้กับคณะสงฆ์ แล้วใครบังคับให้คุณอยู่ ? ก็สึกไปสิวะ..!

ดู ๆ แล้วก็เหมือนอย่างกับเขาตั้งใจให้บ้านเมืองปั่นป่วนวุ่นวายเฉย ๆ แล้วก็ทำให้เศรษฐกิจพังบรรลัยกันหมด อาตมาเป็นคนนอก มอง ๆ แล้วก็ปลง อนิจจา วะตะ สังขารา คือเรื่องไม่มีก็พยายามเอาให้มี

ถ้าตั้งใจอยู่อย่างเดียวว่า รัฐบาลไม่ดี มีการคอรัปชั่นมาก การตัดสินคดีความต่าง ๆ เป็นสองมาตรฐาน ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราไหนก็ว่าไปโดยเฉพาะ ถ้าอย่างนี้สำเร็จไปนานแล้ว แต่โน่น..ออกทะเลไปถึงขนาดล้มล้างสถาบัน แหกกรอบ ไม่อยู่ในกรอบของการเรียน โดยเฉพาะการใช้ภาษาที่หยาบคายจนคนรุ่นอาตมาทนฟังไม่ได้ ก็เลยทำให้คนไม่เกิดอารมณ์ร่วมด้วย โดยเฉพาะอย่างเมื่อวานวันที่ ๕ ธันวาคม มีแต่คนระลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ ๙ แล้วจะมาล้มล้างสถาบัน..! เวลาก็ไม่ใช่ สถานที่ก็ไม่ใช่ ทำได้สำเร็จก็ประหลาดแล้ว..!

เสียดายว่าเป็นพระแล้วเข้ากับพวกไหนไม่ได้ แต่เป็นพระก็ดีอยู่อย่างคือด่าได้ทุกพวก..! เพียงแต่ว่าอย่าไปชูสามนิ้วนะ..!

อะไรที่ตัวเองทำย้อนแย้งกัน ต้องบอกว่านอกตรรกะไปมากเกิน ก็ทำให้คนทั่ว ๆ ไปที่เขาคิดด้วยตรรกะปกติตามไม่ไหว คือหลุดกรอบ ไม่ใช่นอกกรอบ เหมือนอย่างกับรถหลุดโค้ง คำว่านอกกรอบนี่ก็คงประมาณว่าไม่ได้แล่นไปบนถนน แต่ไปตามทางเท้า ก็ยังพอมีที่ให้ไป แต่หลุดกรอบนี่หลุดโค้ง แหกโค้งเมื่อไรก็มีข้างทางเป็นที่ไป หรือไม่ก็ถนนฝั่งตรงข้ามโน่นเลย..!"

ทะเล 22-12-2020 00:02

พระอาจารย์ให้พรแล้วจึงกล่าวว่า "ชะยะ คือ ชัยชนะ สิทธิ คือ สำเร็จ ธะนัง คือ ทรัพย์สมบัติ ลาภัง คือ ลาภผล โสตถิ คือ ความสวัสดีมงคล ภาคะยัง พึงมีส่วน ก็คือให้มีส่วนของความสวัสดี มีชัยชนะ มีความสำเร็จ มีทรัพย์สินเงินทอง มีลาภผลไหลมาเทมา คราวนี้พวกเราแปลภาษาบาลีไม่ออก ฟังพระสวดก็เลยฟังขลัง ๆ ไปเท่านั้น...ใช่ไหม ? แต่ว่าไม่เป็นไร ฟังแค่ขลังก็ยังดี ขอให้เลื่อมใสคุณพระรัตนตรัยจริง ๆ เท่านั้นแหละ

ความจริงก็ยังมี สุขัง ความสุข พะลัง ความแข็งแรง สิริ มิ่งขวัญ ถามว่ามิ่งขวัญมีความสำคัญตรงไหน ? คนที่ขวัญหาย ก็คือคนที่กึ่ง ๆ ปัญญาอ่อน ขาดสติ เพราะฉะนั้น...คำว่ามิ่งขวัญจึงสำคัญมาก อายุ ก็คืออายุของเรา ให้อายุยืน วัณโณ เป็นผู้มีชาติตระกูล วรรณะตัวนี้ไม่ใช่ผิวพรรณ วรรณะในที่นี้หมายถึงชาติตระกูล โดยเฉพาะตระกูลสูง กษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์ ลงไปถึงศูทร โภคัง โภคทรัพย์ ก็คือข้าวของ เครื่องกินเครื่องใช้ แยกให้ออกนะ ธนะ คือ ทรัพย์สมบัติ โภคะ คือ เครื่องกินเครื่องใช้

วุฑฒี จะ ยะสะวา ขอให้เป็นผู้เจริญด้วยยศ สะตะวัสสา จะ อายุ ให้มีอายุยืน ๑๐๐ ฤดูฝน เห็นสาธุกันทุกคนนี่ห้ามตายก่อนนะ..! ชีวะสิทธี ภะวันตุ เต ขอความสำเร็จทั้งหลายเหล่านี้จงมีแก่ท่าน


พวกเราก็สาธุ...ฟังไม่รู้เรื่อง ขอรับไว้ก่อน กว่าจะรู้ตัวก็อายุยืนถึง ๑๐๐ ปีนี่แย่ไปเลยนะ..! โบราณเขาบอกว่า ต้องตะบันน้ำกิน คำว่าตะบันก็คือเอาใส่ครกตำ ขนาดน้ำยังต้องตำก่อนถึงจะกินได้ นึกเอาก็แล้วกันว่าแย่แค่ไหน..!

ภาคอีสานสมัยก่อนนี้มีนะ..ที่ต้องตำน้ำกิน เอาขี้โคลนมาใส่ครกแล้วก็ตำไปเรื่อย เนื้อขี้โคลนเนื้อดินโดนแรงกระแทกอัดเข้า ๆ ก็จับตัวแน่นขึ้น ๆ น้ำก็จะล้นออกมา จากโคลนก็กลายเป็นน้ำให้กินได้ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เป็นดิน เพียงแต่ว่าน้ำที่ได้จะมีกลิ่นโคลนอยู่ กลิ่นโคลนอย่างเดียวไม่พอ อาจจะมีสาบควายอีกต่างหาก..!"

ทะเล 22-12-2020 00:13

พระอาจารย์กล่าวว่า "ต้องใช้คำว่า 'ถ้า' นะ ถ้าหาทองได้พอ อาตมาก็จะสร้างพระทองคำอีก ๑ องค์ ถ้าไม่พอไม่สร้าง จะเก็บไว้แต่งเมียแทน..! มาแต่งตอนอายุ ๖๐ กว่าปี คงได้แต่ไปนั่งมองหน้ากัน จะแต่งไปทำอะไรวะ..?!

อาตมาเป็นคนโชคดี อายุ ๓๐ กว่าปีก็หมดสภาพ ไม่นึกอยากแต่งงานแล้ว จะว่าโชคดีก็ไม่ใช่ แต่เป็นเพราะว่าทุ่มเทกับการฝึกกรรมฐานมาตั้งแต่เด็กเป็นเวลา ๑๑ ปีเต็ม ๆ จากนั้นเข้าไปบวชเป็นพระ ก็อีก ๔ ปีกว่า แล้วก็ไปได้เคล็ดลับของพระรัฐบาลเถระเกี่ยวกับเพศตรงข้าม ว่าทำอย่างไรถึงจะอยู่ในพรหมจรรย์ คือชีวิตนักบวชได้

ได้เคล็ดลับตรงนั้นก็หมดความสนใจในเพศตรงข้าม อยู่ยาวมาเลย ถ้าอยากรู้เคล็ดลับให้ไปศึกษาประวัติพระรัฐบาลเถระในอสีติมหาสาวก ถ้าไม่รู้จะดูที่ไหนก็เปิดพระไตรปิฎก เอตทัคคปาลิ อยู่ในขุททกนิกาย พระรัฐบาลเถระเป็นผู้เลิศในการบวชด้วยศรัทธา ไปศึกษาชีวิตท่านดู ว่าท่านมีความเห็นเกี่ยวกับมาตุคาม คือผู้หญิงอย่างไร ? ถ้าบอกไปแล้วพวกเราจะไม่ไปค้นคว้า ต้องปล่อยให้ไปค้นหากันเองบ้าง"

ทะเล 22-12-2020 00:13

พระอาจารย์กล่าวว่า "คนเราส่วนใหญ่มีความประมาทเป็นปกติ ความประมาทเกิดจากการขาดสติ การที่ขาดสติเพราะว่าสมาธิไม่ทรงตัว เพราะฉะนั้น...ก็เหลืออยู่แค่ว่าทำอย่างไรสมาธิจึงจะทรงตัวได้ ? อันดับแรก...ต้องทบทวนศีลให้บริสุทธิ์ หลังจากนั้นก็ตั้งหน้าตั้งตาฝึกซ้อม จะเบื่อจะหน่ายไม่ได้ แบบที่อาตมาเคยเล่าไว้ใน 'อดีตที่ผ่านพ้น' ว่าแค่ปฐมฌานอย่างเดียว อาตมาฝึกอยู่ ๓ ปี เป็นพวกเรา ๓ วันไม่ได้ ก็เลิกกันหมดแล้ว...ใช่ไหม ?

ที่ฝึกอยู่ ๓ ปีเพราะไม่เข้าใจว่าปฐมฌานหน้าตาเป็นอย่างไร ? พอเข้าใจแล้วบอกคนอื่นให้ฝึกได้ภายใน ๓ วินาที ! เพียงแต่ว่าฝึกได้แล้วรักษาไว้ได้ไหม ?..นั่นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะฉะนั้น...ส่วนใหญ่พวกเราพอขาดศีล สมาธิไม่ทรงตัว สติไม่มี จึงประมาทไปเรื่อย"

ทะเล 22-12-2020 00:45

พระอาจารย์พูดกับโยมผู้สูงอายุ "อิจฉาคุณยาย อายุป่านนี้แล้วยังเดินตัวปลิวเลย อาตมาอายุ ๖๑ ปี จะขึ้น ๖๒ ในอีกไม่กี่วัน ไม่ใช่สิ...ขึ้น ๖๒ ปีมาจะหกเดือนแล้ว แต่เลข พ.ศ.ยังไม่ได้ อายุแค่นี้ก็จะไปไม่รอดแล้ว ส่วนโยมเดินตัวปลิวเลย..!

คนทำปาณาติบาตไว้น้อย ถึงเวลาอายุยืน ร่างกายแข็งแรง แต่คราวนี้คนอายุยืน ร่างกายแข็งแรงก็ต้องสร้างคุณงามความดี ไม่ใช่ร่างกายแข็งแรงแล้วเอาไว้ทำชั่ว ละเมิดศีลละเมิดธรรม ถ้าอย่างนั้นโลกก็วุ่นวายหมด"

ทะเล 22-12-2020 00:45

พระอาจารย์กล่าวว่า "เป็นเรื่องธรรมดา ร่างกายของเราก้าวเข้าไปหาความเสื่อมอยู่ตลอดเวลา ไฟธาตุมีทั้งกระตุ้นร่างกายให้เจริญเติบโต และเผาผลาญร่างกายให้ทรุดโทรมลง ฝรั่งเขาเพิ่งจะค้นเจอไม่นานนี้เอง ว่าออกซิเจนที่เราหายใจเข้าไป ไปเผาผลาญทำลายเซลล์ไปส่วนหนึ่ง แต่พระพุทธเจ้าบอกเอาไว้สองพันกว่าปีมาแล้ว..!

ยิ่งศึกษาไปจะยิ่งเห็นอัจฉริยภาพของพระองค์ท่าน คราวนี้อัจฉริยภาพตรงนั้นส่วนหนึ่งก็คือ สิ่งที่เป็นเรื่องของโลกที่พระองค์ท่านไม่สอน เพียงแต่ว่ามีปะปนอยู่ในหลักธรรมของพระองค์ท่าน ถ้าเราอ่านเจอแล้วจะทึ่งมาก

อย่างในอินทกสูตร กล่าวถึงการกำเนิดชีวิตของมนุษย์ ตั้งแต่เป็นจุดปฏิสนธิ์เล็ก ๆ ในท้องแม่ ท่านบอกว่าเล็กเท่าปลายขนจามรีจุ่มน้ำมันแล้วดีด ๑๖ ครั้ง จากนั้นจิ้มลงบนผ้าขาว จุดใหญ่แค่ไหนก็แค่นั้นแหละ แล้วหลังจากนั้น...พอโดนไฟธาตุของแม่เคี่ยวเข้าก็ค่อย ๆ เจริญเติบโตขึ้น ตอนแรกก็ขยายเซลล์กลายเป็นกลละ เป็นอัพพุทะ เป็นเปสิ เป็นฆนะ ก็คือมีลักษณะเป็นก้อนเลือด แล้วก็มีปัญจสาขา หนึ่งศีรษะ สองขา สองแขน แต่ละ ๗ วันมีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง พระองค์ท่านบอกไว้หมด เพราะว่ามียักษ์อยู่ตนหนึ่งชื่ออินทกะ น่าจะเป็นบริวารของท่านท้าวเวสสุวรรณ ไปสอบถาม พระองค์ท่านจึงตรัสให้ฟัง

ทุกวันนี้เขาก็งงว่าสมัยโน้นเอากล้องที่ไหนมาส่อง เขาลืมไปว่าพระพุทธเจ้านอกจากมีทิพจักขุญาณแล้ว ยังมีสมันตจักษุ คือดวงตาแห่งปัญญาอันรู้รอบไปทุกสิ่ง เพียงแต่ว่าสิ่งที่พระองค์ท่านนำมาสอนเรานั้นคือใบไม้ในกำมือ ใบไม้ทั้งป่าทำให้คนเข้าถึงธรรมช้า ต้องเวียนว่ายตายเกิดนาน พระองค์ท่านจึงไม่สอน

มาระยะหลัง ท่านทั้งหลายที่มีวิสัยพระโพธิสัตว์ มาสอนในเรื่องของพระโพธิสัตว์ จึงกลายเป็นสายมหายานขึ้นมา ซึ่งแต่แรกแล้วพระพุทธเจ้าของเราไม่ได้สอนเรื่องเหล่านี้ ก็เพราะว่าสายพระโพธิสัตว์ต้องเวียนว่ายตายเกิด เพื่อสร้างบารมีนับกัปไม่ถ้วน พระองค์ท่านไม่ปรารถนาให้ทุกคนต้องข้องอยู่กับธรรมอันเนิ่นช้า คำว่าข้องก็คือติดอยู่ ในเมื่อไปติดอยู่ก็ทำให้ช้า ยิ่งไปถึงพระนิพพานช้าเท่าไร ก็ยิ่งมีความทุกข์มากเท่านั้น เพราะว่าต้องเกิดต้องทุกข์ไปเรื่อย

แต่พอคนที่มีวิสัยของพระโพธิญาณมา ได้ศึกษาความเป็นพระโพธิสัตว์ แล้วนำเอาหลักธรรมคำสอนนี้มาบอกกล่าว จนปรากฏชัดเจนในสมัยของท่านนาคารชุน ทำให้สายมหายานเจริญรุ่งเรืองขึ้นมา"

ทะเล 22-12-2020 11:46

พระอาจารย์กล่าวว่า "ท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณเป็นหัวหน้าของท้าวมหาราชทั้ง ๔ พระองค์ พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าเจตจำนงของท่านว่าอย่างไร อีก ๓ องค์ก็จะตามด้วย ถ้าอีก ๓ องค์ตามด้วยก็แปลว่า บริวารทั้งหมดของท่านที่มากมายจนนับได้ไม่ถ้วนก็ตามอีก คราวนี้ท่านมีเจตจำนงว่า บุคคลใดก็ตาม ถ้าหากว่าตั้งใจปฏิบัติเพื่อความเป็นพระโสดาบัน ท่านจะตามคุ้มครองตลอดชีวิต แต่ต้องตั้งใจทำจริง ๆ นะ ไม่ใช่ประเภทว่าตั้งใจเล่น ๆ !

ตอนสร้างเหรียญรอยพระพุทธบาทวัดท่าขนุน ได้เอารูปของท่านลงไว้ด้านหลังของเหรียญ ท่านก็มาเสกให้เอง แล้วหลังจากนั้นก็มีโอกาสได้เสกวัตถุมงคลอีกหลายรุ่นที่เป็นรูปของท่าน โดยเฉพาะรุ่นของวัดพังตรุ ที่มีเสกมีดลูกพราหมณ์และเหรียญอาร์ม งานนั้นท่านไปยืนรอเพราะว่าอาตมาไปช้า อาตมาไปถึงจะเข้าโบสถ์ ปรากฏว่าท่านไปยืนรออยู่ก่อนแล้ว ท่านตั้งใจจะสงเคราะห์เต็มที่ ดังนั้น..ถ้าหากว่าเหรียญหลังท้าวเวสสุวรรณของวัดท่าขนุนหมด ก็ไปเอาของวัดพังตรุได้ ความจริงอาตมาก็ได้มาหลายเหรียญ แต่ว่ายังเก็บเอาไว้ ไม่ได้เอาออกมาให้บูชากัน

โดยปกติแล้ว ในการปลุกเสกแต่ละงาน ส่วนใหญ่เจ้าของงานก็จะแบ่งปันวัตถุมงคลมาให้บางส่วน บางรายใจถึงหน่อยก็ยกให้เป็นกล่องไปเลย ๑๐๐ องค์ บางรายก็มอบให้ ๙ - ๑๐ องค์ แล้วแต่จะเห็นสมควร อาตมาเองก็พกติดย่ามไปเรื่อย มีพิธีที่ไหนก็เข้าไปเรื่อย ไป ๆ มา ๆ ย่ามหนักจนจะแบกไม่ไหว ก็ต้องขนเอามาออกเว็บให้เขาจำหน่ายบ้าง"

ทะเล 22-12-2020 11:47

พระอาจารย์กล่าวว่า "ถ้าวัตถุมงคลเนื้อเงินหมดเราบูชาอย่างอื่นไปก็ได้ แล้วภาวนา เมสัมมุกขา สัพพาหะระติ เตสัมมุกขา ก็จะมีอานุภาพมหาสะท้อนเหมือนกัน อย่าเที่ยวไปบูชาแต่ของแพงอย่างเนื้อทองเนื้อเงิน อย่างอื่นก็ใช้ได้..เพียงแต่ใช้ให้เป็นเท่านั้น"

ทะเล 22-12-2020 11:47

พระอาจารย์กล่าวว่า "ของอาตมาก็ไม่ได้มีอะไรวิเศษวิโสไปกว่าโยมหรอก พกเหรียญสมเด็จองค์ปฐมเขียวเหล็กไหลเหมือนกัน คือพระสั่งอย่างไรก็ทำอย่างนั้น แต่เนื้อเขียวเหล็กไหลของอาตมาไม่เขียว อาตมาเป็นคนดื้อ อะไรที่ดื้อ ๆ นี่จะชอบมาก ชุบไม่ขึ้นใช่ไหม..? แสดงว่าดื้อได้ที่...มาเลย ไม่เขียวอาตมาก็ใช้เอง..!"

ถาม : เหรียญสมเด็จองค์ปฐมเนื้อเขียวเหล็กไหล ถ้าไม่ได้เข้าพิธีช่วงหลัง ๆ นี้ อานุภาพจะเท่ากันไหมครับ ?
ตอบ : ตั้งใจนึกถึงพระท่านสงเคราะห์ก็เหมือนกันแหละ เพียงแต่ว่ากำลังใจของเราต้องยึดมั่นในพระองค์ท่านจริง ๆ ถ้ายึดมั่นจริง ๆ ถึงไม่มีวัตถุมงคลพระองค์ท่านก็คุ้มครองได้ เพียงแต่พวกเราส่วนใหญ่แล้วเผลอ สมาธิไม่ค่อยจะทรงตัว ก็เลยต้องมีวัตถุมงคลเอาไว้

ทะเล 22-12-2020 11:47

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้อาตมาเป็นหนูทดลองยาของพระที่วัด พระท่านจะทำประคำด้วยไม้แต่ละชนิด แล้วให้อาตมาใช้งาน ท่านจะพิสูจน์ความก้าวหน้าว่า ใช้งานนานเท่าไรถึงจะสวยเท่าที่หลวงพ่อใช้

เรื่องของประคำเราต้องขยัน ถ้าหากว่าไม่ขยัน พุทโธ ๆ นานไปก็ด้าน ไม่สวย ถ้าขยันนับขยันภาวนา พลังที่เราสะสมไว้ในจิตในกายของเราแผ่ลงไปด้วย ก็จะดูสวยงามเป็นพิเศษ"

ทะเล 22-12-2020 11:47

ถาม : ปกติจะแบ่งจิตในการภาวนา ๓ ส่วน ทำงานปกติ ๑ ส่วน แล้วก็นับจำนวน ๑ ส่วน ทีนี้ไปอ่านเจอว่า หลวงพ่อบอกว่าให้มีภาพพระคลุมร่างกายเราไว้ คราวนี้ที่เราแบ่งจิตไปไว้ที่ลมหายใจ ๑ ส่วน เราจะเลือกที่ลมหายใจหรือเลือกภาพพระคลุมกายเจ้าคะ ?
ตอบ : แล้วทำไมทำพร้อมกันไม่ได้ ? หายใจเข้าภาพพระก็ปรากฏอยู่ หายใจออกภาพพระก็ปรากฏอยู่ ไม่ได้ยากอะไรนี่นา

ทะเล 22-12-2020 11:47

พระอาจารย์เตือนว่า "อย่าประมาทกันนะ ไวรัสอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด ตอนนี้ทั่วโลกมีธงเขียวปักสลอนไปหมด แถมยังมีธงแดงแทรกอยู่เป็นระยะ ๆ ทั้งโรคระบาดคน โรคระบาดสัตว์ ยุ่งไปหมด !"

ทะเล 22-12-2020 11:47

ถาม : หนูอ่านธรรมะแต่กลัวจะพูดแล้วไม่มีน้ำหนัก ก็เลยส่งธรรมะในเว็บบอร์ดไปให้คุณพ่อคุณแม่ทางไลน์ หนูก็เลยอยากจะมาขอโทษและขออนุญาตต่อไปล่วงหน้าด้วยค่ะ ?
ตอบ : ไม่เป็นไรหรอก เอาไปเถอะ แต่ถ้าหากว่าเอาไปลงในเพจของตัวเองหรือในเฟซบุ๊ก ก็ช่วยอ้างอิงไปหน่อยว่าเอามาจากที่ไหน

ถาม : ตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ก็ปฏิบัติตามด้วยเจ้าค่ะ ?
ตอบ : ดีแล้วจ้ะ โมทนาด้วย

ทะเล 22-12-2020 11:47

ถาม : คนเรามักจะกลัวความตายกัน แต่ว่าท้ายที่สุดถ้าเราทำความดีถึงพร้อม เราก็จะไปพระนิพพานกันเกือบหมดทุกคนใช่ไหมเจ้าคะ ? แล้วเราก็จะเจอคุณพ่อคุณแม่คุณตาคุณยายที่นั่นใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ถ้ายังอยากเจอก็จะไปไม่ได้ ต้องตัดภาระผูกพันทั้งหมดออก ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับสภาพความเป็นจริง ตอนนี้ไม่เป็นไร เกาะความดีไปก่อน เดี๋ยวพอทำถึงก็จะปล่อยเอง ถ้าพ่อแม่ทำถึงด้วยก็ไปเจอกันที่นั่นเองแหละ

ทะเล 23-12-2020 03:05

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อเช้าวันที่ ๖ ธันวาคม อากาศที่ทองผาภูมิวัดได้ ๑๕ องศาเซลเซียส ถ้าหากว่าเป็นรายงานจากกรมอุตุนิยมวิทยาจะวัดได้ ๑๖ องศาเซลเซียส เหตุที่ต่างกันเพราะว่าอุณหภูมิของกรมอุตุนิยมวิทยา ทำการวัดในเรือนเทอร์โมมิเตอร์ หรือตู้สกรีน แล้วก็จะวัดในตอนช่วง ๗ โมงเช้า ส่วนอุณหภูมิที่ชาวบ้านเขาดู เขาดูจากเครื่องวัดหน้ากรมอุตุฯ ซึ่งส่วนใหญ่ไปดูกันตอนตี ๕ หรือ ๖ โมงเช้า อุณหภูมิก็เลยต่างกันเป็นองศาเซลเซียส แต่ว่าจะ ๑๕ หรือ ๑๖ องศาเซลเซียส ถ้าหากว่าคนทางด้านกรุงเทพฯ หรือปริมณฑลไป ก็หนาวแย่พอกัน แต่คนทองผาภูมิบอกว่ากำลังดีเลย..!"

ทะเล 23-12-2020 03:05

ถาม : สมาทานพระกรรมฐาน แล้วนั่งสมาธิไป ๑ ชั่วโมงครึ่ง แล้วก็เกิดเหตุการณ์ประหลาด คือมีวิญญาณผู้หญิงเข้ามากอด วันนั้นหนูใส่พระคำข้าวนะคะ แต่เขาก็ยังเข้ามากอดหนู จะมาขอบุญ เขาบอกว่าเขามีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ ๆ หนูก็เลยสวดพระคาถาชินบัญชร สวดคาถาและขอพุทธานุภาพของสมเด็จองค์ปฐม แต่เขาก็ยังไม่ยอมไปเจ้าค่ะ เขาเหมือนจะเป็นแขก จะทำอย่างไรดีเจ้าคะ ?
ตอบ : เราพ้นออกจากตรงนั้นมาก็จบแล้วไม่ใช่หรือ ? รู้ว่าเขามาขอบุญ ก็อุทิศให้เขาไปก็จบแล้ว

ถาม : เขามากอดไม่ยอมไปเลยค่ะ ?
ตอบ : ก็เรื่องของเขา ต่างคนต่างอยู่ ถึงเวลาไปไหนก็ให้ช่วยดูแลเราด้วย..!

ถาม : เจอผีบ่อยเจ้าค่ะ ไปต่างประเทศก็จะเป็นผีต่างศาสนา ไม่กลัวพระเลย ขนาดยกพระคำข้าวให้เขาดู ขอบารมีพระพุทธเจ้าก็แล้ว หรือว่าบารมีพระพุทธเจ้าท่านเมตตา สัมภเวสีเลยไม่กลัวคะ ?
ตอบ : ไม่ใช่...คือเราไปเข้าใจเองว่าเป็นสัมภเวสี บางทีอาจจะเป็นเทวดาชั้นสูงก็ได้ วัตถุมงคลส่วนใหญ่เทวดาท่านดูแล เขาเป็นเทวดาเหมือนกันก็เลยไม่กลัว

ถาม : หนูถามเขาว่าทำไมแผ่เมตตาแล้วถึงไม่ไป ? เขาก็บอกชื่อมา
ตอบ : อย่างนั้นก็อุทิศให้เขาโดยเฉพาะ ออกชื่อเขาไปสิ

ถาม : ถ้าหนูห้อยท้าวเวสสุวรรณจะช่วยได้ไหมเจ้าคะ ?
ตอบ : ต้องอาราธนาทุกวันด้วย ไม่ใช่ถึงเวลาแล้วค่อยไปอาราธนาก็ไม่ทันแล้ว เขามาถึงตัวแล้ว เราต้องกันเอาไว้ก่อน

ทะเล 23-12-2020 03:05

ถาม : ถ้าสวดมนต์กันไฟ สวด ๒ รอบ ตอน ๖ โมงเช้ากับ ๖ โมงเย็น เพียงพอไหมคะ ?
ตอบ : เยอะเกิน กันไปกันมาเดี๋ยวไฟดับ ไม่มีไฟฟ้าใช้อีก..!

ทะเล 23-12-2020 03:05

ถาม : อยากจะขอพรหรือโอวาทเรื่องความรักค่ะ ?
ตอบ : ไม่มีอะไรมากหรอก แค่อย่าลืมฆราวาสธรรม ๔ ของพระพุทธเจ้าท่าน

อันดับแรกต้องมีสัจจะ จริงใจต่อกัน ตัวนี้รวมทั้งคำว่าไม่นอกใจกัน

ทมะ มีความข่มกลั้น เจออารมณ์อะไรที่ไม่ชอบใจก็ต้องรู้จักอดทนอดกลั้น ไม่ไประเบิดใส่คนอื่นเขา

ขันติ ชีวิตการครองคู่ยากลำบากแค่ไหนก็มุ่งหน้าฝ่าฟันไปอย่าท้อถอย

จาคะ เสียสละความสุขของเราเพื่อเขาด้วย ไม่อย่างนั้นแล้วจะไปไม่รอด

ทะเล 24-12-2020 10:27

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันที่ ๑ - ๖ ธันวาคม ๒๕๖๓ โบสถ์วัดพระแก้วเปิดให้สักการะจนถึงเวลา ๒๑.๓๐ น. ถ้ามีโอกาสก็ไปไหว้พระแก้วกลางค่ำกลางคืน ดูแสงดูสีบ้าง คาดว่าไปกลางคืนคงไม่มีม็อบ..! ส่วนอาตมานั้นไม่มีเวลาไป เพราะว่ากว่าจะเลิกเจริญกรรมฐานออกอากาศก็ประมาณ ๑ ทุ่มกว่าไปแล้ว กว่าจะจัดการกับบัญชีเสร็จก็ ๒ ทุ่มกว่า ก็เป็นอันว่าไปไม่ทันแน่ อยากจะเห็นวัดพระแก้วกลางคืนกับเขาสักครั้งเหมือนกัน"

เถรี 25-12-2020 17:19

พระอาจารย์กล่าวว่า "อย่างไรก็ระวังโควิดไว้ด้วย โรคภัยไข้เจ็บไม่ค่อยจะเห็นแก่หน้าค่าชื่อใคร ถ้าเคยสร้างกรรมเอาไว้ จะช้าจะเร็วก็ต้องมา เรื่องนี้อาตมาพูดได้เต็มปาก เพราะว่าเจ็บไข้ได้ป่วยมาตั้งแต่เด็ก แล้วก็เกลียดเข็มฉีดยาสุด ๆ เพราะว่าหมอที่มารักษาตอนเด็กเป็นหมอเสนารักษ์ ก็คือหมอที่รักษาทหาร เขาฉีดยาด้วยการทิ่มพรวดลงไป แล้วกดทีเดียวจบเลย ก้นก็จะบวมเป็นก้อน เดินตูดปัดไปเป็นอาทิตย์..!

อาตมาเป็นคนป่วยบ่อย จนกระทั่งหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านช่วยเฉลยว่าเป็นทหารมาทุกชาติ ฆ่าเขาเอาไว้มาก อายุสั้นพลันตาย เศษกรรมก็ทำให้ป่วยบ่อย ดูย้อนหลังไปแค่สมัยรัตนโกสินทร์ อายุยืนที่สุดไม่เกิน ๔๓ ปี...(หัวเราะ)... มาชาตินี้อยู่ถึง ๖๐ นี่แปลกมากแล้ว ถ้าไม่ระมัดระวังให้ดี ถึงเวลาเผลอเมื่อไรโรคภัยไข้เจ็บกระโดดใส่ คราวนี้ถึงรักษาได้ก็ไม่ดีเหมือนเดิม เนื่องเพราะว่าเจ้าเชื้อโรคตัวนี้ทำลายปอด หายแล้วก็ไม่สมบูรณ์เหมือนเดิม แต่ส่วนใหญ่ถ้าไม่หายก็ตายไปเลย

ป่านนี้บรรดาท่านที่ไปเที่ยวแพร่เชื้อให้ชาวบ้านคงจะรู้แล้ว ว่าความประมาทของตัวเองคนเดียวนั้นสร้างความวุ่นวายให้กับคนอื่นเขาขนาดไหน ไปนึกถึงเมืองเวสาลี หลายคนเรียกว่า ไพสาลี ความจริง เวสาลี ตัวนี้ไม่ใช่ภาษาไทย แปลตรง ๆ ว่า นาข้าวสาลี ก็แปลว่าปลูกข้าวมาก เมืองเวสาลีเกิดโรคระบาด พระพุทธเจ้าต้องบอกรัตนสูตรให้กับพระอานนท์ไปทำน้ำมนต์พรม เพื่อไล่บรรดาอมนุษย์ คำว่า อมนุษย์ คือผู้ที่ไม่ใช่มนุษย์"

เถรี 25-12-2020 17:21

"เมื่อพรมน้ำมนต์ พวกอมนุษย์ก็หนีกันเตลิดเปิดเปิง คงเหมือนผู้ก่อการร้ายเอาปืนไล่ยิง ก็ต้องวิ่งหนีไว้ก่อน เบียดเอากำแพงเมืองเวสาลีถล่มไปทั้งแถบ คราวนี้ฝนตั้งเค้าและตก น้ำท่วมหนักพอ ๆ กับนครศรีธรรมราช สายน้ำซัดเอาพวกซากศพที่ตายทับตายถมไหลไปกับน้ำหมด โรคภัยไข้เจ็บก็บรรเทาลง เพราะว่าโรคระบาดส่วนใหญ่เกิดจากการตายมาก ๆ แล้วสะสมเชื้อโรคเอาไว้ ก็ทำให้โรคภัยระงับลงไปได้ด้วยอำนาจพุทธบารมี

เพราะฉะนั้น..บางคนบอกว่า บรรดาพระทั้งหลายที่เสกน้ำมนต์ พ่นน้ำหมาก เป็นเรื่องนอกพระพุทธศาสนา เป็นเดรัจฉานวิชา แสดงว่าหลับหูหลับตาพูดโดยที่ไม่ได้อ่านพระไตรปิฎกเลย แม้กระทั่งการสะเดาะเคราะห์ต่ออายุก็ต้องอ่านเรื่องอายุวัฒนกุมาร พระพุทธเจ้าเป็นต้นตำรับสะเดาะเคราะห์ต่ออายุ อายุวัฒนกุมารจะตายภายใน ๗ วัน ต่ออายุมาจนอยู่ถึง ๑๒๐ ปี จึงได้ชื่อว่าอายุวัฒนะ ผู้เจริญด้วยอายุ เพราะว่าอยู่ได้ถึง ๑๒๐ ปี

แต่คราวนี้เรื่องทั้งหลายเหล่านี้จะว่าไปแล้ว ถ้าหากว่าไม่แบ่งปันเวลาให้ดี ญาติโยมรบกวนไม่เลิก เวลาปฏิบัติเพื่อตัวเองก็จะหมดไป ก็เลยสำคัญอยู่ที่ว่า พระของเราจะต้องแบ่งเวลาให้ถูก ไม่ใช่โยมมาเวลาไหนก็สงเคราะห์เสียร่ำไป ก็ต้องมีเวลาที่เหมาะสมด้วย พระจะต้องสวดมนต์ ทำวัตร บิณฑบาต แต่โยมจะให้รดน้ำมนต์..อย่างนี้ก็เกินไป ต้องรอให้งานของพระเสร็จก่อน"

เถรี 25-12-2020 17:24

"สมัยก่อนอาตมาเป็นหมอดูอยู่พักหนึ่ง พอคนมาหามากเข้า ๆ มาแบบไม่ดูเวล่ำเวลา จะเอาแต่เรื่องตัวเอง ไม่สนใจเรื่องของพระ อาตมาก็เลยต้องทิ้งไปโดยปริยาย มาตอนหลังท่านอาจารย์มหาเอดูหมอสืบต่อไป ดูไปดูมาสู้คนไม่ไหว ก็เลยวิ่งไปหาอาตมา บอกว่า "ขอบวชเลยครับอาจารย์"

ปัจจุบันก็เหลือท่านอาจารย์เอกลักษณ์ ซึ่งตอนนี้ก็สร้างวัดพุทธพรหมยานอยู่ มีเวลาดูหมอให้เท่าไรก็ไม่รู้ ถ้าใครต้องการดูก็ไปที่นั่นแล้วกัน อาตมาเลิกแล้ว ท่านอาจารย์มหาเอก็เลิกแล้ว เห็นท่านอาจารย์เอกลักษณ์บ่น ๆ อยู่ว่าจะเลิกเหมือนกัน ...(หัวเราะ)... คือไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเลย

อาตมาศึกษาเรื่องหมอดู ไม่ใช่เพราะว่าชอบ แต่ศึกษาเพราะว่าครูบาอาจารย์ คือหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านยืนยัน ว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้เป็นของจริง ก็ไม่นึกว่าศึกษาไปศึกษามาจะกลายเป็นขลัง กลายเป็นดูแม่นไปได้ แต่ว่าสำคัญอยู่ตรงที่ว่าต้องดูบ่อย ๆ ยิ่งดูมากเท่าไร ประสบการณ์มากก็สามารถอ่านดวงได้ละเอียดมากตามไปด้วย"

เถรี 25-12-2020 17:26

พระอาจารย์กล่าวกับโยมเมื่อหมดเวลาทำบุญ "จำไว้ว่าอย่าตั้งเวลา เอาสติตั้งแทน ถึงเวลาสติจะบอกว่าได้เวลาหรือยัง"

เถรี 25-12-2020 17:28

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ท่านอาจารย์ฌอน ชยสาโร เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า พระเทพพัชรญาณมุนี แสดงพระธรรมเทศนาเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ ต้องบอกว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในวงการสงฆ์ เพราะว่าท่านเป็นพระต่างชาติที่บวชแล้วปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ได้รับความศรัทธาเลื่อมใส ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ พระราชทานตั้งให้เป็นเจ้าคุณ แล้วก็ยังได้ถวายการรับใช้สนองพระเดชพระคุณ ด้วยการแสดงธรรมในวันพ่อแห่งชาติ

เรื่องพวกนี้หลายอย่างที่เป็นประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา อย่างเช่นว่า สมัยรัชกาลที่ ๔ ทรงโปรดให้คณะสงฆ์จีนนิกายและอนัมนิกาย ทำพิธีกงเต๊กในพระบรมมหาราชวัง มาตอนนี้เราก็จะเห็นว่า หลวงพ่อเจ้าคุณฌอนท่านเป็นพระฝรั่ง แต่ได้แสดงพระธรรมเทศนาถวาย เป็นเรื่องที่หาได้ยาก

จะว่าไปแล้วพระพุทธศาสนาของบ้านเรา ได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชูจากองค์ในหลวงที่เป็นเอกอัครศาสนูปถัมภก ทรงประกาศชัดเจนว่าเป็นพุทธมามกะ เมื่อวันพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในเมื่อเป็นพุทธมามกะ เป็นที่ชัดเจนว่าพระองค์ท่านให้การอุปถัมภ์ค้ำชูพระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่ เพียงแต่ว่ายุคนี้สมัยนี้ บุคคลที่จะได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยพระราชทานสมณศักดิ์ ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่เป็นเกียรติยศทั้งส่วนตนและทั้งของพระพุทธศาสนา เนื่องจากว่าพระองค์ท่านคัดเลือกบุคคลที่มีการกระทำ มีแนวทางปฏิบัติ ตลอดจนกระทั่งความรู้ความสามารถอย่างชัดเจนจริง ๆ เพราะว่าจะเป็นกำลังใหญ่ในการค้ำจุนพระพุทธศาสนาต่อไป"

เถรี 25-12-2020 17:34

พระอาจารย์กล่าวว่า "สมัยที่อาตมายังเด็กอยู่ สิ่งแวดล้อมรอบข้างเป็นไปตามศีลตามธรรม เรื่องที่จะแหกคอกแหวกประเพณีนั้นไม่มี จำได้ว่าสมัยที่เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ซึ่งเขาเรียกตัวย่อว่า ม.ศ.๒ มีรุ่นพี่ผู้หญิงที่อยู่ชั้น ม.ศ.๓ ท้องในวัยเรียน ต้องย้ายหนีลงปักษ์ใต้ไปเลย เพราะว่าสมัยก่อนนั้นสังคมควบคุมความประพฤติของคน การทำแบบนั้นไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม ไปไหนก็มีแต่คนตำหนิติเตียน ก็เลยทำให้อยู่ไม่ได้ ไม่ใช่แค่อยู่ตำบลนั้น อำเภอนั้นไม่ได้ กลายเป็นว่ากระทั่งอยู่ภาคนั้นก็ไม่ได้ ต้องย้ายหนีข้ามภาคไปเลย

แต่มาสมัยนี้ เรื่องพวกนี้สังคมของเราหย่อนยานลงไปมาก ก็เลยทำให้เรื่องราวไม่ดีไม่งามต่าง ๆ เกิดขึ้นมาก สมัยอาตมาเด็ก ๆ ครูแทบจะเป็นสถาบันศักดิ์สิทธิ์ เพราะว่าตีมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ยันรุ่นลูก ถ้าลูกไปโรงเรียนแล้วกลับมาฟ้องพ่อแม่ว่าโดนครูตีนี่ พ่อแม่ตีก่อนเลย...ตีซ้ำ เพราะมั่นใจว่าที่ครูตี ลูกตัวเองต้องผิดแน่นอน"


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:43


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว