กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนธันวาคม ๒๕๖๒ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6849)

เถรี 08-12-2019 20:38

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนธันวาคม ๒๕๖๒
 
พระอาจารย์กล่าวว่า "เดือนที่แล้วไปพุทธาภิเษกหลายแห่ง ที่ซึ่งสบายที่สุดก็คือ วัดน้อย อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี วัดน้อยเป็นวัดของหลวงปู่เนียม ต้องบอกว่าท่านคือพระปรมาจารย์ใหญ่ของสุพรรณบุรี และเป็นครูบาอาจารย์ระดับหลวงปู่ของหลวงปู่เลย ไปแล้วไม่ต้องทำอะไรมาก ได้แค่นั่งมองอย่างเดียว ส่วนที่เหลือหลวงปู่ท่านจัดการให้หมด

พระครูใบฎีกาสามารถ ขนฺติวโร เจ้าอาวาสวัดน้อย เป็นเพื่อนพระอุปัชฌาย์รุ่นเดียวกัน ถามท่านว่า "ไม่นิมนต์ท่านอื่นเลยเหรือ ?" “เสกเดี่ยวเลยครับ” ท่านว่าอย่างนั้น ถ้าปลุกเสกเดี่ยววัดครูบาอาจารย์แบบนี้ อาตมาก็สบาย...แค่นั่งดูท่าน ไม่ต้องทำอะไรเลย"

เถรี 08-12-2019 20:41

ถาม : กรณีที่สำลักน้ำอย่างรุนแรงทำให้หายใจเข้าอย่างลำบากเป็นเวลานานพอควร ตอนนั้นไม่รู้สึกตกใจ รู้ตัวเฉพาะแค่ต้องพยายามเฮือกลมหายใจเข้าให้ได้มากที่สุด ยาวที่สุด เพื่อไม่ให้ขาดออกซิเจน แต่ตอนนั้นไม่ได้นึกถึงพระพุทธเจ้าและพระนิพพานเลย ถ้าตายตอนนั้นยังมีสิทธิ์ไปพระนิพพานไหมครับ ?
ตอบ : เกาะอะไรไม่ได้สักอย่าง ยังจะไปพระนิพพานอีก คนที่จะไปพระนิพพาน สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ต้องไม่ห่วงอะไรเลย โดยเฉพาะต้องไม่ห่วงร่างกาย นี่ไปห่วงร่างกายว่าจะหายใจได้ไหม แล้วอย่างนี้จะรอดไหม ?

ถาม : ในกรณีนี้ต้องจับภาพพระ ทรงอารมณ์พระนิพพานให้ได้ตลอดเวลาใช่ไหมครับ จึงจะไม่พลาดพระนิพพาน ?
ตอบ : ก็รู้แล้วนี่หว่า..! จะถามไปทำไม ? แต่ช่วงท้ายต้องปล่อยนะ ถ้ายังเกาะอยู่ ต่อให้เกาะพระนิพพานก็ไปไม่ได้เหมือนกัน

เถรี 08-12-2019 20:44

สนทนาเรื่องการพุทธาภิเษกที่บ้านสุมโน "งานเป็นอย่างไรบ้าง ? แหม...ตอนในงานพุทธาภิเษกนี่ภาพพระท่านมาชัดสุด ๆ ไม่ว่าจะพระ จะครูบาอาจารย์มากี่ท่าน รู้สึกว่าชัดเป็นพิเศษ ก็ไม่นึกเหมือนกัน เพราะว่าปกติอาตมาก็ทำแค่พระท่านสั่ง แก้วอินทนิลก็เพิ่งเคยเอาออกงานแค่ครั้งเดียว แล้วก็มางานนี้อีกครั้งหนึ่ง ท่านบอกให้เอาไปด้วย"

เถรี 08-12-2019 20:46

"สถานการณ์แบบนี้พูดง่าย ๆ ว่าเข็นไม่ไป แล้วก็เป็นทั้งโลกนะ ไม่ใช่เป็นแค่ประเทศไทย แต่คราวนี้ประเทศไทยของเราจะตำหนิคณะรัฐบาลก็ใช่ที่ เพราะเขาหาคนดีที่สุดได้แค่นั้น ในเมื่อหาคนที่ดีที่สุดได้แค่นั้น ความสามารถในการทำงานก็ใช้แต่ระบบเก่า ๆ ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลงทุนที่นั่นที่นี่ นั่นเป็นแค่ไฟไหม้ฟาง เพราะว่าไม่ใช่เงินจากนอกประเทศเข้ามา เราควักกระเป๋าใช้เงินของเราเอง

ยิ่งประเภทที่ว่าแจกเงินคนจนเพื่อให้ไปใช้นะหรือ..? แล้วจะไปไหน ไปซื้อของก็เข้ากระเป๋านายทุนรายใหญ่ไม่กี่คน ไม่ใช่ว่าเขาจะไปซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้ง ซื้อน้ำเต้าหู้ ซื้อปาท่องโก๋เสียเมื่อไร สมัยนี้เขาประเภทเข้าห้างหรือว่าร้านสะดวกซื้อ จึงกลายเป็นไฟไหม้ฟาง เข้ากระเป๋าคนรวยแค่ไม่กี่คน

เศรษฐกิจแบบนี้ วัตถุมงคลประเภทเมตตาค้าขาย หรือว่าช่วยในเรื่องของลาภผลได้ หาติดให้ท่วมตัวไปเลยนะ จริง ๆ แล้วผมตั้งใจจะไปตอนเช้าของวันจันทร์ แต่คิดดูแล้วว่าขากลับนี่คงแย่เลย เพราะว่าเช้าวันจันทร์รถจะติดขนาดไหน แล้วจะไปงานต่อไปทันไหม ท้ายสุดตัดใจยกเลิกนัดหมอ ไปวันอาทิตย์ดีกว่า"

เถรี 08-12-2019 20:50

ถาม : ตอนมาสวดคาถาเงินล้านกันรอบเย็น รู้สึกว่าพลังของแก้วอินทนิลยังอยู่เพียบเลยครับ ?
ตอบ : มีเท่าไรกอบโกยกันเอาเองแล้วกัน ต้องบอกว่าท่านตั้งใจสงเคราะห์ก็สงเคราะห์สุด ๆ เลย ตอนงานสะพานข้ามแม่น้ำแคว วัดท่ามะขามจะมีพื้นที่เฉพาะของตัวเองที่ทางเทศบาลเขายกให้ แล้วทุกปีจะต้องไปออกร้านตรงนั้น พอพระครูบ่าวเป็นเจ้าอาวาส ท่านไม่อยากที่จะไปพรมน้ำมนต์แล้วแจกวัตถุมงคลเฉย ๆ ท่านก็จัดให้มีนิทรรศการด้วย แต่วัตถุมงคลที่จะแจกท่านไม่มี ก็เลยมาถามว่า "หลวงพ่อช่วยได้ไหมครับ ?" บอกท่านว่า "ได้...คุณไปหามาก็แล้วกัน"

เขาก็ไปหาพวกด้ายสายสิญจน์ พวกเชือกถักผูกข้อมือ พวกสายตะกรุด ได้มาสามพานใหญ่ ๆ เหมือนกัน แล้วตอนเย็นเอามาให้ผมเสก นึกว่าตายละหว่า...บายศรีก็ไม่มี เครื่องบวงสรวงอะไรก็ไม่มี หาแล้วทั่ววัดได้แต่ธูปกับเทียนมา ก็เลยว่าเอาแค่นี้แหละวะ..!

ปรากฏว่าพอนั่งกรรมฐานลงไป เจ้าประคุณเถอะ...ถึงเวลาครูบาอาจารย์ที่พระท่านจิ้มให้ลงมา ผมเห็นแล้วสะดุ้ง มีหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว, หลวงปู่เหรียญ วัดหนองบัว, หลวงปู่เปลี่ยน วัดใต้, หลวงปู่ดี วัดเหนือ, หลวงปู่สอน วัดทุ่งลาดหญ้า, หลวงปู่ดอกไม้ วัดดอนเจดีย์, ไปจนถึงหลวงปู่ใจ วัดเสด็จ ตายละหว่า...ระดับเจ็ดสิงห์แดนเสือ มาหมดเลย

ผมลืมตาขึ้นมาตอนเที่ยงคืนนิด ๆ สงสัยว่า เอ๊ะ...เขามาขนของไปหมดตอนไหนวะ ? สงสัยว่าเราเผลอขาดสติไป เขาเข้ามาขนของไปตอนไหนก็ไม่รู้ เพราะว่าวางไว้อยู่บนโต๊ะหน้าหิ้งพระ ก็ว่าไม่เป็นไร กราบพระแล้วก็ไปเข้าห้องน้ำ

เถรี 08-12-2019 20:52

พอเดินออกมา ปรากฏว่าของยังวางอยู่ตรงที่เดิมทุกชิ้น แต่ตอนแรกมองไม่เห็นอะไรเลย เออ..ดีเหมือนกันนะ ท่านคงทำให้เห็นว่าต่อให้พิธีไม่สมบูรณ์ แต่ถ้าท่านตั้งใจจะสงเคราะห์ก็ได้ขนาดนี้เหมือนกัน

แล้วปีนี้เป็นปีแรกที่ทางคณะจัดงานให้คนเข้าฟรี คนก็เลยไหลไปเทไปจะเหยียบกันตาย เพราะว่าปกติต้องเสียค่าบัตรเข้างาน อันนี้เขาถือว่าคุณไม่ต้องจ่ายค่าบัตร เข้าไปได้เลย แล้วก็ไปจับจ่ายใช้สอยกันข้างใน

พระครูบ่าวเขากะว่าวัตถุมงคลน่าจะแจกได้วันละพันชิ้น ปรากฏว่าไม่พอ ยื้อไปไม่ถึงวันสุดท้าย ต้องบอกว่ายังโชคดีที่ท่านไหวทัน เอาพระพุทธรูปที่รับสังฆทานมา ไปเข้าพิธีไว้ ๔-๕ องค์ ไม่อย่างนั้นตัวเองจะไม่เหลืออะไรเลย คือเวลาที่ท่านจะสงเคราะห์ ท่านก็สงเคราะห์ให้แบบที่เราคิดไม่ถึง แล้วจะไปขอใหม่ให้ได้แบบนั้นก็ไม่ได้แล้ว

เถรี 08-12-2019 20:54

ถาม : ถ้ารู้อย่างนี้ไม่ต้องเสียเวลาเตรียมบายศรีก็ได้นะครับ ?
ตอบ : เฮ้ย...ไม่ได้ ของต้องมี แต่อย่างที่เล่านั่นเป็นงานฉุกเฉินจริง ๆ เพราะว่าผมก็มีเวลาอยู่กับท่านแค่คืนนั้นคืนเดียว ท่านมาถามว่าได้ไหม ? จึงตอบไปว่าได้ ท่านก็รีบไปหาซื้อของมา กวาดมาหมดตลาดเลย แต่ที่วัดจะหาธูปเทียนแพสักชุดก็ยาก ท้ายสุดหาได้แค่ธูปเทียน งานนี้คิดว่าโดนแน่ ปรากฏว่าท่านให้มากกว่าที่คิด

แบบเดียวกับงานพุทธาภิเษกของคุณ อยู่ ๆ ท่านก็บอกว่าให้เอาแก้วอินทนิลไปด้วย ผมก็เหวอเลย ตั้งแต่ได้แก้วนี้มา นี่เป็นครั้งที่ ๒ ที่พระท่านบอกให้ออกงาน

เถรี 08-12-2019 20:55

ถาม : พุทธาภิเษกงานนี้ท่านเสกของ เสกคน ทั้งคลีนทั้งเคลียร์ให้หมด
ตอบ : ใครไปก็ถือว่าโชคดีไป ของพวกนี้ต้องบอกว่าฟลุก ประเภทขอก็ไม่ได้หรอก แต่ถึงเวลาท่านจะให้เอง

เถรี 17-12-2019 21:59

ถาม : ที่มีพุทธทำนายเอาไว้ว่าพระศาสนาจะรุ่งเรืองอีกครั้งในช่วงกึ่งพุทธกาล เวลานั้นผ่านมาแล้วคือสมัยหลวงพ่อวัดท่าซุงยังมีชีวิตอยู่ใช่ไหมครับ ?
ตอบ : เห็นหลายคนเขาบอกว่าเป็นหลวงพ่อของเขา ฉะนั้น..เอาที่สบายใจก็แล้วกัน

ถาม : แล้วต่อจากนี้ไปพระพุทธศาสนาจะมีแต่เสื่อมลง คงเหลือแต่ชื่อว่ามีอยู่ในประเทศไทยเท่านั้นใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ค่อย ๆ ดูไป

เถรี 17-12-2019 22:09

ถาม : เวลานี้พระศาสนาถูกคุกคาม ถูกทำลาย ถูกโจมตีโดยฝ่ายตรงข้ามในหลายเรื่องหลายทางอย่างหนักหน่วง แต่สิ่งที่เราควรทำที่สุดคือทำใจให้สบายและปล่อยไปตามกฎของกรรม วางเฉยต่อการกระทำของฝ่ายตรงข้าม แม้จะถูกฆ่าและทำลายล้างอย่างที่ผู้คนที่นาลันทานครยอมให้เขาฆ่าใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ขึ้นอยู่กับกำลังใจของคุณเป็นอย่างไร ถ้ากำลังใจยอมก็ยอมต่อไป ถ้ากำลังใจไม่ยอมก็ไม่ยอมอยู่ดี ฉะนั้น...เที่ยวไปถามคนอื่นไม่ได้หรอก

อาตมาไม่เห็นเลยว่าอะไรจะคุกคามพระพุทธศาสนาได้หนักเท่ากับพุทธบริษัท ๔ ของเรา ซึ่งมีหน้าที่ดูแลรักษาพระพุทธศาสนา แต่ไม่คิดจะทำอะไรให้เกิดมรรคเกิดผลขึ้นมา แล้วจะไปรักษาอีท่าไหน ? ตราบใดที่เรายังไม่สามารถทำตัวของเราให้เป็นตัวอย่างได้ จะให้คนอื่นเขาศรัทธาพระพุทธศาสนาได้อย่างไร ฉะนั้นภัย...คุกคามจากภายนอกเป็นแค่ส่วนเดียวเท่านั้น ส่วนที่แย่ที่สุดก็คือสนิมเหล็กที่กินตัวเอง

เถรี 17-12-2019 22:11

ถาม : คนที่สร้างยานอวกาศได้ เขาทำบุญอะไรมาครับ ถึงได้ฉลาดขนาดนั้น ?
ตอบ : ส่วนใหญ่ในอดีตเคยทำสมาธิไว้ สภาพจิตสงบ ปัญญาก็เกิด คราวนี้ปัญญาจะเป็นทางโลกหรือทางธรรม ก็แล้วแต่ว่าเขาจะเอาไปใช้อย่างไร

เถรี 17-12-2019 22:12

ถาม : ถ้ามีคนทำร้ายร่างกายเรา แต่ในตอนนั้นไม่ได้อาราธนาตะกรุดมหาสะท้อน แต่หลังจากที่ถูกทำร้ายร่างกายแล้ว ความเจ็บปวดที่เกิดจากการถูกกระทำยังคงเกิดขึ้นกับร่างกาย ถ้าอาราธนาตะกรุดมหาสะท้อนในช่วงเวลานี้ คนที่ทำร้ายร่างกายตัวเรา จะได้รับผลของมหาสะท้อนหรือไม่ครับ ?
ตอบ : วัตถุมงคลมีไว้ให้อาราธนาเสมอ ๆ ไม่ใช่ถึงเวลาขี้จะแตกแล้วค่อยมาขุดส้วม แล้วจะทันไหม ?

เถรี 17-12-2019 22:41

ถาม : จากกระทู้ร่วมบุญและได้วัตถุมงคล ตามที่สังเกตตนเองและคนอื่น หลายครั้งความอยากได้วัตถุมงคล เพราะกิเลสเช่น ความกลัว กลัวตาย กลัวอันตราย กลัวขาดรายได้ อยากดีเด่น อยากมีเสน่ห์คนรักเยอะ ๆ อยากจะเหนือคนอื่น หรือบางคนคิดไปในด้านการตลาดทำกำไรต่อไป แทบจะกลบความตั้งใจจะทำบุญกุศลหรือความศรัทธาในพระรัตนตรัยแท้จริงเกือบหมด ตอนจะพิมพ์จอง มีบางคนมีอาการหน้ามืดรีบจองก่อนทั้งที่ไม่มีศักยภาพโอนเงิน แบบนี้จะได้อานิสงส์ผลบุญกุศลหรือไม่ครับ ?
ตอบ : เจตนาบริสุทธิ์ วัตถุทานบริสุทธิ์ ผู้ให้บริสุทธิ์ ผู้รับบริสุทธิ์ อานิสงส์จึงจะเต็มร้อยส่วน ถ้าส่วนไหนบกพร่องก็ลดไปตามจำนวนนั้น

เถรี 17-12-2019 22:55

ถาม : เวลาอ่านข่าวทางอินเทอร์เน็ต เฟซบุ๊ก บ่อยครั้งจะตั้งจิตอุทิศบุญหรืออนุโมทนา ปรากฏมีสองครั้งที่คิดว่าแปลก คือ นายทหารที่ทำหน้าที่ทางสามจังหวัดชายแดนใต้ (ไม่ใช่คนที่มีชื่อเสียง) ต่อมาป่วยเป็นมะเร็งและเสียชีวิต คือส่วนตัวจะรู้สึกดีกับพี่ทหารคนนี้มากเพราะตั้งใจทำงาน เสียสละจริง พอเห็นข่าวการเสียชีวิต จึงตั้งจิตตั้งใจอุทิศบุญให้ ซึ่งพอจบการอธิษฐาน เหมือนมีกระแสกระจายคลุมตัว ขนลุกซู่ทั้งตัวคล้ายกระแสไฟฟ้าอ่อน ๆ

และเมื่อเร็ว ๆ นี้งานบุญหลวงพ่อสายวัดป่า ท่านเป็นพระลูกศิษย์หลวงปู่กับหลวงตาชื่อดังมาก รู้สึกซาบซึ้งและศรัทธา จึงยกมือไหว้อนุโมทนา ครั้งนี้ได้รับกระแสเย็นกระจาย เหมือนนั่งอยู่ใกล้ลำธารมีน้ำไหลใสสะอาด คือไม่เย็นแบบหนาวเย็นยะเยือก ซึ่งทั้งสองกรณีไม่เคยพบเจอตัวจริงเลย พอพิจารณาหากระแสที่ได้สัมผัส คิดว่าไม่ได้มาจากมือถือแน่ แต่หาไม่พบ ตรงนี้เกิดจากกระแสบังเอิญเปิดตรงกันใช่ไหม กระแสที่ได้รับนี้มาจากอะไร ?
ตอบ : อันดับแรก...เคยสร้างบุญสร้างกรรมร่วมกันมาก่อน ถ้าเคยสร้างบุญสร้างกรรมร่วมกันมาก่อน ก็จะสื่อถึงกันได้ง่าย อันดับที่สอง...พรหมหรือเทวดาที่ดูแลรักษาทั้งสอง หรือเรียกง่าย ๆ ว่า เทวดาประจำตัวท่านแสดงให้ทราบ อันดับที่สาม...เป็นคุณความดีเฉพาะตัวของท่านเลยที่แผ่ออกไปโดยไม่มีประมาณ ถ้าเราไปนึกถึงอนุโมทนา ก็สามารถสัมผัสถึงกระแสความดีของท่านได้ เพราะฉะนั้น..กรณีใดกรณีหนึ่งก็สามารถเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นได้แล้ว

เถรี 17-12-2019 22:58

ถาม : ขอคำแนะนำการละทิ้งความอยากรู้อยากเห็น ศึกษาค้นคว้าในเรื่องที่ไม่ใช่การละตัดกิเลส เพราะเริ่มรู้สึกเสียเวลาไม่น้อย ควรจะทำอย่างไรดี มีวิธีพิจารณาแยกแยะอย่างไร ? เพราะบางกรณีเป็นงานที่ควรทำ ใจหนึ่งก็อยากละทิ้ง แต่อีกใจก็ห่วง ถ้าละทิ้งหมดกลัวจะทำงานไม่สำเร็จ ผู้คนที่เกี่ยวข้องจะเดือดร้อน
ตอบ : ตัดสินใจเอาเองก็แล้วกัน เพราะว่ากำลังใจของแต่ละคนไม่เท่ากัน บอกกันไม่ได้ ของที่อาตมาเห็นว่าเหลวไหลไร้สาระ โยมอาจจะเห็นว่าเต็มไปด้วยสาระก็ได้ ถ้าแนะนำให้ไปตัดไปทิ้งเราก็ไม่ยอมอยู่ดี เพราะฉะนั้น..ให้พิจารณาเอาตามกำลังใจของตน

เถรี 17-12-2019 23:10

ถาม : อารมณ์ใจของพระโสดาบัน หรือผู้ที่ได้โสดาปัตติผลแล้วนั้น สำหรับในศีลข้อที่ ๑ ถ้าจิตยังมีความคิดที่จะฆ่าแต่ยังไม่ฆ่า แบบนี้ถือว่าได้โสดาปัตติผลแล้วหรือไม่ขอรับ ?
ตอบ : ห่างหลายลี้..! พระโสดาบันไม่ใช่รักษาศีลอย่างเดียว แต่ปฏิบัติธรรมด้วย คำว่า “ธรรม” คือ เมตตาพรหมวิหาร ต้องมีเป็นปกติ ในเมื่อยังคิดอาฆาตพยาบาทเป็นวิหิงสาวิตกอยู่ ย่อมไม่ใช่กำลังใจของพระอริยเจ้าระดับโสดาบัน

ถาม : ในส่วนของศีลข้อ ๓ ถ้าหากไปเที่ยวผู้หญิงบริการ ถือว่าศีลข้อ ๓ ขาดแล้ว ใช่หรือไม่ขอรับ ?
ตอบ : ถ้าหญิงนั้นมีเจ้าของ ก็แปลว่าศีลขาดแน่นอน คำว่า หญิงมีเจ้าของ ๑๘ ประเภทนั้น ไม่มีอะไรเลยที่เราจะเลี่ยงพ้น แปลว่าต่อให้เป็นหญิงบริการ ถ้าเขามีพ่อมีแม่ มีพี่มีน้อง ยังมีคนรักคนหวงอยู่ ก็แปลว่าผิดศีล ยกเว้นอยู่อย่างเดียว คือหญิงนครโสเภณีที่ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการว่าเป็นสาธารณะ

เถรี 18-12-2019 20:51

ถาม : อยากสอบถามวิธีตรวจสอบอารมณ์ใจของผู้ที่ได้โสดาปัตติผลโดยแท้ว่า ในกรณีของผมที่ได้กระทำไปในเรื่องของศีลตามที่ได้ชี้แจงในข้อที่แล้วนั้น ถือว่าผมมีโอกาสได้โสดาปัตติผลแล้วหรือไม่ หรือมีข้อตรวจสอบประการใดในการได้โสดาปัตติผล ?
ตอบ : ตัวตายดีกว่าศีลขาด ถ้ากำลังใจไม่ได้ถึงขนาดนี้ โอกาสที่เข้าถึงพระโสดาบันยังยาก ประการต่อไป เคารพพระรัตนตรัยสุดจิตสุดใจจริง ๆ ไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง และสุดท้ายคือมีพระนิพพานเป็นอารมณ์อยู่เสมอ

เถรี 18-12-2019 20:59

ถาม : โยมนั่งสมาธิแล้วพิจารณาว่า จิตไม่สามารถรวมเป็นสมาธิได้ลึกเพราะอะไร ก็พิจารณาว่าเป็นเพราะว่าจิตมีโทสะมาก พอพิจารณาว่าทำไมจิตมีโทสะมาก ก็เห็นว่าคือสัญชาตญาณการป้องกันตัวของตัวเอง พอมีอะไรที่จะเป็นอันตรายต่อตัวเอง ครอบครัว ลูก ตัวเองก็พร้อมจะบวก จะเหวี่ยงกลับ จะมีเรื่องทันที แต่โดยปกติไม่ใช่คนยุ่งวุ่นวายกับผู้อื่นแต่อย่างไร เหมือนงูที่พร้อมจะฉกสิ่งที่เห็นว่าเป็นอันตรายต่อตนเอง อยากถามพระอาจารย์ถึงวิธีแก้ว่าจะทำอย่างไรให้สมดุลได้ทั้งทางโลกทางธรรมคะ ?
ตอบ : เป็นพระอริยเจ้าตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไปก็จะสมดุลเอง

เถรี 18-12-2019 21:09

ถาม : การพูดเล่นหรือพูดตลก ถือว่าเป็นการผิดกรรมบถ ๑๐ ข้อการพูดเพ้อเจ้อหรือไม่ ?
ตอบ : ขึ้นอยู่กับกำลังใจของเรา ถ้ากำลังใจต่ำก็จะไม่รู้สึกว่าเพ้อเจ้อ ถ้ากำลังใจสูงก็จะรู้สึกว่าเพ้อเจ้อ

ถาม : การพูดคำหยาบกับเพื่อน เช่น กู มึง ถือว่าเป็นการผิดกรรมบถ ๑๐ หรือไม่ ?
ตอบ : คำหยาบหรือผรุสวาท เขาพูดให้คนอื่นเจ็บใจ ในเมื่อเราพูดแล้วเพื่อนไม่รู้สึกเจ็บใจ แล้วจะเป็นคำหยาบได้อย่างไร ? เพียงแต่ว่าเป็นภาษาที่ใช้กับคนอื่นทั่ว ๆ ไปไม่ได้ เขาจะว่าเราไม่รู้กาลเทศะ

เถรี 18-12-2019 21:23

ถาม : พระที่อุดผงของเก่าหลวงพ่อปาน บรรจุในพระเครื่องรูปหลวงพ่อปาน เวลาจะทำน้ำมนต์ต้องอธิษฐานขอบารมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากับสัตว์พาหนะตามเดิม หรือต้องเพิ่มเติมตัดทอนประการใดหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้ารู้มากก็ขอให้ครบ ถ้ารู้น้อยก็ขอบารมีพระ บารมีครูบาอาจารย์ก็พอ


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:59


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว