กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกบ้านเติมบุญ ต้นเดือนตุลาคม ๒๕๖๓ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=7262)

เถรี 16-10-2020 23:28

พระอาจารย์กล่าวว่า “ระยะนี้ปลายฝนต้นหนาวแล้ว บ้านเราก็จะมีฝนอีกประมาณสิบวันและค่อนข้างหนักด้วย หลังจากนั้นจะหนาวกะทันหัน กรมอุตุฯ ที่นั่งอยู่ตรงนี้บอกเอง..!

เพราะฉะนั้น..ถ้าบ้านไหนมีคนแก่ มีคนป่วยอยู่ ต้องดูแลรักษาให้ดี คนแก่หรือคนป่วยมีร่างกายอ่อนแอ ทนความเปลี่ยนแปลงกะทันหันของอากาศไม่ได้ ถ้าญาติโยมทุกคนรู้จักสังเกตจะเห็นว่า ช่วงรอยต่ออากาศ ไม่ว่าจะเป็นปลายฝนต้นหนาว ปลายหนาวต้นร้อน หรือปลายร้อนต่อฝน คนจะตายกันมาก ดังนั้น..ต้องดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี

ส่วนของอาตมานี่ไม่ต้องดูแล อย่างไรก็ไม่มีทางดีได้ เพราะว่าทำกรรมเอาไว้เยอะ..น่าภาคภูมิใจ..! หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่า “แกเป็นทหาร ฆ่าเขามาทุกชาติ เพราะฉะนั้น..ชาตินี้จะป่วยบ่อย อายุสั้นพลันตาย” อาตมาโดนต่อวีซ่ามาจนป่านนี้ ไม่ยอมให้ตายสักที ชีวิตที่เหลืออยู่ทุกวันนี้ อยู่หนึ่งวัน..ก็กำไรหนึ่งวัน อยู่หนึ่งวัน..ก็ตั้งใจสร้างประโยชน์ให้กับพระพุทธศาสนาให้มากที่สุดไปอีกหนึ่งวัน

บางคนทั้งพระและฆราวาสถามว่า “พระอาจารย์ครับ..หลวงพ่อครับ ทำไมทำงานหนักขนาดนี้ ?” เรียนพระท่านไปและบอกกับญาติโยมไปว่า “เรามีวันนี้วันเดียว ต้องทำให้เต็มที่ เพราะไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะมีโอกาสได้ทำหรือเปล่า ? ในเมื่อเก็บตกชีวิตคืนได้ ก็ต้องสร้างประโยชน์ให้กับโลกให้มากที่สุด ไม่ว่าประโยชน์นั้นคนจะมองเห็นหรือมองไม่เห็นก็ตาม ขอให้ได้ทำ ก็ถือว่าสิ่งที่ทำนั้น เราได้ทำแล้ว ส่วนทำไปจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ไม่เคยคิดถึง”

เถรี 16-10-2020 23:29

ถาม : เวลาหลวงพ่อทำงานหนักมาก ๆ หลวงพ่อรู้ได้อย่างไรคะ ว่าที่ทำไม่ไหวเป็นเพราะแก่เกินไปแล้ว หรือเพราะงานนั้นหนักเกินไป ?
ตอบ : ยังไม่เคยเจอ..ยังไม่เจออะไรที่หนักเกินไป

เถรี 16-10-2020 23:30

พระอาจารย์กล่าวว่า “ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา อาตมาสั่งทำเช็คไปประมาณสิบล้านบาท วันนี้มอบให้ทางวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ไปห้าแสนบาท วันก่อนให้วัดสี่แยกเจริญพรไปแปดแสนบาท ให้วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีไปหกแสนบาท ให้วัดบ้านห้วยน้ำขาวไปหนึ่งแสนบาท และที่กำลังจะมอบให้คือวัดตานีนรสโมสร ที่เป็นกฐินปลดหนี้ จำนวนแปดล้านบาท

เพราะฉะนั้น..โยมไม่ต้องห่วงว่าให้เงินที่นี่แล้ว ที่นี่จะใช้เงินไม่เป็น อาตมาเป็นคนไม่เคยคิดถึงว่าพรุ่งนี้จะมีเงินใช้หรือเปล่า ? มีวันนี้ก็เอาหมดแค่วันนี้ คนก็เลยบอกว่าอาตมารวย ความจริงไม่ได้รวยหรอก เพียงแต่มีแล้วไม่เก็บ อาตมาเป็นคนที่ใช้เงินหมดแบบไม่เสียดาย และไม่คิดว่าพรุ่งนี้จะมีหรือเปล่า ?

บางวันก็ขำตัวเอง พระท่านมาขอเบิกเงินเดือนที่ไปเรียนหนังสือ ควักให้ท่านไปได้ครึ่งเดียว บอกว่าอีกครึ่งหนึ่งติดไว้ก่อน เพราะว่าเหลืออยู่แค่นี้ แต่ว่าในเรื่องของเงินเดือนพระภิกษุสามเณร แม่ชี ฆราวาสที่เรียน ปกติแล้วจะไม่เคยพลาด วันนั้นพอดีมีรายการพิเศษเข้ามา เทหมดกระเป๋าให้เขาไปก่อน ก็เลยทำให้พระท่านรับเงินเดือนช้าไปหนึ่งวัน”

เถรี 16-10-2020 23:32

พระอาจารย์กล่าวว่า “เมื่อวันทอดกฐินวัดท่าขนุน สิ่งหนึ่งที่ดีใจก็คือญาติโยมมีความเข้าใจได้ถูกต้องว่า กองกฐินนั้นสำคัญที่สุดตรงผ้า ส่วนอื่นต่อให้เป็นเงินเป็นทองมากมายขนาดไหน ก็เป็นแค่บริวารกฐินเท่านั้น ในเมื่อผ้ากฐินสำคัญที่สุด ก็ควรให้ความสำคัญกับผ้ามากกว่าเงิน

แต่ว่าระยะหลังนี้ผ้ากฐินมักจะโดนบิดเบือนความสำคัญไปโดยวัดหลายแห่งที่มีความต้องการเงิน ทำให้คนเข้าใจผิดในเรื่องของอานิสงส์กฐินว่า ถวายเงินมากก็จะได้บุญมาก หลังจากที่อาตมาพูดแล้วพูดอีกมาหลายปี เมื่อเห็นโยมมีความเข้าใจที่ถูกต้องก็ดีใจ

ญาติโยมไม่ว่าจะถวายเงินมากมายเท่าไรก็ตาม อย่าลืมว่าส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือผ้ากฐิน จะเป็นผ้าแค่กว้างคืบยาวคืบก็ดี ผ้าสบงผืนหนึ่ง ผ้าจีวรผืนหนึ่ง หรือผ้าสังฆาฏิผืนหนึ่งก็ดี หรือว่าจะเป็นผ้าครบไตรก็ตาม อย่างไรก็ต้องมีไปด้วย ไม่ใช่เอาแต่เงินทองข้าวของอื่นไป แล้วไม่มีผ้าไตรจีวร”

เถรี 16-10-2020 23:32

“เมื่องานกฐินที่ผ่านมา ทางวัดท่าขนุนรับผ้าไตรไปน่าจะเกิน ๓๐๐ ไตร แต่ว่าญาติโยมก็ไม่ต้องหนักใจ เพราะว่าที่วัดนั้นมีการอุปสมบทหมู่บ่อยมาก และเวลาวัดอื่นมีการอุปสมบทหมู่เขาก็มาขอผ้าไตรไปบ่อยเช่นกัน ดังนั้น..ที่วัดท่าขนุนจะไม่มีผ้าเก่า เพราะว่าถึงเวลาของใหม่มา ก็จะหาทางถวายของเก่าออกไป

ช่วงต้นในการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ทางวัดท่าขนุนสละผ้าสบงจีวรไปเป็นคันรถ เพื่อให้ชุมชนสามแห่งก็คือ ชุมชนวังท่าขนุน ชุมชนริมฝั่งแควน้อย และชุมชนพัฒนาทองผาภูมิ นำไปตัดเป็นหน้ากากผ้า โดยมีเป้าหมายว่าอย่างน้อยทุกคนในชุมชนจะต้องมีหน้ากากคนละสองชิ้นขึ้นไป ถือว่าเป็นการใช้ผ้าไตรจีวรให้เกิดประโยชน์สูงสุดอีกแบบหนึ่ง ทำเอาญาติโยมหลายคนที่ไม่เคยใช้จักรเย็บผ้า ใช้จักรจนมีความคล่องตัวชนิดที่ไม่ต้องมองก็เย็บได้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี”

เถรี 16-10-2020 23:34

พระอาจารย์กล่าวว่า “ช่วงนี้อาตมากำลังติดตามปรากฏการณ์ไอ้ไข่อยู่ เนื่องจากว่าบ้านเรานั้นมักจะฮือฮาอะไรเป็นพัก ๆ อย่างเรื่องของท่านท้าวจตุคามรามเทพก็โด่งดังต่อเนื่องถึง ๒๐ ปี ก็คือจากปี พ.ศ ๒๕๓๐ ไปจนถึงปี พ.ศ ๒๕๕๐ หลังจากนั้นก็ซาลง เหลือแต่ท่านที่เคารพนับถืออย่างแท้จริงโดยไม่แฝงประโยชน์เท่านั้น

เทวดาระดับหัวแถวอย่างท่านท้าวจตุคามรามเทพยังยืนหยัดอยู่ในกระแสได้แค่ ๒๐ ปี แล้วไอ้ไข่ที่เทียบท่านไม่ติดเลย จะยืนหยัดได้กี่ปี ?

ที่สำคัญที่สุดก็คือ เราต้องไม่ลืมว่าสิ่งใดที่เราขอ แปลว่าเราต้องสร้างเหตุมาเพียงพอ..ผลถึงจะเกิด ถ้าหากว่าท่านสร้างเหตุไม่พอแต่ผลเกิด จะด้วยการดลบันดาลของไอ้ไข่หรืออะไรก็ตาม โปรดรอเวลาที่จะโดนเขาเอาคืนในส่วนที่ขาดของเราด้วย..! เปรียบได้กับการไปกู้เงินนอกระบบ เนื่องจากว่าเงินเราไม่พอคือสร้างเหตุไม่พอ แล้วเราไปกู้เงินนอกระบบให้ได้เงินมา ถึงเวลาเขาทวงคืนทั้งต้นทั้งดอกแล้วจะซาบซึ้งว่ารสชาติชีวิตเป็นอย่างไร..! อาตมาไม่ได้ขู่ เพียงแต่ชี้แจงให้ทราบเท่านั้นว่าอะไรเป็นอะไร”

เถรี 16-10-2020 23:35

“ปรากฏการณ์ของไอ้ไข่ถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา คนเรามักแสวงหาสิ่งที่ง่าย..ซึ่งฉาบฉวยไม่ยั่งยืน ละทิ้งการแสวงหาสิ่งที่ยาก..ที่มั่นคงและยั่งยืนไป จะด้วยความที่บารมีไม่เพียงพอหรือว่าขี้เกียจก็ตาม สิ่งเหล่านี้ยืนคู่สังคมไทยมาเป็นพันปีแล้ว เพราะว่าสังคมไทยแต่เดิมก็นับถือผีมาก่อน เมื่อพระพุทธศาสนาเผยแผ่เข้ามาถึงสุวรรณภูมิ เราก็ค่อย ๆ รับเอาในส่วนของพระเข้ามาแทน แต่ในส่วนของการนับถือผีก็ยังฝังรากลึกอยู่ใน DNA

สมัยที่หลวงปู่มั่นส่งบรรดาลูกศิษย์ออกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในหมู่ชาวป่าชาวเขาซึ่งเขานับถือผี ผู้ที่ไปเผยแผ่ อย่างเช่นหลวงปู่ตื้อ หลวงปู่แหวน หลวงปู่ขาว ต้องใช้วิธีนำภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปให้เขาบูชา โดยบอกว่านี่เป็นหัวหน้าผี เป็นผีที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ผีทั้งหมดต้องเคารพหัวหน้าผีเท่านั้น ถ้าเราบูชาหัวหน้าผีซึ่งในที่นี้คือพระพุทธเจ้า เราจะมีความสุขความเจริญอย่างแท้จริง

แล้วก็สอนให้บรรดาชาวเขาภาวนา ให้ภาวนาหาพุทโธ..พุทโธ ชาวเขาก็สงสัยว่าทำไมต้องหาพุทโธให้เจอ ? ท่านก็บอกว่าพุทโธเป็นดวงแก้วอันวิเศษ เป็นที่พึ่งได้ในสามโลก ใครหาพุทโธเจอ ชีวิตจะมีแต่ความสุขความเจริญ ไม่ต้องกลัวอะไรอีกเลย รุ่นหลวงปู่หลวงพ่อของเราต้องอ้างพระพุทธเจ้าเป็นผีเช่นกัน เพราะว่าความเชื่อในผีฝังรากลึกมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว”

เถรี 18-10-2020 10:10

พระอาจารย์สนทนากับพระครูปลัดกอล์ฟ (พระครูปลัดเฉลิมชาติ ชาติวโร พระธรรมวิทยากรไทย ในแดนพุทธภูมิ) “ท่านคงกลับอินเดียไม่ได้ง่าย ๆ หรอก โควิดระบาดน่ากลัว อินเดียเขาอยู่กันอย่างแออัดมาก การเว้นระยะห่างจึงเป็นเรื่องยากสุด ๆ สำหรับเขา ต้องบอกว่าสังคมอินเดียเอื้อต่อการระบาดของโควิดมาก

เรื่องที่น่าอัศจรรย์ที่สุดก็คือคนไทยเรานี่เอง คนไทยเราติดเชื้อโควิดเยอะมาก แต่ไม่ออกอาการ คนไทยที่ไปต่างประเทศโดนตรวจเจอทุกทีเลย โดยเฉพาะที่ไปประเทศญี่ปุ่น อาตมาเดาเอาว่าเกิดจากสองสาเหตุ สาเหตุแรกก็คือ เนื่องจากอาตมาเห็นว่าคณะผู้ทำให้เกิดโรคระบาดเป็นเทวดาสองชุด ชุดหนึ่งทำให้เกิดโรคระบาดสำหรับคน อีกชุดหนึ่งทำให้เกิดโรคระบาดสำหรับสัตว์ แล้วคนไทยสวดมนต์ไหว้พระกันเป็นปกติ เทวดาท่านเลยเกรงใจ แต่สาเหตุนี้ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ พิสูจน์ไม่ได้

ประการที่สองก็คือ ความโชคดีของเรา เพราะว่าเรามีฝุ่น PM ๒.๕ มานานก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้พวกเราใส่หน้ากากกันเป็นปกติ เมื่อถึงเวลาโควิดเข้ามา เราจึงติดกันน้อยมาก จนร่างกายปรับภูมิคุ้มกันทัน ในเมื่อปรับภูมิคุ้มกันทัน ก็ไม่รู้สึกว่าป่วย เลยไม่ไปให้หมอตรวจ ดังนั้นเลยไม่ทราบว่าติด แต่เวลาไปต่างประเทศ ต้องตรวจก่อนเข้าบ้านเขา แล้วก็เจอเชื้อทุกรายเลย เขาก็คงสงสัยว่าป่วยภาษาอะไรกัน ไม่เห็นเป็นอะไรเลย...!”

เถรี 18-10-2020 10:14

“สาเหตุแรกในเรื่องของการสวดมนต์ไหว้พระ กรรมฐาน อุทิศส่วนกุศล น้องพลอย ลูกสาวที่เรียนอยู่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส อยู่กลางดงโควิดเลย เพื่อนในมหาวิทยาลัยเดียวกันก็ติดไปหลายคนแล้ว แต่น้องพลอยยังไม่เป็นอะไรเลย ก็บอกไปว่า “ลูกอย่าเผลอนะ อย่างไรก็ต้องสวดมนต์ไหว้พระ อุทิศส่วนกุศลทุกวัน”

ตอนนี้น้องพลอยจะเป็นผู้พิสูจน์ทฤษฎีว่า การสวดมนต์ไหว้พระ นั่งกรรมฐานจะทำให้ผีเกรงใจ โดยเฉพาะผีโรคระบาด”


ถาม : ที่นั่นเขาคงไม่กล้าปล่อยให้น้องพลอยติดโควิด ?
ตอบ : ไม่เป็นไรหรอก เป็นถิ่นของท่านเปแตง ถ้าท่านไม่ดูแลให้ คราวหน้าจะไปหวดซะ...!

ถาม : เข้าข่ายข่มขู่ไหมคะ ?
ตอบ : ไม่ได้ข่มขู่ แค่ฝากแล้วไม่รับฝาก ของแค่นี้ขอกันไม่ได้ใช่ไหม..คราวหน้าก็อย่าเอาบุญเลย...!

เรื่องโควิดเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก แสดงให้เห็นว่าคนเราทำกรรมมา..อย่างไรก็ต้องรับ สมัยก่อนที่กาฬโรคระบาด ไข้หวัดใหญ่ระบาด ไข้เหลืองระบาด คนตายกันเป็นล้านเพราะว่าสมัยนั้นการสาธารณสุขยังไม่ดี แต่สมัยนี้การสาธารณสุขถึงระดับคำนวณด้วยซูเปอร์คอมพิวเตอร์แล้ว ยังตายกันเป็นล้านอยู่อีก วันนี้เห็นยอดผู้ตายเกินล้านไปเท่าไรแล้วก็ไม่ทราบ แต่ส่วนที่ติดเชื้อนี่ ๓๗ ล้านกว่าคนแล้ว ในยุคที่การสาธารณสุขถือว่าดีมาก ยังเป็นโรคระบาดที่ทำให้คนตายเป็นล้านได้ เหลือเชื่อจริง ๆ ถ้าหากว่าตายในระดับ ๑ - ๒ แสนคนก็พอรับได้อยู่ แต่เป็นล้านนี่เยอะเกินไป

เถรี 18-10-2020 10:16

ถาม : ผมได้ตะกรุดหลวงพ่อกวยมา ขอพระอาจารย์เมตตาพิจารณาให้หน่อยครับ เป็นตะกรุดแม่ทัพสามชั้น ?
ตอบ : ไม่น่าใช่

ถาม : ข้างในมีแกนพลาสติกด้วยครับ ?
ตอบ : คาดว่าคนใส่แกนพลาสติกเข้าไปเพิ่มทีหลัง ของที่หลวงพ่อกวยทำ ไม่น่าจะมี

ลายถักเสาเดี่ยวของหลวงพ่อกวยจะเฉียงกว่านี้ และถักหลายชั้นนี่น้อยครั้งที่จะปรากฎ ผมดูแล้วว่าไม่น่าใช่ แต่อาจจะเป็นของหลวงพ่อมุ่ยยุคหลัง ลูกศิษย์ของท่านถักในลักษณะเดียวกับของหลวงพ่อกวย ซึ่งต่างกันอยู่นิดเดียว ก็คือส่วนใหญ่แล้วหลวงพ่อกวยจะทำเนื้อเดียว แบบสองกษัตริย์ สามกษัตริย์ปรากฏยากมากเลย

เถรี 18-10-2020 10:17

พระอาจารย์กล่าวว่า “การใช้ให้เลขาฯ ไปประชุมแทนไม่ดีตรงที่ว่า เลขาฯ แสดงความเห็นได้ไม่เต็มที่ เพราะไม่แน่ใจว่าถ้าพูดไปแล้วจะกระทบกระเทือนอะไรใครหรือเปล่า ? ลำบากเหมือนกัน เพราะคนอื่นยังวางกำลังใจไม่ถูก คือแยกไม่ออกว่าเวลาประชุมนั้น ๑ คนมี ๑ เสียงเท่ากัน เขายังเห็นว่าคนโน้นใหญ่ คนนี้มีฐานะสูงกว่า”

เถรี 18-10-2020 10:20

พระอาจารย์กล่าวว่า “หลวงปู่มหาอำพันท่านเคยกล่าวเอาไว้ ‘โบราณบอกว่า ถ้าเดินทางโลก..ต้องคิดว่าเราไม่มีวันตาย..พยายามเสริมสร้างทุกอย่างให้ฐานะสูงสุดเท่าที่เป็นไปได้ ถ้าเดินทางธรรม..ให้คิดอยู่เสมอว่าวันนี้เราต้องตาย..พยายามตัด ปล่อยวางภาระทุกอย่างลงให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้’ กลายเป็นตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง เดินทางโลก..คิดว่าเราไม่ตาย เดินทางธรรม..คิดอยู่เสมอว่าเราต้องตาย การคิดว่าเราต้องตายอยู่เสมอ กับการคิดว่าเราต้องไม่ตาย เป็นคนละเรื่องกันเลย

แต่ว่าพวกเราส่วนใหญ่แล้วอยู่ในลักษณะของการเหยียบเรือสองแคม ก็คือเดินในทางโลกแต่ปฏิบัติธรรม ก็จะต้องหาสมดุลระหว่างเรือสองแคม คือสองลำนี้ให้ได้ ว่าจะเอาด้านไหน ทำอย่างไรจะรักษาความพอเหมาะพอดี โลกไม่ช้ำ..ธรรมไม่เสีย ซึ่งเป็นเรื่องที่ยาก

แต่ว่าการอยู่กับทางโลกมีความดีอย่างหนึ่งก็คือเห็นทุกข์ได้ง่ายที่สุด เพราะว่าไม่ว่าจากการดำเนินชีวิต หน้าที่การงาน หรือว่าครอบครัว ล้วนแล้วแต่นำพาทุกข์มาให้ เมื่อเป็นเช่นนั้นโอกาสที่จะเห็นทุกข์อย่างชัดเจน เกิดความเบื่อหน่าย คลายกำหนัด ปลดใจของตนเองออกจากทางโลก มีสูงมาก..แต่สำเร็จน้อย เพราะว่าส่วนใหญ่คนเราที่คลุกคลีกับทางโลกจะโดนกระแสโลกดึงไป จำนวนมากต่อมากด้วยกันที่ต้านกระแสไม่อยู่ ก็ไหลตามกระแสไปยาวเลย”

เถรี 20-10-2020 07:57

พระอาจารย์สนทนากับพระอาจารย์มหาเอ “เมื่อวันปลุกเสกของ ดร.มหาโรจน์ หลวงปู่สุ่น วัดบางปลาหมอท่านมา ท่านบอกว่า “งานข้า..แกควรที่จะไป” ก็เลยเรียนท่านว่า “แล้วสิ่งที่ผมขอพระไว้ละครับ ?” ท่านบอกว่า “ถ้าแค่นี้ไม่รู้จักแก้ไข แกก็อย่าใช้ฉายาสุธมฺมปญฺโญเลย..!” โห..ว่าเจ็บมากเลยครับหลวงปู่..!

ท้ายสุดก็เลย..แก้ก็แก้ ก็แค่เลื่อนการบวชออกไปหน่อย เลื่อนบวชไปเป็นตอนเช้าวันหล่อพระก็ได้เวลาสามวันเต็มแล้ว แต่งานนี้น่าจะเบากว่าคราวที่ผ่านมา เพราะว่าไม่ต้องขึ้นเขา ออกจากกรรมฐานมาแค่บวชเณร คราวนั้นตอนเดินขึ้นเขานี่ ขาไม่ค่อยอยากจะไปเลย...!

วันนั้นได้ท่านท้าวเวสสุวรรณท่านเมตตาสงเคราะห์คุมหลังให้ ไม่อย่างนั้นมีหวังได้หงายหลังลงไปบ้าง ปกติแล้วในท้าวมหาราชทั้งหมด ผมจะคุ้นเคยกับท่านท้าวธตรฐมากที่สุด เลยเป็นเรื่องแปลกที่ว่า กลายเป็นท่านท้าวเวสสุวรรณประกบแจเลย

อาจจะเป็นว่าที่ผ่านมาต้องนึกถึงท่านบ่อย อย่างช่วงที่ผ่าน ๆ มา ได้เสกท้าวเวสสุวรรณไปหลายรุ่น ก็ต้องขอให้ท่านช่วยทุกครั้ง”


ถาม : เหรียญสมเด็จฯ วัดไตรมิตรก็ใช่ ?
ตอบ : ของวัดไตรมิตรนั่นเต็ม ๆ เลย เขาทำท้าวเวสสุวรรณปางปาฏิหาริย์ สี่พักตร์แปดกร

เถรี 20-10-2020 07:58

กรรมฐานคราวนี้น้ำหนักหายไป ๔ กิโลกรัม..! วันแรกไม่รู้สึกอะไร วันที่สองเริ่มแล้ว วันที่สามนี่รู้สึกเลย ผมบอกกับร่างกายแค่ว่าห้ามหิว จะเอาที่ไหนให้ไปหาเอาเอง สั่งร่างกายได้นี่ก็ตลก สั่งไปว่า “ห้ามหิว..รำคาญ..อยากได้ตรงไหนไปหาเอาเอง” โอ้โห..รู้สึกว่าโดนดึงพลังงานไปจากทั่วตัวเลย..!

ผมเป็นอย่างนี้ทุกครั้ง ถ้าอดข้าวสามวัน น้ำหนักจะหายไปประมาณสี่กิโลกรัม ผมเป็นคนที่น้ำหนักตัวขึ้นยากมาก กว่าจะได้สัก ๒ - ๓ กิโลกรัมนี่หลายปีเลย แต่พอลดทีหายไป ๔ กิโลกรัมเลย..!

กำลังรอดูอยู่ว่าถ้ามีทองเหลือจากการหล่อพระพุทธลีลาประทานพรเนื้อทองคำ ผมอาจจะให้ย่อปางห้ามสมุทรลงมาขนาดเล็กเท่าพระพุทธลีลาประทานพรองค์ทองคำ แล้วดูว่าต้องใช้ทองคำเท่าไร เผื่อว่าจะได้ทำอีกองค์ องค์เงินเราทำแน่ แต่องค์ที่ย่อลงมาเป็นทองคำนี่กำลังรอดูอยู่ ถ้าต้องหาทองเพิ่มไม่มากนักก็จะสร้าง

เถรี 20-10-2020 08:01

ถาม : หลวงพ่อคะ ตัวนี้เป็นตัวอะไร ?
ตอบ : อุ อะ มะ

ส่วนใหญ่ ‘อะ อุ มะ’ เขาใช้แทนพระรัตนตรัย มาจาก อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ตัดคำว่า ‘อะ’ มา อุตตะโม ธัมมะมัชฌะคา ตัดคำว่า ‘อุ’ มา มะหาสังโฆ ปะโพเธสิ ตัดคำว่า ‘มะ’ มา ก็เลยเป็น ‘อะ อุ มะ’

คราวนี้พวกเราเลียนแบบลอกแบบ ยังไม่สามารถที่จะเข้าถึงได้อย่างแท้จริง ก็เหมือนกับเด็กหัดคัดลายมือ ต้องทรงสมาธิแล้วเขียน เขียนเสร็จแล้วต้องใช้ได้เลย คำว่าใช้ได้คือ ต้องมีอานุภาพเลย แล้วการที่จะใช้ได้ต้องเข้าถึงด้วยว่าแต่ละอย่างมาจากไหน เพราะฉะนั้นโบราณท่านเขียนไป ภาวนาไป ลบผงไป เริ่มตั้งแต่ ปถมังพินธุกังชาตัง ทุติยังทัณฑะเมวะจะฯ ไล่ไปเรื่อย

อาตมาไม่ได้เรียนหรอก ฟังพระครูแสงท่านเรียนแล้วอาตมาจำได้หมด คนเรียนป่านนี้ก็ลืมไปหมดแล้ว ตอนช่วงวัยรุ่นกำลังคลุ้มคลั่ง ครูบาอาจารย์ท่านเก่ง ลบผงทะลุกระดานได้ ก็อยากทำบ้าง ก็ไปไล่เขียนไล่ลบผงกัน ไม่ว่าจะเป็น
ปถมัง อิทธิเจ ตรีนิสิงเห มหาราช เสียดายก็ตรงที่ว่าพระครูแสงท่านสนใจอะไรไม่นาน

เถรี 20-10-2020 08:06

พระอาจารย์ประกาศว่า “เรื่องการหล่อพระปัจเจกพระพุทธเจ้า จากการที่ช่างหล่อลงทุนหลอมเอาขี้ผึ้งที่ปั้นต้นแบบออกมาชั่งน้ำหนัก คำนวณออกมาเป็นเม็ดเงิน ๕๕๕ กิโลกรัม แปลว่าลดจำนวนเม็ดเงินที่ต้องใช้ลงไปเกือบครึ่งหนึ่ง จากที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะต้องใช้ทั้งหมดหนึ่งตัน แต่เพื่อความปลอดภัยที่สุด ช่างบอกว่าให้เตรียมเม็ดเงินเอาไว้ ๖๐๐ กิโลกรัม

เราไม่ต้องซื้อเม็ดเงินเพิ่ม เพราะว่าจากการที่ให้ญาติโยมแลกเม็ดเงินกับพระกริ่งสะท้านไตรภพทั้งเนื้อเงินและเนื้อทองแดง ตอนนี้ทางวัดมีเม็ดเงินอยู่ประมาณ ๘๕๐ กิโลกรัม คราวนี้ถ้าเราใช้ ๖๐๐ กิโลกรัม ก็ยังเหลืออีก ๒๕๐ กิโลกรัมสำหรับหล่อพระพุทธรูปปางห้ามสมุทรทรงเครื่อง ซึ่งถ้าหากว่าขาดเหลือเท่าไร ตอนนั้นค่อยไปซื้อหาเพิ่มเติมทีหลังได้ เมื่อถึงเวลานั้นแล้วราคาเม็ดเงินน่าจะตกลงมาบ้าง

เราจะหล่อพระปัจเจกพระพุทธเจ้าที่เป็นพระรวย ญาติโยมก็เลยซื้อเม็ดเงินกันแพงมาก..! กิโลกรัมละ ๒๘,๐๐๐ - ๒๙,๐๐๐ กว่าบาท โดยเฉลี่ยรวมกันแล้วประมาณกิโลกรัมละ ๒๙,๐๐๐ บาท นับว่าเป็นรายจ่ายที่มหาศาลทีเดียว ถ้าไม่ได้ญาติโยมทั้งหลายช่วยกันนำเม็ดเงินมาแลกกับพระกริ่งสะท้านไตรภพ ทางวัดท่าขนุนก็คงจะต้องขนเอาเงินเก็บทั้งหมดที่มีไปซื้อเม็ดเงินเอง

ตอนนี้กำลังรอดูระยะเวลาที่เหมาะสม ถ้าหากว่าช่างปั้นแบบพระปางห้ามสมุทรทรงเครื่องเนื้อเงินเสร็จ เราก็จะสามารถกำหนดได้ว่าจะหล่อพระองค์ท่านในช่วงไหน ซึ่งเป็นปีหน้าแน่นอน”

เถรี 20-10-2020 08:15

พระอาจารย์กล่าวว่า "การสื่อสารสมัยใหม่ อยู่ใกล้ไกลแค่ไหน ก็เหมือนกับอยู่ต่อหน้า เพราะว่าแค่ปลายนิ้วจิ้มก็ส่งถึงกันได้แล้ว แต่ก็ทำให้คนใจร้อน ใจเร็ว รอไม่ได้ ทนไม่ได้ ซึ่งผิดหลักการปฏิบัติธรรม ในเมื่อ อดไม่ได้ ทนไม่ได้ รอไม่ได้ เย็นไม่ได้ ทำอะไรโอกาสผิดพลาดก็จะมีสูงมาก"

เถรี 20-10-2020 08:16

พระอาจารย์กล่าวว่า "วงการสงฆ์สูญเสียพระมหาเถระอีกรูปหนึ่งแล้ว หลวงปู่พระสาสนโศภณ วัดสุทธจินดาวรวิหาร มรณภาพด้วยอายุ ๙๗ ปี ท่านเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๘ (ธรรมยุต) สมณศักดิ์พระสาสนโศภณ เป็นตำแหน่งพระราชาคณะ ชั้นเจ้าคณะรองหิรัญบัฏ"

เถรี 20-10-2020 08:20

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมามีแมลงพญาภู่คำที่ใช้งานอยู่ ๔ คู่
คู่ที่หนึ่ง...วัชระกับวายุ ดูแลรถยนต์คันที่นั่ง
คู่ที่สอง...อู่เงินกับอู่ทอง ดูแลกุฏิเจ้าอาวาส
คู่ที่สาม....คำแก้วกับคำกอง ดูแลที่พักที่วัดท่ามะขาม
คู่สุดท้าย....ทองอยู่กับทองมา ดูแลสำนักงานเจ้าอาวาสที่วัดท่าขนุน

แต่ละคู่นี่นิสัยไม่ได้เหมือนกันเลย บางคู่ก็เฮี้ยวสะบัด บางคู่ก็เรียบร้อยอย่างกับผ้าพับไว้ แต่ปรากฏว่าตอนเจริญกรรมฐาน ๓ วัน ด้วยความที่โดนมาจนชินแล้ว ก็เลยสั่งคุณอู่เงินกับอู่ทองที่ปกติโคตรจะเรียบร้อยเลยว่า ถ้าหากว่า ๓ วันนี้ใครเล่นไสยศาสตร์ใส่ ให้เอาคืนเต็ม ๆ
ไปเลยนะ ไม่ต้องยั้ง

ปรากฏว่าพอเสียงตูมเข้ามา หันไปดู..พ่อสองคนสวนควันปืนไปยันไหนแล้วก็ไม่รู้ อะไรวะ...? ไอ้คนที่เรียบร้อยสุด ๆ กลายเป็นดุเดือดขนาดนี้ได้อย่างไร ก็เลยเพิ่งจะเข้าใจว่า ถ้าสั่งไว้จะเป็นอีกอย่างหนึ่ง แต่ถ้าโดยนิสัยจะเป็นอีกอย่างหนึ่ง ก็เลยได้แต่สำทับต่อท้ายไปว่า อย่าให้ถึงตายนะ..!

ฉะนั้น..ถ้าหากว่าญาติโยมสังเกต จะเห็นว่าบรรดาครูบาหลายท่าน ถึงเวลาเข้านิโรธกรรม ตอนจะออก มักจะนิมนต์อาตมาไปเป็นประธานในงาน อันนั้นก็คือไปเป็นไม้กันหมา เพราะว่าร่างกายเพลียมาหลายวัน บางทีคิดอะไรยังไม่ออกเลย ทำอะไรไม่ทัน ก็เลยทำให้ต้องหาคนที่มั่นใจว่าช่วยให้ตัวเองปลอดภัยได้ ไปนำออกมา

อาตมาก็เลยต้องไปล่อเป้ามาตั้งแต่ยุคแรก ๆ แล้ว ใหม่ ๆ ก็โดน ก็ใช้วิธี "เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือควาย" ทนเอา พอทนเอา ครั้งที่สองก็โดน ครั้งที่สามก็โดน กูไม่ทนอีกแล้ว ให้รู้ซะบ้างว่าไผเป็นไผ..! ว่าแล้วก็สวนซะหงายเก๋งไปเลย

ทางสายเราไม่ต้องตอบโต้ไสยศาสตร์อะไรมาก รับยันต์เกราะเพชรมาแล้ว แค่ปลุกยันต์ก็จบแล้ว แต่ทำให้เห็นว่าวัตถุมงคลนั้น ถ้าหากว่าปลุกเสกถูกต้องตามวิธีการ เทวดาที่รักษาท่านก็เหมือนกับคน แต่ละท่านจริตนิสัยไม่เหมือนกัน ที่เรียบร้อยเป็นผ้าพับไว้ก็มี ประเภทดุเดือดจนต้องคอยห้ามอยู่ตลอดเวลาก็มี"

เถรี 20-10-2020 08:22

พระอาจารย์กล่าวว่า "แจ้งยอดกฐินปลดหนี้ไปว่า ๘ ล้านบาท ท่านเจ้าคุณชรัช (พระสิริจริยาลังการ ชรัช อุชาุจาโร) เจ้าอาวาสวัดตานีนรสโมสร (พระอารมหลวง) สะดุ้ง ถามว่าทำไมเยอะนัก ? ปัตตานีเป็นที่อันตราย ชาวพุทธมีน้อยมาก มีอิสลาม ๙๐ กว่าเปอร์เซ็นต์ เราต้องเอาไปให้มากที่สุด ท่านจะได้ทำงานสะดวกหน่อย"

เถรี 21-10-2020 19:54

พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงนี้บรรดานักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก ขะมักเขม้นค้นหาวัคซีน เพื่อที่จะเอาไว้กันไวรัสโควิด-๑๙ แต่มีจุดตายตรงที่ว่า โควิด-๑๙ มีอาการเหมือนโรคเอดส์กับโรคซาร์สร่วมมือกัน ก็คือทำลายปอดเหมือนกับโรคซาร์ส ทำลายภูมิคุ้มกันเหมือนกับโรคเอดส์ ก็เลยทำให้สร้างวัคซีนได้ยากมาก

คราวนี้มีคนเสนอว่า มีใครเห็นปลาฉลามป่วยตายบ้างไหม ? ในเมื่อไม่มี แสดงว่าเลือดปลาฉลามอาจจะใช้ในการสกัดสารออกมา เพื่อที่จะทำวัคซีนกันไวรัสโควิด-๑๙ ได้ ถ้าลักษณะอย่างนี้ละก็...ไม่ใช่แต่ฉลามที่จะซวย จระเข้ก็อาจจะซวยไปด้วย ถ้าหากว่าโยมสังเกต เวลาไปเที่ยวฟาร์มจระเข้ บ่อจระเข้สกปรกสาหัสเลย จระเข้มักจะกัดกันเป็นบาดแผลเยอะแยะไปหมด แล้วก็นอนแช่อยู่ในน้ำสกปรกนั่น แต่ไม่เห็นจะเป็นอะไร เขาว่าเลือดของจระเข้อาจจะมีสารต่อต้านพวกเชื้อโรคได้ดีเหมือนกัน"


เถรี 21-10-2020 20:05

"แต่ลักษณะนี้เป็นการคิดแบบมักง่าย อย่าลืมว่าฉลามกับจระเข้เป็นสัตว์ ทำไมไม่คิดค้นยาจากพืชกันบ้าง ถ้าเป็นอาตมาจะมองหาพืชชนิดไหนที่ตายยากตายเย็นที่สุด ตั้งแต่สมัยอาตมายังเด็กอยู่ก็โน่นเลย..หญ้าคา ตายยากสุด ๆ หญ้าคานี่ต้องขุดดินขึ้นมาเลย แล้วก็ดึงเอาราก ดึงเอาหน่อขึ้นมาทั้งหมด ไม่อย่างนั้นต่อให้มีเหลืออยู่แม้แต่เส้นเดียว ก็ขึ้นเป็นต้นใหม่ได้

ปัจจุบันนี้ที่งอกงามได้ในทุกสถานที่คือไมยราบเลื้อย น่าจะลองหาวัคซีนจากพวกพืชมากกว่า แต่ถ้าจะใช้ลักษณะอย่างนี้ของเรา ต้องใช้ระบบอายุรเวชของอินเดีย แพทย์แผนโบราณของจีน แล้วก็แพทย์แผนโบราณของไทย เอามาวิเคราะห์รวมกันว่า มีสูตรยาอะไรที่รักษาเกี่ยวกับโรคปอด แล้วช่วยให้ภูมิคุ้มกันร่างกายดีขึ้น

อย่างอาตมาก็ได้ยาผีบอก ว่าให้ใช้หนุมานประสานกายต้มน้ำกิน ไม่ใช่ยารักษาโรคโดยตรง แต่ว่าบำรุงปอด คราวนี้หนุมานประสานกายเป็นด้านพืช ถ้าเป็นทางด้านสัตว์ ท่านให้ใช้รังนกนางแอ่น คราวนี้ก็เบียดเบียนสัตว์อีก นกนางแอ่นทะเลสร้างรังด้วยน้ำลาย แต่ก็มีนกนางแอ่นที่สร้างรังด้วยดินโคลน พวกที่สร้างรังด้วยน้ำลายนี่น่าสงสาร สร้างเสร็จก็โดนแซะเอารังไป แทบจะไม่มีโอกาสแพร่พันธุ์"

เถรี 21-10-2020 20:08

"รังนกชั้นหนึ่ง เขาบอกว่าสีขาวเหลืองใส รังนกชั้นสอง สีขาวเหลืองใสมีสิ่งเจือปนนิดหน่อย ส่วนรังนกชั้นสามนี่ดูไม่ได้ เพราะว่านกคายน้ำลายจนไม่เหลือแล้ว บางทีออกมาเป็นก้อนเลือดเลย..! ถ้าถึงระดับนั้นแล้วยังไปเก็บรังของเขาอีก ก็ต้องบอกว่าโหดเกินไป

ทางด้านแถววัดช่องลม มีชาวบ้านเขาเสียสละตึกให้เป็นที่อยู่ของนกนางแอ่น ตอนแรก ๆ ก็เป็นนกธัมมะธัมโม มายึดโบสถ์เลย ยึดโบสถ์เป็นที่สร้างรัง เวลานกเขาทำรังจะต้องดูว่าสถานที่นั้นปลอดภัยสำหรับเขา ที่ปลอดภัยที่สุดก็โบสถ์นั่นแหละ ก็เลยกลายเป็นนกเข้าโบสถ์ ถึงเวลาพระสวดมนต์ก็มีเสียงนกประท้วง

ที่เล่ามาตั้งเยอะตั้งแยะเพื่อที่จะบอกว่า วัคซีนกันไวรัสโควิด-๑๙ ยังอีกไกล แล้วตอนนี้ใบสั่งซื้อจากบรรดาประเทศมหาอำนาจ ประเทศที่มีเงิน สั่งซื้อมาเป็นพันล้านโดสแล้ว..!"

เถรี 21-10-2020 20:18

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้อาตมากำลังให้ ดร.แม่ชีกุลภรณ์ที่วัด ร่างโครงการอบรมภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารและการท่องเที่ยว เพราะว่าส่งพระส่งแม่ชีจบปริญญาเอกหลายรูปแล้ว อยู่ว่าง ๆ เดี๋ยวจะคลุ้มคลั่ง ต้องหางานให้ทำ ก็เลยจะให้ช่วยสอนภาษาอังกฤษเด็ก ๆ แต่คราวนี้ถ้าสอนลักษณะการติวหนังสือจะยากมาก เพราะว่าเด็กหลายระดับชั้นเรียนด้วยกัน ก็เลยใช้เป็นโครงการอบรมในลักษณะของการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารและการท่องเที่ยว อย่างน้อย ๆ เขาจะได้คุยภาษาอังกฤษได้

คนไทยเราอ่อนภาษาอังกฤษ ในเมื่ออ่อนภาษาอังกฤษ ก็ต้องมีการอบรมกันเป็นพิเศษ เพราะว่าการไปเรียนต่างประเทศ มีทั้งสอบ TOEFL สอบ IELTS สอบ GIE สารพัด อาตมาเสียเงินให้ลูกเจนนี่ไปสอบ ๓ ยกแล้ว บอกว่าให้ไปหาประสบการณ์ ความจริงคะแนนเขาสูงพอที่จะยื่นเข้า MIT ตามที่ตั้งใจแล้ว แต่ว่าอาตมาให้ไปสอบใหม่ เอาประสบการณ์ บอกเขาว่าต่อให้ไม่ได้ใช้หรือสอบไม่ได้ ก็ต้องรู้ว่าข้อสอบของเขาหน้าตาเป็นอย่างไร ถึงเวลาจะได้บอกคนรุ่นต่อไปให้เตรียมตัวได้"

เถรี 21-10-2020 20:57

พระอาจารย์กล่าวว่า "การปลุกเสกวัตถุมงคลแต่ละครั้ง ต้องแล้วแต่พระท่านเลย ถ้าพระพุทธเจ้ามีเวลา พระองค์ท่านก็เสด็จเอง ซึ่งปรากฏน้อยมาก

คราวนี้สายของหลวงพ่อวัดท่าซุงได้เปรียบตรงที่ว่าเรารู้จักพระพุทธเจ้า ถ้าเป็นฆราวาสก็เหมือนสนิทสนมกับนายกรัฐมนตรี สามารถที่จะเชิญกันได้ คราวนี้ถ้าพระองค์ท่านไม่ว่าง ก็จะมอบหมายให้พระอรหันต์องค์ใดองค์หนึ่ง หรือพระโพธิสัตว์องค์ใดองค์หนึ่งมาแทน และถ้าล้วนแล้วแต่ติดภารกิจสำคัญ มีบางครั้งนี่ไปกันเกลี้ยง สวรรค์จะร้างเอา ถ้าอย่างนั้นก็จะมอบหมายให้ท้าวสหัมบดีพรหม หรือไม่ก็ท่านปู่พระอินทร์ดูแลในงานแทน"

เถรี 21-10-2020 20:59

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๓ นี้ เป็นวันคล้ายวันเกิดปีที่ ๙๐ ของหลวงพ่อเจ้าคุณไพบูลย์ (พระธรรมคุณาภรณ์) อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ทางวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีเขาจัดทอดผ้าป่า ร่วมทุนการศึกษาและสร้างวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรี ญาติโยมร่วมกันบูชาวัตถุมงคลในเว็บวัดท่าขนุนไปห้าแสนกว่าบาท อาตมาเองก็เติมไปเป็นหกแสนบาทถ้วน

คราวนี้วันที่ ๕ พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี นิมนต์ไปเสกเหรียญ ๙๐ ปีหลวงพ่อไพบูลย์ ก็ปรากฏว่าพอขอบารมีพระท่านสงเคราะห์ ท่านก็ให้หลวงปู่เหรียญ วัดหนองบัว ลูกศิษย์หลวงปู่ยิ้มมา กับหลวงพ่อสอน วัดทุ่งลาดหญ้า นั่นก็ลูกศิษย์หลวงปู่ยิ้มเหมือนกัน มีการย้ำอีกด้วย บอกว่า "ให้เจ้าคุณไปเสกเหรียญเจ้าคุณ" จึงกราบเรียนว่า "ถ้าอย่างนั้นขอท่านเจ้าคุณพระมงคลสิทธิคุณด้วยครับ ไหน ๆ เมื่อลูกศิษย์มาแล้ว
ก็ขออาจารย์ปู่อีกสักท่านด้วยครับ" จึงขอได้หลวงปู่ยิ้มมาอีกรูปหนึ่ง ถึงได้บอกว่า บางทีเราต้องขอแล้วขออีกกว่าที่จะได้

แต่ว่าอย่างงานของพระครูบ่าวที่วัดท่ามะขามนั่น แทบจะไม่มีเครื่องบูชาอะไรเลย โห..พระเถระกาญจนบุรีแห่มากันหมดแล้ว ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่คาดได้ แต่หวังไม่ได้ แล้วแต่ว่าพระท่านจะให้ใครมาช่วยสงเคราะห์"


เถรี 21-10-2020 21:01

ถาม : หลวงปู่สอนเป็นเจ้าคุณหรือครับ ?
ตอบ : เจ้าคุณพระกาญจนวัตรวิบูล เจ้าคุณสมัยโน้นราคาแพงมากนะ สมัยนี้เจ้าคุณได้กันง่าย สมัยโน้นทำงานกันหน้ามืดกว่าจะได้ หลวงปู่เหรียญก็เจ้าคุณพระโสภณสมาจารย์

เถรี 21-10-2020 21:25

โยมมากราบขอพร เนื่องในโอกาสที่จะแต่งงาน "ขอพร ? ขอให้ทนอยู่ได้นาน ๆ แล้วจะรู้ว่านรกมีจริง..! ตอนนี้ก็ซ้อมหัดพูดคำว่า "ดีจ้ะ" "ได้จ้ะ" "ครับ ๆ" เอาไว้แค่นั้นก็พอ ตลอดชีวิตการแต่งงาน อย่าพูดอะไรมากกว่านี้ แล้วจะมีความสุขเอง"

เถรี 21-10-2020 21:29

พระอาจารย์กล่าวว่า "ที่ญาติโยมเห็นก็คือพระนักเรียนบาลีของทางวัดท่าขนุน ซึ่งตอนนี้ท่านที่อยู่ทางวัดปากน้ำก็หยุดการเรียนชั่วคราว เพราะว่าป่วยไข้ ที่อยู่ทางวัดสามพระยาก็โดนอาตมาดึงตัวไปเป็นเจ้าอาวาส ก็เหลืออยู่ที่วัดเหนือ (วัดเทวสังฆาราม) จังหวัดกาญจนบุรี ปีที่แล้วสอบตก ไม่ติดแม้แต่ซ่อม ก็เหลืออยู่ทางด้านสหบาลีศึกษา จังหวัดนครปฐม ๘ รูป สูงสุดกำลังเรียนประโยค ๗ ต่ำสุดเรียนประโยค ๑ - ๒ เพราะว่าเพิ่งจะเข้าเรียนปีนี้เอง

ปีนี้วันที่ ๑๔ มีมหาไบรท์กับมหาเสริฐ จะไปรับพระราชทานพัดเปรียญธรรม ๖ ประโยค จากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ต้องบอกว่าเป็นเกียรติประวัติแก่ตนเองและวงศ์ตระกูล

ที่อาตมาขำมาก แต่ถ้าหัวเราะอาจจะเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ก็คือพระมหาปัญญา ธมฺมวีโร เปรียญธรรม ๖ ประโยค เลขานุการเจ้าคณะอำเภอพนมทวน ท่านไปรับพัดประโยค ๖ เป็นพระรูปเดียวที่ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ต้องน้อมพระวรกายลงไปหา เนื่องจากว่าท่านสูงแค่ประมาณ ๑๒๐ เซนติเมตรเท่านั้น พวกเราก็เลยพูดกันขำ ๆ ว่า คนอื่นต้องทำความเคารพพระเจ้าแผ่นดิน ของคุณพระเจ้าแผ่นดินต้องน้อมพระวรกายลงมา เป็นอะไรที่พูดกันเล่น ๆ ว่า เออ...บารมีท่านสูง

เปรียญธรรม ๖ ถ้าหากว่ารับพระครู ก็ขึ้นด้วยคำว่า ศรี อย่างเช่น พระครูศรีธรรมวราภรณ์ พระครูศรีกิตติสุนทร
ประโยค ๓ พระครูปริยัติ เช่น พระครูปริยัติกาญจนโชติ พระครูปริยัติกาญจนโสภณ พระครูกาญจนปริยัติคุณ
ประโยค ๔ พระครูสุต เช่น พระครูดิลกสุตคุณ พระครูกาญจนสุตคุณ พระครูวิธานสุตาภิรม
ประโยค ๕ พระครูสิริ เช่น พระครูสิริปัญญาวิบูล พระครูสิริวรรณโสภิต พระครูสิริสารคุณ"

เถรี 21-10-2020 21:33

"การสอบเปรียญธรรม ประโยค ๗ เป็นประโยคที่ยากที่สุด ถ้าผ่านประโยค ๗ ไปได้ ประโยค ๘ สบายเลย ประโยค ๙ ก็อาจจะสบายไปด้วย เพราะว่าเรื่องฉันท์บาลีนั้นยากมาก เราแต่งฉันท์ภาษาไทยยังยากเลย เด็กรุ่นหลังไม่เป็นเลย ถึงเวลาก็ "หลวงพ่อช่วยหน่อย" อาตมาก็แต่งให้เขาไปเรื่อย เขายังไม่รู้เลยว่าอินทรวิเชียรฉันท์ วสันตดิลกฉันท์ต่างกันตรงไหน ในเมื่อไม่รู้ความต่าง แล้วจะไปแต่งได้อย่างไร เพราะว่ารูปแบบก็ยังไปไม่ได้ ครุ-ลหุ เป็นอย่างไร สัมผัสนอก สัมผัสใน ไม่ได้หมดเลย แต่ว่าเรื่องนี้ต้องยอมรับว่ายากจริง ๆ

หลวงพ่อเจ้าคุณสมบูรณ์ ตอนนี้เป็นพระเทพสาครมุนี เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร ประโยค ๙ อย่างเดียวท่านสอบอยู่ ๑๔ ปี ท่านสอบได้ตอนอายุเกือบ ๕๐ ปี ตอนนั้นท่านเป็นเลขานุการเจ้าคณะจังหวัด งานทั้งจังหวัดมาลงที่ท่านหมด ไม่มีเวลาอ่านหนังสือ ไม่มีเวลาเรียนหนังสือ ท่านก็อ่านเอง ทำเองอะไรไปเรื่อย

ถามท่านว่า "หลวงพ่อสอบได้อย่างไรครับ ?" ท่านว่า "เขาออกจนไม่มีอะไรจะออกแล้ว" มาออกซ้ำของเดิม ท่านเลยทำได้ แต่ก็ต้องรอจนผ่านไป ๑๔ ปี แต่จริง ๆ แล้วท่านพูดเล่น ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก สมมติว่าให้แต่งฉันท์เฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ ๙ ต่อให้คุณบอกว่าแต่งฉันท์ซ้ำของเดิม แต่ปีก็เปลี่ยนไป อายุก็เปลี่ยนไป ถ้าเขาระบุมาก็เรียบร้อย อย่างไรก็ไม่มีทางซ้ำของเดิมหรอก"

เถรี 21-10-2020 22:15

ถาม : บุคคลที่ต้องการใบอนุโมทนาบัตร อานิสงส์จะต่างกับไม่เอาหรือไม่คะ ?
ตอบ : บางทีกำลังใจเขาจะดีถ้าได้เห็นใบอนุโมทนาบัตร ก็คือเกิดความรู้สึกว่าเราได้ทำบุญตรงนี้แล้ว เพราะฉะนั้น..กำลังใจต่างกันหรือไม่ต่างกันอยู่ที่ว่า คนนั้นเขายังยึดอยู่หรือเปล่า ? ถ้าเขายังยึดอยู่ว่าต้องมีใบอนุโมทนาบัตร ถ้าเขาได้ไป เขาก็จะรู้สึกดีกว่า

ถาม : ขึ้นอยู่กับเจตนาไหมคะ เจตนาเพื่อไปลดหย่อนภาษี ?
ตอบ : ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเรียกว่า เจตนาขาดความบริสุทธิ์ไปนิดหนึ่ง อานิสงส์ลดไปหน่อย เพราะว่าการทำบุญต้องเจตนาบริสุทธิ์ วัตถุทานบริสุทธิ์ ผู้ให้บริสุทธิ์ ผู้รับบริสุทธิ์ คราวนี้เราเจตนาว่าเราทำแล้วจะเอาไปลดภาษี ก็ไม่ค่อยจะตรงไปตรงมา

ถาม : กรณีคนที่เขาทำอย่างนั้น...?
ตอบ : ไม่เป็นไรหรอก ให้เขาทำไปเถอะ เพราะว่าอย่างน้อยเขาได้ทำบุญ ไม่ได้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ได้สัก ๘๐ เปอร์เซ็นต์ก็ยังได้ทำ

ถาม : แต่ไม่รับก็ดีกว่าใช่ไหมคะ ?
ตอบ : รับไว้ก็ได้ แต่ไม่ใช่รับไว้เพื่อตั้งใจไปเอาคืนภาษี

เถรี 21-10-2020 22:24

พระอาจารย์กล่าวถามว่า "๑ บวก ๑ ได้เท่าไร ? โดยทั่วไปคำตอบคือ ๒ นั่นเป็นคณิตศาสตร์แบบเด็ก ๆ สมมติว่าเราเอาดิน ๑ กอง รวมกับดิน ๑ กอง จะได้กี่กอง ? นี่ ๑ บวก ๑ เป็น ๑ นะ

ขนมครก ๑ ฝา รวมกับขนมครกอีก ๑ ฝา รวมเป็นขนมครก ๑ คู่ ขึ้นอยู่กับบริบทเฉพาะหน้า คำตอบทุกอย่างไม่ใช่โจทย์คณิตศาสตร์ จะได้ตายตัว ฉะนั้น...ทิดดอยก็เลยเครียด

การเรียนระดับปริญญาโท ปริญญาเอกจะเปิดวิธีคิดให้กับเรา แต่คราวนี้วิธีคิดทั้งหมด คิดแล้วไม่จบ วิธีคิดของพระพุทธเจ้าคิดแล้วจบ"

เถรี 21-10-2020 22:26

"ถ้าหากว่าใช้วิธีคิด ไม่ว่าจะแบบของฝรั่ง แบบของไทย คิดแบบตรรกะ คิดแบบหนึ่งชั้น สองชั้น สามชั้น คิดแบบแยกแยะ คิดแบบเอาเหตุเอาผล คิดด้วยมุมมองของคนภายนอก

ของพระพุทธเจ้าท่านให้มองตัวเอง ดูที่ใจของเรา แก้ที่ใจของเรา ใจของเรามีความชั่วอยู่หรือไม่ ? ถ้ามีก็ขับไล่ออกไป แล้วระมัดระวังไว้อย่าให้เข้ามา ใจของเรามีความดีอยู่หรือไม่ ? ถ้าไม่มี ก็ทำให้มีขึ้นมา ถ้ามีอยู่แล้ว ก็ทำให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป ต่างกันอยู่แค่นี้เอง ก็คือ แนวคิดทางโลก คิดแล้วไม่จบ จะกว้างบานปลายไปเรื่อย ๆ แนวคิดทางธรรมคิดแล้วจบ เป็นการย้อนเข้าหาต้นน้ำ

สรุปว่าปฏิบัติธรรมทั้งชีวิต เอาแค่นั้นก็พอ หาความชั่วให้เจอ ละความชั่วให้ได้ สร้างความดีให้เกิด ทำให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป ดูแล้วงานปฏิบัติธรรมมีนิดเดียว แล้วทำไมทำกันยากเย็นนัก ? สำคัญตรงที่ว่าเราต้องทำจริง ดูที่ตัวเอง แก้ที่ตัวเอง อย่าไปดูที่คนอื่น"

เถรี 21-10-2020 22:35

"เรื่องของคนอื่นเป็นเรื่องของโลก เราแก้ไขโลกไม่ไหวหรอก โลกหนักเกิน ต้องแก้ไขที่ตัวเรา อะไรเกิดขึ้นก็ตาม ดูว่าเรามีอะไรผิดพลาด ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เรื่องนี้ถึงได้เกิด เราทำอะไรถูกต้อง ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เรื่องนี้ถึงได้เกิด แล้วก็เลือกเอาในส่วนที่ถูกต้องมาทำ ละในส่วนที่ไม่ถูกต้องไป

แรก ๆ ก็ต้องเกาะดีละชั่ว เกาะดีละชั่วไปเรื่อย ท้ายที่สุดก็ไม่เกาะทั้งดีทั้งชั่ว..จบ ต้องเกาะก่อนนะ อาตมาขอยืนยัน ใครว่าอาตมาสอนให้ยึดติด คนเราถ้าไม่เกาะแล้วจะเอาอะไรมาละ มาปล่อย ? ต้องเกาะก่อน ถึงจะปล่อยได้ ก็เลยให้เกาะดีไปเรื่อย เดี๋ยวพอดีเต็มที่ ก็เลิกเกาะดีไปเอง

คำว่า "เลิกดี" ไม่ได้เลิกทำ ยังคงทำอยู่ เพื่อความไม่ประมาท เพื่อเป็นเนติคือแบบอย่างให้กับคนรุ่นหลัง ทำดีเพราะสิ่งนี้นักปราชญ์สรรเสริญว่าดีเราจึงทำ ละชั่วเพราะว่าสิ่งนี้นักปราชญ์ทั้งหลายมีความเห็นพ้องกันว่าเป็นความชั่วเราก็ละ แต่เราไม่ติดทั้งดีทั้งชั่วแล้ว ผ่ากลางตรงไปเลย มีช่องเล็ก ๆ อยู่นิดเดียว ไปผิดจังหวะ ก็ชนผนังหัวแตก ซ้ายก็ไม่ได้ ขวาก็ไม่ได้ มัชฌิมาปฏิปทา ตรงกลางเป๊ะเลย"

เถรี 21-10-2020 22:37

ถาม : ความอิจฉาริษยาที่ยังอยู่ในใจเรานั้นฝังรากลึกเหลือเกินเจ้าค่ะ มีธรรมะข้อไหนที่จะช่วยปลดเปลื้องออกไปได้มากที่สุดบ้างคะ ?
ตอบ : ไปนึกบ่อย ๆ ว่าเรามีชีวิตอยู่แค่ลมหายใจเดียว เราต้องตายแน่ ๆ ถ้าอิจฉาเขาแล้วตายลงไปนี่ลงข้างล่างแน่นอน..!

เถรี 21-10-2020 22:38

พระอาจารย์กล่าวว่า “บางคนทำบุญแล้วสบายใจ บางคนทำบุญแล้วไม่สบายใจ มีโยมผู้หญิงคนหนึ่ง ปกติก็ใส่บาตรพระรูปเดียวทุกวัน เพราะว่ามีหลวงตาวัดเหนือเดินผ่านบ้านอยู่รูปเดียว ปรากฏว่าวันนั้นใส่บาตรเสร็จเข้าบ้านมา บ่นกับลูกสาวว่า “แม่ไม่สบายใจเลย วันนี้มีพระวัดใต้มาด้วยรูปหนึ่ง แต่แม่เตรียมขนมจีนเอาไว้ชุดเดียว” ลูกสาวเลยถามว่า “แล้วแม่ใส่วัดไหน ?” “แม่ก็ตัดสินใจใส่ทั้ง ๒ วัด เอาขนมจีนใส่ให้หลวงตาวัดเหนือ เอาน้ำยาใส่ให้หลวงพ่อวัดใต้” แล้วตัวเองก็เลยไปเครียดว่า ตกลงทำถูกไหม ?

ปรากฏว่าอีกไม่กี่วันก็มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างกันทั้งตลาดว่า หลวงตาวัดเหนือเป็นพระไม่มีน้ำยา ...(หัวเราะ)... เขาพูดเรื่องจริง แต่คนฟังแล้ว "น้ำตาจิไหล..!”

เถรี 22-10-2020 19:50

ถาม : จะขอให้หลวงพ่อเมตตาจารครับ ?
ตอบ : ปกติไม่จารให้ใครอยู่แล้ว ถ้าตอนอยู่วัดแล้วคนเยอะ ๆ แค่จารให้คนเดียวเท่านั้นแหละ ที่เหลือมาหมดเลย ก็เลยต้องตัดใจไม่จารให้ใครไปเลย

สมัยนี้พอตัวเองได้แล้ว จะไปถ่ายภาพลงสื่อ คนต่อไปเห็นเข้าก็จะมา แล้วอาตมาก็จะตายในเวลาอันรวดเร็ว ...(หัวเราะ)...

เถรี 22-10-2020 19:51

พระอาจารย์กล่าวว่า “คราวหน้าคุณถ่ายรูปให้ดูฉากหลังด้วย มุมที่คุณถ่ายนั่นผู้หญิงอยู่บนตักพระ..! ต้องเบี่ยงไกลออกไปอีก เขาจะได้เห็นว่าห่างกันแค่ไหน ทำอะไรไม่ระมัดระวังพระจะเสียหายได้ พระไม่ได้รู้เรื่องหรอก นั่งอยู่ตรงนี้ ที่ไหนได้...ถ่ายรูปออกมาแล้วผู้หญิงไปอยู่บนตักพระโน่น”

เถรี 22-10-2020 19:56

ถาม : ผมขอหลวงพ่อเมตตาให้พรน้องชายครับ น้องชายจะไปเป็นทหารเดือนหน้าครับ ?
ตอบ : ขอให้เก็บชีวิตกลับมาได้..! การเป็นทหารไม่ได้มีอะไรน่ากลัว ทุกอย่างที่เขาสอนเราอยู่ในขอบเขตที่มนุษย์ทั่วไปทำได้อยู่แล้ว ยกเว้นอย่างเดียวคือใจไม่สู้ ถ้าหากว่าใจสู้และเอาจริง การเรียนทหารจะสนุกที่สุด แล้วจะได้อะไรดี ๆ ติดตัวมาเยอะมาก

ใครจะด่าเราว่าเอาจริงเอาจังกับชีวิตขนาดไหนก็ช่างหัวมัน ถ้าไม่ฝึกให้ดีไว้ เมื่อเกิดศึกเกิดสงครามขึ้นมาจริง ๆ พวกนั้นก็เป็นได้แค่ปุ๋ย..!

เถรี 22-10-2020 20:07

พระอาจารย์กล่าวว่า “ช่วงที่ให้การร่วมมืออยู่กับบ้าน เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-๑๙ ทำให้รู้ว่าพระพุทธเจ้านั้นกำหนดกฎเกณฑ์กติกาให้พระปฏิบัติตามโดยเหมาะสมกับทุกโอกาส เพราะว่าพระแทบจะไม่ได้พบกับความลำบากในการที่จะต้องกักตัวไม่ได้ไปไหน เนื่องจากอันดับแรก...พระองค์ท่านสอนให้พระปลีกวิเวก หลีกออกจากหมู่ ประการที่สอง...เรื่องของการฉัน เป็นการฉันอาสนะเดียว ก็คือลงฉันมื้อเดียวแล้วจบเลยก็มี แต่ถึงจะเป็นสองมื้อ ก็ไม่ได้ไปตั้งวงกินกันอย่างชาวบ้านเขา

อีกประการหนึ่งที่เห็นชัดที่สุดก็คือ พอญาติโยมไม่ได้ออกไปไหนสัก ๒-๓ เดือน ส่วนที่บ่นว่ารำคาญที่สุดคือผมยาว ตรงนี้พระไม่มีปัญหา โดยเฉพาะท่านที่บวชหลาย ๆ พรรษาโกนหัวกันเองแทบทุกรูป ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยช่างเลย

การกินถ้าฉันมื้อเดียวจบเลย ก็ปลอดภัยกว่า แต่ถ้าหากว่าวัดไหนฉันสองมื้อ โอกาสที่จะอยู่ใกล้แต่ไม่ถึงขนาดชิดกันก็จะมีมากขึ้นมาหน่อยหนึ่ง แล้วโอกาสที่จะได้พบปะญาติโยมจริง ๆ มีอยู่อย่างเดียวคือตอนบิณฑบาต ซึ่งทั้งโยมทั้งพระก็ใส่หน้ากากกันอยู่แล้ว”



เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 15:00


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว